แดนนิรมิตเทพ บทที่ 934
ศาสตราจารย์ฮั่วจ้องรุ่นน้องของตัวเองคนนี้อยู่นาน จากนั้นละสายตาไปมองเฉินโม่ที่อยู่ด้านหลังศาสตราจารย์เสิ่น พูดอย่างทอดถอนใจเล็กน้อยว่า “รุ่นน้อง นายรับศิษย์ดีตั้งคนหนึ่งเลยนะ! ครั้งนี้ฉันไม่น้อยใจเลยที่แพ้!”

ศาสตราจารย์เสิ่นได้ยินคำพูดนี้ จึงรู้ว่าศาสตราจารย์ฮั่วไม่ได้มีเจตนาไม่ดี จึงโล่งใจไปได้เยอะ

“รุ่นพี่ อันที่จริงพี่ชนะแล้ว ผลงานของเฉินโม่ไม่เกี่ยวกับผมสักนิด พี่ก็รู้ว่าผมสอนข้อมูลความรู้พวกนั้นให้เขาไม่ได้!” ศาสตราจารย์เสิ่นก็ซื่อสัตย์ พูดออกมาตรงๆ ไม่ปิดบัง

ศาสตราจารย์ฮั่วสีหน้าเคร่งขรึม “แพ้ก็คือแพ้ ฉันยอมรับว่าแพ้จากใจ บางทีการแข่งขันไม่ได้อาศัยแค่ความสามารถ ดวงก็เป็นส่วนสำคัญมากอีกส่วนหนึ่ง นายได้เจอนักเรียนแบบนี้ เป็นดวงของนาย ดังนั้นฉันจึงยอมรับว่าแพ้จากใจ!”

“ใช่ ดวงผมดีกว่าพี่”

ศาสตราจารย์เสิ่นรู้สึกปลง อันที่จริงเขานับถือรุ่นพี่ของตัวเองคนนี้ในบางด้านเป็นอย่างมาก อย่างเช่น การยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเปิดเผยแบบนี้

ศาสตราจารย์ฮั่วหันหลังเดินออกไป ก่อนไปพูดทิ้งท้ายว่า “แต่การแข่งขันระหว่างเราสองคนยังไม่จบ จำไว้ว่าสักวันหนึ่งฉันจะเหนือกว่านาย! ถ้าชีวิตนี้ฉันอยู่เหนือนายไม่ได้ ฉันจะให้นักเรียนของฉันสานต่อปณิธานของฉัน จนกว่าสักวันจะเหนือกว่านาย!”

สีหน้าศาสตราจารย์เสิ่นหนักใจเล็กน้อย ขนาดเฉินโม่ยังอดถามด้วยความอยากรู้ไม่ได้ “ศาสตราจารย์เสิ่น คุณกับรุ่นพี่มีความแค้นใหญ่หลวงอะไรกันเหรอครับ ต้องยึดติดถึงขนาดนี้เลยเหรอครับ”

ใบหน้าของศาสตราจารย์เสิ่นเหมือนกำลังนึกย้อนอดีต แต่เหมือนนึกถึงเรื่องอะไรที่น่าอายขึ้นมาได้ ใบหน้าชราแดงเล็กน้อย

“อันที่จริงเกี่ยวกับอาจารย์แม่ของพวกนาย เฮ้อ เป็นเรื่องในอดีตทั้งนั้น ไม่ต้องพูดก็ได้!” เหมือนศาสตราจารย์เสิ่นมีความกังวลใจที่ยากจะพูดออกมา อยากรักษาศักดิ์ศรีเอาไว้เมื่ออยู่ต่อหน้านักเรียน สุดท้ายจึงไม่ได้พูดออกมา

ถึงเขาไม่พูด พวกเฉินโม่ก็พอเดาได้ว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คิดไม่ถึงว่าคนบื้อไม่เข้าใจเรื่องความรัก แบบศาสตราจารย์เสิ่น จะโชคดีได้ใช้ชีวิตกับสาวงามด้วย!

ขณะที่ทุกคนกำลังจะเตรียมกลับ จู่ๆ อานเข่อเยว่ตามมา

มองดาวโรงเรียนผู้งดงามของวิทยาลัยชิงหวาคนนี้ หวางเฉิงและนักเรียนชายอีกสองสามคนแววตาลุกโชน

แต่พวกเขารู้ดี ดาวโรงเรียนคนนี้ไม่ได้มาหาพวกเขาแน่นอน

เมื่อเฉินโม่เห็นอานเข่อเยว่ เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้ เขาไม่รู้จริงๆ ว่าอานเข่อเยว่จะทำอะไรกันแน่

อานเข่อเยว่วิ่งเหยาะตลอดทาง เมื่อมาถึงหน้าเฉินโม่จึงหยุดลง ดูจากหน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรงของเธอ ก็ดูออกว่าเธอวิ่งมาตลอดทาง

พวกศาสตราจารย์เสิ่นมองตามสายตาอานเข่อเยว่ ก็รู้ทันทีว่าคนที่เธอมาหาคือใคร อีกทั้งคนที่ผ่านอะไรมาก่อนอย่างศาสตราจารย์เสิ่น แน่นอนว่าเขาดูออกว่าอานเข่อเยว่รู้จักเฉินโม่นานแล้ว

“เฉินโม่ พวกเราไปรอนายที่โรงแรมนะ” ศาสตราจารย์เสิ่นพูดอย่างเข้าอกเข้าใจ

“อื้ม!” เฉินโม่พยักหน้า เขาก็ไม่อยากให้คนรู้เรื่องของเขากับอานเข่อเยว่เยอะ

ศาสตราจารย์เสิ่นพาพวกหวางเฉิงที่ดูไม่ค่อยอยากไป กลับไปยังโรงแรม

เฉินโม่มองอานเข่อเยว่ สีหน้าเฉยเมย สีหน้าและแววตาเย่อหยิ่งไม่ยอมใคร “เธอลืมเดิมพันของเราแล้วเหรอ”

อานเข่อเยว่จ้องเฉินโม่ ไม่พูดอะไร ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

เฉินโม่ขมวดคิ้วอีกครั้ง ไม่ได้พูดอะไรต่อ ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากันอยู่แบบนี้ ดึงดูดให้นักเรียนที่เดินไปมาจำนวนมากมามุงดู

“ทำไม” อานเข่อเยว่ถามสิ่งที่ทำให้เฉินโม่จับต้นชนปลายไม่ถูก

“ฉันไม่เข้าใจว่าเธอจะสื่ออะไร” เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบ

“ทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้” อานเข่อเยว่สะเทือนใจเล็กน้อย ความโมโหอย่างมากออกมาจากน้ำเสียง

เหมือนเฉินโม่จะเข้าใจแล้ว มองอานเข่อเยว่ด้วยสายตานิ่งๆ เสียงนิ่งดั่งน้ำ “นี่ต้องถามตัวเธอเอง”

“เรื่องที่นายเล่าตอนสุดท้าย นายกำลังพูดถึงฉันใช่ไหม! เหอะๆ ไม่ลืมความตั้งใจแรกเริ่ม ถึงจะประสบความสำเร็จได้ในที่สุด” รอยยิ้มขมขื่นที่เยาะเย้ยตัวเอง ลอยขึ้นมาบนหน้าอานเข่อเยว่