Chapter 181 : Plants vs Zombie
เดฟ พุ่งเข้าชนกับคิเมร่าแล้วสตันท์มันไป 2 วินาที
[-16,000]
เขาได้ใช้ {Aura} แล้วเริ่มโจมตีกระหน่ำใส่คิเมร่าที่สตันท์อยู่
ทันทีที่สตันท์หมดเวลาลงแล้วคิเมร่าก็ได้กวาดหาง เดฟ ก้าวออกไปข้างๆเพื่อหลบการโจมตีและใช้ {Infernal Tornado}
[-12,555]
[-10,555]
[-8,555]
โซว์ เข้าร่วมการต่อสู้ด้วยการใช้ {Piercing Arrow} เล็งไปที่หัวของคิเมร่า มันแทงทะลุตาข้างหนึ่งจนทำให้เกิดดีบัฟตาบอด
โทรลยังคงอัดมอนเตอร์ไปเรื่อยๆและใช้ {Ice Pillar} ยิงหอกน้ำแข็งขึ้นจากพื้นแทงเข้าที่ท้องของคิเมร่า
แม้ว่าการโจมตีทั้งหมดจะมาจากคนอื่นแต่ {Infernal Tornado} นั้นทำให้ เดฟ สร้างระดับเป็นภัยอันดับสูงของคิเมร่าได้ง่ายๆจนทำให้มันโฟกัสมาโจมตีเขา
เดฟ หลบการโจมตีที่เข้ามาด้วย {Immortal Apprition} ตอนที่เขาลงมายืนที่พื้นผลของความกลัวก็ทำให้คิเมร่านั้นวิ่งออกไปด้วยความกลัว เดฟ กระทืบพื้นใช้ {Death Surge} และมีพลังสีดำถูกยิงออกมาจากใต้เท้าของเขาพุ่งเข้าใส่คิเมร่าจนทำให้มันเซและทำดาเมจให้กับมัน
โซว์ โจมตีด้วย {Binding Arrow} ตรึงคิเมร่าไว้กับที่ ในตอนที่คิเมร่านั้นสตันท์ เดฟ ก็โจมตีด้วย {Sword Lunge} เข้าโจมตี พลังงานดาบแสงได้ฟาดเข้าใส่ตัวคิเมร่าลดเลือดของมันลงไปอีก
เลือดของคิเมร่าลดลงจนถึงจุดวิกฤต มันพยายามที่จะพุ่งเข้าใส่ เดฟ แต่เขาก็ก้าวหลบไปข้างๆแล้วโจมตีด้วย {Decimating Smash} โทรลได้ทำการล้อมคิเมร่าเอาไว้แล้วโจมตีลดเลือดคิเมร่าหมดได้อย่างรวดเร็ว
[ เลเวลเพิ่ม ! ]
เดฟ ต้องการ xp อีกแค่เล็กน้อยที่จะถึงเลเวล 290 การตายของคิเมร่านั้นเพียงพอที่จะได้ตามที่เขาต้องการ
หลังจากที่ชนะแล้วเหล่าโทรลก็พากันดีใจ มันพากันเต้นแล้วร้องเชียร์กันออกมา
[Gauntlets of the Stalwart ของคุณเลเวลเพิ่มขึ้นแล้ว ความสามารถใหม่ปลดล็อค]
“สวย ! ” – เดฟ ตรวจสอบความสามารถใหม่ของถุงมือทันที
{Rising Dragon: การโจมตีใกล้ครั้งต่อไปหลังจากที่ใช้สกิลคือการต่อยเสยคางทำให้ศัตรูลอยขึ้นไปในอากาศ ทำดาเมจธาตุไฟ 200% สกิลนี้มีโอกาส 30% ทำให้ติดไฟ }
” สกิลดีจริงๆ ! “
เดฟ ปัดแจ้งเตือนออกจากหน้าจ่อแล้วเดินไปที่ศพ
[Lab Key] x1
[Poison Potion] x1
10 ทอง
” ของพวกนี้มันอะไรกัน ?” – เดฟ บ่นออกมา
” นายได้อะไร ? ” – โซว์ ถาม
” เธอดูเองสิ ” – เดฟ เอาของให้กับ โซว์ ดู
” ปกตินิ นี่ไม่ใช่โลกใต้ดินนะ คิเมร่าก็ไม่ใช่มอนเตอร์เลเวลสูง “
เขาหยิบกุญแจขึ้นมาแล้วตรวจสอบมัน
[Lab Key]
กุญแจเหล็กที่ใช้ไว้เปิดประตูห้องทดลอง
” ฉันเดาว่าเราคงไม่ต้องใช้มันแล้ว Drahman น่ะเปิดประตูให้เราแล้ว ” – เดฟ พูดขึ้นแล้วมองไปที่ประตูที่ถูกพังลงไป
” เราน่าจะเข้าไป “- เดฟ พูดแล้วมองไปที่พวกโทรลที่กำลังฉลองกันอยู่
” พวกโทรลที่โดนพิษน่าสงสารจัง ” – โซว์ พูดขึ้นแล้วมองไปที่โทรลสองตัวที่ยังคงนอนสลบอยู่ที่พื้น
ก่อนที่จะมีคนได้พูดอะไรนั้นโทรลขนแดงก็ได้เดินไปหาพวกของมันสองตัวที่หลับอยู่บนพื้นแล้วใช้คทาฟาดเข้าที่หัวของทั้งสอง โซว์ อึ้งกับพฤติกรรมอันโหดร้ายนี้แต่ก็ต้องแปลกใจที่โทรลทั้งสองตัวลุกขึ้นมานั่งได้ราวกับว่าพวกมันหลับไป พวกมันแค่ยิ้มแล้วลูบหัวตัวเองก่อนจะชี้หน้ากันแล้วหัวเราะออกมาราวกับคนบ้า ไม่นานหลังจากที่โทรลมารวมกลุ่มกันอีกครั้งแล้วร้องออกมาราวกับเรียกกำลังใจ พวกโทรลได้เดินหน้ากันต่อผ่านประตูที่ถูกพังลงด้วยการไม่เป็นระเบียบอย่างเช่นเคยก่อนจะหายไปจากสายตาพกวเขา
นอกประตูนั้นเป็นบันไดวนที่ทำด้วยหินซึ่งมีรอยเท้าขนาดใหญ่ฝังอยู่ที่ใจกลางบันไดในแต่ละขั้น Drahma คงเดินผ่านบันไดนี้ไปยังชั้นต่อไป พวกเขาเดินตามรอยเท้านั้นลงไปเรื่อยๆ บันไดได้นำไปสู่ห้องหนึ่งที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ ต้นไม้และเถาวัลย์ในห้องนั้นขึ้นเต็มไปทั่วทั้งกำแพง, พื้นรึแม้กระทั่งเพดาน
เถาวัลย์พวกนี้มีหนานที่แหลมคมซึ่งมีดอกไม้สีชมพูที่ปลาย พวกมันคล้ายกับตัวล่อแมลงที่คอยกินแมลงวันและแมลงตัวเล็กต่างๆแต่ดอกไม้พวกนี้ใหญ่พอที่จะกลืนแมวรึหมาเข้าไปได้
” ต่อจากนี้ก็ระวังตัวด้วย ฉันไม่เห็นพวกโทรลแล้ว พวกมันอาจจะนำหน้าเราไปแล้วแต่ฉันรู้สึกว่าต้นไม้พวกนี้จะโดดใส่เราถ้าเราไม่ระวัง ” – เดฟ พูดขึ้น
Jura หมุนหอกเปลี่ยนหอกเป็นหอกไฟ
” พวกนี้คือต้นไม้กินน้ำแข็ง ไฟคือวิธีที่ดีที่สุดในการฆ่ามันแต่ถ้าไม่เหยียบรากมันจนปลุกมันเข้า มันก็จะไม่ทำร้ายนาย ” – Jura ค่อยเดินหน้าช้าๆระวังไม่ให้ไปแตะจุดสำคัญของต้นไม้ โซว์ และ เดฟ เดินตามหลัง Jura ไปในทุกๆก้าว
ไม่นานทั้งสามก็ได้ยินเสียงต่อสู้กัน โทรลได้เข้าสู้กับต้นไม้ โทรลงบางตัวโดนเถาวัลย์รัดเอาไว้ราวกับมัมมี่ โทรลตัวที่เหลือพยายามช่วยเพื่อนตัวเองด้วยการเอาคทาฟาดไม่ก็กัดไปที่เถาวัลย์ พวกโทรลทำอะไรไม่ได้เพราะน้ำแข็งที่พวกมันเรียกออกมานั้นโดนต้นไม้กินไปซึ่งมีแต่ทำให้พวกต้นไม้แข็งแกร่งขึ้น
” ไปช่วยพวกนั้นกันเถอะ ” – โซว์ พูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
เดฟ เดินเข้าไปหาโทรลตัวที่ใกล้ที่สุดแล้วจับเอาเถาวัลย์อันหนึ่งไว้ ถุงมือของเขาได้ปล่อยไฟออกมาจนทำให้เถาวัลย์นั้นหดตัวกลับไปอย่างรวดเร็ว ต้นไม้รู้สึกได้ถึงอันตรายและมารวมตัวกันที่ เดฟ คอยเข้าโจมตีเขา ดอกไม้หลายอันบานออกแล้วปล่อยของเหลวออกมาผ่านเขี้ยวที่แหลมคมพยายามที่จะลอบโจมตี เดฟ
เดฟ ได้ใช้ {Aura} และทำให้ต้นไม้พวกนั้นต้องถอยจากผลของการเผาไหม้จากสกิล
” ง่ายดีแหะ ” – เดฟ พูดขึ้นพร้อมกับปิดการใช้ {Aura}
ในตอนที่เขาพูดจบนั้นพื้นดินก็สั่นสะเทือนก่อนจะมีรอยแตกเปิดออกแล้วมีเถาวัลย์สีเขียวขนาดเท่ากับต้นไม้โผล่มาจากใต้พื้นดิน มันมีปากที่กว้างซึ่งเต็มไปด้วยฟันอันแหลมคมที่ปลายเถาวัลย์
เถาวัลย์ได้พ่นของเหลวออกมารอบๆ มันมองมาที่ เดฟ และคบไฟที่ทำให้มันเจ็บปวดด้วยความแค้น
รากของต้นไม้บางส่วนเป็นเถ้าไปแล้ว พวกมันคือรากที่ เดฟ เผาด้วยสกิล {Aura} ของเขา
[Ice-Borne Plant]
ระดับ : Epic
เลเวล : 280
HP : 250,000
ดาเมจ : 15,000-20,000
ลดดาเมจ : 1,000
ดูดซับเวทย์ : 15,000
สกิล :
{Toxic Smoke : คายแก๊สพิษออกมาเพื่อทำดาเมจพิษเป็นเวลา 20 วินาที ทำดาเมจพิษ 2,000 หน่วย/วินาที }
{Meat Grinder : กลืนเหยื่อเข้าไปและเคี้ยวสุดแรงทำดาเมจ 100% และทำดาเมจเลือดไหล 200% เป็นเวลา 10 วินาที}
{Earthly Embrace : รัดรอบตัวเป้าหมายทำดาเมจ 200% จนกว่าเป้าหมายจะขาดอากกาศหายใจ การขาดอากาศหายใจนี้จะทำให้เป้าหมายอยู่ในภาวะมึนงง 10 วินาที }
คำอธิบาย : ต้นไม้กินน้ำแข็งนี้กลายพันธุ์ขึ้นมาจากต้นไม้ที่ถูกปรับเปลี่ยนพันธุกรรมให้กินน้ำแข็งเพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น พวกมันต้านทานการโจมตีที่เกี่ยวข้องกับน้ำและดินได้ดีแต่เพราะพวกมันยังเป็นต้นไม้ พวกมันจึงอ่อนแอต่อไฟ
” เอาล่ะ ขนมอีกตัว ! พวกแก ! โทรล ! ถอยไป ! พิษจะจัดการพวกแกเอา ! ” – เดฟ พูดขึ้นแล้วพุ่งเข้าหาต้นไม้พร้อมกับใช้ {Aura} เดฟ เริ่มการโจมตีแบบเดิมด้วย {Stampede}, {Twin Strike},{Immortal Apparition} และ {Death Surge} คอมโบนี้ลดเลือดมอนเตอร์ไปกว่า ¼
” คอมโบสวย ! ” – โซว์ ตะโกนออกมาแล้วยิงธนูเข้าใส่เถาวัลย์
เดฟ หลบการโจมตีของต้นไม้แล้วทดสอบสกิลใหม่ {Rising Dragon} ร่างของดาร์กนั้นได้ทำการงอเข่าพร้อมกับมือขวาที่งอลงมาอยู่ที่ซี่โครงก่อนจะพุ่งตัวขึ้นเสยคางของต้นไม้และมีไฟวนในรูปร่างของมังกร
[มอนเตอร์มีขนาดใหญ่เกินไปที่จะกระเด็นขึ้นไปได้ ! ]
ร่างของ เดฟ กลับลงมาที่พื้นแล้วพบว่ามอนเตอร์นั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับใบหน้าที่ติดไฟ
เดฟ ไม่ได้สนใจแจ้งเตือนแล้วต่อยเข้าไปอีกสองหมัด
โทรลเข้าร่วมการต่อสู้และโจมตีด้วยคทาของมันแต่แทนที่จะทำดาเมจ เถาวัลย์กลับฟื้นตัวขึ้นแทน เดฟ เห็นว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คทาน้ำแข็งโดนตัวมอนเตอร์ มอนเตอร์จะทำการดูดซับน้ำแข็งเอาไว้
” โทรล หยุดโจมตี ! ” – เดฟ สั่งการออกมาทำให้พวกโทรลต้องแปลกใจก่อนจะถอยออกไป – ” โซว์ โจมตีมันด้วยไฟ ! “
” ได้ ! “
โซว์ ได้ใช้ {Bomarda} จุดไฟที่ธนูของเธอแล้วยิงเข้าใส่ต้นไม้
ลูกธนูพุ่งเข้าไปในรูเปิดของต้นไม้แล้วระเบิดขึ้นมาถึงดาเมจจะไม่มากแต่ก็ทำให้ต้นไม้นั้นเซได้
เดฟ ได้ใช้ {Infernal Tornado} กับทุกส่วนที่ถูกทำลายของต้นไม้ทำให้เกิดไฟลุกขึ้นมา
[ คุณได้ทำให้เกิดการเผาไหม้ ]
ต้นไม้เริ่มมีไฟลุกและเสียเลือด 500 หน่วย/วินาที ต้นไม้ได้คายแก๊สสีม่วงออกมาใส่ เดฟ โซว์ เองก็ได้รับดาเมจไปด้วยเพราะอยู่ใกล้เกินไป
” พิษ ! พวกมีชีวิตถอยออกไป ! ” – เดฟ พูดขึ้น
ต้นไม้ได้พุ่งเข้าใส่ เดฟ อีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ตอบโต้เร็วพอและโดนกินไปทั้งตัว ต้นไม้ได้ใช้เขี้ยวของมันฝังเข้าใส่ตัว เดฟ พร้อมกับมีเสียงเคี้ยวกระดูกดังขึ้นมาด้วย
[ ในฐานะเผ่าอันเดตแล้วผลการเลือดออกล้มเหลว ]
” ไอ้ต้นไม้เฮงซวย ฉันจะแสดงให้ดูว่าทำไมแกไม่ควรกินดาร์ก ! ” – เดฟ สบถออกมาด้านในและเลือกใช้ {Dragon Ball}
ท้องของ เดฟ โดนฟันกัดอาไว้แต่มือของเขายังเคลื่อนที่ได้และใช้สกิลออกมา ไฟเริ่มรวมตัวกันที่มือของเขาพร้อมกับ {Aura} ที่เปิดใช้งาน ลูกไฟขนาดเท่ากับลูกบอลได้ระเบิดขึ้นมาในท้องของต้นไม้
ต้นไม้นั้นตัวบวมขึ้นมาอย่างกับลูกโป่งและคาย เดฟ ออกมาพร้อมกับเปลวไฟจนทำให้ เดฟ กลิ้งไปกับพื้น
[-180,778]
เดฟ นอนราบอยู่กับพื้น ตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมาดู ต้นไม้นั้นก็ตายไปแล้ว เดฟ ไม่คิดว่าดาเมจจะสูงขนาดนี้
” นั่นมันอะไร ? ” – โซว์ เองก็แปลกใจ
” บางทีอาจจะเป็นคริติคอล ” – เดฟ ตอบพร้อมกับลุกขึ้นยืน
เถาวัลย์ทั้งห้องเริ่มแห้งเหี่ยวและนั่นก็เป็นครั้งแรกที่สภาพทั้งห้องได้ถูกเปิดเผยออกมา
” ดูนั่น ” – โซว์ ชี้
มีรูปปั้นน้ำแข็งเรียงอยู่ที่กำแพง พวกนั้นคือนักรบที่ถืออาวุธต่างๆ
” รูปปั้นพวกนี้ดูเหมือนมีชีวิต ” – เดฟ พูดขึ้นแล้วพยายามตรวจสอบรูปปั้นตัวหนึ่งแต่การตรวจสอบก็ล้มเหลว
Jura เดินเข้าไปใกล้ – ” นักรบน้ำแข็งพวกนี้คือคนที่รับใช้ราชินีจนกระทั่งพวก Black Skull Order ได้จับพวกเขามาและพยายามทำให้พวกเขาเป็นทาส เพื่อปกป้องตัวเอง ราชินีจึงให้พรกับพวกเขาเปลี่ยนพวกเขาเป็นน้ำแข็ง มีแค่ราชินีเท่านั้นที่จะยกเลิกมันได้ “
เดฟ พยักหน้าแล้วเดินเข้าไปเก็บของจากต้นไม้
” ยังมีอีกหลายชั้นที่ต้องสู้ก่อนที่จะไปถึงตัวราชินีของนาย เราต้องรีบ Drahma นำหน้าเราไปไกลแล้ว “