ตอนที่ 556 สำคัญกว่า

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 556

สำคัญกว่า

“เรื่องนี้ต้องขอบคุณท่านมากขอรับท่านหลินเฟย”หัวหน้าผู้ตรวจการพูดพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีเกรงใจหลังจากหลินเฟยบอกให้พวกผู้ตรวจการมาพักในบ้านก่อน พอรุ่งเช้าค่อยพาพวกโจรกลับไปที่เมืองหลวง

“ไม่หรอก มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้นเลยขอรับ”หลินเฟยตอบพลางเทนมลงในถ้วยที่เตรียมเอาไว้ ดูเหมือนการทำขนมที่ชื่อว่าช็อกโกแลตนั้นจะไม่ยากเท่าไหร่ ได้ฟังสูตรจากคนในเมืองมาแล้วก็แค่เอาโกโก้มาผสมกับนมและน้ำตาลเท่านั้น

“แล้วเรื่องของลูกน้องข้า ข้าต้องขออภัยจริงๆนะขอรับ”หัวหน้าผู้ตรวจการตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา แม้จะเล่าให้ฟังทั้งหมดแล้วแต่มันก็ยังกลัวว่าหลินเฟยจะยังติดใจอยู่ ตัวมันมีผู้ติดตามอย่างหลานฮวาหากนึกเคืองเดินทางเข้าเมืองหลวงไปหาเรื่องพวกมันขึ้นมาคงวุ่นวายกันหมดแน่ๆ

“แต่เดิมความตั้งใจของมันก็คือการพาน้องสาวข้าหนีจากน้ำมือพวกโจร ข้าไม่คิดว่ามันทำอะไรผิดหรอก แค่โดนจับมัดข้อหามาแตะเนื้อต้องตัวน้องสาวข้าก็นับว่าได้รับโทษแล้ว”หลินเฟยตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีอ่อนโยน แม้จะทำไปด้วยจุดประสงค์ดีแต่หาเรื่องจะอุ้มน้องสาวมันงั้นหรือ ยังไงก็ต้องโดนลงโทษ

“อย่างนั้นหรือขอรับ”หัวหน้าผู้ตรวจการตอบพลางถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีโล่งอก แต่เมื่อมองไปที่มือของหลินเฟยที่กำลังผสมส่วนผสมต่างๆเข้าด้วยกันอยู่นั้นก็เริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมา

“ท่านหลินเฟย ไม่ทราบว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่งั้นหรือขอรับ”หัวหน้าผู้ตรวจการถามพลางเลิกคิ้วขึ้นมาด้วยท่าทีประหลาดใจ

“อย่างที่ข้าบอก ข้ามาที่เมืองนี้เพื่อตามหาสิ่งที่เรียกว่าเมล็ดโกโก้ ท่านตาคนหนึ่งของข้าเคยกินมันเมื่อนานมาแล้ว ข้าก็เลยอยากนำมันไปเป็นของขวัญให้ท่านแม่”หลินเฟยตอบพลางพยายามคนส่วนผสมต่อ แต่เพราะมันใส่นมเยอะเกินไปไม่ว่าจะคนอย่างไรก็ยังเหลวเป็นน้ำอยู่ดี

“ท่านจะทำช็อกโกแลตหรือขอรับ”หัวหน้าผู้ตรวจการถามพลางมองไปที่ถ้วยที่หลินเฟยใช้ ขนมชนิดนี้ดังมากไปจนถึงเมืองหลวง แม้แต่หัวหน้าผู้ตรวจการก็ยังเคยได้กิน มันเป็นขนมที่สิ้นเปลืองมากเพราะน้ำตาลราคาแพง และผงโกโก้ก็หาได้ไม่มาก แต่ตัวมันก็ยังจำรสชาติในตอนนั้นได้ดี

“ใช่ ท่านหัวหน้าผู้ตรวจการรู้จักงั้นหรือ”หลินเฟยถามพลางเลิกคิ้วด้วยท่าทีสนใจ เพราะหากยังทำไม่ได้มันคงต้องไปซื้อนมและน้ำตาลมาเพิ่มหรือไม่ก็ไปปลุกคนขายเมล็ดโกโก้ให้มาสอนวิธีทำเอาในตอนเช้า

“ไม่ใช่แค่รู้จักนะขอรับ แต่ข้ายังทำเป็นอีกด้วย”หัวหน้าผู้ตรวจการตอบพลางยืดอกขึ้นด้วยท่าทีภูมิใจ เพราะมันติดใจรสชาติในตอนนั้นมากก็เลยถามคนขายเรื่องวิธีการทำและก็ได้สูตรมา

“ดีเลย ท่านช่วยตอบแทนข้าด้วยการสอนสูตรพวกนั้นให้น้องสาวข้าได้หรือไม่”หลินเฟยถามพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีดีใจ วันเกิดของท่านแม่ใกล้เข้ามาแล้วหากยังทำผิดจนต้องไปซื้อของมาเพิ่มอยู่แบบนี้อาจจะกลับไปไม่ทันวันงานก็ได้

“ด้วยความยินดีขอรับ”หัวหน้าผู้ตรวจการตอบพลางเดินเข้ามาในครัวอย่างเต็มใจ งานครั้งนี้คงทำให้มันได้ความดีความชอบไม่น้อย จ่ายด้วยการสอนทำขนมนั้นนับว่าถูกจนเหมือนกำลังเอาเปรียบอีกฝ่ายเสียด้วยซ้ำ

“คุณหนูชิวซุย ดูให้ดีนะขอรับ”หัวหน้าผู้ตรวจการว่าพลางเริ่มเอาส่วนผสมมาทำทีละน้อย แต่สิ่งแรกที่หัวหน้าผู้ตรวจการทำคือการเดินไปจุดไฟที่เตา และเริ่มต้มน้ำ ทำเอาหลินเฟยกับชิวซุยหันมามองหน้ากันทันที พ่อค้าขายโกโก้ไม่เห็นจะบอกว่าต้องต้มมันด้วย มิน่าเล่าทำเท่าไหร่ก็เหลวไปทุกที

“คุณหนูชิวซุยต้องระวังแรงไฟดีๆนะขอรับ ห้ามให้น้ำร้อนจัดจนเดือดนะขอรับ ไม่อย่างนั้นผงโกโก้จะไหม้จนขม”หัวหน้าผู้ตรวจการสอนพลางเริ่มผสมผงโกโก้กับเนยที่ทำจากนมที่หลินเฟยเอามา แล้วนำไปต้มรวมกับน้ำที่ตั้งไฟเอาไว้พักหนึ่งแล้ว เมื่อส่วนผสมเริ่มข้นและหนืดขึ้นแล้วหัวหน้าผู้ตรวจการก็เทน้ำตาลและนมลงไปผสมอีกรอบ ก่อนจะแบ่งออกมาใส่ถ้วยอีกใบ

“หลังจากปล่อยให้เย็นแล้วก็…..”ทำไปจนเกือบจะเสร็จแล้วดูเหมือนหัวหน้าผู้ตรวจการจะพึ่งนึกอะไรออก

“มีอะไรหรือเจ้าคะ”ชิวซุยถามขึ้นเมื่อเห็นหัวหน้าผู้ตรวจการชะงักมือไป

“หลังจากนี้จะต้องปล่อยให้ช็อกโกแลตเย็นตัวแล้วขึ้นรูปขอรับ แต่อากาศที่เมืองฮัวกิงตอนนี้แม้จะเป็นยามค่ำคืนก็ยังร้อนอยู่ดี ข้าเกรงว่ามันจะไม่ขึ้นรูปขอรับ”หัวหน้าผู้ตรวจการตอบพลางถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีผิดหวัง

“งั้นพี่หลานฮวา ท่านช่วยสร้างไอเย็นให้หน่อยได้หรือเปล่า”ชิวซุยถามพลางมองไปทางหลานฮวาที่ยืนมองอยู่ห่างๆ

“ได้สิ”หลานฮวาตอบพลางเดินเข้ามาใกล้ๆกับโต๊ะที่พวกหลินเฟยใช้ทำอาหารอยู่ ก่อนจะใช้วิชาที่นางโดนหลินเฟยหลอกให้ฝึกสร้างไอเย็นขึ้นมา

“โอ้ ยอดเยี่ยม”หัวหน้าผู้ตรวจการมองสิ่งที่หลานฮวาทำด้วยท่าทีชื่นชม สมแล้วที่เป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณชั้นสูง สามารถควบคุมไอเย็นเช่นนี้ได้นับว่ายอดเยี่ยมจริงๆ

.

.

“เป็นไงบ้างชิวซุย”หลังจากทำจนเสร็จแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาทดลองชิมเสียที แน่นอนว่าผู้เสนอตัวชิมคนแรกก็คือชิวซุยนั่นเอง

“หวาน แล้วก็อร่อยมากเลย….”ชิวซุยเบิกตากว้างด้วยท่าทีอึ้งๆ มันให้ความรู้สึกหวานต่างจากขนมของอาณาจักรไป๋มาก แถมกลิ่นยังกระจายไปทั่วปากด้วยเป็นความรู้สึกอร่อยที่ดีจริงๆ

“อืม แบบนี้ท่านแม่คงดีใจแน่ๆ”หลินเฟยเห็นน้องสาวยิ้มกว้างเช่นนั้นก็ลองนำช็อกโกแลตที่ทำเสร็จแล้วมาชิมบ้าง ซึ่งความรู้สึกตอนกินลงไปนั้นก็ยอดเยี่ยมกว่าตอนกินผงโกโก้อย่างเดียวหลายเท่าเลย

“ขอบคุณมากนะเจ้าคะท่านหัวหน้าผู้ตรวจการ”ชิวซุยตอบพลางยิ้มกว้างด้วยท่าทีดีใจ คนอื่นไม่รู้หรอกว่าการหาของขวัญแปลกๆไปให้คนตระกูลไป๋ประหลาดใจนั้นยากแค่ไหน

“ไม่หรอกขอรับ ข้าทำเพื่อตอบแทนพวกท่านเท่านั้นเอง”หัวหน้าผู้ตรวจการว่าพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา อย่างที่มันบอกมันรู้สึกเหมือนกำลังเอาเปรียบพวกหลินเฟยอยู่เสียด้วยซ้ำ หากนำเรื่องนี้ไปรายงานองค์จักรพรรดิรับรองว่าพวกหลินเฟยต้องได้รับรางวัลอย่างงามแน่ๆ……

“ท่านหลินเฟย คุณหนูชิวซุย พรุ่งนี้พวกท่านเดินทางไปกับพวกเราด้วยดีหรือไม่ขอรับ”หัวหน้าผู้ตรวจการถามพลางเปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจังอย่างเห็นได้ชัด

“ท่านกลัวว่าพวกโจรจะตอบโต้ท่านงั้นหรือ พวกมันที่เหลือไม่มีใครพลังสูงกว่าท่านเลยนะ”หลินเฟยถามด้วยท่าทีประหลาดใจ แม้หัวหน้าของพวกมันอย่างเกาจุนจะพลังฝีมือสูงกว่าผู้ตรวจการ แต่หลินเฟยก็ทำลายพลังวิญญาณของมันไปแล้ว และพวกลูกน้องที่เหลือก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรเลยด้วย

“ไม่ใช่ขอรับ ข้าต้องการให้ท่านได้เข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิขอรับ”หัวหน้าผู้ตรวจการตอบด้วยท่าทีจริงจังเป็นอย่างมาก

“ไม่ได้หรอก งานวันเกิดท่านแม่ใกล้เข้ามาแล้ว พวกข้าต้องรีบเดินทางกลับให้ไวที่สุดไม่อย่างนั้นต้องไม่ทันแน่ๆ”หลินเฟยตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ ความจริงไปพบจักรพรรดิของอีกฝ่ายเสียหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่เมืองหลวงต้องเดินทางไปอีกไกล กว่าจะผ่านพิธีโน่นนี่คงกินเวลามากโข พวกหลินเฟยอยากจะรีบกลับไปเขตอสูรผาไร้ก้นมากกว่า

“แต่…มันเป็นการเข้าพบองค์จักรพรรดิเชียวนะขอรับ ข้าคิดว่าท่านแม่ของพวกท่านต้องเข้าใจแน่ๆ”สำหรับคนธรรมดาแล้วการได้พบจักรพรรดินั้นเป็นเรื่องยากมาก หลายๆคนยังไม่มีโอกาสเช่นนั้นทั้งชีวิตเสียด้วยซ้ำ

“ท่านหัวหน้าผู้ตรวจการ สำหรับพวกข้าแล้วงานวันเกิดของท่านแม่สำคัญกว่ามากเลยขอรับ”หลินเฟยตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ เพราะงานวันเกิดของท่านแม่ปีนึงมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่การเข้าพบจักรพรรดิอาณาจักรไหนสักอาณาจักรสามารถทำได้ทุกวันอยู่แล้ว

“นั่นสินะขอรับ ในฐานะบุตรแล้วมารดาก็ต้องสำคัญที่สุดสินะขอรับ”หัวหน้าผู้ตรวจการตอบพลางถอนหายใจออกมา จะว่าไปมันก็ไม่ได้กลับไปเยี่ยมบ้านมาหลายปีแล้ว หลังจากรายงานเรื่องการจับโจรที่บุกยึดฮัวกิงเสร็จมันจะขอลาหยุดสักหน่อยก็คงไม่เลว

.

.

.

“แม่นาง ก่อนจะไปข้าอยากจะขอโทษท่านอีกครั้ง”หลังจากเวลารุ่งเช้ามาถึง พวกหลินเฟยก็ออกมาเตรียมตัวเดินทางต่อทันที ส่วนพวกผู้ตรวจการก็ต้องเตรียมพาโจรไปส่งที่เมืองหลวงเช่นกัน

“ขอโทษเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ”ชิวซุยถามพลางเอียงคอสงสัย อยู่ๆชายหนุ่มที่บุกเข้ามาก่อนหน้านี้ก็บอกว่าอยากขอโทษนาง มันทำอะไรผิดด้วยงั้นหรือ

“กะ ก็….หลายๆเรื่องขอรับ ข้าเข้าใจท่านผิดไปมากเลย”ชายหนุ่มตอบพลางหลบสายตาไปทางอื่น ตอนมันเข้าใจว่าชิวซุยเป็นพวกโจร มันด่านางในใจเสียไม่เหลือชิ้นดี พอได้ทราบความจริงก็ถึงกับรู้สึกผิดอย่างมากเลยต้องการจะขอโทษให้ได้

“งั้นข้ายกโทษให้เจ้าค่ะ”ชิวซุยตอบพลางยิ้มหวานออกมาด้วยท่าทีน่ารักน่าเอ็นดู ในเมื่อนางไม่รู้ว่าต้องโกรธเรื่องอะไร งั้นก็ยกโทษให้อีกฝ่ายไปก็แล้วกัน

“งั้นหรือขอรับ เช่นนั้นขอให้พวกท่านเดินทางอย่างปลอดภัยนะขอรับ”ผู้ตรวจการหนุ่มตอบพลางยิ้มด้วยท่าทีดีใจ อย่างน้อยมันก็ได้ขอโทษไปแล้วนี่นะ

“พวกท่านเองก็เหมือนกัน เดินทางปลอดภัยนะขอรับ”หลินเฟยตอบพลางมองไปทางหัวหน้าผู้ตรวจการก่อนจะประสานมือคารวะเป็นการล่ำลา

“พี่หลินเฟย เรารีบกลับกันเถอะ ข้ามีเรื่องอยากจะลองก่อนจะถึงวันเกิดของท่านแม่”ชิวซุยว่าพลางลากหลินเฟยให้เดินตามตนเองไปทันที

“ทดลองอะไรงั้นหรือ”หลินเฟยถามพลางเลิกคิ้วสงสัย

“ท่านจำขนมที่ท่านยายรูบี้สอนข้าได้หรือเปล่า”ชิวซุยว่าพลางพาเหมาเหมาขึ้นไปนั่งบนรถเป็นคนแรก

“ขนมเค้กเหรอ”หลินเฟยพยักหน้าช้าๆ ความทรงจำของคนตระกูลไป๋จะไปลืมง่ายๆได้อย่างไร

“ข้าอยากลองเอาช็อกโกแลตกับขนมเค้กมาผสมกัน ข้าว่าท่านแม่ต้องชอบมากแน่ๆ”ชิวซุยตอบพลางยิ้มด้วยสีหน้าเป็นประกาย ไม่ทราบเพราะท่านแม่สอนนางว่าเกิดเป็นหญิงต้องรู้จักทำงานบ้านงานเรือนหรือเปล่า นางถึงสนใจการทำอาหารเป็นพิเศษ ถึงขั้นกลายเป็นศิษย์เอกของท่านตาราชสีห์เรื่องการทำอาหารเสียด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าคนที่จะออกมาศึกษาเรื่องอาหารน่าสนใจที่ต่างแดนไกลโพ้นเช่นนี้ก็มีแต่นางคนเดียวกระมัง