“ซูเอ๋อร์!” อวิ๋นเฮ่อซินได้ยินสิ่งที่ซูหงพูดจาเหยียดหยามจึงรีบพูดห้ามปราม
ซูหงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “สายตาของฉันอาจจะมีปัญหา แต่เจ้าหญิงหยกที่แจ้งเกิดในวงการเดิมพัน สายตาของเจ้าของบริษัทจินเหลียนจิวเวอรี่คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอกนะ แม้แต่คุณป้าเห็นคุณซีเหมินยังให้เกียรติเธอ ไม่กล้าพูดประโยคว่าเธอไม่รู้เรื่องหยกเลย! แล้วเธอกล้ามาจากไหนกันถึงบอกว่าเธอไม่เข้าใจในหยก วันนี้ฉันจะประกาศให้ชัดเจนเลยว่า อย่าว่าแต่กำไลนี่เป็นแก้วเลย ถึงมันจะเป็นหยกสีฟ้าเนื้อแก้วชนิดโบราณ ขอแค่คุณซีเหมินบอกว่ามันเป็นแก้ว มันก็คือแก้ว”
อวิ๋นเฮ่อซินมองไปที่ซีเหมินจินเหลียนด้วยสีหน้าแปลกใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “คุณซีเหมิน?”
“แซ่ของฉันเองค่ะ ซีเหมิน!” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าพูดกับซูหง “คุณนายซูล้อเล่นแล้ว เครื่องประดับมูลค่ามหาศาลขนาดนั้นฉันคงไม่พูดจาเหลวไหลหรอก คุณนายอวิ๋นลองคิดดูเถอะค่ะว่ามี…เรื่องผิดปกติอะไรหรือเปล่า?”
อวิ๋นเฮ่อเหมยที่เดิมทีไม่ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่ปักใจเชื่อว่านี่จะเป็นกำไลแก้วที่ขายเกลื่อนตามข้างทางด้วยราคาไม่กี่หยวน คำพูดแรกเริ่มของซีเหมินจินเหลียน เธอก็ไม่เชื่ออย่างแน่นอน ก็แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องหยก…
เรื่องที่เธอดูถูกดูแคลนซูหงก็อีกเรื่อง การตัดสินชี้ขาดในเครื่องประดับหยกของซูหง มีอำนาจสูงสุดอย่างแท้จริง แต่เธอไม่อยากจะเชื่อ เมื่อสักครู่ที่ซูหงพูดว่าซีเหมินจินเหลียนเป็นคนที่ชนะพี่สาวในงานเดิมพันใหญ่ เจ้าของใหญ่ในบริษัทจินเหลียนจิวเวอรี่ คนแบบนี้คำพูดที่ออกมาจากปากก็ต้องมีอำนาจและบารมีอย่างแน่นอน
“ถ้าคุณนายอวิ๋นไม่เชื่อก็ลองไปที่สมาคมอัญมณีเพื่อยืนยันดูได้” ซีเหมินจินเหลียนพูดอีกครั้ง “ถ้าเป็นหยกจริงๆ ต่อให้คุณสวี่ใช้แรงทุบมันก็ไม่มีทางหักได้ ถ้าหยกจะแตกได้ง่ายขนาดนี้ แล้วใครจะกล้าซื้อกันล่ะคะ?”
หยกชั้นดีจริงๆ คุณค่ามหาศาล ถ้าแค่ชนนิดชนหน่อยแล้วถึงกับขั้นแตกหัก เกรงว่าคงไม่มีค่าให้เก็บสะสมหรอก
อวิ๋นเฮ่อเหมยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แม้ว่าในใจจะเคลือบแคลงไปด้วยความสงสัย แต่เธอก็พอจะรู้แล้วว่าปัญหามาจากตรงไหน เพียงแต่เรื่องน่าอับอายในบ้านก็ไม่สามารถเปิดเผยสู่ข้างนอกได้ เรื่องนี้เธอเลยไม่กล้าพูดอะไรอีก
แต่ในวันนี้ถือว่าขายหน้าเป็นที่สุด
สวี่อี้หรานที่เดิมทีตั้งใจจะเรียกให้ซีเหมินจินเหลียนกลับไปกับเขาทันที กลับถูกอวิ๋นเฮ่อซินรั้งให้เขาอยู่ต่อ…อย่างน้อยๆ เพื่อเป็นการไว้ไว้หน้ากัน เขาถึงได้นั่งลง
ทางซีเหมินจินเหลียนนั้นอย่างไรก็ได้ เธอเองก็อยากจะเห็นว่าหินหยกที่ปีศาจอวิ๋นอวิ้นนั่นขนกลับมาจากพม่าครั้งนี้ว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นทั้งคู่จึงหาที่นั่งตามมุมอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้เพิ่มก้างขวางคอชิ้นใหญ่อย่างจ่านมู่ฮวามาอีกคน
“จินเหลียน คุณรู้ไหมว่าทำไมกำไลของอวิ๋นเฮ่อเหมยถึงเป็นแก้ว?” จู่ๆ จ่านมู่ฮวาก็ถามขึ้นอย่างมีเลศนัย
ซีเหมินจินเหลียนนิ่งงันไปเล็กน้อย เธอจะไปรู้ได้อย่างไรว่าทำไมจู่ๆ กำไลของเธอถึงเป็นแก้ว? ดูจากท่าทางของอวิ๋นเฮ่อเหมยแล้ว เธอเองก็ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องนี้เช่นกัน
“ของที่คุณนายอวิ๋นส่งให้ไม่มีทางที่จะเป็นแก้วปลอมเลียนแบบหรอก ถึงลักษณะจะคล้ายกัน แต่ก็ไม่สามารถเอาของปลอมมาหลอกได้ถูกไหม?” จ่านมู่ฮวายิ้ม
ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า คนที่เดิมพันหิน แถมยังได้รับฉายาว่าตำนานเทพที่ไม่เคยพ่ายแพ้ใคร คนคนนี้มอบหยกไป แต่เป็นแก้วเนี่ยนะ? นี่มันก็เป็นเรื่องที่ตลกสิ้นดี
“ผมได้ยินมาว่าน้องสาวของอวิ๋นเฮ่อซิน อวิ๋นเฮ่อเหมยป่วยมาตั้งนานแล้ว” จ่านมู่ฮวาพูดขึ้น
“ป่วยเป็นอะไร แล้วตอนนี้เธอรักษาหายดีแล้วหรือยัง” สวี่อี้หรานหมอมองโกลคนนี้ เมื่อได้ยินว่าเธอป่วยจึงรีบดึงสติเข้าวงสนทนา
“จิตเภท!” จ่านมู่ฮวากลอกตาขาวอย่างเ**้ยมโหดใส่เขา “คุณรักษาได้เหรอ?”
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มน้อยๆ “คุณอย่าไปรังแกคนใสซื่ออย่างเขาเลย เขาเป็นหมอ เขาก็แค่ถามเท่านั้น คุณพูดต่อเถอะ แล้วยังไงต่อ?” เธอกำลังเพลิดเพลินกับการฟังเรื่องเล่าอยู่เลย!
“ก็แค่หมอมองโกลเท่านั้น!” จ่านมู่ฮวาท่าทีดูถูกเย้ยหยัน!
“ผมไม่ใช่สัตวแพทย์นะ!” สวี่อี้หรานอธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง
ซีเหมินจินเหลียนหัวเราะออกมาอีกครั้ง ขอแค่พูดว่าเขาคือหมอมองโกล เขาก็จะรีบอธิบายว่าเขาไม่ใช่สัตวแพทย์
ครั้งนี้จ่านมู่ฮวาไม่ได้สนใจเขาอีก พูดต่อว่า “อวิ๋นเฮ่อเหมยตกหลุมรักกับพนักงานเล็กๆ ในบริษัท แถมยังหนีไปกับเขา หลบซ่อนอยู่ด้านนอกตั้งหลายเดือน ไม่รวมที่ตัวเองท้องป่อง แถมยังเปิดเผยให้สื่อข่าวตีแผ่ จนถึงตอนนี้ตระกูลอวิ๋นก็ขายขี้หน้าเป็นอย่างมาก ได้แต่ให้อวิ๋นเฮ่อเหมยแต่งงานไปกับพนักงานเล็กๆ คนนั้น”
ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า นิทานเรื่องซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายยังคงทำให้คนจำนวนมากเพ้อฝันได้ ส่วนพนักงานธรรมดาคนนั้นคงอยากจะตกถังข้าวสารกับคุณหนูตระกูลใหญ่ จากนั้นก็พยายามดิ้นรนฝ่าฟันความลำบาก…นิทานอีหรอบเดิม!
“จากนั้นพนักงานเล็กๆ ก็ไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งสูง เข้ามาทำงานเป็นแกนหลักให้กับธุรกิจของตระกูลอวิ๋น แต่เพราะว่าเขาเป็นคนนอก เขาจึงไม่สามารถตัดสินใจเรื่องเงินทองได้ แม้กระทั่งอยู่ในบ้านของผู้หญิงก็อาจจะไม่ได้รับการต้อนรับ” จ่านมู่ฮวายิ้ม “ส่วนคนคนนี้ชอบเล่นการพนัน สองปีก่อนเขาแพ้ในคลับหยกไปยี่สิบล้าน ตอนนั้นคนคนนั้นน่าจะใช้เงินกองกลางของบริษัท จากนั้นเขานำกำไลหยกสีฟ้าเนื้อแก้วโบราณมาค้ำประกันยี่สิบล้าน”
“ทำไมคุณถึงได้รู้ลึกขนาดนี้?” สวี่อี้หรานถามอย่างสงสัย “คุณเป็นเบาะรองเตียงให้เธอเหรอไง?”
“คุณไม่รู้เรื่องอะไรก็หุบปากไปเลย อย่าพูดจาเหลวไหล!” จ่านมู่ฮวาพูด
ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม “หมายความกำไลวงนั้นอยู่ในมือคนอื่น?”
จ่านมู่ฮวาพยักหน้าแล้วพูด “คลับหยกมีโรงรับจำนำโดยเฉพาะ แน่นอนว่าโรงรับจำนำของพวกเราต่างมีเครื่องประดับหยกมูลค่านับไม่ถ้วนมากมาย ในนั้นมีบางอย่างที่เป็นของชั้นดีหายาก ผมเลยเก็บไว้สะสมเป็นของตัวเอง จินเหลียน หลังจากกลับไปคุณก็ลองไปดูของสะสมของผมดู เป็นอย่างไร?” ซีเหมินจินเหลียนยังไม่ทันได้พูดอะไร สวี่อี้หรานก็รีบแย่งพูดขึ้นก่อน “คุณซีเหมิน ผู้ชายเชิญผู้หญิงไปดูของที่บ้าน โดยทั่วไปแล้วมักจะมีจุดประสงค์ที่ไม่ดีนะ!”
ความหมายของจ่านมู่ฮวา ซีเหมินจินเหลียนเข้าใจอย่างดีที่สุด เมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงไม่ได้พูดอะไร ไม่นาน เวลานี้เห็นมีพนักงานเสิร์ฟเดินเข้ามามอบเครื่องดื่มและชี้นิ้วไปที่ถาดรองด้านใต้ และมอบกระดาษหนึ่งแผ่นส่งให้กับเธอ
ซีเหมินจินเหลียนอึ้งไป ทำไมถึงรู้สึกเหมือนมีการจารกรรมเกิดขึ้น?
สวี่อี้หรานยกแก้วเครื่องดื่มขึ้น ดมไปที่จมูกพร้อมขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “ก็บอกไปแล้วว่าไม่ใส่แอลกอฮอล์ไง? เอาไปเปลี่ยน คุณซีเหมินต้องการน้ำส้มคั้น!” พูดจบเขาก็เน้นย้ำประโยค “คั้นสด!”
พนักงานเสิร์ฟมองไปที่ซีเหมินจินเหลียน ซีเหมินจินเหลียนรู้ว่าเขารอการตอบรับจากเธอ ไม่นานเลยพยักหน้าเบาๆ พนักงานเสิร์ฟคนนั้นถึงรีบจากไป
“ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ!” ซีเหมินจินเหลียนลุกขึ้นยืนและถือกระเป๋าเพื่อที่จะไปลองถามพนักงานเสิร์ฟคนนั้นดู จากนั้นก็เดินไปทางห้องน้ำ
เมื่อเปิดอ่านกระดาษแผ่นเล็กในห้องน้ำ ซีเหมินจินเหลียนก็สงสัยไม่หยุด ที่แท้ก็เป็นฉินเฮ่าที่นัดเธอไปเจอที่สวนหลังบ้าน
วันนี้อวิ๋นเฮ่อซินประกาศอย่างเป็นทางการว่า คุณชายรองตระกูลฉินจะแต่งงานกับคุณหนูตระกูลอวิ๋น ถ้าหากเป็นเรื่องทางการ ตราบใดที่คุณทำสิ่งที่ถูกต้องและทำดีไม่มีอะไรน่ากลัวเลย ในเวลานี้นัดเธอออกไปเจอที่สวนหลังบ้าน มันค่อนข้างที่จะบุ่มบ่ามเกินไปหน่อย
เธอนำกระดาษแผ่นนั้นฉีกออกเป็นชิ้นเล็กๆ จนละเอียด ทิ้งลงไปในชักโครกและกดให้ไหลไปกับน้ำ ซีเหมินจินเหลียนมองกระจกอย่างเหม่อลอย
ฉินเฮ่ากับจ่านมู่ฮวาไม่เหมือนกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องกังวลแบบนี้ เกรงว่าการที่เขานัดตนมาเช่นนี้คงจะมีอีกเรื่อง ไม่อย่างนั้นคงไม่เล่นอะไรลึกลับแบบนี้แน่
“จินเหลียน…” ฉินเฮ่าโผล่มาจากความมืดงันและเรียกเธอ “ทางนี้!”
ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า เดินไปทางเขาพร้อมพูด “คุณนัดฉันมาทำอะไรเวลานี้?”
“คุณมาทำอะไรที่หยางโจวครับ” ฉินเฮ่าขมวดคิ้วถาม
“ฉันมาเที่ยว” ซีเหมินจินเหลียนพูด เธอไม่ได้บอกเป้าหมายที่มากับเขา โดยเฉพาะตอนนี้ที่เขาใกล้จะเกี่ยวดองกับอวิ๋นเจีย ฉินเฉ่าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมพูดว่า “ผมขอบอกอะไรกับคุณบางอย่าง ไม่ว่าคุณจะมาทำอะไร แต่ถ้าหากอวิ๋นอวิ้นนัดเดิมพันหินกับคุณ คุณห้ามเดิมพันเด็ดขาด!”
ซีเหมินจินเหลียนเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ ฉินเฮ่าจึงรีบพูดขึ้นว่า “หนึ่งชั่วโมงสี่สิบห้านาที ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง อีกทั้งเรื่องนี้พวกเขาไม่ได้บอกผมอยู่แล้ว แต่ผมรู้ว่าพวกเขารู้ว่าคุณจะมาที่หยางโจวเลยต้องจู่โจมคุณ คุณต้องระวังตัวให้มาก”
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันก็รับมือไหว!” ซีเหมินจินเหลียนกล่าวขอบคุณ มองไปที่อวิ๋นอวิ้นก็รู้ว่าพวกเขาจะใช้อำนาจของตระกูลอวิ๋นมาเล่นงานเธอ เรื่องนี้พอเข้าใจได้ง่าย ไม่ได้เหนือไปจากที่คาดหมาย!
ซีเหมินจินเหลียนหันหลังกลับ แล้วเดินไปยังด้านในห้องโถงที่วุ่นวาย กลับเห็นว่าตรงกลางของห้องโถงมีหินหยกเพิ่มเข้ามาสามก้อน ด้านบนหินหยกเขียนหมายเลขหนึ่ง สอง สาม เอาไว้ น่าจะมีไว้เพื่อง่ายต่อการจดบันทึก หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด
หนึ่งในนั้นมีสองก้อนที่น่าจะหนักราวๆ ห้าถึงหกกิโลกรัม ส่วนอีกก้อนใหญ่มาก น่าจะหนักถึงหนึ่งร้อยกิโลกรัมเห็นจะได้ เพราะว่าอยู่ไกล เธอจึงมองไม่เห็นลักษณะภายนอกอย่างชัดเจน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสัมผัสกับมือ
“ทุกท่านครับ…” อวิ๋นเฮ่อซินถือไมโครโฟนยืนอยู่ที่ข้างๆ หินหยก พร้อมพูดว่า “เพื่อจะให้งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้น่าตื่นเต้นมากขึ้น อีกสักครู่พวกเราจะมาเจียระไนหินหยกต่อหน้าทุกท่าน แม้ว่าทุกท่านจำนวนมากจะไม่รู้เรื่องการเดิมพันหิน และไม่เคยเข้าร่วมงานเช่นนี้มาก่อน แต่ไม่ต้องเสียใจไป คืนนี้พวกคุณมีโอกาสได้ลองมือ…ไม่ทราบว่าทุกท่านได้เห็นของบนโต๊ะนี้แล้วหรือยังครับ?”
อวิ๋นเฮ่อซินพูดจบ ก็พลางชี้ไปยังพรมแดงที่แผ่หลาปกคลุมอยู่บนโต๊ะ “ในนี้เตรียมกระดาษกับปากกาพร้อมของรางวัลไว้มากมาย อีกสักครู่ทุกท่านสามารถศึกษาตรวจดูอย่างไรก็ได้ ขอแค่อย่าทำให้เสียหาย จากนั้นก็นำผลสรุปที่ได้จากการสำรวจเขียนส่งมา และหย่อนหมายเลขลงไปที่กล่องสีแดงของแต่ละอัน ใครทายถูก คนคนนั้นก็รับของสมนาคุณของคืนนี้ไปเลย”
พูดจบ เขาก็สั่งให้คนเปิดกล่องสมนาคุณบนโต๊ะและนำกล่องของขวัญทั้งสามเขียนหมายเลขให้สอดคล้องกับหินหยก หนึ่งในนั้นของรางวัลของหินหยกหมายเลขสาม คิดไม่ถึงว่าเป็นสร้อยข้อมือลูกประคำหยกเนื้อน้ำแข็งสีเขียวสด และรางวัลของหินหยกสองก้อนที่เหลือเป็นจี้หยกเนื้อน้ำแข็งชนิดเดียวกัน ภายใต้แสงไฟ หยกมีพื้นผิวละเอียดอ่อน ความแวววาวเปล่งประกาย