EG บทที่ 740 คุณคิดว่าผมโง่หรอ?

 

“กลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางของเรามีฟาร์มขยายพันธุ์สัตว์เพาะปลูกและฟาร์มสำหรับพืชไร่ทุกประเภท นี่คือสิ่งที่ บริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวต้องการใช่มั้ยครับ?”

 

เฝิงหยู่พยักหน้ารับ เขาพูดถูก บริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวมีแค่ฟาร์มหมูเท่านั้น ฟาร์มหมูเทียนเผิง ซึ่งเป็นฟาร์มหมูที่ทันสมัยและโดดเด่นที่สุดในประเทศจีน

 

“เรามีความได้เปรียบมากกว่าในด้านนี้ พื้นที่ทั้งหมดของจีนหรือแม้แต่เอเชีย เราก็มีข้อได้เปรียบมากที่สุดใช่มั้ยครับ?”

 

เฝิงหยู่ส่ายหน้า “นั่นคือหลังจากที่กลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางเติบโตและพัฒนาแล้วครับ แต่ตอนนี้ฟาร์มวัวและแพะของคุณสามารถเทียบกับภาคตะวันตกเฉียงเหนือได้แล้วหรอ? พืชไร่ของคุณเทียบกับมณฑลซานตงได้แล้วหรอ? อย่ามาพูดถึงเอเชียเลยครับ แค่ในประเทศจีนพวกคุณก็ยังไม่ใช่กลุ่มที่ดีที่สุดเลย”

 

นี่เคือการเจรจาต่อรอง เฝิงหยู่ต้องเทน้ำเย็นใส่อีกฝ่าย ถ้าเฝิงหยู่เห็นด้วยกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูด นั่นหมายความเขาจะยอมให้อีกฝ่ายเป็นคนกำหนดเงื่อนไขทั้งหมด

 

“ผู้จัดการเฝิงครับ คุณพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก เรามีทำเลพื้นที่และศักยภาพที่สำคัญมากที่สุด ที่เหลือก็แค่เป็นเรื่องของเวลาที่เราจะกลายมาเป็นบริษัทผลิตสินค้าทางการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย” หนิวคุนพูด เขาเริ่มโมโหนิดนึงกับสิ่งที่เฝิงหยู่พูด

 

“ก็อาจจะเป็นไปได้ พูดต่อสิครับ” เฝิงหยู่ยักไหล่ ก่อนที่เฝิงหยู่จะกลับมาเกิดในชาตินี้ การผลิตของกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางไม่เคยเกินมณฑลซานตงได้เลย การฟื้นฟูป่าและทุ่งหญ้า การอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ และอื่นๆ เป็นการลดจำนวนฟาร์มในจังหวัดหลงเจียง พื้นที่ไร้ประโยชน์ที่ได้รับการเพาะปลูกในตอนนี้จะต้องกลับคืนสู่สภาพเดิมในอีก 10 ปีต่อมา

 

“เรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและบริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวมีผลิตภัณฑ์เพียงแค่ไม่กี่อย่าง นี่คือเหตุผลที่เราต้องร่วมมือกันสร้างแบรนด์ของเรา เราจะพิมพ์แบรนด์ของทั้งสองบริษัทลงบนบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าทั้งหมดของเรา ด้วยวิธีนี้เราจะสามารถช่วยกันเพิ่มอิทธิพลให้แบรนด์ได้”

“เดี๋ยวนะครับ ช่วยกันเพิ่มการรับรู้แบรนด์งั้นหรอ? แบรนด์ของพวกคุณมีอิทธิพลตรงไหนหรอครับ? คุณจะช่วยแบรนด์ของเราได้ยังไง? ขนาดในจังหวัดหลงเจียงแบรนด์ของคุณยังไม่โด่งดังเท่าแบรนด์ของผมเลย ยิ่งที่อื่นๆ ในประเทศยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผลิตภัณฑ์ของเราถึงขนาดถูกส่งออกไปยังยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยนะครับ!”

 

แฮมเทียนเผิงถูกส่งออกไปยังฮ่องกงและถือว่าเป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังวางจำหน่ายในมอสโก ซึ่งถือว่าเป็นยุโรปด้วย!

 

“ผู้จัดการเฝิงครับ จุดขายของแบรนด์เราคือผลิตภัณฑ์จากดินดำและการเกษตรสมัยใหม่ การผสมพันธุ์และการทำเกษตรระบบนิเวศธรรมชาติ ไม่มีบริษัทไหนในประเทศจีนที่เหมือนเราเลยนะครับ”

 

ห้ะ? ตอนนี้มีแนวคิดการทำเกษตรระบบนิเวศธรรมชาติแล้วหรอ?!

 

การทำเกษตรระบบนิเวศธรรมชาติยังเป็นที่รู้จักกันในนามผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคธรรมชาติที่ปลอดภัย ประเทศจีนมีมาตรฐานและโลโก้สำหรับอาหารประเภทนี้ และคำว่า อาหารจากธรรมชาติ นี้เกิดขึ้นในช่วงต้นปี 1990 แต่คนก็ยังยากจนอยู่และไม่มีใครสนใจว่าอาหารที่ตัวเองรับประทานนั้นจะเป็นพวกออร์แกนิคหรือมาจากธรรมชาติหรือเปล่า พวกเขาแค่ต้องการกินเพื่อให้อิ่มท้องเท่านั้น

 

แต่ตอนนี้มันต่างกันแล้ว เงินเดือนโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเยอะมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา เงินเดือนของบริษัท เอกชนและต่างประเทศมีจำนวนเงินสูงที่สุด ผู้คนจำนวนมากที่นั่นได้รับเงินเดือนมากกว่า 1,000 หยวนต่อเดือน ผู้นำบางคนได้มากกว่า 10,000 หยวนด้วยซ้ำ

 

ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจของจีนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีการเพิ่มขึ้นของบริษัทเอกชนจำนวนมาก มีคนร่ำรวยมากขึ้นและคนพวกนี้เริ่มให้ความสนใจกับสุขภาพของเด็กๆ นี่เป็นเวลาที่จะส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารจากธรรมชาติและเข้าครองตลาดหุ้น

 

เฝิงหยู่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีใครสักคนในกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางที่จะแนะนำการขายผลิตภัณฑ์ผ่านฉลากอาหารจากธรรมชาติ ดูเหมือนว่ายังพอมีคนฉลาดจำนวนมากในรัฐวิสาหกิจ

 

“การทำเกษตรระบบนิเวศธรรมชาติเป็นจุดขายที่ดี ว่าแต่พวกคุณได้รับการรับรองสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารจากธรรมชาติแล้วหรอ? เฝิงหยู่ถามหนิวคุน

 

“ฟาร์มของเราปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งกระบวนการ การผลิต สุขลักษณะ คุณภาพ และอื่นๆ ล้วนผ่านการรับรองทั้งหมด เราจะได้รับการรับรองนี้อย่างง่ายดาย เราทำเรื่องยื่นขอไปแล้วด้วย และน่าจะได้รับการอนุมัติภายในเดือนนี้ครับ” หนิวคุนยิ้มอย่างมั่นใจ

 

พวกเขาเป็นรัฐวิสาหกิจและการรับรองนี้ออกโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นคนของพวกเขาเอง ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมา พวกเขาก็สามารถปกปิดได้!

 

“ตกลง ผมเริ่มสนใจเรื่องการทำเกษตรระบบนิเวศธรรมชาติขึ้นมาเล็กน้อยละ ถึงแม้ว่าเราจะสามารถขอใบรับรองนี้ได้ แต่เหตุผลนี้ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับผมที่จะตอบตกลงเห็นด้วยกับความร่วมมือครั้งนี้”

 

เฝิงหยู่เชื่อว่าเขาก็จะได้รับการรับรองด้วยเช่นกัน ถ้าใครก็ตามในรัฐบาลจงใจขัดขวางเขาจากการขอการรับรองนี้ เขามั่นใจว่าคนๆ นั้นจะถูกไล่ออกจากรัฐบาลแน่นอน!

 

“นอกจากนี้ เรายังเป็นรัฐวิสาหกิจที่ได้รับเงินทุนจากรัฐบาลกลางด้วย เราเป็นบริษัทแรกและจะเป็นผู้กำหนดมาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรม เรามีเงินอุดหนุนมากกว่าพวกคุณทุกคน หากผลิตภัณฑ์ของคุณพิมพ์โลโก้และแบรนด์ของเรา คุณก็จะได้ประโยชน์จากเงินอุดหนุนภาษีไปด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก”

 

“งั้นคุณบอกผมได้มั้ยว่าเราจะได้รับการลดหย่อนภาษีเท่าไหร่ถ้าเราพิมพ์โลโก้ของคุณลงบนบรรจุภัณฑ์? แบบนี้ถือว่าถูกกฎหมายใช่มั้ยครับ? ผมไม่อยากมีปัญหาเรื่องการเลี่ยงภาษีในอนาคต” เฝิงหยู่มองหนิวคุนด้วยหางตาของเขา

 

การลดหย่อนภาษีและเงินอุดหนุนไม่ได้ขึ้นอยู่กับแบรนด์ของผลิตภัณฑ์ แต่มันขึ้นอยู่กับบริษัท กลุ่มบริษัท เป่ยต้าฉางได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่บริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวไม่ได้รับสิทธิ์นั้น หากเฝิงหยู่เชื่อในสิ่งที่หนิวคุนพูด ในอนาคตบริษัทของเขาจะประสบปัญหาได้!

 

“ตราบใดที่พวกเรายังอยู่ เรื่องนี้จะถูกกฎหมายแน่นอนครับ!”

 

“นั่นคือสิ่งที่คุณพูด บอกตามตรงผมไม่เชื่อใจคุณ!” เฝิงหยู่บอกกับหนิวคุนตรงๆ

 

หนิวคุนรู้สึกอายเล็กน้อย แต่เขากล่าวต่อว่า “เราจะให้บริษัทของคุณขายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเรา ผลกำไรจากข้อตกลงนี้น่าจะค่อนข้างสูง”

 

“ถูกต้องครับ หากเป็นผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉาง ผลกำไรจะสูงมากแน่นอน แต่พวกคุณสามารถไปหาคนอื่นให้มาเป็นผู้จัดจำหน่ายหลักของคุณก็ได้นิ พวกคุณสามารถจัดตั้งช่องทางการจัดจำหน่ายของตัวเองได้หรอครับ? ถ้าไม่มีผมช่วยพวกคุณขายสินค้า ผลิตภัณฑ์ของพวกคุณก็คงเก็บค้างอยู่ในคลังสินค้าของคุณนั่นแหละ!” คุณอยากเอาเรื่องนี้มาเจรจาต่อรองกับผมงั้นหรอ? ถ้าผมไม่ช่วยคุณขายผลิตภัณฑ์ของคุณ พวกคุณขาดทุนอย่างหนักแน่!

 

“ผู้จัดการเฝิง เราตกลงเรื่องนี้กันแล้วเมื่อครั้งที่แล้วไม่ใช่หรอครับ?”

 

“ในเมื่อเราเคยตกลงเรื่องนี้กันแล้ว ทำไมคุณยังนำเรื่องนี้มาเจรจาอีกล่ะครับ?” เฝิงหยู่มองหน้าหนิวคุน จะใช้เงื่อนไขเดิมที่ทั้งสองฝ่ายเคยตกลงกันแล้วเพื่อมาเจรจาใหม่อีกครั้งหนึ่งงั้นหรอ? สมองคุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?

 

“ผู้จัดการเฝิง ความร่วมมือนี้จะเป็นสถานการณ์แบบที่ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่ายนะครับ การทำเกษตรระบบนิเวศธรรมชาติและการจัดหาวัตถุดิบของเราให้แก่บริษัทของคุณก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเราจะเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่สุดของคุณได้!”

 

หากบริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวและกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉา สามารถร่วมมือกันได้ บริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวจะได้รับวัตถุดิบอย่าสม่ำเสมอ ความต้องการอาหารสัตว์จะเพิ่มขึ้นและธัญพืชเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตอาหารสัตว์

 

“เราสามารถร่วมมือกันได้นะครับ แต่พวกคุณคิดหรือยังว่าเราจะร่วมมือกันยังไง?” เฝิงหยู่ถาม

 

หนิวคุนดีใจมาก “เราได้พูดคุยถึงเรื่องนี้แล้วครับ ตอนนี้บริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวกำลังผลิตและจำหน่ายสินค้าของตัวเอง บรรจุภัณฑ์ก็ต้องเปลี่ยนด้วย แบรนด์และชื่อของบริษัทเราจะต้องพิมพ์อยู่เหนือแบรนด์ของคุณ โฆษณาทั้งหมดของคุณต้องรวมชื่อแบรนด์และโลโก้ของเราเข้าไปด้วย…”

 

หนิวคุนตื่นเต้นที่จะบอกข้อเรียกร้องทั้งหมดของเขาให้เฝิงหยู่ฟัง แต่หลังจากพูดจบไปครู่หนึ่ง เขาก็สังเกตเห็นว่าเฝิงหยู่ไม่ได้พูดอะไรเลย เขาเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็เห็นเฝิงหยู่ยิ้มเยาะ

 

“ผู้จัดการหนิว  ผมดูเหมือนคนโง่ขนาดนั้นเลยหรอครับ?!”