” อำนาจของเถียรฟาไร้เทียมทาน !  พลังของเถียรฟานั้นมหาศาลกว่าผู้ใดในทั่วหล้า ! ”

กระเรียนคอยาวตะโกนขณะที่เขาโบกมือ  ราชัญสิงโตขาว และ ราชัญลิงทองยืนอยู่ด้านหลังเขา  พวกเขามองขึ้นฟ้าเช่นกัน ขณะที่พวกเขาเอ่ยสิ่งที่คิดออกมา

” เถียรฟามิได้บุรุกเข้าไปภายในแผ่นดินเนื่องจากเรามิต้องการสร้างปัญหาให้สามัญชน  นี่เป็นขนบที่เราไม่ฝ่าฝืนมาเสมอ  หมีใหญ่ เจ้าจะได้ควบคุมกองกำลังภาคพื้นกับ ราชัญพยัคฆ์ ราชัญสิงโต ราชัญลิง และ ราชัญงู และเจ้าจักจู่โจมการต่อต้านในนครสวรรค์ใต้  กระเรียนคอยาว เจ้าจักได้นำกองกำลังอากาศกับ ราชัญอินทรี และเตรียมเตรียมพร้อมจู่โจมไว้ตลอดเวลา  พวกเราโจมตีเขาด้วยความรวดเร็ว และรุนแรง  พวกเขาจักได้รับความเสียหายย่างหนัก  จากนั้น เราจักตัดสินใจว่าจักต่อสู้อย่างเต็มรูปแบบหรือไม่  แต่การตัดสินในที่สุด จักต้องเป็นของข้า !  เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? “

 

“ขอรับ! ”

บุรุษสองตอบพร้อมกัน

 

” น้องสี่ การบาดเจ็บของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ? “

บุรุษชุดคลุมสอบถาม

 

” ไม่เป็นอันใด  มันได้รับการรักษาแล้วตอนที่พี่ใหญ่ถ่ายทอดพลังของเขา ”

หมีใหญ่ตอบซาบซึ้ง

” กระบี่แยกหัวใจอาจสังหารข้าหากมิได้พี่ใหญ่ ”

 

” พี่ใหญ่ยังมีอีกสิ่ง … ข้าคิกว่า หมีใหญ่ อาจเป็นเป้าหมายหลักของ ลีจื้อเทียน มาตลอด ”

กระเรียนเอ่ยแนะนำ

 

” โอ้ว ?  แล้ว เหตุใดเป็นเช่นนั้น ?  ลีจื้อเทียนมิใช่คนโง่เขลา  เขาต้องรู้ว่าการสังหารน้องสี่ จักเป็นการสร้างความเกลียดชังและเป็นศัตรูกับราชัญแห่งเถียรฟา  แล้ว เขายังต้องการเช่นนั้นอีกหรือ ? “

บุรุษชุดคลุมคำรามทางจมูก

 

กระเรียนคอยาวตอบ หดหู่

” หรือบางที … ผู้อื่นไม่รู้ถึงสิ่งที่เราทำ  โลกมีวลีที่ว่า มีหัวใจของหมี และความกล้างของเสือดำ เพื่อบอกถึงความกล้าหาญของคน  เรารู้ว่ามันมิได้เป็นเช่นนั้น … แต่ บางที ลีจื้อเทียน สังหาร ราชัญเสือดำอย่างโหดเหี้ยม และ เอาแกนของเขาไปด้วยความเชื่อนี้ ….”

 

” และ… เขาต้องการสังหารหมีใหญ่ด้วยอย่างนั้นหรือ ? “

บุรุษชุดคลุมคำรามทางจมูกด้วยโทสะ

 

” ใช่ การเพาะปลูกของคนจักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหากกินแกนเชวียนเข้าไป  แต่บางคนก็มิอาจดูดกลืนมันได้อย่างเหมาะสม และ ลีจื้อเทียนต้องเผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน  แต่ หากเขากินหัวใจของ หมีใหญ่พร้อมกับ ราชัญเสือดำ … เขาจักไม่เพียงดูดกลืนแกนเชวียน … แต่วยุทธของเขาจักเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า  และ ความแข็งแกร่งของเขาจักเพิ่มขึ้นสองเท่าหากเขา กินแกนของหมีใหญ่เข้าไปเช่นกัน  นี่ทำให้ความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสี่เท่า  และ ผู้ใดในโลกนี้จักสามารถต่อสู้กับลีจื้อเทียนได้หากสิ่งนี้เกิดขึ้น ?  เช่นนั้น เหตุใดเขาถึงคิดว่าเป็นศัตรูจากเถียรฟาหากมีความแข็งแกร่งเช่นนี้  ? “

 

ใบหน้าของ กระเรียน เต็มไปด้วยความรังเกียจ

” ลีจื้อเทียน เมินเฉยที่่จักต่อสู้กับข้ามาตลอด  และ เขายังมุ่งเป้าไปยังหมีใหญ่  และ การโจมตีของเขาทุกครั้งนั้นถึงความตาย  เช่นนั้น ประสงค์ร้ายของเขาชัดเจน ! นี่เป็นเหตุผลหนักที่น้องสี่และข้าเริ่มการกบฏนี้ ! ”

 

 

” ลีจื้อเทียน ! ”

บุรุษชุดคลุมตัวสั่นด้วยโทสะ  ราวกับเขาเอ่ยคำนั้นออกมาจากช่องว่างระหว่างฟัน

” ไม่ประหลาดใจที่เขายอมลดความทะนงตนและเริ่ม การอัญเชิญสูงสุด!  ไม่แปลกใจที่เขาไม่ลังเลที่จักใช้ กระบี่แยกหัวใจเพื่อสังหารน้องสี่ !  เขาต้องการสังหารเขาในการโจมตีเพียงครั้งเดียว !  เขาต้องการใช่ความแข็งแกร่งครึ่งหนึ่งของดินแดนเชวียนๆ เพื่อสำเร็จความต้องการที่ชั่วร้ายของเขา  แต่ เขามิได้ประมาณตนก่อนใช้การโจมตีนั้น ! ”

 

” ตอนนี้เจ้าต้องไปและเตรียมการโจมตีได้แลว  ส่งอสูรระดับเจ็ดหรือต่ำกว่านั้นไปยังป่าเถียรฟา  ตอนนี้เรายังไม่ต้อใช่พวกเขา  ตอนนี้ข้าจักจัดตารางฝึกฝนให้พวกเขา ”

ผู้ที่ใส่ชุดคลุมสีดำเอ่ยต่อ

” ราชัญงูเขียว ความเร็วของเจ้านั้นถือว่าช้า  เช่นนั้นจึงตั้งใจ  งูด้ายบิน ตะขาบทอง งูเจ็ดดาว ที่อยู่ต่ำกว่าระดับห้าขึ้นไปควรเข้าร่วม  ตอนนี้ผู้อื่นไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมในตอนนี้ ”

 

เขาเอ่ยถึง งูด้ายบิน ตะขาบทอง งูเจ็ดดาว ทั้งสามนั้นมีความเร็วที่สุด มีพิษที่สุด และ เป็นงูที่ดุร้ายที่สุดในเถียรฟา  ความจริง งูเหล่านี้ว่องไว และผู้คนทั่วไปไม่สามารถติดตามพวกเขาได้แม้แต่เงา

 

หญิงสาวชุดเขียว ราชัญงู โค้งด้วยความเคารพ และ ตอบรับคำสั่ง

 

” น้องสามและสี่ … เจ้าบอกว่าบุรุษลึกลับผู้นี้แข็งแกร่งยิ่งนัก  เช่นนั้น .. เขาอาจทรงพลังมากกว่าข้า  เจ้าคาดการความแข็งแกร่งระหว่างเขากับข้าได้หรือไม่ ?  และด้วยความซื่อตรง ! ”

น้ำเสียงของบุรุษชุดคลุมนั้นแหบห้าว

 

” วรยุทธของคนผู้นั้นสูงส่งยิ่งนัก  ข้าคาดว่าไม่น้อยกว่าท่าน  วรยุทธทของเขานั้นไม่มากน้อยไปกว่าท่านนัก”

กระเรียนตอบท่าทีระมัดระววังหลังจากเขาครุ่นคิดชั่วครู่

 

อย่างไรก็ตาม หัวของหมีใหญ่อาจจะถูกยัดด้วยเมล็ดแตงโม  เช่นนั้น เขาไม่เข้าใจถึงความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำตอบอันอ้อมค้อมของ กระเรียน และเข้าได้เอ่ยปาก “

พี่สาม เจ้าต้องเบิกตาก่อนเอ่ย เจ้าเอ่ยดั่งคนตาบอด  วรยุทธของคนผู้นั้นล้ำลึกยิ่งนัก  พี่ใหญ่แข็งแกร่งอย่างมากนั้นแท้จริง แต่เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา … เขาสามารถทำให้คนเช่นท่านเจ็ดคนกลายเป็นฝุ่นควันไปได้ …. อ่อ … ในความจริงข้าคิดว่าเขาสามารถทำลายคนเช่นนั้นสองคนได้อย่างง่ายดาย … ข้า ..เอ่อ … แม่เจ้า .. ข้า … เอ่อ … แม่เจ้าเอ้ย… ข้ามิได้หมายความเช่นนั้น … ข้ามิได้เอ่ยเช่นนั้นแม่เจ้าเอ้ย …. ท่านพี่คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่นี่พี่ใหญ่ … แม่เจ้า… ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น … ข้าเพียงแต่กำลังจักบอกว่าพี่ใหญ่สามารถจัดการกับคนเช่นเขาได้นับสิบ … แม่ข้าเอ้ย … ”

ในไม่ช้าก็มีเสียงกรีดร้องดังให้ได้ยิน

 

เขายังไม่ทันเอ่ยจบในตอนที่ทั่งร่างของเขาเริ่มสั่น  จากนั้นเขาลืมตา และคืนสติได้  แต่มันสายไปเสียแล้ว

 ” ตู้ม ! “

ร่างของเขาลองไปนอนอยู่บนพื้นใต้เท้าของบุรุษชุดคลุมดำ  ไม่นาน เสียงหักเบาๆดังขึ้น  และ นั้นเป็นเพราะเขากระแทกเข้ากับรากของต้นไม้สองสามราก … และทำให้มันหัก …

 

” เช่นนั้น จากคำพูดของเจ้า … ข้าคาดว่าความแข็งแกร่งของคนผู้นี้สูงส่งยิ่งกว่าข้า ?  นั่นคือสิ่งที่เจ้าต้องการบอก … ?  ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม พูดมาตามตรง และอย่าทำให้ข้าเสียเวลา ! ”

น้ำเสียงของบุรุษชัดคลุมดำหม่นหมองขณะที่เขาประมือและขยับขา  เราสามารถเห็นขาทั้งสองข้างของหมีใหญ่โผล่ออกมาจากจุดที่เขาถูกเหวี่ยงออกไป  และ เสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดของหมีใหญ่ดังให้ได้ยินอย่างเจือจาง …

 

” แม้แต่สามตาเฒ่าจากสาม ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็มิอาจมีวรยุทธเทียบข้าได้  เช่นนั้น จักเทียบกับบุรุษผู้นี้ได้อย่างไร ?  เขาจักมี วรยุทธสูงส่งเช่นนั้นได้อย่างไร ? “

บุรุษชุดคลุมดำขยับขาไปๆมาๆชั่วครู่  เขาแคลงใจ  และเสียงครวญครางโศกเศร้าดังให้ได้ยินทุกครั้งที่เขากระทืบเท้าลงบนพื้น …

 

” ที่มาของคนผู้นี้ลึกลับนัก  และความแข็งแกร่งของเขานั้นล้ำลึก  แต่ข้ายืนยันกับท่านได้ว่าเขาไม่มีทางเป็นคนที่มาจากสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ! ”

กระเรียนตอบจริงจัง  หลังเขาเขาตรง และสีหน้าของเขาจริงจังอย่างมาก  เขาได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของหมีใหญ่ และใตร่ตรองทุกคำที่พูด

 

เขาทำเช่นนี้เนื่องจากหวาดกลัวว่าสิ่งที่เกิดกับหมีใหญ่จักเกิดกับเขา

 

” เจ้ามั่นใจได้อย่างไร ?”

บุรุษชุดดำขยับเท้าของเขาขึ้นลงต่อเนื่อง  แต่การเคลื่อนไหวของเขาไม่ได้ทำให้เกิดฝุ่น  พลังส่งจากเท้าของเขาสู่พื้น  แต่ หมีใหญ่ผู้น่าสงสารมิได้รับบาดเจ็บ หรือเจ็บปวดเพราะเหตุนี้เนื่องจากมีเพียงหัวของเขาที่ถูกดันให้จมดินลึกลงไปเนื่องด้วยการกระทืบเท้านี้ …

 

ผิวของหมีใหญ่นั้นหนา  เช่นนั้นเข้าจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เขายังคงย่ำต่อไปจนเท้าของเขาเหยียบลงบนที่ว่าเปล่า  บุรุษชุดคลุมจักพอใจเมื่อร่างของใหญ่ใหญ่ทั้งหมดจมลงไปในดินชั้นที่สอง

 

” พี่ใหญ่ท่านรู้ว่าผู้อาวุโสจากสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีกลิ่นไอที่ต่ำช้ามิใช่หรือ … ?  และมั้นเป็นบางสิ่งที่สัมผัสได้อย่างง่ายดาย  แล้ว … กลิ่นไอของคนผู้นี้มิได้ต่ำช้า แต่มันเต็มไปด้วยความปิติ  ข้าไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด … แต่มันทำให้ผู้คนอยากเป็นมิตรกับเขา….”

 

” อืม .. เช่นนั้น … ข้าเข้าใจชัดเจนแล้วว่านี้เป็นสัญชาตญาณของเจ้า ! ”

บุรุษชุดดำตัดบทเขาด้วยการสบัดมือ

 

” สัญชาตญาณ … ? “

สีหน้าของกระเรียนแปลกประหลาดขณะที่เขามองไป จากนั้นเขาพึมพัมกับตัวเอง

 

” เจ้ากำลังมองหาอะไร ?  เจ้ากำลังคิดอันใด ?  การวิเคราะห์ของข้านั้นผิดหรือ ? “

บุรุษชุดคลุมถามดุร้ายขณะที่เขาปลอดปล่อยกลิ่นอายด้วยโทสะ  จากนั้นเขาใช้กลิ่นไอไร้รูปมัดกระเรียนไว้แน่น

 

” ท่านสมควรเป็นพี่ใหญ่อย่างแท้จริง… พี่ใหญ่ฉลาดที่สุด .. ฮ๋าฮ่า … อั๊ก .. “

กระเรียนกรีดร้องอย่างรุนแรง  เขารีบเอ่ยวาจาเหล่านั้น และฝืนหัวเราะก่อนที่คอหอยของเขาจักเริ่มส่งเสียงของการหัก

 

” กระเรียน … เจ้านั้นมากฝีมือ น้องสาม ”

บุรุษชุดคลุมเอ่ยน้ำเสียงโศกเศร้า

 

” พี่ใหญ่ … ละเว้นข้า … ”

กระเรียนร้องขอความเมตตา  แต่เขาก็ถูกขว้างออกไป  จากนั้นเขาล้มลงบนพื้น และสร้างรอยลึกจากกระกระแทก

 

จากนั้น จากนั้นมีกองดินปรากฏขึ้นข้างๆตัวของเขา  และหรือใหญ่ปรากฏตัวขึ้นจากกองดินนั้น ตัวของเขาเต็มไปด้วยโคลนสีเหลือง  แต่ เขาร่างเริงอย่างมกาเมือเห็นความทุกข์ยากของกระเรียน  เขารีบเร่งปัดโคลนออกและเอ่ยด้วน้ำเสียงเศร้าโศก

” พี่กระเรียนสาม เจ้าก็ได้ส่วนแบ่งเช่นกัน ฮ่าฮ่าฮ่า … ! ”

 

หัวของกระเรียนปกคลุมด้วยโคลน  เขาคลานไปยี่สิบถึงยี่สิบหาเมตรก่อนคำรามทางจมูกและ ตอบ

” อย่างน้อยข้าก็ไม่เหมือนใครบางคนที่ถูกทุบจนหัวมุดดิน… จนลึกมากกว่าสิบเมตร  ร่างของเจ้าเหมือนเต็มไปด้วยปุ๋ยคอก และเจ้ายังดูพอใจที่เป็นเช่นนี้ …. แม้แต่หน้าของเจ้าก็เต็มไปด้วยปุ๋ยคอก !  ในความจริงเจ้ายังคายออกมาด้วยเมื่อครู่ ! ”

 

หมีใหญ่ไม่เอ่ยอื่นใด  เขารู้ว่าพี่สามสะอิดสะเอียนกับกลิ่นเหม็นที่มาจากร่างของเขา แต่ตอนนี้เขาเองก็เริ่มคลื่นไส้แล้ว …

 

” ข้าอยากพบกับบุรุษลึกลับผู้นี้หากเขามีเวลา  จากนั้น เรามาดูกันว่าผู้ใดแข็งแกร่งกว่ากัน ”

บุรุษชุดคลุมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นขณะที่อีกสองคนเริ่มทะเลาะกัน

 

“ น่าเสียดายที่มันผ่านมากว่าเดือนแล้วจากที่เราได้ทำข้อตกลง  งานนั้นมิได้ยาก แต่พวกเรามีเวลาจำกัด  ฮึ่ม !  ตาเฒ่าลีจื้อเทียนผู้นั้นทำทุกสิ่งพัง ! ”

หมีใหญ่กระทืบเท้าด้วยโทสะ  และโคลนที่ติดอยู่ตามร่างของเขาเริ่มหลุดออก

 

” อย่างไรก็ตาม คนผู้นั้นบอกว่าเราสามารถไปหา จวินวูอี้แห่งสกุลจวินได้เมื่อเสร็จงาน ”

กระเรียนคิดขึ้นได้และเอ่ยทันที

” เช่นนั้น เราไม่อาจ.. และต้องไม่ปล่อยให้เขาหนีไปเนื่องจากเขาเอ่ยเช่นนั้น … เช่นนั้นแล้ว พวกเราจักพบเขาหากเราทำสิ่งนี้ต่อไป  และเท่าที่เรารู้ … อาณาจักรได้ส่งเขามาบัญชาการทัพที่ถูกส่งมาจัดการกับการกบฏนี้  ด้วยเหตุนี้ ตอนนี้เขาจึงอยู่ใน นครสวรรค์ใต้…”

 

” เช่นนั้น เราจักวางแผนเพื่อหาตัวจวินวูอี้อย่างรอบคอบ  และ พวกเราจักใช้เขาเพื่อหาข่าวสารเกี่ยวกับบุรุษลึกลับผู้นี้ด้วยความระมัดระวังอย่างมาก

ชุดขอบุรุษชุดคลุมกระพือขณะที่น้ำเสียงองเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

กระเรียน และหมีใหญ่ไม่พบสิ่งใดน่าสงสัย  พวกเขาคุ้นเคยกับสิ่งแปลกๆอยู่แล้ว

 

” พี่ใหญ่ พวกเราต้องระมัดระวังอย่างมากในเรื่องของจวินวูอี้  พวกเราอาจทำให้บุรุษลึกลับมีโทสะหากล้ำเส้น  และ อาจเกินสมดุลที่อาจรับได้ … ”

กระเรียนแนะนำตักเตือน