น่าอายน้องสาวเจ้าน่ะสิ!
ศพที่ยิ่งใหญ่เกรี้ยวกราด เพิ่งจะบรรลุระดับทลายมิติขั้นเก้าได้ไม่นาน แถมกายหยาบก็แข็งแกร่งขึ้นมาเพียงเล็กน้อย พลังของเจ้าเลยเพิ่มขึ้นไม่รู้ตัวงั้นรึ? พลังต่อสู้มันจะเพิ่มขึ้นง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร
หลิงฮันเหม่อลอยอยู่ในห้วงความคิด พลังต่อสู้ติดตัวของเขาในตอนนี้ได้รับผลมาจากทักษะกายาเก้ามังกรทรราช หลังจากที่เขาบรรลุระดับทลายมิติ ในที่สุดกายหยาบของเขาก็สามารถปลดปล่อยพลังต่อสู้ที่น่ากลัวออกมาได้
พลังต่อสู้สุดแกร่งของเก้ามังกรที่แท้จริง!
พลังต่อสู้ของทักษะนี้ไม่เหมือนกับครึ่งมังกรอย่างเฮ่อเหลียนเทียนหยุน บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีเพียงเผ่ามังกรที่บรรลุระดับสร้างสรรพสิ่งเท่านั้นที่จะถูกเรียกว่ามังกรที่แท้จริง เพราะงั้นแล้ว… หากเป็นพลังของมังกรที่แท้จริงเก้าตัว เมื่อถึงตอนนั้นพลังต่อสู้ของเขาจะน่ากลัวขนาดไหน?
หลังจากบรรลุระดับทลายมิติเขามีปราณก่อเกิดมากว่าเดิมอย่างน้อยสามเท่า ดังนั้นในที่สุดทักษะกายาเก้ามังกรทรราชจึงสามารถแสดงอำนาจของมันออกมาได้เสียที
จากสมมติฐานของหลิงฮัน ถ้าปราณก่อเกิดมีปริมาณมากพอ พลังกายของของเขาก็จะถูกเสริมแกร่งให้เท่ากับมังกรที่แท้จริง แต่เพราะระดับพลังบ่มเพาะของเขาในตอนนี้ยังไม่สูงพอ พลังกายของเขาจึงเพิ่มขึ้นเพียงเสี้ยวเดียวจากพลังทั้งหมดของทักษะเท่านั้น
เช่นนั้นแล้วถ้าหากลองไม่พึ่งพาพลังแห่งจักรภพดู จอมยุทธจะสามารถครอบครองพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบดาวได้รึไม่?
หลิงฮันครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พอสมควร ทำไมต้องพึ่งพลังแห่งจักรภพเพื่อให้พลังต่อสู้ของตนเองบรรลุขีดจำกัดด้วยล่ะ?
เขาต้องการจะขัดเกลาพลังต่อสู้ของตนเองโดยไม่พึ่งพาอำนาจภายนอกให้บรรลุถึงขีดจำกัดยี่สิบดาว!
ศพที่ยิ่งใหญ่ปากกระตุก หลังจากเห็นการโจมตีของหลิงฮัน เขาก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นตัวโง่งม ทำไมเจ้าถึงได้น่ารังเกียจเช่นนี้? ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้ามาตั้งแต่แรกแล้วแต่เจ้าก็จงใจยื่นเสนอการพนันเช่นนั้นกับข้า
“หลิงฮัน!” ศพที่ยิ่งใหญ่คำราม
หลิงฮันรู้สึกตัวและหัวเราะ “โทษที โทษที จู่ๆข้าก็เผลอคิดอะไรขึ้นมาได้น่ะ”
ในขณะต่อสู้ เจ้ายังมีเวลาคิดเรื่องอื่นอีก?
“เจ้าคิดเรื่องอะไร?” ศพที่ยิ่งใหญ่ถามด้วยความสงสัย
“ข้ากำลังอยู่ว่าจะเพิ่มพลังให้บรรลุระดับทลายมิติยี่สิบดาวอย่างไรดี” หลิงฮันไม่ได้ปกปิดเรื่องที่คิด เขาต้องการใครสักคนที่จะถกเถียงเรื่องนี้กับเขา
ศพที่ยิ่งใหญ่นิ่งเฉยก่อนจะกล่าว “เจ้าไม่ได้หมายถึงพลังต่อสู้ยี่สิบดาวที่เกิดจากการปล่อยทักษะยุทธ แต่เป็นพลังต่อสู้ติดตัวระดับทลายมิติยี่สิบดาว?” (ผมขอแทนพลังต่อสู้แบบนี้ว่าพลังกายนะครับ)
“ถูกแล้ว” หลิงฮันพยักหน้า
“เจ้า… เป็นคนบ้ารึเปล่า!” ศพที่ยิ่งใหญ่กล่าว
“ถ้าพลังกายของเจ้าบรรลุระดับยี่สิบดาว แล้วพลังต่อสู้ของเจ้าจะเพิ่มขึ้นถึงขนาดไหน?” ศพที่ยิ่งใหญ่กล่าวด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว
หลิงฮันหัวเราะ “ลูกผู้ชายก็ควรจะมีฝันของตัวเองไม่ใช่รึ?”
หลังจากอึ้งไปชั่วขณะศพที่ยิ่งใหญ่ก็พยักหน้า “ก็ถูกของเจ้า!” จากนั้นเขาก็สะบัดมือและกล่าว “ยังเหลืออีกเก้ากระบวนท่า!”
หลิงฮันยิ้ม มือขวาของเขายกขึ้นอีกครั้งและเตรียมกระแทกเข้าใส่ศพที่ยิ่งใหญ่
ศพที่ยิ่งใหญ่คำราม “หลิงฮัน จงใช้ทักษะยุทธซะ ข้าทำให้ข้าผิดหวังในตัวเจ้า!”
“เอางั้นรึ?” หลิงฮันใช้มืออีกข้างถูจมูก “ก็ได้!” เขาโคจรทักษะผนึกพลิกปฐพีและทักษะอัสนีบาตเก้าทิวา ‘ครืนน’ ร่างของเขาปลดปล่อยแสงแห่งอัสนีออกมาในขณะที่มือขวาของเขาปรากฏประกายแสงสีทองระยิบระยับ
‘ตูม!’
ฝ่ามือของเขากระแทกไปด้านหน้า ทันใดนั้นร่างของศพที่ยิ่งใหญ่ก็หายไปทันที
“พี่ชายศพ ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม? หลิงฮันเอ่ยถาม”
ศพที่ยิ่งใหญ่ปีนขึ้นมาจากหลุม เขากระอักเลือดและพึมพำออกมาด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง “ข้าไม่อาจหยุดการโตของเจ้าได้แม้แต่นิดเดียว!”
ตัวเขานั้นเป็นถึงจอมยุทธที่มีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติสิบห้าดาว แต่ถ้าหากหลิงฮันไม่ปรานี แค่การโจมตีครั้งเดียวของหลิงฮันก็ทำให้เขาตกตายได้
พลังของพวกเขาต่างกันเกินไป
หลังจากครุ่นคิดสักพักแววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นหนักแน่น ถ้าหลิงฮันเปิดสวรรค์สำเร็จจริงๆ เขาจะสามารถขึ้นไปบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์และหาหนทางให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นได้!
“นิกายพันศพหลบซ่อนอยู่ห่างจากบริเวณนี้สองร้อยไมล์ทางทิศตะวันออก ที่นั่นมีสุสานโบราณอยู่” ศพที่ยิ่งใหญ่กล่าวและจ้องมองหลิงฮัน “ข้าหวังว่าเมื่อเจอกันครั้งหน้า พวกเราจะสามารถแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันได้อีก”
“แน่นอนอยู่แล้ว!” หลิงฮันตกลง เขามีทัศนคติที่ดีต่อศพที่ยิ่งใหญ่มาตั้งแต่แรกแล้ว
ศพที่ยิ่งใหญ่จ้องหลิงฮันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ติงผิงที่มองดูอยู่ห่างๆนั้นรู้สึกว่าโลหิตในร่างเร่าร้อน เขาทนรอที่จะมีพลังเทียบเท่าทั้งสองคนตรงหน้าไม่ไหวแล้ว
หลิงฮันยิ้ม “ครั้งหน้าที่ชายคนนั้นมาท้าประลองข้า เจ้าจะต้องเป็นคนสู้”
ในตอนแรกติงผิงชะงักทำตัวไม่ถูก แต่ไม่รู้ทำไมอารมณ์ของเขากลับกลายเป็นเร่าร้อนและกล่าวออกไป “ศิษย์จะไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวัง!”
หลิงฮันพยักหน้า “ทีนี้ก็ได้เวลาสะสางปัญหาสุดท้ายก่อนจะเปิดสวรรค์เสียที”
เขาคว้าตัวติงผิงเอาไว้ หลังจากก้าวเดินไม่กี่ก้าวเขาก็มาถึงสถานที่ที่ศพที่ยิ่งใหญ่เรียกว่าสุสานโบราณ
นิกายพันศพเป็นนิกายที่บ่มเพาะปราณซากศพ ดังนั้นสุสานที่เป็นสถานที่ที่อบอวลไปด้วยปราณซากศพจึงเป็นสถานที่ซ่อนตัวที่ดีที่สุดของพวกเขา
หลิงฮันไม่พูดพล่าม เขาตั้งมือข้างหนึ่งเป็นคันศรและควบแน่นปราณก่อเกิดอัดแน่นเป็นรูปร่างลูกศร ‘ปัง’ เขาใช้ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราโจมตีใส่สุสานโบราณทันที
ความรุนแรงของทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดารานั้นจะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของคันศรและลูกศร แต่ตอนนี้หลิงฮันนั้นทรงพลังเกินไป เขาไม่จำเป็นต้องใช้คันศรหรือลูกศรของจริง
‘ตูม!’
ลูกศรปราณก่อเกิดพุ่งชนและบดขยี้สุสานขนาดใหญ่กลายเป็นหลุมลึกภายในพริบตา
‘พรึบ พรึบ พรึบ’ ร่างหลายสิบร่างบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
ในกลุ่มคนเหล่านั้นมี จิ่วโหยวหวัง ศพที่สองและหลงไหเชวียน ร่างของพวกเขาปลดปล่อยปราณซากศพออกมา
นอกจากพวกเขาแล้ว การโจมตีเมื่อครู่ของหลิงฮันทำให้จอมยุทธทุกคนที่มีพลังต่ำกว่าระดับสวรรค์ตกตาย!
“หลิงฮัน!” เมื่อเห็นหลิงฮัน หลงไหเชวียนก็คำรามและกัดฟัน เขากับหลิงฮันเป็นศัตรูคู่แค้นมายาวนาน ในตอนที่เขาพบกับหลิงฮันครั้งแรกที่ดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยวเขายังเป็นฝ่ายอยู่เหนือกว่าหลิงฮัน แต่หลังจากนั้นเขาก็ตกต่ำและถูกหลิงฮันนำหน้ามาโดยตลอด เรื่องนี้ทำให้เขาเกิดความแค้นที่ฝังลึกไปถึงขั้วหัวใจ
ตอนนี้เขามีพลังบ่มเพาะระดับสวรรค์ แม้การพัฒนาที่รวดเร็วเช่นนี้จะน่ากลัวเพียงใดแต่เมื่อเทียบกับหลิงฮันแล้วก็ไม่นับเป็นอันใดได้
ต่อหน้าหลิงฮันเขาไม่อาจเป็นแสงเจิดจรัสได้เลย
หลงไหเชวียนยอมรับไม่ได้ ทั้งที่เขาเองก็เป็นลูกรักของสวรรค์เหมือนกันแท้ๆ!