SD:บทที่ 93 ความคิดของเซี่ยวซวน
ซูฉิวไป่ สังเกตเห็นความประหลาดใจจากผู้คนรอบข้าง เพราะสุดท้ายแล้วทุกคนต่างแต่งตัวมาอย่างเหมาะสมถึงกระนั้นเป็นเขาเองที่พากลุ่มชายใส่ชุดกีฬาเข้ามาดังนั้นมันจะเป็นฉากที่น่าอึดอัดใจ
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางเลือก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหาเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับบรรพบุรุษเหล่านี้ นอกจากนี้พวกเขายังไม่ชอบสวมสูท พวกเขาจะสวมชุดปักลายมังกรมาแทนถ้าไม่ใช่เพราะความพยายามอันแรงกล้าของ ซูฉิวไป่ คงไม่สามารถที่จะแก้ไขเรื่องนี้ได้
เพื่อไม่ให้เกะกะสายตาต่อคนอื่น ซูฉิวไป่ จึงพากลุ่มบรรพบุรุษเข้าไปยังประตูหลักซึ่งมีคนรอต่อแถวอยู่ ทุกคนต้องมอบบัตรเชิญก่อนเข้าร่วม
ตระกูลกู่มีกฎเกณฑ์ดั้งเดิมเนื่องจากมีประวัติศาสตร์อันยาวนานแม้ว่าพวกเขาจะไม่คุ้นเคยแต่ก็ต้องปฏิบัติตาม
การมาถึงของ ซูฉิวไป่ ดึงดูดความสนใจของผู้คนที่อยู่ตรงประตูทันที
จักรพรรดิทั้งหลายลังเลที่จะต่อคิว แต่หลังจากการชักชวนบางอย่างของ ซูฉิวไป่ ก็สามารถทำให้พวกเขาเข้าต่อแถวได้
ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ความหวังเดียวสำหรับวันนี้ก็คือเขาจะทำงานอย่างราบรื่นและรวดเร็วทุกคนจะต้องทำตัวติดดิน อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ ซูฉิวไป่ และบรรพบุรุษยืนต่อแถวอยู่นั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็รีบวิ่งมาหา ซูฉิวไป่ ทันที
ทุกคนเห็นสังเกตเจ้าหน้าที่ที่แสนเย็นชาต่อทุกคนก่อนหน้านี้ดูเหมือนอารมณ์ของพวกเขาราวกลับชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นลูกหลานของตระกูลกู่อย่างแน่นอน ดังนั้นสายตาของแขกทุกคนจึงต้องมองพวกเขาด้วยเช่นกันในที่สุดพวกเขาก็มายืนต่อหน้า ซูฉิวไป่ และยิ้มออกมา
“คุณคือคุณซู”
มีเสียงเบาๆดังขึ้นพอให้ ซูฉิวไป่ ได้ยินอย่างชัดเจน
ซูฉิวไป่ พยักหน้าแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่พูดต่อ
“คุณซูโปรดตามผมมา คุณไม่ต้องเข้าแถวเดินตามผมไปยังห้องโถงด้านหน้าคุณปู่กำลังรอคุณอยู่”
เจ้าหน้าที่ทำท่าเชิญชวนในขณะที่พูดสิ่งเหล่านี้
ในตอนแรก ซูฉิวไป่ ต้องการที่จะปฏิเสธเขา แต่จักรพรรดิบางคนที่อยู่ข้างหลังเข้าใจคำพูดของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ว่าหมายถึงอะไร ดังนั้นเขาจึงตกลงอย่างช่วยไม่ได้เขารู้ว่าบรรพบุรุษจะไม่พอใจถ้าต้องต่อแถวกับคนอื่น นอกจากนี้จะเป็นการดีที่สามารถเข้าไปด้านในได้ก่อน อย่างไรก็ตามแขกบางคนเริ่มแสดงความไม่พอใจเมื่อเริ่มมีการเคลื่อนไหว
“ทำไม!ทุกคนต้องเข้าแถวแต่ทำไมเขาได้เข้าก่อน!”
มันเป็นเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งทุกคนหันไปยังทิศทางและเข้าใจว่าทำไม
ชายหนุ่มคนนี้เป็นหลานชายของตระกูลกวน กวนไทปิง ตระกูลกวนเป็น 1 ใน 4 ของตระกูลหลักในตงไห่ อำนาจของเขาเปรียบได้กับตระกูลเซี่ยว
ผู้อาวุโสของตระกูลกวนได้เข้าไปก่อนหน้านี้แต่กวนไทปิงมาสายไม่กี่นาทีดังนั้นเขาจึงต้องต่อแถวด้วยความหงุดหงิด และเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ของตระกูลกู่ไม่ได้เชิญเขาแต่กลับเชิญกลุ่มคนที่สวมชุดกีฬาแทนทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากและพูดความคิดของเขาออกมาทันที
ซูฉิวไป่ ยังคงเงียบก็ได้ยินคำพูดของเขา เหตุผลก็คือเขาไม่ชอบโต้เถียงกับคนอื่นมากนักนอกจากนี้เขายังอยู่ในเขตของตระกูลกู่ดังนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่ตะกูลกู่จะจัดการเรื่องนี้เอง
แน่นอนว่าลักษณะการแสดงออกของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั้นเย็นชาทันที
แม้ว่าจะมีตระกูลใหญ่ๆ 4 ตระกูลในตงไห่ แต่มันก็เป็นเพียงข่าวลือความจริงแล้วไม่มีใครกล้าที่จะยั่วตระกูลกู่สุดท้ายแล้ว กู่เทียน ก็เป็นผู้ทรงพลังที่สุด
ดังนั้นแม้ว่าพวกคนเหล่านี้จะเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเท่านั้นแต่เขาก็ยังจำเอกลักษณ์ของ กวนไทปิง ได้ แต่เขายังคงตอบอย่างไม่แยแสว่า
“คุณซูเป็นแขกรับเชิญโดยตรงจากตระกูลของเรา หากใครมีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้คุณสามารถทิ้งบัตรเชิญเอาไว้และออกไปจากที่นี่ซะ”
คำพูดของเขาทำให้ กวนไทปิง รู้สึกอายมีผู้คนมากมายอยู่รอบๆดังนั้นคำพูดดังกล่าวจึงทำให้ กวนไทปิง อับอายอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามในขณะที่เขากำลังจะลบล้างความอับอายบอดี้การ์ดของเขาหลายคนจับตัวไว้แล้วดึงเขากลับมา
นี่คือลานด้านหน้าของตระกูลกู่ ดังนั้นจะดีกว่าถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในที่สุด กวนไทปิง ก็กลืนความไม่พอใจลงไป เขาไม่สามารถทำอะไรตระกูลกู่ได้ดังนั้นเขาจึงจ้องไปที่ ซูฉิวไป่ อย่างดุเดือด
มันเป็นเพราะชายคนนี้ทำให้ฉันต้องอับอาย!
สำหรับ ซูฉิวไป่ นั้นเขาวางสิหน้าอย่างงุนงง
เชี่ย… ฉันผิดตรงไหนถึงต้องจ้องมาที่ฉัน?
แน่นอนว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเถียงกับชายหนุ่มคนนี้ดังนั้นเขาจึงอยู่เงียบๆและตามจักรพรรดิเดินเข้าไปในสนาม เมื่อเห็นพวกเขาหายไปในลานบ้าน ดวงตาของ กวนไทปิง เต็มไปด้วยความเกลียดชังเขาไม่เคยรู้สึกแย่ในที่สาธารณะแบบนี้มาก่อน
“ กวนไทปิง คุณไม่ควรทำท่าทีแบบนี้ เพียงเพราะคุณไม่รู้จักเขาและถูกตำหนิจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลกู่..”
เสียงดังขึ้นด้านหลัง กวนไทปิง เมื่อมองย้อนกลับไปเขาเห็น เซี่ยวซวน ของตระกูลเซี่ยว
เซี่ยวซวน เป็นลูกชายคนโตของเซี่ยวซิวเหวิน และเขายังเป็นพี่ชายของเซี่ยวหยุน เขาอยู่ต่างประเทศหลายปีและมีข่าวลือว่าเขาชอบกู่เฉิงหยามาก่อน แต่เซี่ยวซิวเหวินไม่ยอมรับ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไปต่างประเทศและไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะกลับมาในตอนนี้
กวนไทปิง คำรามออกมาอย่างหงุดหงิดจากนั้นส่งบัตรเชิญและเดินตรงไปยังลานบ้าน เขาไม่สามารถกระตุ้น เซี่ยวซวน ได้ อีกทั้งยังไม่สามารถเอาเรื่องกับตระกูลกู่่ได้ด้วยดังนั้นเขาจึงทำเพียงรังเกียจ ซูฉิวไป่
หลังจากเห็น กวนไทปิง เดินไป เซี่ยวซวน เยาะเย้ย
เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับตระกูลเซี่ยว เพราะ ซูฉิวไป่ บุกถนนตงโข่วไปยังสระมังกรแหล่งถ้ำเสือ อีกทั้งยังทำให้เซียวหยุนอยู่ในภาวะนอนเป็นผัก
เนื่องจากความสูญเสียครั้งนี้ทำให้ตระกูลอื่นพยายามที่จะควบคุมถนนตงโข่ว และตระกูลกวนคือหนึ่งในนั้น
สาเหตุหลักที่ทำให้ เซี่ยวซวน เดินทางกลับมาจากต่างประเทศคือแบ่งปันแรงกดดันของเซี่ยวซิวเหวิน
ในฐานะลูกชายคนโตของตระกูลเซี่ยวเขารู้ดิว่าใครเป็นคนทำให้ครอบครัวของเขาเกิดความสูญเสีย เขายังจำได้ว่าการปรากฏตัวของ ซูฉิวไป่ มีความเกี่ยวข้องกับรักครั้งแรกของเขา
นอกจากนี้เซี่ยวซิวเหวินยังได้บอกเขาเป็นการส่วนตัวว่าตระกูลเซี่ยวจะต้องหลีกเลี่ยง ซูฉิวไป่ และห้ามขัดแย้งกับเขาเด็ดขาด!
ตระกูลเซี่ยวไม่สามารถคุกคาม ซูฉิวไป่ ได้!
เซี่ยวซวน ตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดนี้จากพ่อของเขา เขาตระหนักว่าบทบาทของพ่อเขานั้นมีอิทธิพลมากและครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นชายที่สามารถควบคุมถนนตงโข่วได้ทั้งหมด การที่เขาพูดคำเหล่านี้ออกมาแสดงว่า ซูฉิวไป่ นั้นเป็นคนที่น่ากลัวจริงๆ
แม้แต่พ่อของฉันยังกลัวเขา!
เขาจดจำคำแนะนำของพ่อเขาในใจและเมื่อเห็นพฤติกรรมของ กวนไทปิง ก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้ว่าชายหนุ่มดูธรรมดานั้นคือ ซูฉิวไป่ ด้วยสมองหมูอย่างกวนไทปิง เขาจะสร้างปัญหาภายหลังอย่างแน่นอน…
เฮ้อ มันคงไม่สมเหตุสมผลถ้าตะกูลเซี่ยวโชคร้ายเพียงตระกูลเดียว ตั้งแต่ กวนไทปิง มีความคิดที่จะริเริ่มคุกคาม ซูฉิวไป่ ไว้รอดูคนอื่นโชคร้ายไม่ดีกว่าหรอ?
ด้วยความคิดนี้ เซี่ยวซวน มอบบัตรเชิญและเดินเข้าไปในลานบ้านของตระกูลกู่ ซูฉิวไป่ ได้ติดตามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปยังห้องโถงด้านหน้าเขาเห็นปู่กู่และคนอื่นๆอีกหลายคนอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังคุยกันอยู่ ซูฉิวไป่ ไม่ได้เข้าไปขัดจังหวะ อย่างไรก็ตามเมื่อ กู่เทียน เห็น ซูฉิวไป่ เดินเข้ามาเขายืนขึ้นทันที และรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้เห็นบรรพบุรุษในชุดกีฬาด้านหลังของ ซูฉิวไป่
คนอื่นในห้องโถงรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นพฤติกรรมของ กู่เทียน
อย่างไรก็ตาม กู่เทียน ไม่ได้สนใจพวกเขาในเวลานี้ เขารีบเข้าไปแลกเปลี่ยนคำทักทายกับ ซูฉิวไป่ และทักทายจักรพรรดิทีละคน
ดูเหมือนว่างานที่ได้รับมอบหมายของ ซูฉิวไป่ จะประสบความสำเร็จ กู่เทียน ทักทายบรรพบุรุษอย่างสุภาพและเขาอาจรู้ว่าบรรพบุรุษเหล่านี้ไม่ค่อยสบายใจที่จะอยู่ ที่นี่ดังนั้นจึงเชิญพวกเขาไปจากห้องอื่น
หลังจากมุ่งหน้าไปยังห้องอื่นมีคนเข้ามาเชิญ ซูฉิวไป่ ไปที่สนามหลังบ้านโดยบอกว่า กู่เฉิงหยา กำลังรอเขาอยู่ที่นั่น ทั้งคู่เป็นคนหนุ่มสาวจึงสะดวกที่พวกเขาจะสนทนากันที่นั่น
ทั้งหมดเป็นการเตรียมการของ กู่เทียน จุดประสงค์ก็เพื่อให้ กู่เฉิงหยาและ ซูฉิวไป่ ได้อยู่ด้วยกันสักครู่ อย่างไรก็ตามคำเชิญนี้ทำให้ ซูฉิวไป่ รู้สึกลำบากใจ
วันนี้เป็นวันเกิดของ กู่เฉิงหยา เห็นได้ชัดว่าเขาจะต้องพบเธอ แต่บรรดาบรรพบุรุษเหล่านี้ไม่สามารถอยู่ห่างจากเขาได้เขารู้สึกเป็นห่วงจริงๆที่จะทิ้งคนเหล่านี้ไว้ลำพังในห้อง
บรรพบุรุษเหล่านั้นดูเหมือนจะรู้เหตุผลพวกเขารีบกระตุ้นให้ ซูฉิวไป่ ไปหา กู่เฉิงหยา เร็วๆในขณะที่สัญญาว่าพวกเขาจะไม่ไปไหน ในที่สุดหลังจากลังเลสักครู่ ซูฉิวไป่ ก็ตัดสินใจที่จะมุ่งตรงไปยังสนามหลังบ้าน
———————————————–