ตอนที่ 555 ความช่วยเหลือที่ไม่คาดคิด

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 555

ความช่วยเหลือที่ไม่คาดคิด

“เกิดอะไรขึ้น”ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าหน้าที่ของทางการลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆพร้อมกับอาการงุนงงว่ารอบข้างตนเองเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และสิ่งแรกที่รู้สึกได้ก็คือความรู้สึกเจ็บที่อกและที่ข้อมือ

พริบตาที่ความรู้สึกเจ็บแสดงออกมาก็ราวกับเป็นเครื่องกระตุ้นให้ชายหนุ่มนึกออกเสียทีว่าก่อนมันสลบไปเกิดอะไรขึ้น มันกำลังโดนหญิงสาวผู้หนึ่งโจมตี และในขณะที่กำลังจะสู้ตายอยู่นั้นมันก็สลบไปเลย พอรู้ตัวอีกทีก็โดนมัดเอาไว้แล้ว….

เคร๊ง…..

ชายหนุ่มพยายามจะดิ้นให้หลุดจากโซ่ แต่ก็พบว่าโซ่นั้นแข็งมากจนน่าตกใจ แม้แต่ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับมันยังกระชากไม่หลุดเลย นอกจากนี้โซ่ยังตรึงตัวเขาเอาไว้กับพื้นดินอีกต่างหากราวกับมีบางอย่างอยู่ใต้พื้นคอยดึงเอาไว้ไม่ให้โซ่หลุดเสียด้วย

“ตื่นแล้วสินะ”เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังพยายามจะหนี หลานฮวาที่ยืนเฝ้าอยู่แล้วก็เดินออกมาข้างๆตัวชายหนุ่มทันที

“เจ้า….”ชายหนุ่มสะดุ้งวาบเพราะได้สัมผัสพลังของอีกฝ่ายแล้ว นางแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งจนน่าหวาดหวั่นเลย ระดับฝีมือเช่นนี้ทำไมต้องเป็นโจรกัน หากเอาพลังฝีมือเช่นนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์คงสามารถสร้างความยิ่งใหญ่ให้ตนเองได้แน่ๆ วินาทีนี้ชายหนุ่มเกิดนึกดูถูกหลานฮวาขึ้นมาว่านางทำไมถึงต้องเลือกทางผิดเช่นนี้

“หุบปาก”หลานฮวาพูดพลางปล่อยพลังวิญญาณออกมาจนชายคนนั้นไม่กล้าแม้แต่จะพูดต่อแม้แต่คำเดียว ทำได้แต่มองพวกโจรที่เดินกันมาล้อมรอบตนเองเอาไว้เท่านั้น ท่าทางชีวิตของมันคงจะจบในวินาทีนี้แล้วกระมัง

“ดูเอาไว้ ถ้าใครคนไหนจะบุกเข้ามายุ่งกับคนของข้าอีกจะมีสภาพไม่ต่างจากเจ้านี่”หลานฮวาว่าพลางเรียกกระบี่ของตนออกมาแล้วชี้ไปที่ชายหนุ่มที่ถูกมัดเอาไว้ แน่นอนว่าหลานฮวากำลังเตือนพวกโจรไม่ให้มายุ่งกับชิวซุยอีก แม้นางจะปกป้องตัวเองได้แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้พวกผู้ชายใจบาปเหล่านี้เข้ามาใกล้นางเด็ดขาด

“……”แต่ทางด้านชายหนุ่มจากทางการนั้นถึงกับตัวสั่นสะท้าน หรือว่านางจะสัมผัสได้แล้วว่ามันไม่ได้มาคนเดียว ยิ่งได้ยินที่หลานฮวาพูดออกมาชายหนุ่มก็ยิ่งเข้าใจว่านางกำลังขู่พวกพ้องของตนเองที่กำลังจะเข้ามาช่วยแน่ๆ

.

.

คำขู่ของหลานฮวาแต่เดิมก็ได้ผลอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะเจ้าหน้าที่จากทางการที่เข้ามาโดยไม่รู้เรื่องอะไรก็คงไม่ต้องออกมาสั่งซ้ำสองแบบนี้แต่อย่างไร แถมคราวนี้หลานฮวายังจงใจปล่อยพลังวิญญาณออกไปรอบๆเพื่อขู่พวกโจรอีกต่างหาก ทำให้พวกโจรไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้ตัวบ้านเสียด้วยซ้ำ ทำให้ชายหนุ่มที่ถูกมัดอยู่หน้าประตูบ้านเองก็ไม่มีใครเข้ามายุ่งเลยแม้แต่คนเดียว ยกเว้นเพียงแต่….

“เจ้ามาทำอะไร”ชายหนุ่มถามพลางมองไปทางชิวซุยที่กำลังอุ้มเหมาเหมามานั่งอยู่ที่บันไดใกล้ๆกับที่มัดชายหนุ่มเอาไว้

“ข้ามารอท่านพี่”ชิวซุยตอบพลางมองไปที่ประตูหน้าเมือง ไม่รู้ว่าหลินเฟยจะพักที่เมืองข้างๆหรือเปล่า แต่หากมันไม่พักก็คงกลับมาถึงในตอนกลางคืนแน่ๆ ทำให้ชิวซุยที่เบื่อจะอยู่แต่ในห้องออกมารอที่หน้าบ้านแทน

“ที่แท้เจ้าก็เป็นพวกเดียวกับนาง”ชายหนุ่มเห็นชิวซุยเดินออกมาหน้าตาเฉยโดยไม่มีใครห้ามแม้แต่คนเดียวก็พลันเข้าใจทันที ที่แท้นางเป็นพวกเดียวกับโจรนี่เอง มันหรืออุตส่าห์เป็นห่วงและสงสารอยากจะช่วย ที่แท้มันก็โดนนางหลอกต้มจนเปื่อยนี่เอง

“พวกเจ้าทำแบบนี้ทำไมกัน”ชายหนุ่มถามพลางมองไปทางชิวซุยด้วยท่าทีผิดหวัง ภายนอกนั้นนางเป็นเด็กสาวที่งดงามและดูบริสุทธิ์ผุดผ่องราวกับเทพธิดา ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นพวกเดียวกับโจร

“พวกข้ามาหาของขวัญวันเกิดให้ท่านแม่”ชิวซุยตอบพลางยิ้มน้อยๆออกมา ก็อีกฝ่ายถามว่าพวกนางมาทำไมอะไรนางก็ตอบไปตามตรงนี่นา

“เพื่อแม่ของเจ้า…..เจ้าคิดว่าเจ้าทำแบบนี้แล้วท่านแม่ของเจ้าจะดีใจงั้นหรือ”ชายหนุ่มถามด้วยท่าทีตกใจ นี่พวกนางปล้นเพื่อนำของไปมอบให้แม่ของพวกนางงั้นหรือ

“ข้าก็หวังว่าท่านแม่จะต้องดีใจนะ ไม่สิท่านแม่ต้องดีใจแน่ๆเลย”ชิวซุยยิ้มเขินๆออกมาราวกับเด็กที่กำลังถูกชมไม่มีผิด ทำเอาชายหนุ่มยิ่งสิ้นหวังเข้าไปใหญ่

“พวกเจ้าไม่คิดถึงหัวอกชาวบ้านบ้างหรืออย่างไรถึงได้ทำแบบนี้”ชายหนุ่มถามอีกรอบด้วยความอัดอั้นตันใจ สมบัติที่เห็นด้านในนั้นส่วนหนึ่งก็ต้องเป็นของชาวบ้านอย่างแน่นอน หากพวกนางนำสมบัติพวกนั้นไปชาวบ้านก็คงไม่เหลืออะไรแน่ๆ

“ข้าก็ไม่เห็นพวกนั้นบ่นอะไรนี่นา”ชิวซุยกะพริบตาปริบๆด้วยท่าทีประหลาดใจ นางแค่จะขอซื้อเมล็ดโกโก้ไปเท่านั้น หรือว่านางจะซื้อเยอะเกินไปงั้นหรือ

“เจ้านี่มัน….”ชายหนุ่มกำลังจะหันมาด่าชิวซุย แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรนางก็ลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งออกไปเสียก่อน เมื่อมองตามไปก็พบว่านางกำลังวิ่งไปหาหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาในตัวเมืองนั่นเอง หน้าตาของหญิงสาวคนนั้นเหมือนกับชิวซุยอย่างมาก ทำเอาไม่ต้องเดาเลยว่านางกับหญิงสาวคนนั้นเป็นพี่น้องกันแน่ๆ

“ท่านพี่ ได้มาหรือเปล่าเจ้าคะ”ชิวซุยถามด้วยท่าทีตื่นเต้น พวกโจรที่แนะนำโกโก้ให้รู้จักบอกว่าพอผสมนมกับน้ำตาลแล้วความขมจะหายไปเกือบหมดและทำให้มันอร่อยมากเลยทีเดียว ทำให้ชิวซุยอดจะอยากรู้ขึ้นมาไม่ได้จริงๆ

“ได้สิ”หลินเฟยตอบพลางนำน้ำตาลกับนำออกมาจากมิติของตนเอง ทำให้ชิวซุยมีท่าทีร่าเริงขึ้นมาทันที แน่นอนว่านางรีบรบเร้าให้พี่ชายเข้าไปในบ้านแล้วเริ่มทดลองทำตามที่พวกโจรบอกมาเร็วๆ

ฟุบ….

พวกหลินเฟยหายเข้าไปในบ้านได้ไม่นาน อยู่ๆร่างของชายคนหนึ่งก็ลอยวูบมายืนอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มอย่างเงียบกริบ

“หัวหน้า….”ชายหนุ่มเบิกตากว้างด้วยท่าทีตกใจ นี่หัวหน้าบุกมาช่วยมันอย่างนั้นหรือ แม้จะน่าดีใจแต่ก็รู้สึกผิดอย่างมาก หัวหน้าคงจะสัมผัสพลังของผู้หญิงคนนั้นได้แล้ว ต่อให้หัวหน้ากับเพื่อนร่วมงานของมันอีกคนเข้าไปรุมก็สู้นางไม่ได้หรอก ทางที่ดีควรปล่อยมันเอาไว้แล้วไปตามกำลังเสริมมาจากเมืองหลวงมากกว่า

“อยู่นิ่งๆ ข้าจะพาเจ้าหนี”หัวหน้าของชายหนุ่มตอบพลางเรียกเอาดาบเล่มหนึ่งออกมาแล้วฟันลงไปที่โซ่ทันที

เคร๊ง!!

แทนที่โซ่จะขาดเพราะดาบที่หัวหน้าของชายหนุ่มใช้ฟันนั้นเป็นอาวุธวิเศษที่สามารถตัดโลหะได้ง่ายๆ แต่กลับกลายเป็นว่านอกจากโซ่จะไม่ขาดแล้วมันยังสร้างเสียงดังไปทั้งบ้านอีกต่างหาก ทำเอาหัวหน้าของชายหนุ่มสะดุ้งโหยง

“เจ้าเป็นใคร”แทบจะทันทีที่เกิดเสียง ร่างของหลานฮวา หลินเฟย และ ชิวซุยก็ออกมาจากตัวบ้านทันที ทำเอาหัวหน้าของชายหนุ่มและเพื่อนของชายหนุ่มที่อยู่ด้านนอกใจหายวาบทันที ตอนนี้ยังปลดโซ่ให้ชายหนุ่มไม่ได้ หนีไปตอนนี้ก็คงไม่ทันเสียแล้ว

“หน็อยเจ้าพวกโจร งั้นข้าขอสู้ตาย”หัวหน้าของชายหนุ่มกัดฟันกรอดก่อนจะคว้าดาบชี้ไปทางพวกหลินเฟยทันที

“ในนามของผู้ตรวจการแห่งอาณาจักรชา ข้าขอจับกุมเจ้า”หัวหน้าของชายหนุ่มตะโกนก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหาหลินเฟยที่ยืนอยู่หน้าสุดทันที

“เจ้าเป็นผู้ตรวจการงั้นหรือ”หลินเฟยถามพลางยกมือขึ้นมารับดาบของอีกฝ่ายเอาไว้อย่างง่ายดาย

“ใช่”หัวหน้าของชายหนุ่มตอบพลางพยายามกดดาบลงไปให้มากกว่านี้ แต่น่าเสียดายกำลังของหลินเฟยนั้นคนละชั้นกับมันโดยสิ้นเชิงเลย

“มีอะไรมายืนยันหรือเปล่าว่าเจ้าเป็นผู้ตรวจการจริงๆ”หลินเฟยถามด้วยท่าทีเรียบเฉย ก่อนจะปล่อยดาบของอีกฝ่ายไป

“ระ เรื่องนั้น….”หัวหน้าของชายหนุ่มชะงักไปเมื่ออยู่ๆอีกฝ่ายถามหาหลักฐาน ทำให้หัวหน้าของชายหนุ่มนำป้ายของผู้ตรวจการขึ้นมาให้หลินเฟยดู

“แสดงว่าท่านเป็นผู้ตรวจการจริงๆ พวกเจ้าผู้ตรวจการมาแล้วไปมอบตัวซะ”หลินเฟยพูดเสียงดังพลางหันไปทางพวกโจรที่ยังมีประปรายอยู่ตามบ้าน

“มอบตัวหรือขอรับ”โจรคนหนึ่งถามด้วยท่าทีตกใจ นึกว่าหลินเฟยจะไม่ยุ่งเรื่องนี้เสียอีก แต่พอคนของทางการมากกลับบอกให้พวกมันมอบตัวเสียอย่างนั้น

“พวกเจ้าจะยินยอมให้จับหรือจะให้ข้าทำกับพวกเจ้าเหมือนที่ทำกับหัวหน้าพวกเจ้า”หลินเฟยถามพลางยิ้มเย็นยะเยือกออกมาเสียอย่างนั้นทำเอาพวกโจรได้แต่ก้มหน้าก้มตาต่อแถวกันเดินเข้าไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจการจับแต่โดยดี ทำเอาหัวหน้าของชายหนุ่มได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยท่าทีประหลาดใจ ตั้งแต่ทำงานมาหลายปีก็พึ่งเคยเจอโจรเดินต่อแถวมาให้จับก็คราวนี้ล่ะ

“ท่านผู้ตรวจการ ก่อนจะเข้าใจผิดกันไปมากกว่านี้ข้าขอบอกท่านเอาไว้ก่อนว่าพวกเราไม่ใช่โจรหรอกนะ แต่เป็นคนดีที่บังเอิญผ่านมาแล้วก็ช่วยพวกท่านปราบโจรเท่านั้น”หลินเฟยพูดดักเอาไว้ก่อนเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ตรวจการ แล้วหันดาบใส่มันพร้อมตะโกนด่าว่าเป็นโจรก็เข้าใจได้ง่ายๆแล้วว่าอีกฝ่ายกำลังเข้าใจผิดอยู่แน่ๆ

“แล้ว ทำไมท่านต้องจับลูกน้องของข้ามัดเอาไว้ด้วยล่ะ”หัวหน้าของชายหนุ่มถามพลางมองไปที่ตัวชายหนุ่มเองที่โดนมันเอาไว้อย่างแน่นหนา

“นั่นเพราะลูกน้องของท่านจะลักพาตัวน้องสาวของข้าต่างหาก”หลินเฟยว่าพลางมองไปทางชายหนุ่มด้วยท่าทีตำหนิ พอกลับมาหลานฮวาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้หลินเฟยฟังไปแล้ว ทำให้หลินเฟยไม่ได้ทักว่าใครโดนมัดอยู่ที่หน้าประตูกันแน่

“นี่เจ้า จะลักพาตัวคนงั้นหรือ”หัวหน้าของชายหนุ่มถามด้วยท่าทีตกใจ นี่ลูกน้องของมันบุกเข้าไปลักพาตัวคนได้อย่างไร

“ขะ ข้า….เข้าใจผิดขอรับ ข้านึกว่าแม่นางท่านนั้นกำลังโดนจับขังเอาไว้ก็เลยอยากจะช่วยพาแม่นางออกไปเท่านั้นเอง”ชายหนุ่มตอบพลางอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้หลินเฟยฟังอย่างช่วยไม่ได้

เคร๊ง!!

หลังจากแก้ไขข้อเข้าใจผิดของทั้งสองฝ่าย ในที่สุดชายหนุ่มก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระเสียที ทำให้เหล่าผู้ตรวจการทั้ง 3 ต่างพากันโล่งใจกันอย่างมาก นอกจากงานแก้ไขเรื่องเข้าใจผิดได้แล้วยังได้พวกหลินเฟยช่วยทำงานอีกด้วย นับว่าครั้งนี้พวกมันได้กำไรอย่างมากเลย

“ข้าบอกท่านแล้วนี่ว่าพวกข้ามาหาของขวัญให้ท่านแม่เฉยๆ”ชิวซุยว่าพลางทำสีหน้าไม่พอใจออกมา นอกจากจะไม่เชื่อนางแล้วชายคนนี้ยังหาว่านางเป็นโจรอีก ช่างน่าน้อยใจจริงๆ