DND.
ซือหยูยักไหล่
“ก็ใช่น่ะสิมีคนอื่นอยู่ที่นั่นด้วย! เขาเป็นชายหนุ่มแปลก ๆ หลังจากช่วยท่าน เขาพูดว่าเขาจะไม่ช่วยใครโดยไม่ได้สิ่งตอบแทน คนที่ถูกช่วยควรต้องชดใช้ เขาเลยเอาของของท่านไป ข้าทำได้แค่มองเขาเดินจาก…”
ม่อเทียนฉวนดูสับสนตามที่จ้าวผาบั่นภูติบอก คนที่ขายสมบัติภูติของนางคือชายหนุ่มวิถีอสูรชื่อดัง หรือว่านางจะเข้าใจผิดว่าเป็นชายแก่คนนี้ที่ช่วยนาง?
“ถ้าอย่างนั้นทำไมเจ้าถึงมีพิรุธแล้วบอกว่าเจ้าไม่รู้ตอนที่ข้าจับเจ้าล่ะ? แล้วคนที่ทำให้ข้าสลบตอนนั้นก็คือเจ้าไม่ใช่หรือยังไง?”
ม่อเทียนฉวนถามด้วยความไม่เชื่อ
“แล้วมันไม่ควรทำหรือ?”
ซือหยูตอบ
“ท่านเตรียมจะสังหารข้าตอนที่ตื่นข้าก็เลยทำให้ท่านสลบเพื่อไม่ให้เข้าใจผิด! พอถูกท่านจับ ข้าก็เลยปิดบังเรื่องราวเอาไว้เพราะกลัวเจ็บตัว”
ม่อเทียนฉวนคิดว่ามันเป็นไปได้อยู่บ้าง
ชายแก่ตรงหน้านางดูเหมือนภูติทั่วๆ ไป เขาจะสามารถจัดการกับพลังภูติผีจากจักรพรรดิภูติผีได้อย่างไร?
เป็นบุรุษวิถีอสูรคนนั้นจริงๆ รึ? ม่อเทียนฉวนคิดหนัก นางผิดหวังในใจเล็กน้อย
ตอนที่นางจับตัวซือหยูนางรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก นางหาทางขจัดพลังภูติผีมาหลายปีจนนางติดอยู่ในขั้นอสูรเนรมิตรและมิอาจเติบโตขึ้นได้
ทีแรกนางคิดว่าในที่สุดโอกาสก็มาถึงแล้ว ใครจะไปคิดเล่าว่าเรื่องจะเป็นอย่างนี้?
แต่อย่างไรก็ตามถึงอย่างนั้น ม่อเทียนฉวนยังรู้สึกว่ามีบางอย่างที่แปลกไป นางหันไปจ้องซือหยู
“แล้วทำไมข้าถึงคิดว่าคำพูดเจ้ามันไม่น่าเชื่อเลยเล่า?”
ซือหยูใจเต้นเร็วมากในตอนนี้ถ้าหากม่อเทียนฉวนค้นตัวเขา ไม่เพียงแต่นางจะพบมุกวิญญาณเก้าหยก แหวนมิติที่เขาเพิ่งจะได้มาจากองครักษ์แสงกระจ่างก็จะถูกพบด้วย
จากนั้นตัวตนของเขาก็จะถูกเปิดเผยด้วย
“แล้วท่านคิดอะไรอยู่กัน?”
ซือหยูทำสีหน้าเยือกเย็นอย่างที่เคยทำตลอดมา
ม่อเทียนฉวนตาลุกวาว
“เดี๋ยวข้าก็รู้หลังจากค้นดวงวิญญาณเจ้าข้าจะหาผ่านความทรงจำ ความจริงจะกระจ่าง”
ซือหยูใจหายค้นวิญญาณรึ? นี่มันแย่ยิ่งกว่าค้นตัวเสียอีก!
ข้าต้องใช้ใบเทพไม้ตอนนี้ไหม?แต่ด้วยระยะใกล้แค่นี้ ซือหยูคงไม่มีโอกาสได้ใช้มัน
ม่อเทียนฉวนนั้นแข็งแกร่งนางสามารถเอาชนะองครักษ์แสงกระจ่างทั้งห้าได้ด้วยตัวเอง
“ท่านเจ้าตำหนักข้ามีข่าวร้าย”
สองเสียงดังมาจากนอกประตูเจ้าของเสียงคือเจ้าสำนักซ้ายขวาที่เพิ่งกลับมา
ม่อเทียนฉวนถามอย่างเย็นชา
“เกิดอะไรขึ้น?เจ้าไม่ได้สั่งให้ซือหยูเซี่ยนไปเจอกับพวกทูตก่อนรึ?”
มันยังผ่านไปไม่นานแต่ทั้งสองก็กลับมาแล้ว
“ท่านเจ้าตำหนักอาจารย์ซือนะ…”
เจ้าสำนักซ้ายหน้าเสีย
ม่อเทียนฉวนเลิกล้มความคิดที่จะค้นวิญญาณซือหยูไปทั่วคราวนางเปิดประตูและถาม
“เขาไปไหน?”
“ท่านเจ้าตำหนักตอนที่เราส่งข้อความไปถึงตำหนักนอก เราก็ได้รู้ว่าอาจารย์ซือกำลังทำภารกิจและออกจากตำหนักไปเมื่อหลายวันก่อน เขายังไม่กลับมา…”
เจ้าสำนักซ้ายกล่าว
ม่อเทียนฉวนเลิกคิ้ว
“เขาไม่อยู่ตำหนักในเวลาสำคัญเช่นนี้รึ?ภารกิจอะไรกัน? เขาอยู่ไหน?”
“เขาทำภารกิจสังหารมั่วหยางตามที่เจ้าตำหนักคงฉานกับเจ้าตำหนักฮั่วบอก สถานที่สุดท้ายที่พบซือหยูเซี่ยนคือเรือนตระกูลซือถู จากนั้นเขาก็หายตัวไปและติดต่อไม่ได้…”
เจ้าสำนักขวาตอบ
เจ้าสำนักขวาขมวดคิ้วแน่นถ้าหากซือหยูเซี่ยนไม่มารับหน้าก็ไม่มีใครในตำหนักโลหิตที่จะแข่งกับพวกมีดสวรรค์ได้แล้ว
ม่อเทียนฉวนหงุดหงิด
“แล้วพวกเจ้ายังรออะไรกันอยู่?ส่งคนไปบอกตระกูลซือถูเดี๋ยวนี้ หาที่อยู่ซือหยูเซี่ยนแล้วส่งศิษย์ที่เร็วในตำหนักในไปพาตัวเขากลับมาให้เร็วที่สุด!”
“แล้วพวกมีดสวรรค์ล่ะ?”
เจ้าสำนักซ้ายรู้สึกถึงความเร่งด่วนของเวลานี้
“ข้าจะไปหาพวกมันด้วยตัวเองแล้วถ่วงเวลาเอาไว้”
ม่อเทียนฉวนตอบ
นางหันไปมองซือหยูที่อยู่ในห้องลับ
“เอามันไปขังข้าจะสืบสวนมันทีหลัง…”
นางพูด
เมือ่พูดจบม่อเทียนฉวนรีบออกไปทันที นางให้เจ้าสำนักซ้ายขวาตามนางไปอย่างใกล้ชิด
ข้ารับใช้หลายคนเดินเข้ามาพาตัวซือหยูไปพวกเขาพาซือหยูไปยังคุกตำหนักโลหิต
ซือหยูรีบพูด novel-lucky
“เฮ้เดี๋ยวสิ ข้าคือซือหยูเซี่ยนนะ!”
ช่างโชคร้าย…ม่อเทียนฉวนกับเจ้าสำนักซ้ายขวานั้นแข็งแกร่งมากพวกเขาเป็นคนที่สามารถเดินทางหลายล้านลี้ได้ในพริบตาเดียว คำพูดซือหยูถึงแค่หูข้ารับใช้สองคนเท่านั้น
ทั้งสองนั้นไม่สนใจและทำตามคำสั่งของม่อเทียนฉวนอย่างกับหุ่นเชิดซือหยูถูกพามาขังที่คุกตำหนักใน
มันดูเหมือนกับบ้านปิดตายที่มีสวนมากกว่าคุกมันมีห้องของยอดฝีมือและข้ารับใช้ผู้หญิง ซือหยูได้รับการปฏิบัติ ณ ที่นี่ดียิ่งกว่าในเขาอสูรเสียอีก
นอกจากเสียอิสรภาพเขาไม่ได้ต้องเจ็บปวดอะไร
ซือหยูยิ้มอย่างขมขื่นหากเขาอยู่ที่นี่แล้วก็ดีกว่าที่จะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจะเตรียมตัวที่นี่สักระยะและจะหนีออกไปโดยใช้ใบเทพไม้
เมื่อเขาถูกขังในบ้านซือหยูรีบเข้าห้องฝึกเพื่อบ่มเพาะในทันที
สิ่งแรกที่เขาต้องทำก็คือนำแหวนมิติทั้งห้าออกมาดู
ซือหยูค่อนข้างคาดหวังกับสิ่งที่มีข้างในของที่อสูรเนรมิตรสะสมเอาไว้จะต้องตระการตาแน่นอน และจะดียิ่งกว่าถ้าหากเป็นแหวนจากอสูรเนรมิตรที่ราชาเขตกลางเชื่อใจที่สุด
ซือหยูอัดพลังวิญญาณเข้าไปมองด้านในแต่เขาเห็นแต่เพียงความดำสนิท
วิญญาณของเข้ามิอาจมองด้านในได้!
“เกิดอะไรขึ้น?”
ซือหยูทั้งงุนงงและสับสนองครักษ์ทั้งห้าตายไปแล้วแน่นอน ทั้งร่างกายและวิญญาณหายไปจากโลกใบนี้แล้ว แต่ทำไมถึงเข้าดูในแหวนไม่ได้เล่า?
หากเป็นตามปกติแหวนมิติจะมีคุณสมบัติไร้เจ้าของเมื่อเจ้าของถึงแก่ความตาย มันจะถูกเปิดออกโดยใครก็ได้
หรือว่าวิญญาณข้ายังอ่อนแอเกินไป?หรือเป็นเพราะมันคือแหวนที่มีอสูรเนรมิตรเป็นเจ้าของมาก่อน? ซือหยูได้แต่สงสัย
จริงแท้จริงความคิดของเขาค่อนข้างใกล้เคียงความจริงทีเดียว
เหล่าแหวนที่เป็นของอสูรเนรมิตรมิเพียงแต่จะมีแก่นโลหิตของเจ้าของแต่มันยังถูกพัฒนาด้วยความเข้าใจในพื้นที่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอสูรเนรมิตร
อสูรเนรมิตรนั้นแตกต่างจากขอบเขตที่ต่ำกว่าแหวนมิติของอสูรเนรมิตรมิอาจถูกเปิดได้แม้แต่จากอสูรเนรมิตรด้วยกัน
นอกจากเจ้าของแหวนไม่มีใครจะเปิดดูแหวนได้
ซือหยูลองกับแหวนทุกวงแต่วิญญาณของเขาก็ถูกป้องกันทุกอย่างอย่างไม่มีข้อยกเว้น
มันทำให้ซือหยูผิดหวังมากแต่เขาก็ไม่คิดจะยอมแพ้ หลังจากพยายามอย่างหนัก ความคิดหนึ่งก็ได้แล่นเข้ามาในหัว
ลำแสงสีแดงปรากฏในตาขวาและพุ่งตรงไปยังแหวนมิติวงหนึ่ง
ซือหยูพยายามจะเคลื่อนย้ายของออกมาจากแหวนด้วยพลังของดวงตา
เมื่อพลังมิติถูกใส่เข้าไปมันถูกปิดกั้นและมิอาจเข้าไปได้ลึกนัก มันแตกต่างจากพลังวิญญาณที่อ่อนแอ พลังมิติส่วนน้อยทะลวงเข้าไปยังข้างในแหวนได้สำเร็จ
ซือหยูตาลุกวาวเขาควบคุมพลังเหล่านั้นทันทีและสุ่มเลือกของในแหวนออกมา
ด้วยความอ่อนด้อยของพลังสิ่งที่ถูกย้ายออกมามีเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
ฟึ่บ!
ดันนั้นใจสิ่งของที่ถูกพลังมิติโอบล้อมได้หล่นลงกับพื้น
ซือหยูก้มลงมองและพบแก้วราวสามดวงซือหยูผิดหวัง แก้วพลังคือสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการ!
แต่เมื่อเขากำลังจะย้ายของสิ่งอื่นออกมาอีกผิวแหวนก็แตกออก! เกิดรอยแยกขึ้นตามด้วยเสียงระเบิด แหวนระเบิดเป็นชิ้น ๆ
ซือหยูชักสีหน้าและโยนแหวนวงนั้นทิ้งไปทันทีที่แหวนหยุดออกจากมือ รอยแยกมิติขนาดใหญ่ได้ระเบิดออกมาจากแหวน
ทุกสิ่งข้างในแหวนถูกดูดเข้าไปในรอยแยกมิตินั้น
ซือหยูหน้าเศรร้าแหวนมิติแตกสลายไปแล้ว!
การใช้กำลังย้ายของด้านในออกมาทำให้แหวนทำลายตัวเอง
ซือหยูมองแหวนสี่วงที่ได้มาและลังเลเล็กน้อยดูจากแหวนวงก่อน เขาน่าจะเอาสิ่งของออกมาได้เพียงครั้งเดียว
ซึ่งสิ่งที่นำออกมาจะใช้การได้ดีแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับดวงเท่านั้น!