EG บทที่ 741 ตามเงื่อนไขของผมเท่านั้น!

 

หนิวคุนตกตะลึงเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เฝิงหยู่พูด เฝิงหยู่โกรธมาก

 

“ผู้จัดการเฝิงครับ คุณหมายถึงอะไรครับ? ผมกำลังพูดกับคุณเรื่องความร่วมมือนี้นะครับ” หนิวคุนถาม

 

“ความร่วมมือหรอ? นี่คือความร่วมมือที่คุณกำลังพูดถึงใช่มั้ย? ตอนนี้กลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางยังไม่มีสินค้าเลย ยิ่งการรับรู้แบรนด์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง การเกษตรธรรมชาติสีเขียวก็ยังไม่ได้ดำเนินการ คุณต้องการพิมพ์แบรนด์และโลโก้ของคุณให้อยู่หน้าแบรนด์ของผมงั้นหรอ? คุณคิดว่าผมจะเห็นด้วยหรอ?” เฝิงหยู่ถามอย่างเย็นชา

 

เฝิงหยู่คิดว่าความร่วมมือนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพืชผลหลังการเก็บเกี่ยวหรือผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาจะผลิตในอีกสองเดือน พวกเขาจะเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของสินค้าและพุดคุยหารือในรายละเอียดเล็กน้อย

 

เฝิงหยู่ไม่สนที่จะปล่อยให้กลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางได้ประโยชน์จากเขาไปบ้า อย่างไรก็ตาม แบรนด์ของกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางจะมีชื่อเสียงในอนาคต ซึ่งจะง่ายกว่าที่จะทำโปรโมชั่นการขาย

 

หากเฝิงหยู่ได้ถือหุ้นในกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางได้ ผลกำไรของเขาจะสูงขึ้น

 

แต่เฝิงหยู่ไม่ได้คิดว่าหนิวคุนจะไร้ยางอายมากขนาดนี้ พวกเขาไม่มีอะไรให้ตอบแทนและยังต้องการให้เฝิงหยู่ทำการตลาดแบรนด์ของพวกเขาให้อีก อะไรนะ? ให้เพิ่มแบรนด์และโลโก้ของเป่ยต้าฉางลงในโฆษณาของพวกเขางั้นหรอ? พวกเขากล้าเรียกร้องแบบนี้ได้ยังไง?

 

“ผู้จัดการเฝิงครับ นี่มันคือความร่วมมือนะครับ แน่นอนว่าคุณก็ต้องมียอมกันบ้างเล็กน้อย” หนิวคุนพูดต่ออย่างไร้ยางอาย

 

“จริงหรอครับ? ถ้างั้นคุณสามารถเสนออะไรตอบแทนผมได้บ้างล่ะครับ? คุณจะจ่ายค่าโฆษณาให้ผมหรือเปล่า? หากพวกคุณจ่ายค่าโฆษณา เราก็ยังพอจะเจรจาต่อรองได้”

 

“ค่าโฆษณาเท่าไหร่หรอครับ?  1 ล้านหยวนพอมั้ย?” หนิวคุนชูหนึ่งนิ้วและทำให้ดูเหมือนว่าเป็นจำนวนที่เยอะมาก

 

เฝิงหยู่มองหน้าเขา ให้ตายสิ พวกคุณจ่ายเงินมากมายให้กับโรงงานขนาดเล็กไร้ค่าพวกนั้น แต่พอพูดถึงเรื่องสำคัญ คุณกลับยอมจ่ายเงินเพียงแค่นี้เนี่ยนะ?

 

1 ล้าน? ปีนี้ค่าโฆษณาของสถานีโทรทัศน์ CCTV เพิ่มขึ้นอีก ช่วงเวลาโฆษณายอดนิยมสูงสุดมีราคามากกว่า 30 ล้านหยวน บริษัทของเฝิงหยู่ ใช้เงินมากกว่า 100 ล้านหยวนในการซื้อช่วงเวลาโฆษณาเพียงช่วงเดียว! แม้แต่ช่วงเวลาโฆษณาของบริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวยังอยู่ในช่วงนอกเวลายอดนิยมเลย แต่ก็มีค่าใช้จ่าย 6 ล้านต่อปี คุณต้องการโฆษณาโดยใช้เงินเพียง 1 ล้านเนี่ยนะ?

 

“เราใช้เงินค่าโฆษณาที่สถานีโทรทัศน์ CCTV ประมาณสองสามล้าน เราจะแบ่งปันค่าใช้จ่ายอย่างเท่าเทียมกัน 4 ล้านหยวน พวกคุณทุกคนจะได้รับประโยชน์จากการทำตลาดของแบรนด์เราและจะต้องจ่ายเงินด้วย ผมจะเรียกเก็บเงินพวกคุณ 2 ล้านสำหรับเรื่องนี้ ผมจะไม่คำนวณค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดอื่นๆ ทั้งหมดนะครับ เพียงแค่เอาเงินมาให้ผม 6 ล้านและบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดของสินค้าของบริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวจะเปลี่ยนไป”

 

“อะไรนะ? 6 ล้าน? ผู้จัดการเฝิง คุณล้อผมเล่นหรือเปล่า? ผมรู้ว่าช่วงเวลาโฆษณาของสถานีโทรทัศน์ CCTV มีราคาแพง แต่ถึงแม้ว่าคุณจะใช้เงินไปสักสองสามล้านสำหรับช่วงเวลาโฆษณา แต่ปีนี้ก็ผ่านไปเกิน 6 เดือนแล้วนะครับ ถ้าเราเฉลี่ยต้นทุน จำนวนเงินจะไม่ถึง 2 ล้านเลย อีกอย่าง การทำตลาดของแบรนด์อะไรกันที่ต้องใช้เงินถึง 2 ล้าน?!” หนิวคุนตะโกนเสียงดัง

 

“โอเค งั้นผมจะเรียกเก็บเงินคุณ 2 ล้านหยวนสำหรับค่าโฆษณาที่สถานีโทรทัศน์ CCTV ผมยอมได้แค่เรื่องนี้ครับ” เฝิงหยู่กล่าวอย่างไม่เห็นแก่ตัว “เรามาคุยเรื่องการทำตลาดของแบรนด์กันดีกว่าครับ พวกคุณยังไม่มีสินค้าอะไรเลย และไม่มีทางทำการตลาดแบรนด์ของคุณได้ หากไม่มีสินค้าของเรา พวกคุณไม่สามารถทำโฆษณาได้แน่นอน สินค้าของเราเป็นที่รู้จักกันดีในตลาด คุณไม่คิดว่ามันเป็นรูปแบบการตลาดสำหรับแบรนด์ของคุณโดยการพิมพ์ชื่อแบรนด์ของคุณลงบนบรรจุภัณฑ์ของสินค้าเราหรอครับ? เมื่อผู้บริโภคซื้อสินค้าของเรา พวกเขาจะรู้จักแบรนด์ของคุณไปด้วย พวกคุณไม่อยากได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้หรอครับ? คุณรู้หรือเปล่าว่าสินค้าของเราเป็นที่นิยมมากแค่ไหน? พวกคุณจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากพวกเรา!”

 

“เดี๋ยวนะครับ ผู้จัดการเฝิง ผมจ่ายค่าโฆษณาไปแล้ว มันก็น่าจะรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการตลาดด้วยสิครับ อีกอย่าง ผมตกลงที่จะจ่ายค่าโฆษณา 2 ล้านที่สถานีโทรทัศน์ CCTV ตอนไหนมิทราบครับ?” หนิวคุน กำลังจะบ้าแล้ว เขาตามเฝิงหยู่ไม่ทันเลยในการเจรจาต่อรองนี้ เขารู้สึกว่าเขาเจอแต่ทางตันสำหรับการเจรจาครั้งนี้

 

“นั่นมันเรื่องของโฆษณาทางทีวีครับ มันจะเหมือนกับการใช้แบรนด์ของเราทำการตลาดได้ยังไง? คุณรู้หรือเปล่าว่าการตลาดโดยใช้ผลิตภัณฑ์ทางกายภาพมันเป็นยังไง? ผมรู้ว่าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่ผมกำลังพูดถึงหรอก คุณยังไม่รู้วิธีการทำธุรกิจเลย ก็ไม่แปลกใจที่ทุกบริษัทที่อยู่ภายใต้กระทรวงการเกษตรกำลังประสบปัญหาแย่ๆ” เฝิงหยู่พูด

 

หนิวคุนสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาถูกเจ้าเด็กเหลือขอวัยยี่สิบต้นๆ คนนี้ดูถูกและวิพากษ์วิจารณ์งานของเขา ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงสั่งสอนบทเรียนให้เด็กเหลือขอคนนี้ไปแล้วหรือไม่ก็แค่เดินออกจากห้องไป แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถเดินออกไปไหนได้ การพัฒนากลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางยังต้องการความช่วยเหลือจากเฝิงหยู่

 

ในกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉาง อาจมีคนมาทำหน้าที่แทนหนิวคุนได้ทุกเมื่อ แต่ไม่ใครสามารถมาแทนที่เฝิงหยู่ได้! หากพวกเขาทะเลาะกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือเขาจะสูญเสียตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปและอาจเสียตำแหน่งผู้อำนวยการของกระทรวงการเกษตรแห่งจังหวัดหลงเจียงด้วย! เฝิงหยู่จะยังคงเป็นเจ้านายใหญ่และจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา!

 

“งั้นคุณช่วยบอกผมหน่อยว่าคุณเอาตัวเลขนี้มาจากไหน?”

 

“ความรู้มีค่ามากนะครับ ทำไมผมถึงต้องบอกคุณโดยที่ไม่มีอะไรตอบแทนล่ะ? ผมบอกคุณตรงๆ ก็ได้ คุณต้องการความร่วมมือเพื่อสร้างแบรนด์ใช่มั้ย? ไม่มีปัญหา คุณต้องการให้เราเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใช่มั้ย? ไม่มีปัญหาเช่นกัน เงินอย่างเดียวเลยครับ! จ่ายเงินมาให้ผม ไม่งั้นจะไม่มีความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นแน่นอน!”

 

“ผู้จัดการเฝิงครับ การเจรจาต่อรองของเราก่อนหน้านี้ก็เป็นไปด้วยดี แล้วทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะครับ?” หนิวคุนพยายามเปลี่ยนเรื่อง

 

“ถามตัวคุณเองสิครับ” เฝิงหยู่ตอบ

 

“ผู้จัดการเฝิง เรามาหารือเรื่องความร่วมมือนี้ตั้งแต่ต้นใหม่อีกครั้งดีมั้ยครับ?”

 

“ได้สิครับ” เฝิงหยู่ยิ้มและเห็นด้วย

 

หนิวคุนรู้สึกดีใจมาก เมื่อเขากำลังจะพูดถึงเงื่อนไขของเขา เฝิงหยู่ก็ถามว่า “เราจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี?”

 

“เริ่มจากความร่วมมือกันในการสร้างแบรนด์ของเราครับ”

 

เฝิงหยู่ส่ายหน้า “คุณยังจำคำถามก่อนหน้านี้ได้มั้ยครับ?”

 

“คำถามอะไรครับ?” หนิวคุนสับสน

 

“ประโยคก่อนที่ผมจะตอบตกลงร่วมมือสร้างแบรนด์ของเราน่ะครับ”

 

“ผมจำไม่ได้ว่าผมพูดอะไรไป”

 

“งั้นให้ผมช่วยเตือนคุณนะครับ คุณถามผมเกี่ยวกับความร่วมมือในการสร้างแบรนด์”

 

“ใช่แล้วครับ ผมถามคุณว่าคุณคิดอย่างไรถ้ากลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางและบริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวจะร่วมมือกันสร้างแบรนด์ คุณพูดว่า……”

 

ก่อนที่หนิวคุนจะพูดจบ เฝิงหยู่ส่ายหน้าและขัดจังหวะ “ผมไม่ตกลงครับ!”

 

หนิวคุน “……” อะไรนะ? เมื่อกี้นี้คุณเพิ่งตอบตกลงไม่ใช่หรอ? เรากำลังเริ่มเจรจาใหม่อีกครั้งและหากคุณจะปฏิเสธความร่วมมือครั้งนี้ แล้วเราจะเจรจาต่อไปเพื่ออะไรล่ะ?

 

“ผู้จัดการเฝิงครับ ก่อนหน้านี้คุณไม่ได้พูดแบบนี้นะครับ” หนิวคุนตกใจมาก

 

“นั่นมันก่อนหน้านี้ ซึ่งมันต่างจากตอนนี้ครับ เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน”

 

“ผู้จัดการเฝิง เพียงแค่บอกเงื่อนไขของคุณมา หากผมสามารถยอมรับได้ ผมจะตอบตกลงอย่างแน่นอน” สินค้าของกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางจะถูกส่งมอบให้กับบริษัทของคุณเพื่อนำไปขาย คุณต้องการให้สินค้าของเราขายดีด้วยใช่มั้ยครับ?” หนิวคุนยอมทุกอย่าง เขาไม่มีทางเลือก หากการเจรจาล้มเหลว เขาอาจจะตกงานได้

 

เฝิงหยู่มองหน้าหนิวคุนด้วยความพอใจ “ผู้จัดการหนิว อย่าทำให้เป็นแบบนี้เลยครับ เราทุกคนเป็นเพื่อนกัน เรายังสามารถร่วมมือกันได้ แต่ต้องเป็นตามเงื่อนไขของผมเท่านั้น!”

 

หนิวคุน “……” แค่ประโยคนี้เพียงประโยคเดียวเราก็เป็นเพื่อนกันไม่ได้แล้วล่ะ!