บทที่ 1221 จะไม่ทิ้งเธอไป / บทที่ 1222 หมอกหนาแน่น

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1221 จะไม่ทิ้งเธอไป

หลายวันมานี้ เธอยุ่งกับธุระยิบย่อยของบริษัทตลอด และเธอรู้ว่าซือเยี่ยหานก็ยุ่งมาก สวี่อี้ก็บอกว่าเขากำลังยุ่งกับโปรเจกต์สำคัญ เธอจึงไม่ไปรบกวนเขา ใครจะรู้ รอจนถึงตอนที่เธอติดต่อซือเยี่ยหาน กลับไม่ว่ายังไงก็ติดต่อไม่ได้ มือถือของเขาอยู่ในโหมดปิดเครื่องตลอดเวลา

ตอนแรกเยี่ยหวันหวั่นไม่ได้สนใจมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป จึงค่อยทำให้เธอรู้สึกว่าเรื่องเหมือนจะไม่ธรรมดาแบบที่เห็น

โทรศัพท์มือถือของซือเยี่ยหาน ถึงแม้จะปิดเครื่องแต่ก็ไม่มีทางเกินครึ่งวันเด็ดขาด แม้แต่โทรศัพท์ติดต่องานของซือเยี่ยหานก็ไร้คนตอบรับ

“สวี่อี้ นายมั่นใจว่า…คุณเก้าหายตัวไปจริงเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วเป็นปม

“คุณหนูหวันหวั่น บอกคุณหนูตามตรงแล้วกันครับ หลายวันมานี้ หวาเฟิงกรุ๊ปที่ต่างประเทศกับตระกูลซือมีข้อตกลงทางธุรกิจที่สำคัญมาก การติดต่อกับหวาเฟิงกรุ๊ปคุณชายเก้าลงงานด้วยตัวเองตลอด แต่หลายวันนี้ คุณชายเก้าเหมือนหายสาบสูญไปยังไงยังงั้น ไร้ข่าวคราว แม้แต่หวาเฟิงกรุ๊ปก็ติดต่อคุณชายเก้าไม่ได้เลย

ตอนนี้ตระกูลซือปิดข่าวที่คุณชายเก้าหายตัวไปไว้อย่างแน่นหนา คนนอกไม่รู้ แต่ภายในตระกูลซือเละตุ้มเป๊ะแล้วครับ…” สวี่อี้ถอนหายใจ

ในฐานะหัวหน้าตระกูลซือ ซือเยี่ยหานไม่มีทางหายไปหลายวันอย่างไร้สุ้มเสียงหรือทำให้ทุกคนติดต่อไม่ได้ นอกจากความเป็นไปได้เดียว…เกรงว่าจะเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิดบางอย่าง…

แต่ท้ายที่สุดเป็นสถานการณ์ไม่คาดคิดแบบไหน กลับไม่มีใครล่วงรู้

“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” เยี่ยหวันหวั่นรีบวางสาย ขับรถไปยังตระกูลซือ

เพิ่งมาถึงตระกูลซือ หัวใจของเยี่ยหวันหวั่นก็เย็นเยียบแล้ว

ไม่เหมือนแต่ก่อน บอดี้การ์ดในบ้านเพิ่มขึ้นหลายเท่า ราวกับอยู่ในสภาวะฉุกเฉินเผชิญข้าศึก

“คุณหนูหวันหวั่น!”

เพิ่งเข้าบ้านตระกูลซือ สวี่อี้ก็รีบร้อนเดินเข้ามาหา

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมคุณเก้าหายไปอย่างไร้เหตุผลได้” เยี่ยหวันหวั่นมองสวี่อี้พลางรีบถาม

“เฮ้อ อธิบายสั้นๆ ยากครับ…” สวี่อี้ส่ายหน้า ไหนเลยเขาจะรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ คุณชายเก้าหายตัวไปอย่างน่าพิศวง

“ดึงภาพจากกล้องวงจรปิดออกมาหรือยัง” เยี่ยหวันหวั่นถาม

ได้ยินดังนั้นสวี่อี้ก็พยักหน้า “ดึงภาพจากกล้องวงจรปิดของหลายวันนี้ออกมาหมดแล้ว แต่ไม่เจอร่องรอยของคุณเก้าสักนิดเดียวครับ…”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินคำตอบของสวี่อี้ ก็ตกอยู่ในห้วงความคิดอย่างอดไม่ได้

แม้แต่กล้องวงจรปิดของตระกูลซือก็หาเงาร่างของซือเยี่ยหานไม่เจอ จึงเหลือความเป็นไปได้แค่สองแบบ

ความเป็นไปได้แบบที่หนึ่งคือ มียอดฝีมือลักพาตัวซือเยี่ยหานไปอย่างไร้สุ้มเสียงโดยที่ตระกูลซือไม่สังเกตเห็น

ความเป็นไปได้แบบที่สองคือ ซือเยี่ยหานออกจากบ้านตระกูลซือไปเอง…

ถ้าเป็นความเป็นไปได้แบบแรก คนที่ลักพาตัวซือเยี่ยหานไปจะต้องมีความเกี่ยวข้องใหญ่หลวงกับตระกูลซือแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะหลบกล้องวงจรปิดทุกตัวในบ้านสำเร็จได้ยังไง!

เพียงแต่ว่า เยี่ยหวันหวั่นกลับคิดไปทางความเป็นไปได้แบบที่สองมากกว่า การคิดอาศัยกำลังตัวเองลักพาตัวหัวหน้าตระกูลซือที่สำนักงานใหญ่ของตระกูลซือ ก็ไม่ต่างจากเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นซือเยี่ยหานเอง เขาอยากหลบกล้องวงจรปิดก็ทำได้อย่างง่ายดาย…

แต่ไตร่ตรองหนึ่งรอบแล้ว เยี่ยหวันหวั่นกลับโยนความเป็นไปได้แบบที่สองทิ้งไปอย่างรวดเร็ว ซือเยี่ยหานไม่มีเหตุผลอะไรให้จากบ้านไปโดยไม่บอกใคร และนี่ก็ไม่เหมือนนิสัยของเขาแม้แต่น้อย

ทว่าถ้าความเป็นไปได้สองอย่างนี้ถูกโยนทิ้งไปหมดแล้ว อย่างนั้นเกิดอะไรขึ้นกับตัวซือเยี่ยหานกันแน่ ไม่มีทางที่คนจะระเหิดหายไปอย่างไร้เหตุผลอยู่แล้ว…

ด้วยนิสัยของซือเยี่ยหาน ถึงแม้จะเจอกับเรื่องยากเย็น ก็ไม่มีทางเลือกวิธีการหนีไปแบบนี้แน่ พูดอย่างน้อยที่สุดคือถึงจะเผชิญเหตุการณ์ลำบาก ซือเยี่ยหานก็ไม่มีวันปกปิดเธอ จนถึงขั้นว่า…ทอดทิ้งเธอไป…

—————————————————————————

บทที่ 1222 หมอกหนาแน่น

แต่จนตอนนี้ ปริศนาการหายตัวไปของซือเยี่ยหานก็เสมือนหมอกหนา ไม่เพียงปกคลุมทั่วตระกูลซือ แต่ยังโอบล้อมเยี่ยหวันหวั่นไว้ภายในด้วย

“สวี่อี้ คุณเก้ามีข้อตกลงทางธุรกิจที่ต้องไปจัดการต่างประเทศหรือเปล่า” เยี่ยหวันหวั่นมองสวี่อี้แล้วเอ่ยปากถาม

ได้ยินดังนั้น สวี่อี้กลับส่ายหน้า หลังจากครุ่นคิดสักครู่จึงตอบว่า “ช่วงนี้ไม่มีงานที่คุณเก้าจำเป็นต้องจัดการด้วยตัวเองเลยครับ ส่วนงานที่สำคัญที่สุดในช่วงใกล้ๆ นี้ก็คือการพูดคุยกับหวาเฟิงกรุ๊ป เป็นโปรเจกต์ใหญ่ที่ตระกูลซือกับหวาเฟิงกรุ๊ปหารือกันเมื่อหลายปีก่อน ต่อให้มีเรื่องสำคัญขนาดไหน ก็ไม่มีทางสำคัญไปกว่าหวาเฟิงกรุ๊ปหรอกครับ”

“งั้นหลายวันก่อนที่คุณเก้าจะหายตัวไป มีสัญญาณอะไรบ้างไหม” เยี่ยหวันหวั่นถามอีก

“เรื่องนี้…” สวี่อี้ขมวดคิ้วแน่น ผ่านไปครู่หนึ่งก็เอ่ย “คุณหนูหวันหวั่น ถ้าคุณพูดแบบนี้…หลายวันก่อนที่คุณชายเก้าจะหายตัวไป เขาอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นพิเศษ…โมโหง่ายมากๆ ครับ!”

“อารมณ์ฉุนเฉียว…โมโหง่าย?” ได้ยินข้อมูลที่สวี่อี้เผยออกมา เยี่ยหวันหวั่นกลับชะงัก นึกถึงครั้งนั้นที่สวี่อี้รายงานตัวเอง

“นายรู้เหตุผลว่าทำไมไหม” เยี่ยหวันหวั่นถาม

ตอนนั้นเธอเคยถามแล้ว แต่ซือเยี่ยหานพูดแค่ว่าเป็นเรื่องทางบริษัท

“เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจ แต่ยังไงหลายวันนั้นคุณชายเก้าก็เก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียวบ่อยๆ คุณเก้าถึงขั้นว่า…เกือบพังห้องทำงานเละเทะ…” สวี่อี้เอ่ย

“คุณย่าล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นเปลี่ยนประเด็น

“คุณหนูหวันหวั่น เพราะการหายตัวไปของคุณเก้า นายหญิงใหญ่วิตกกังวลจนกระทบกระเทือนจิตใจ ล้มป่วยไปแล้วครับ คุณหมอบอกว่าจำเป็นต้องพักผ่อนอย่างสงบ ทางที่ดีตอนนี้คุณหนูหวันหวั่นอย่าไปรบกวนนายหญิงใหญ่จะดีกว่าครับ” สวี่อี้จนปัญญาโดยสิ้นเชิง

เวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ได้แต่ต้องทำเช่นนี้

หัวหน้าตระกูลซือหายตัวไปไม่รู้เป็นหรือตาย ตระกูลซือเละเทะวุ่นวายนานแล้ว ถึงขนาดมีคนพูดว่าซือเยี่ยหานตายแล้ว คนเบื้องบนของตระกูลซือไม่น้อยก็เริ่มกระเหี้ยนกระหือรือในช่วงเวลาวิกฤตนี้ โชคดีที่อาศัยนายหญิงใหญ่บังคับปิดเรื่องไว้ได้ชั่วคราว แต่ถ้าซือเยี่ยหานยังไม่ปรากฏตัวอีก เกรงว่าคงปิดไว้ไม่ได้นาน

ซือเยี่ยหานในตอนนี้เหมือนภูเขาไฟก่อนการระเบิด เมื่อไรที่ภูเขาไฟระเบิดเต็มที่ ผลลัพธ์ที่ตามมา คนธรรมดายากจะคาดเดาโดยสิ้นเชิง

และผลกระทบร้ายแรงอย่างนี้ ซือเยี่ยหานในฐานะหัวหน้าตระกูลซือไม่มีทางไม่รู้เด็ดขาด ดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นสรุปได้ว่า การหายตัวไปของซือเยี่ยหานน่าจะมีคนชักนำ…

“นายไปทำงานก่อนเถอะ” หลังผ่านไปพักหนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นหันไปเอ่ยกับสวี่อี้

“ครับคุณหนู ตอนนี้ตระกูลซือโกลาหลมากจริงๆ ยังมีอีกหลายเรื่องที่จำเป็นต้องจัดการ…คุณหนูหวันหวั่นก็อย่ากังวลเกินไปนะครับ บางทีอีกไม่นานคุณเก้าก็กลับมา…” สวี่อี้มองเยี่ยหวันหวั่น ถอนหายใจแล้วก็ผละไป

ถึงแม้ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นร้อนใจจนแทบบ้า อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวซือเยี่ยหานกันแน่ และตอนนี้ซือเยี่ยหานอยู่ที่ไหนอีก แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ไม่มีเงื่อนงำเลยแม้แต่น้อย

ตามที่สวี่อี้ว่าไว้ หลายวันก่อนตอนที่ซือเยี่ยหานจะหายตัวไป เขาขังตัวเองอยู่ในห้องหนังสือตลอด…

สักครู่หลังจากนั้น เยี่ยหวันหวั่นเดินไปที่ห้องหนังสือของซือเยี่ยหาน

ในห้องหนังสือของเขาเละเทะยุ่งเหยิง โทรศัพท์ตั้งโต๊ะถูกเขวี้ยงลงบนพื้นอย่างแรง เศษเปลือกนอกกระจายเต็มพื้น เก้าอี้ไม้แท้หลายตัวก็หักเป็นชิ้นๆ

เยี่ยหวันหวั่นหยิบโทรศัพท์ตั้งโต๊ะที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา หลังตรวจสอบไปหนึ่งรอบ ก็พบว่าโทรศัพท์ตกลงมาพังแล้ว แต่ยังพอตรวจหมายเลขผู้ติดต่อได้อยู่

และหมายเลขผู้โทรสายสุดท้าย ก็ตรงกับเวลาที่ซือเยี่ยหานหายตัวไปพอดี

………………….