ตอนที่ 874

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันคว้าร่างของติงผิงเอาไว้ ทันใดนั้นร่างของเขาก็เรือนรางพร้อมกับหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ทันที

ติงผิงรู้สึกว่าภาพเบื้องหน้าของเขาเบลอ พอรู้สึกตัวเขาก็มาปรากฏตัวในป่าแล้ว เขาจำได้ว่าที่แห่งนี้คือป่าที่อยู่ห่างจากจุดเดิมที่ยืนอยู่ถึงร้อยไมล์

แค่เดินก้าวเดียวก็เคลื่อนไหวได้ไกลถึงร้อยไมล์เลยงั้นรึ?

ติงผิงอดกรีดร้องในใจไม่ได้ พลังของอาจารย์อยู่เหนือจินตนาการของเขาเกินไป

ด้านหน้าพวกเขามีชายชราร่างผอมยืนอยู่ เขามีกลิ่นอายที่อ่อนโยนและอบอุ่น ใครที่เห็นเขาเป็นครั้งแรกก็ต้องรู้สึกถึงความอ่อนโยน

หรือนี่จะเป็นคนที่อาจารย์ของเขารอคอย?

ติงผิงคิดในใจ

“พี่ชายศพ ไม่ได้พบกันเสียนาน” หลิงฮันประสานมือคารวะ ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นคนของนิกายพันศพ แต่หลิงฮันก็ยังมีทัศนิคติที่ดีกว่าศพที่ยิ่งใหญ่

เมื่อเห็นหลิงฮันมีท่าทีผ่อนคลายติงผิงก็เลิกตัวเกร็ง จากที่เห็นแล้วทั้งสองคนคงเป็นสหายกันมากกว่าจะเป็นศัตรู และจากการที่อาจารย์เรียกอีกฝ่ายว่าพี่ชาย นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายต้องเป็นตัวตนที่ยืนอยู่ระดับแนวหน้าของโลกแน่นอน

ศพที่ยิ่งใหญ่ชะงักและยิ้มบางๆ “ข้าต้องโทษตัวเองสินะที่เผลอทิ้งร่องรอยเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นน้องชายหลิงก็มีสายตาและหูที่เฉียบคมยิ่งนัก ข้ามั่นใจว่าหากเป็นคนอื่นคงไม่มีทางค้นพบร่องรอยของข้าเป็นแน่”

หลิงฮันยิ้ม คนที่ไม่เคยปกครองแคว้นหรือจักรวรรดิย่อมไม่รู้ถึงความมหัศจรรย์ของธงสัญลักษณ์ “พี่ชายศพที่ยิ่งใหญ่ ข้าต้องการให้ท่านตอบคำถามข้าเพียงหนึ่งคำถาม”

ศพที่ยิ่งใหญ่ถอนหายใจ จากนั้นเขาก็ชำเลืองมองไปยังติงผิง “โครงสร้างกระดูกของเด็กคนนั้นไม่เหมือนคนทั่วไป!”

“แน่นอนอยู่แล้ว เขาเป็นลูกศิษย์ของข้าเอง” หลิงฮันยิ้ม

“เจ้ายังคงมีนิสัยมั่นใจเหมือนเคย” ศพที่ยิ่งใหญ่หัวเราะก่อนจะส่ายหัว “แต่เกรงว่าข้าคงจะให้คำตอบเจ้าไม่ได้”

“ข้ายังไม่ทันได้ถามอะไรเลย” หลิงฮันยิ้ม

“น้องหลิงกำลังดูถูกสมองของข้า?” ศพที่ยิ่งใหญ่มีท่าทีไม่พอใจเล็กน้อย

หลิงฮันสะบัดมือและยิ้ม “เข้าใจแล้วๆ งั้นพวกเรามาพนันกันดีกว่า ถ้าท่านหยุดกระบวนท่าข้าได้ข้าจะปล่อยท่านไป แต่ถ้าท่านหยุดข้าไม่ได้ ท่านต้องบอกตำแหน่งที่ตั้งของนิกายพันศพแก่ข้า!”

ศพที่ยิ่งใหญ่รู้สึกกระอักกระอ่วน ในตอนที่เขาพบหลิงฮันครั้งแรกเขาเสนอพนันกับอีกฝ่ายว่าตราบใดที่หลิงฮันป้องกันกระทวนท่าเขาได้สิบกระบวนท่าเขาก็จะไม่สังหารอีกฝ่าย แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่ปี หลิงฮันกลับกลายเป็นฝ่ายยืนข้อเสนอเดียวกันกับเขาเสียแล้ว

หรือว่าตอนนี้พวกเขาจะมีพลังต่างกันขนาดนั้นแล้ว?

ศพที่ยิ่งใหญ่ไม่เชื่อเด็ดก่อนและกล่าวออกไป “พลังบ่มเพาะของข้าพัฒนาเป็นระดับทลายมิติจั้นเก้าแล้วแถมยังใช้ทักษะศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วย ตอนนี้ข้ามีพลังต่อสู้อยู่ที่สิบห้าดาว เจ้ามั่นใจรึว่าจะโค่นข้าได้ในสิบกระบวนท่า?”

“ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไร?” หลิงฮันยิ้ม เขาเก็บตัวมานานเป็นปี ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเขามีความแข็งแกร่งขนาดไหน

สิบห้าดาว? ถ้าเขาต้องการ ศัตรูที่มีพลังต่อสู้แค่นี้เขาสามารถจัดการได้ภายในพริบตา

ศพที่ยิ่งใหญ่ไม่มีนิสัยขายพวกพ้อง แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นคนที่รักษาคำพูดตนเอง เพราะงั้นเขาจึงต้องคำนึงถึงผลตามมาหากเขาแพ้

ศพที่ยิ่งใหญ่คิดหนัก เขาก็ไม่เชื่อว่าเขาจะไม่สามารถหยุดสิบกระบวนท่าของหลิงฮันได้ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดว่าแม้จะหนึ่งในหมื่น แต่โอกาสที่เขาแพ้ก็อาจจะเกิดขึ้นได้

ติงผิงรู้สึกตัวทันทีว่าหลิงฮันกับชายอีกคนหนึ่งยืนอยู่ขนล่ะขั้ว แต่เขาก็อดประหลาดใจไม่ได้ว่าทำไมคนที่เป็นศัตรูกันถึงคุยกับได้อย่างผ่อนคลายเช่นนี้?

หลิงฮันยิ้ม “ทำไม ท่านไม่กล้ารึ? ที่จริงแล้วทำไมท่านถึงยังอยู่ในนิกายพันศพล่ะ? ด้วยพลังของพี่ชายศพ ข้าไม่คิดว่าเมื่อวันที่สวรรค์เปิดออก จะมีที่ใดที่ท่านไม่สามารถไปได้”

แววตาของศพที่ยิ่งใหญ่หรี่ลง “หม่าตั้วเปาล้มเหลวในการเปิดสวรรค์เมื่อปีที่แล้ว เจ้ายังคิดจะเปิดสวรรค์อยู่อีกรึ? เจ้าไม่กลัวว่าตัวเองจะตกตายรึอย่างไร?”

หลิงฮันหัวเราะ “ในฐานะลูกผู้ชาย ใครจะหวาดกลัวความตายกัน? ยิ่งกว่านั้นทำไมข้าจะเปิดสวรรค์ไม่สำเร็จล่ะ?”

ศพที่หนึ่งนิ่งเงียบก่อนจะกล่าว “เห็นแก่ความมุ่งมั่นที่จะเปิดสวรรค์ของเจ้า ข้าจะยอมพนันกับเจ้าก็ได้!”

ติงผิงฟังและสับสน เปิดสวรรค์คืออะไร? การแหวกท้องฟ้าขึ้นไปด้านบนงั้นรึ?

หลิงฮันยกมือขึ้นและกล่าว “งั้นพี่ชายศพก็ระวังให้ดี!”

หลิงฮันไม่เตรียมตัวรวบรวมพลักใดๆและปล่อยฝ่ามือออกไปโดยตรง

อะไรกัน!

ศพที่ยิ่งใหญ่ตกตะลึง พลังของฝ่ามือนี้มีพลังต่อสู้เกินสิบดาว! น่ากลัว น่ากลัวเกินไปแล้ว!

โดยปกติแล้ว ถึงแม้จอมยุทธจะสามารถฝึกฝนจนบรรลุระดับทลายมิติขั้นเก้าได้ แต่พลังต่อูของพวกเขาก็สมควรจะอยู่ที่เก้าดาวเท่านั้น จากนั้นเมื่อพวกเขาใช้ทักษะยุทธหรือทักษะลับพลังต่อสู้ของพวกเขาถึงจะเพิ่มขึ้นเกินกว่าเก้าดาว เป็นสิบดาว สิบเอ็ดดาว หรืออาจจะสิบสองดาว

แต่ยิ่งจอมยุทธแข็งแกร่งเท่าไหร่ พลังต่อสู้ของพวกเขาก็จะสูงขึ้นไปด้วย อย่างเช่นเขาที่มีพลังบ่มเพาะระดับทลายมิติขั้นเก้าสูงสุด เขามีพลังต่อสู้ติดตัวถึงสิบดาว จากนั้นถ้าหากเขาใช้ทักษะลับโจมตีออกไปพลังต่อสู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอีกสี่ดาว

เท่านี้ก็นับว่าน่าอัศจรรย์แล้ว

แต่หลิงฮันล่ะ?

อีกฝ่ายเพิ่งจะบรรลุระดับทลายมิติขั้นเก้าเท่านั้นแต่กลับมีพลังต่อสู้ติดตัวมากกว่าสิบดาว เช่นนั้นแล้วหากเขาบรรลุระดับทลายมิติขั้นสูงสุดและขัดเกลารากฐานจนสมบูรณ์ล่ะก็พลังต่อสู้ของเขาจะเพิ่มขึ้นขนาดไหน?

ถึงแม้เขาจะตกตะลึง แต่ศพที่ยิ่งใหญ่ก็เป็นจอมยุทธระดับแนวหน้า ปฏิกิริยาตอบโต้ของเขาย่อมไม่เชื่องช้า สองมือของเขาตั้งท่าราวกับเป็นกรงเล็บและตอบโต้หลิงฮัน บนฝ่ามือของเขาปรากฏรูปแบบอักขระราวกับเป็นฝ่ามือของพระเจ้า

ตูม!

การโจมตีของทั้งสองคนปะทะกัน คลื่นพลังอันทรงพลังระเบิดออกสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ โดยปกติพลังโจมตีที่ทรงพลังขนาดนี้ไม่เพียงแค่จะทำให้ภูเขาที่พวกเขาอยู่จะพังทลาย แต่เมืองที่อยู่ใกล้ๆก็คงหนีไม่พ้นชะตาเดียวกัน

แต่เมื่อคลื่นพลังแพร่กระจายไปสิบฟุต คลื่นพลังก็ถูกหยุดเอาราวกับมีกับแพงที่มองไม่เห็นกั้นเอาไว้

พลังแห่งจักรภพ!

หลิงฮันไม่ใช้พลังแห่งจักรภพเสริมพลังต่อสู้ให้ตนเอง แต่ใช้ป้องกันคลื่นพลังที่เกิดขึ้นจากการปะทะให้อยู่ในพื้นที่เล็กๆแทน

“อะไรกัน!” ศพที่ยิ่งใหญ่อุทาน ดวงตาของเขาเปิดกว้างราวกับเห็นผี

แต่จะพูดให้ถูกก็ตัวเขาเองนั่นแหละที่เป็นผี

“พลังของเจ้า… สิบสามดาว!” ศพที่ยิ่งใหญ่อุทาน “เป็นได้อย่างไร! ระดับทลายมิตินั้นการจะเพิ่มพลังต่อสู้ให้สูงขึ้นแค่ดาวเดียวก็ยากลำบากราวกับยกสวรรค์ แต่พลังต่อสู้ติดตัวของเจ้ากลับสูงถึงสิบสามดาว เรื่องนี้ไม่อาจเป็นไปได้!”

ที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือหลิงฮันยังไม่ได้ใช้พลังจักรภพในการเสริมพลังต่อสู้ให้กับร่างกายเลย

หลิงฮันยิ้มบางๆและกล่าว “ข้าเพิ่งจะบรรลุระดับทลายมิติขั้นเก้าได้ไม่นาน แถมกายหยาบของข้าก็แข็งแกร่งขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นต่อสู้ของข้าจึงเพิ่มขึ้นนิดหน่อยโดยไม่รู้ตัว ช่างน่าอายยิ่งนัก