คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 919

ถามสารทุกข์สุกดิบ?

แดร์ริลไม่รู้ว่าจะขำหรือร้องไห้ดีเมื่อจ้องไปที่หน้าอีเว็ตต์ เขากล่าว “เธอเป็นถึงเจ้าหญิง มีคนคอยตามรับใช้มากมาย ฉันจะไปถามเธอว่าสบายดีไหม ทำไม? ฉันแค่อยากรู้ว่าอีวอนกับโมนิก้าอยู่ที่ไหนตอนนี้?”

แดร์ริลฉีกยิ้มและยียวนอีเว็ตต์ “อีกอย่าง ถึงแม้ว่าเราจะสนิทสนมกัน แต่ก็ไม่ถึงขนาดเป็นครอบครัวที่จะต้องมาแสดงความเป็นห่วง หรือว่าเธอนับถือฉันเป็นพ่อของเธอใช่ไหม?”

แดร์ริลหัวเราะ

ย้อนกลับไปที่หลุมศพโบราณของเตียวหยุน จู่ลง อีเว็ตต์ติดกับดักค่ายกลภาพลวงตาซึ่งทำให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าแดร์ริลเป็นจักพรรดิโลกใหม่จนถึงขนาดที่เธอคิดว่าแดร์ริลเป็นพ่อของเธอจริง ๆ

แดร์ริลยังจดจำเหตุการณ์นั้นได้เป็นอย่างดี

ว้าว!

อีเว็ตต์หน้าแดงฉานเมื่อเธอได้ยินเช่นนนั้น เธอรู้สึกอับอายขายขี้หน้ามาก

‘แดร์ริลยังปากปีจอไม่เคยเปลี่ยน ฉันไม่น่าไปหยอกเขาเลย!’

สโลนโกรธจนตัวสั่น เธอชี้หน้าแดร์ริลและด่าทอ “แดร์ริล แกกล้าดียังไงถึงมายียวนเจ้าหญิงแบบน้ี แกกำลังหมิ่นเบื้องสูง!”

‘วาจาสามหาว! เขากล้าล้อเลียนเจ้าหญิงและเปรียบเทียบตัวเองเป็นถึงท่านจักรพรรดิ มันชักจะมากเกินไปแล้ว!’

บรรดาสาวกสำนักประตูสุราลัยที่เหลืออยู่รอบ ๆ มองดูพวกเขาอย่างเพลิดเพลินเริงร่า พวกเขาแทบจะกลั้นขำไว้ไม่อยู่ แต่พวกเขาก็เกรงใจและหันไปมองที่แดร์ริลด้วยความเคารพ

‘พี่แดร์ริลนี่เก่งมากแค่ไหน? เขาถึงขนาดกล้ามากที่จะแกล้งเจ้าหญิง’

“ท่านแม่ทัพสโลน ท่านไม่พอใจเหรอ?” แดร์ริลนั้นสุขุมขณะที่เขายิ้มให้อีเว็ตต์ “ผมแค่หยอกเล่นกับเจ้าหญิงเฉย ๆ”

จากนั้นใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดขณะหันไปหาอีเว็ตต์และกล่าว “ใช่ไหม เจ้าหญิง เธอไม่ได้ถือสาใช่ไหม? กับความสัมพันธ์พ่อลูกของเรา?”

อีเว็ตต์กัดริมฝีปากเธอนั้นหมดคำพูด

“ลูกพี่แดร์ริล!”

ทันใดนั้นนิมบัสก็เดินเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็วและกล่าวอย่างวิตกกังวล “ลูกพี่แดร์ริล เราเจออุโมงค์ลับของสำนักประกายแสงที่เนินเขาด้านหลังห้องโถงอาภาอลังการ เราได้ยินเสียงแปลกประหลาดดังขึ้นมาจากข้างในราวกับเสียงคำรามของสัตว์ร้าย เราไม่กล้าที่จะเข้าไปโดยไม่รู้ว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้น”

อุงโมงค์ลับ? สัตว์ร้าย?

แดร์ริลนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น

สำนักประกายแสงก่อตั้งมายาวนานกว่าสองสามพันปีแล้ว ประวัติศาสตร์ของพวกเขาย้อมกลับไปในสมัยบรรพกาล ที่แห่งนี้คือแท่นบูชาหลักของสำนัก และพวกเขาก็ได้ค้นพบว่ามีอุโมงค์ลับที่มีสัตว์ร้ายปกป้องอยู่ สำนักประกายแสงจะต้องซ่อนของมีค่าไว้ในอุโมงค์นั้นอย่างแน่นอน

แดร์ริลรู้สึกตื่นเต้นเมื่อคิดเช่นนั้น “โอเค พาฉันไปที เดี๋ยวฉันจะดูให้”

นิมบัสพยักหน้าและเดินนำทางไป

สโลนและอีเว็ตต์หันมามองหน้ากัน จากนั้นพวกเธอก็รีบเดินตามติดไปด้วย

เมื่อพวกเขามาถึงที่ด้านหลังเนินเขา พวกเขาเห็นแท่นบูชาขนาดมหึมา จากนั้นก็เห็นว่ามีอุโมงค์ที่ลึกและเงียบสงัดอยู่ใต้ฐาน

โฮก! โฮก!

เสียงคำรามที่พวกเขาคิดว่าเป็นสัตว์ร้ายก็ดังก้องมาจากข้างในอุโมงค์ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างหวาดผวาตกใจกลัว!

สโลนขมวดคิ้วและพึมพัม “นี่มันอุโมงค์ลับแห่งแสงสว่าง ของสำนักประกายแสงงั้นเหรอ?”

“อุโมงค์ลับแห่งแสงสว่าง? มันคืออะไรเหรอ?” อีเว็ตต์กล่าวถาม

สโลนรู้สึกอึดอัดใจขณะเธอกล่าว “มันคือพื้นที่หวงห้ามของสำนักประกายแสงเพคะ มีแค่เจ้าสำนักเท่านั้นที่จะเข้าไปได้ มีเรื่องเล่าว่าสำนักได้ขังอสูรดุร้ายไว้ข้างใน ไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็นเสียงของอสูรตัวนั้นก็ได้ที่เราได้ยินกันเมื่อกี้?”

อะไร? อสูรร้าย?

อีเว็ตต์ถึงกับตกตะลึง เธอชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าวถาม “พี่สโลน พี่รู้ไหมว่ามันเป็นอสูรร้ายแบบไหนที่ถูกขังไว้ข้างในอุโมงค์ลับนี่?”