“ขอรับ ! “
กระเรียนเอ่ยตอบอย่างมั่นใจ จากนั้นเขาเอ่ยต่อ
” ข้ามั่นใจในเรื่องนี้มาก เขาใช้เคล็ดปราณกับพี่สี่และข้า เคล็ดพิเศษของเขาทำให้ความแข็งแกร่งในร่างกายพวกเราเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า ! และ แม้แต่คอขวดที่ขัดขวางไว้ก็เริ่มคลายออก ดังนั้นพวกเราจึงทำเช่นนี้เนื่องจากเขาจักช่วยเราให้ก้าวหน้า ข้ารับรองได้ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง เช่นนั้น ท่านมิจำเป็นต้องแคลงใจ ”
กระเรียนตอบจริงจัง
” เช่นนั้น … มันเป็นไปได้ … ”
ผู้ที่อยู่ในชุดคลุมพึมพัมเสียงเบา
” หากเป็นเช่นนั้นก็เข้าใจได้ แต่ เหตุใดเจ้าและน้องสี่ไม่พยายามจับตัวเขา ? เจ้าจักสำเร็จทุกอย่างหากควบคุมเขาได้ อาจคาดได้ว่าคนผู้นี้มีพลังสูงส่ง แต่ เขามิอาจต่อสู้กับลีจื้อเทียนได้ ! เจ้าคิกว่ามียอดฝีมือที่แข็งแกร่งเช่นนี้มากเพียงไรในพื้นที่นี้ ? เจ้าและน้องสี่ไม่ถือว่าอ่อนด้อยกว่า ลีจื้อเทียน หากเจ้าร่วมมือกันต่อสู้ ! ดังนั้นอย่างน้อยพวกเจ้าทั้งสองก็ควรพยายามจับชายที่ต้องสงสัย ! ”
กระเรียนยิ้มเล็กน้อย
” ท่านคิดว่าเราไม่ต้องการทำเช่นนั้นหรือ ที่ใหญ่ ? เราได้เสนอการแข็งขันเนื่องด้วยความคิดนี้ !
” แต่กระนั้น ท่านก็ไม่รู้ว่าเขากดดันพวกเราเพียงใด ! แรงกดดันของกลิ่นไอของเขานั้นเป็นเลิศยิ่งกว่าท่าน พี่ใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้น เราจักมีช่วงที่จักพัฒนาความแข็งแกร่งของเราหากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ความจริง พวกเราจักก้าวหน้าอย่างไม่สิ้นสุดหากเรื่องนี้จบลง และ พวกเราสามารถบอกลาปัญหาคอขวดได้อย่างง่ายดาย …
” พี่สี่และข้า ถูกบังคับให้ถอนตัวหลังจากการแข่งรอบที่สามจบลง เนื่องจากเรามิอาจเปรียบกับคู่ต่อสู้ได้ …
” ท่านไม่เข้าใจว่าการล่อลวงนี้เกิดขึ้นกับเรา พี่สี่และข้าติดอยู่ในระดับนี้มาสี่สิบปีแล้ว ! พวกเราไม่ได้เห็นพี่สองมานานหลายปี แต่พวกเราก็มิได้มั่นใจว่าเขาจักก้าวหน้า เขาต้องติดขัดอยู่เช่นเดียวกัน ! อีกทั้ง เงื่อนไขของคนผู้นั้นก็มิได้ดูย่องยาก พวกเราเพียงแต่หยุด มณฑลฉือฮั่น จากการไปทางเหนือ และเล่นงานลูกชายของ ลีจื้อเทียน จนเขาไม่สามารถลุกจากเตียงได้สักสองสามเดือน มันจักเป็นจริงได้ยากเพียงใดกัน ? ดังนั้น พี่สี่และข้าจึงตัดสินใจโดยไม่ปรึกษาท่าน ”
” อันที่จริง เรื่องนี้สมเหตุผล ..และมิได้ยุ่งยากมาก พวกเราได้เปรียบเรื่องนี้ แต่ เหตุใดทุกอย่างกลายเป็นเช่นนี้ ? มียอดฝีมือเชวียนกว่าครึ่งของโลกอยู่ที่หน้าประตูบ้านของเรา ! ”
บุรุษในชุดคลุมเอียงตัวไปด้านข้างเล็กน้อย
” เดิมทีข้าวางแผนจักว่าจักบุก มณฑลฉือฮั่น ในช่วงกลางคืน ข้าวางแผนจักใช้ความอลม่านเพื่อปิดบังการเข้าไปหักขาของ ลี่เติ้งหยวน แต่จากนั้น … หมีใหญ่ … เขาเข้าไปยัง มณฑลฉือฮั่น ในเวลากลางวันและสร้างความวุนวาย จากนั้นเขาเริ่มเห่าหอนถึงเรื่องการหักขาของ ลี่เติ้งหยวน และ ประกาศต่อฝ่ายตรงข้ามอย่างโจ่งแจ้งว่าพวกเขาต้อง หักขาของ ลี่เติ้งหยวน ด้วยพวกเขาเอง แม้แต่ข้าก็ไม่เคยทำ … เช่นนั้นลืมไปเสียว่า ลีจื้อเทียน จักทำเช่นนั้น ….”
” กระเรียนสาม … เหตุใดท่านจึงหักหลังข้า ? มิใช่ว่าข้าต้องการจักจบเรื่องให้ไวอย่างนั้นหรือ ? และ เราจักล่าช้าไปเพียงใดหากเราทำตามแผนการของท่าน ? ยิ่งไปกว่านั้น วิธีการหลบๆซ่อนๆนี้ก็ไม่น่าพอใจ มันไม่สำคัญหรือที่เราจักทำงานให้จบได้เร็วแค่ใหน … ? “
ใบหน้าของหมีใหญ่แดงกำขณะที่เขาตะโกน เขายังมิทันเอ่ยจบ แต่ตัวเขาก็เริ่มสั่น จนเขามิกล้าเอ่ยวาจาออกมาอีกต่อไป
” ไม่จำเป็นต้องบอกว่า มณฑลฉือฮั่น ไม่ทำตามคำขู่ของหมีใหญ่ เช่นนั้น พวกเราจึงโจมตีพวกเขาอย่างกล้าหาญในวันเดียวกัน พวกเรามีข้อได้เปรียบที่สำคัญ เช่นนั้น พวกเราจึงทำให้บางคนบาดเจ็บ แต่ ลี่เติ้งหยวนยังคงหลบซ่อนอยู่ เช่นนั้น พวกเราจึงกลับไปในวันต่อมา และทำเช่นเดิม แต่ พวกเรากลับพบอย่างไม่คาดฝันว่า ยอดปรมาจารย์ ฉีฉางเซี่ยว ได้มาปรากฏตัวใน มณฑลฉือฮั่น มันจึงกลายเป็นการยากที่จักรักษาข้อได้เปรียบของเราเมื่อเขาอยู่ที่นั่น เช่นนั้น เรื่องนี้จึงเกิดขึ้นต่อไปอีกหลายวัน อย่างไรก็ตาม มันยังคงไม่มีปัญหาเรื่องจาก มณฑลฉือฮั่น จักโดนทำลายไม่มากก็น้อยหาก ลี่เติ้งหยวน ไม่แสดงตัวออกมา เแต่จากนั้น พวกเราก็พบว่า ลีจื้อเทียน … เจ้าสุนัขนั้น … กลับมายัง มณฑลฉือฮั่น… ”
กระเรียนกระตุกและย่นริมฝีปาก
” เจ้าไปหน้าบ้านคนอื่นและก่อปัญหา และจากนั้น เจ้าขอให้พวกเขาส่งตัวคุณชายน้อยของพวกเขาออกมาให้เจ้าหักขา ? และจากนั้น … เจ้าประหลาดใจที่พวกเขาไม่ทำตาม ? แล้ว เจ้าใช้เหตุผลของเจ้าและมีโทสะ .. และจากนั้นเจ้าก็โมโหอาวะลาด ! จากนั้น ลีจื้อเทียนออกมา และ แสดงความเกรี้ยวกราดเมื่อมองไปยัง มณฑลฉือฮั่นอันยิ่งใหญ่ที่เขาสร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายตลอดชีวิต เกือบสูญสิ้นไป สกุลใดที่สามารรถทนต่อเรื่องน่าอับอายนี้ได้ ? “
บุรุษในชุดคลุมคำรามทางจมูก
” เจ้าทั้งสองคิดว่าไม่มีผู้ใดในโลกนี้จริงหรือ ? น่าขันยิ่งนัก ! อย่างแรก … เจ้ามิได้ทำงานนี้ให้สำเร็จอย่างลับๆ จากนั้นเจ้าออกไปก่อเรื่อในเวลากลางวัน … และหมีใหญ่ เจ้านั้นกล้ามากจริงๆ ข้าอยากฉีกยิ้มออกมาเมื่อได้เห็นความกล้าหาญของเจ้าเสียจริงๆ …. ”
หมีใหญ่ จ้องมองอ้าปาก จากนั้น เขาสะอึกและหุบปากลง
” เกิดอันใดขึ้นหลังจากนั้น ? “
บุรุษชุดคลุมดำถาม
” หลังจากนั้น พวกเราโจมตีอีกครั้ง และเราพวกเราพบว่าร่างของ ลีจื้อเทียน นั้นมีความแกนอสูรเชวียนที่ผันผวนอย่างมากอยู่ภายใน ดูเหมือนว่าเขากินแกนอย่างน้อยระดับเก้าเข้าไป ความจริง ปราณนั้นคล้ายกับของ ราชัญเสือดำ แต่ดูเหมือนว่ามันมิได้เคลื่อนไหวเพื่อแยกออกจากร่าง เช่นนั้น ข้าจึงเริ่มรู้สึกสงสัยในทันที
ใบหน้าของ กระเรียนลุกเป็นไฟด้วยโทสะ
” ราชัญเสือดำหายไปเมื่อสองปีก่อน หมีใหญ่ และข้า หาเขาเป็นเวลานาน แต่พวกเราก็ไม่พบเบาะแสอันใด จากนั้น มีเรื่องของ แกนเชวียนระดับเก้าใน นครเทียนเชียง เช่นนั้น เราจึงมิได้คิดมากกับการค้นหาของเราในเวลาเพียงน้อยนิด แต่จากนั้น พวกเรากลับมาที่นี่เพื่อก่อปัญหาตามคำสั่งของ บุรุษลึกลับ … และพบว่าร่างของ ลีจื้อเทียน มีพลังของแกน ราชัญเสือดำเชวียนที่ผันผวนอยู่ ! “
” ราชัญเสือดำ ! ”
เสียงของบุรุษชุดคลุมดำตึงเครียด
” มันคือ ราชัญเสือดำ จริงหรือ ? เกิดเรื่องชั่วร้ายอันใดขึ้น ? เจ้ามั่นใจในสิ่งที่พูดอย่างนั้นหรือ ? “
จากนั้น น้ำเสียงของเขาเริ่มเย็นชา
” ข้าเพิ่งคิดได้ว่าข้าไม่ได้เห็นเงาของ ราชัญเสือดำ เช่นนั้น ดูเหมือนวานมีใครบางคนสังหารและกินเขาแล้วป … แม้แต่แกนของเขาก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในพลังของคนนั้น … หึ .. น้องสาม น้องสี่ … เจ้าทั้งสองดูแลเถียรฟาได้ดีมากในเวลาที่ข้าไม่อยู่ .. ราชัญเสือดำตายแล้ว … พูดถึงการหายตัวไปอย่างลึกลับ … หึ … ดี … ดี ! ”
สีหน้าของ กระเรียน และ หมีใหญ่เปลี่ยนไปในทันที พวกเขาคุกเข่าลงด้วยเสียงตุ๊บ และ หน้าผากของเขามีเหงื่อทะลักออกมาเพียงพอใส่ถ้วยซุป คำพูดและน้ำเสียงของที่ใหญ่ของเขาเพียงพอจักบ่งบอกถึงโทสะของเขา ดูเหมือนว่าสองพี่น้องเหล่านี้กำลังตกอยู่ในเรื่องเลวร้าย …
” เคยมี สิบราชัญอสูรในสมัยราชัญของเรา พวกเขามองข้ามโลกทั้งใบได้ด้วยความทะนง แม้แต่ สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็มิกล้าสบตาพวกเขา ! เทียนฟาเป็นกองกำลังที่อำมหิตที่สุดในทั่วหล้า ! มันเป็นเพียงความทนงจำ ! กระนั้น องค์ราชัญได้ขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์ และ เก้าพี่น้องเริ่มหมดกำลังใจและแยกตัวออกไปเพื่อปลีกวิเวก สิ่งนี้ทำให้เราก้าวขึ้นมา ..และ ราชัญปิศาจใหม่ๆถือกำเนิดในเวลาน้อยกว่าศตวรรษ … และทั้งหมดมีถึงยี่สิบ … ดังนั้นอย่างน้อยสิ่งนี้ก็เพียงพอให้เรารักษาตำแหน่งไว้ได้แม้นว่าเขามิอาจต่อยอดต่อไปได้ก็ตาม ! ”
” แต่มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันสั้นนี้ … น้องสอง ราชัญอินทรี ถูก จุ้นเป้ยเฉิน โกงในการเดิมพัน ดังนั้นเขาจึงถูกบังคับให้เป็นข้ารับใช้ของตาเฒ่าผู้นั้น สิ่งนี้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้เถียรฟาของเราอับอาย น้องเล็กมิได้ปรากฏตัวเป็นเวลานาน น้องหก ราชัญสิงโต และ น้องเจ็ด ราชัญลิง ต่อสู้กับ แปดเซี่ยนผู้ยิ่งใหญ่เมื่อหกปีก่อน พวกเขาพ่ายแพ้การต่อสู้ หกปีที่ผ่านมาไม่มีสิ่งใดเหมือนเดิม … “
น้ำเสียงของขาหดหู่ สองอสูรเชวียน ราชัญสิงโตขาว และ ราชัญลิงขนทอง ที่ยืนอยู่หลังหมีใหญ่ พวกเขาก้มหัวด้วยความโศก นี่สองราชัญอสูรที่เขาพูดถึง
” ห้าดูแลเถียรฟาจนกระทั่งสามปีก่อน .. แต่จากนั้น … ห้ายอดฝีมือเทพเชวียนผู้ทรงพลังลึกลับปิดล้อมและสังหารพี่น้องอสรูเชวียนของเรา แม้แต่ที่อยู่ของแกนพวกเขาก็มิอาจรู้ได้ เรื่องทั้งหมดยังคงลึกลับ จากนั้นน้องเจ็ด ราชัญเสือดำ ตาย และแกนของเขาอยู่ในท้องของ ลีจื้อเทียน ….. ? ตอนนี้ …. เหลือพวกเราราชัญอสูรทั้งยี่สิบอยู่น้อยนิด … กระเรียน หมี งู เสือ และ อินทรี ”
บุรุษเสื้อคลุมพยายามอย่างมากเพื่อควบคุมเสียงขณะที่เขามีโทสะ
” นี่คือเถียรฟา ใช่หรือไม่ ? เถียรฟาคือความป่าเถื่อนใช่ไหม ? พวกเจ้าเจ็ดราชัญอสูรมิได้ไปด้วยขณะที่พี่น้องพวกเจ้าไปสร้างความหายนะให้แก่ เมืองเล็กๆนั่นหรือ ? หือ … ? “
เขาแผ่ปราณออกมารอบๆ และปราณของเขาพุ่งออกไปจากร่างราบกับคลื่นกระแทกของระเบิด แต่ ราชัญอสูรที่อยู่รอบๆมิได้ต่อต้านเลยแม้แต่น้อย พวกเขามิกล้าต่อต้าน และ ถูกแรงระเบิดส่งให้ลอยออกไป ความจริง พื้นที่กลางป่าถูกพัดออกไปเป็นระยะทางเก้าสิบกิโลเมตรด้วยแรงระเบิดนี้ ต้นไม่ถูกถอนรากออกจากพื้น และ อากาศเต็มไปด้วยเศษไม้
พื้นที่ขนาดใหญ่โล่งเตียน ไม่มีแม้แต่ใบหญ้า
พลังแห่งโทสะของราชัญเถียรฟาสูงส่งมิอาจคาดได้
” พี่ใหญ่ ท่านมิควรมีโทสะเช่นนี้ในเวลาสำคัญนี้ ”
เจ็ดราชัญอสูรเชวียนคุกเข่าลงและวิงวอนราชาของเขา
สามารถเห็นบุรุษชุดดำที่อยู่ภายใต้ชุดคลุมได้ขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นและถอนใจ
” ราชัญงู ราชัญพยัคฆ์ ราชัญอินทรี … เจ้าทั้งสามอยู่ในขั้นสูงสุด ? “
บุรุษชุดคลุมถาม ชัดเจนว่าเขาสงบลงแล้ว
บุรุษชุดทอง บุรุษชุดดำ และ หญิงสาวชุดเขียว โค้งลงพร้อมเพรียง
“ขอรับ! ”
ทั้งสามอยู่ข้างๆ กระเรียน และ หมีใหญ่ อย่างไรก็ตาม สามผู้นี้ยังคงอยู่ในร่างของมนุษย์
ราชัญสิงโตขาว และ ราชัญลิงทอง ก็อยู่ที่นี่ด้วย อย่างไรก็ตาม พวกเขามีความยินดีและยินร้ายในแววตา
ทั้งสองบรรลุไปถึงขั้นนั้นเมื่อหกสิบปีก่อน แต่ พวกเขาปลดปล่อยร่างดั่งเดิมของพวกเขาในระหว่างการต่อสู้ที่เกิดขึ้นเมื่อหกสิบปีก่อนนั้น และ ไม่มีการบำเพ็ญใดที่ช่วยให้พวกเขาคืนร่างสูงสุดได้ …
” ในที่สุดก็ถึงเวลาแห่งการพัฒนา แต่ ที่ใดในโลกที่เราจักหา ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งเถียรฟามากมายได้ … ?”
บุรุษในชุดคลุมถอนใจ ทุกคนรอบตัวเขาเงียบลแง และป่าเริ่มสงบ
” ไม่มีทางให้กลับหลังแล้วในตอนนี้ สงครามกำลังเริ่มต้น ! ตอนนี้ ยิ่งสถานการณ์แย่งลง … ยิ่งเป็นผลดีกับเรา ! ข้าต้องการคืนสถานะของเถียรฟาให้กลับมาอยู่ในจุดที่สูงสุดในทั่วหล้า สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์อาจไม่ตอบรับเรื่องนี้ แต่อย่างน้อยข้าต้องการทำให้แน่ใจว่า ลีจื้อเทียน และ จุ้นเป้ยเฉิน ต้องไม่กล้าเข้ามาเดินเล่นตามอำเภอใจในเถียรฟาอีก … ! “
” ชื่อเสียงของเถียรฟาจักกลับมาอีกครั้งในสงครามนี้ ! ”
บุรุษชุดคลุมประกาศกร้าวด้วยทีท่าจริงจัง
” แต่ เจ้าทั้งหมดต้องรู้ถึงผลที่ตามมา …หากเราพ่ายแพ้สงครามนี้ ! “