บทที่ 693 อวิ๋นจิ่นล้างแค้นเพื่อเจ้านาย

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 693 อวิ๋นจิ่นล้างแค้นเพื่อเจ้านาย

เมื่อฉีเฟยอวิ๋นฟื้นขึ้นมา อ๋องตวนก็เดินไปเดินมาอยู่ที่หน้าประตู มีอีกาอยู่บนหลังคาเต็มไปหมด ราชครูจวินยืนกอดอกอยู่ข้างนอก บริเวณโดยรอบพังทลายลง เขาเป็นเหมือนชายชราตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง

หนานกงเย่และฉีเฟยอวิ๋นนอนอยู่ข้างใน และฉีจือซานก็ไม่ได้ออกมา เขากังวลว่าจะเกิดเรื่องขึ้น อ๋องตวนให้คนไปตามอวิ๋นจิ่น แต่นางยังไม่มา

ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นจากเตียงและไม่เห็นคนอื่น นางเห็นเพียงหนานกงเย่ที่จับมือของนางไว้ และเห็นว่าเขานอนหมดสติอยู่ นางจึงจับข้อมือของเขาและใช้สมาธิตรวจดู อวัยวะภายในไม่ค่อยดีนัก ร่างกายของเขาอ่อนแอและหมดสติยังไม่ฟื้น

ฉีเฟยอวิ๋นยกข้อมือขึ้นมากัด และให้หนานกงเย่ดื่มเลือดของนาง

หนานกงเย่ดื่มเลือด เขาค่อยๆ มีสติ และร่างกายของเขาก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แต่ฉีเฟยอวิ๋นนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาแต่ไม่ตอบสนอง

หนานกงเย่จับมือของฉีเฟยอวิ๋นและลุกขึ้นจากเตียง ฉีเฟยอวิ๋นค่อย ๆ ล้มลงข้าง ๆ หนานกงเย่กอดนางไว้ ร่างกายของฉีเฟยอวิ๋นไร้เรี่ยวแรงเหมือนไม่มีกระดูก หนานกงเย่เจ็บปวดใจ

“อวิ๋นอวิ๋น……”

ฉีเฟยอวิ๋นยิ้ม:“ท่านพ่อของหม่อมฉันได้รับบาดเจ็บ และยังไม่หายดี พระองค์นำยานี้ไปมอบให้อวิ๋นจิ่น และให้อวิ๋นจิ่นหาวิธีเกลี้ยกล่อมให้เขากินยา หม่อมฉันไม่เป็นไร อีกไม่นานก็หายแล้วเพคะ”

หนานกงเย่ก้มลงมองยาของฉีเฟยอวิ๋น จากนั้นก็เก็บไว้และพยักหน้า

ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า:“เจ้าของร่างเดิมไปหาท่านแม่ของนาง ระบบร่างกายของหม่อมฉันถูกนางขัดขวาง และส่วนมากจะไม่สามารถกู้คืนได้ และความสามารถในการรักษาตัวเองให้หายก็มีปัญหา ในช่วงเวลานี้จึงไม่อยากทะเลาะเบาะแว้งกับท่านพ่อ”

“อาการบาดเจ็บของหวาชิงไม่น่าจะสาหัสนัก กินยาสักเม็ดก็คงจะหายดี ท่านอ๋อง หม่อมฉันอยากพักผ่อนเพคะ!”

ในขณะที่ฉีเฟยอวิ๋นพูด นางก็เอนตัวเข้าไปในอ้อมแขนของหนานกงเย่ หนานกงเย่กอดฉีเฟยอวิ๋นไว้แน่น หัวใจของเขาสั่นสะท้าน:“อวิ๋นอวิ๋น……”

หนานกงเย่ลุกขึ้น เขาวางฉีเฟยอวิ๋นลงแล้วตะโกนว่า:“มีใครอยู่ข้างนอกบ้าง?”

อ๋องตวนผลักประตูเข้าไปในทันที และอีกาก็บินเข้ามาเช่นกัน

หลังจากที่อ๋องตวนเข้ามา หนานกงเย่ก็ถามว่า:“อวิ๋นจิ่นมาแล้วหรือไม่?”

อ๋องตวนรีบมองหนานกงเย่อย่างละเอียดถี่ถ้วน เมื่อเห็นว่าเขาไม่เป็นไร อ๋องตวนก็โล่งใจและกล่าวว่า:“ใกล้ถึงแล้ว”

“ไปรออวิ๋นจิ่น เมื่อพบอวิ๋นจิ่นแล้วให้นางมาที่นี่”

“อืม”

อ๋องตวนมองไปที่ฉีเฟยอวิ๋นและถามว่า:“พระชายาเย่เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ยังไม่รู้พ่ะย่ะค่ะ พี่รองไปรอก่อน”

อ๋องตวนไม่ได้พูดอะไรมากนัก และหันหลังกลับไปรออวิ๋นจิ่นอยู่ข้างนอก

ในเวลานี้อวิ๋นจิ่นก็พาอามู่และเสี่ยวเฉียวมา เฟิงอู๋ชิงอุ้มเจ้าห้าตามหลังมา และจามมาด้วยอู๋ซัง

เมื่ออ๋องตวนเห็นอวิ๋นจิ่นก็กล่าวว่า:“เจ้าเข้าไปข้างในก่อน”

อวิ๋นจิ่นไม่มีเวลาที่จะอย่างอื่นและรีบไปหาฉีเฟยอวิ๋น

“อวิ๋นจิ่นขอเข้าเฝ้า”

“เข้ามา” หนานกงเย่เรียกอวิ๋นจิ่นเข้าไป และอวิ๋นจิ่นก็รีบผลักประตูเข้าไป

หลังจากเข้าไปแล้ว อวิ๋นจิ่นก็มองไปข้างหน้า นางเห็นฉีเฟยอวิ๋นนอนอยู่ข้างในด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว นางจึงรีบเดินเข้าไป:“นายท่าน”

“อวิ๋นอวิ๋นไม่เป็นไร อวิ๋นจิ่น แม่ทัพฉีและหวางต่างก็ได้รับบาดเจ็บ นี่เป็นยา หาวิธีให้แม่ทัพฉีกินยานี้ หลังจากที่หวาชิงกินยานี้แล้ว อย่าปล่อยให้นางมารบกวน อวิ๋นอวิ๋นต้องการพักฟื้น และข้าจะอยู่ดูแลนางที่นี่ ส่วนคนอื่น ๆ ไม่ต้องการที่จะพบ”

“ท่านอ๋อง……” อวิ๋นจิ่นรับยาแล้วมองไปที่ข้อมือของฉีเฟยอวิ๋น ข้อมือของฉีเฟยอวิ๋นมีบาดแผล ราวกับว่าเปื่อยเน่า แต่ไม่มีบาดแผล

อวิ๋นจิ่นน้ำตาซึม:“ทำไมถึงยังไม่หายเองอีก?”

อวิ๋นจิ่นรู้เรื่องนี้ หนานกงเย่ส่ายหัว:“ไม่แน่ใจ เจ้าไปจัดการตามที่บอกก่อนเถอะ ในเมื่ออวิ๋นอวิ๋นมอบหมายหน้าที่ให้เจ้า นั่นหมายความว่านางมีวิธีในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ต้องรักษาเสถียรภาพของแม่ทัพฉีและคนอื่น ๆ พระชายาเย่และจวนแม่ทัพมอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้า”

“แล้วท่านอ๋องล่ะเพคะ?” เห็นท่าทางของหนานกงเย่แล้ว อวิ๋นจิ่นก็กังวลมากยิ่งขึ้น

“อวิ๋นอวิ๋นเป็นเช่นนี้ ข้าจะสามารถทำอะไรได้ ข้าจะอยู่เฝ้าอวิ๋นอวิ๋น” หนานกงเย่อุ้มฉีเฟยอวิ๋นเข้ามาตัวพิงอยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้วจูบนาง

อวิ๋นจิ่นถอยออกไป และเห็นว่าเฟิงอู๋ชิงเดินเข้าไป:“เจ้าหอเฟิง”

เฟิงอู๋ชิงหมดความอดทน หญิงผู้นั้นหายไปไหนแล้ว?

“พูด”

“นายท่านได้รับบาดเจ็บ ท่านอ๋องอย่าออกจากตำแหน่งโดยพลการนะเจ้าคะ ทางด้วนจวนแม่ทัพไม่มีอะไร แน่นอนว่าอวิ๋นจิ่นจะดูแลเป็นอย่างดี อวิ๋นจิ่นกังวลว่าจวนอ๋องเย่จะเกิดเรื่อง จึงรบกวนให้เจ้าหอเฟิงมาช่วยดูแล อวิ๋นจิ่นขอบคุณล่วงหน้า”

สีหน้าของอวิ๋นจิ่นซีดเซียวและรู้สึกไม่ค่อยดี

แววตาของเฟิงอู๋ชิงดูเย็นชา:“อู๋ฮัวเป็นอะไรไป?”

“เป็นลมจนได้รับบาดเจ็บ นางเป็นหมอ ปกติแล้วจะมีวิธีรักษาตัวเองให้หายได้ แต่ครั้งนี้เกรงว่ามันจะง่ายเกินไป”

สีหน้าของเฟิงอู๋ชิงดูเย็นชา:“ใครทำ?”

อ๋องตวนกล่าวว่า:“แม่ทัพฉี”

อวิ๋นจิ่นมองไป:“ท่านอ๋องตวน พระองค์กับท่านราชครูจวินมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำไป เช่นนั้นกลับไปก่อนจะดีกว่า อย่ายุ่งกับเรื่องนี้เลย เรื่องในครอบครัว รอให้นายท่านฟื้นขึ้นมาก่อน แล้วค่อยว่ากัน”

อวิ๋นจิ่นเป็นคนฉลาด และรู้ว่าผู้คนที่นี่แยกจากกันไม่ได้

อ๋องตวนคิดว่าจะอยู่ต่อก็ไร้ประโยชน์ เขาจึงกล่าวว่า:“ท่านราชครูจวิน เราไปกันก่อนเถอะ”

ราชครูจวินก็ไม่อยากอยู่ต่อ จึงเดินจากไปก่อน

หลังจากที่พวกเขาจากไปแล้ว เฟิ่งอู๋ชิงก็กล่าวว่า:“ฉีเฟยอวิ๋นไม่ได้สติหรือ?”

อวิ๋นจิ่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง:“เกรงว่าจะเป็นเพราะจดจ่อกับการขณะฝึกวรยุทธมากเกินไป เจ้าหอเฟิง เรื่องนี้รอให้นายท่านฟื้นขึ้นมาก่อนแล้วค่อยพูดกัน เชิญเจ้าหอเฟิงกลับไปที่จวนอ๋องเย่ก่อนเถอะ”

“ไปดูอู๋ฮัวก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เฟิงอู๋ชิงจะเดินไปหาฉีเฟยอวิ่น เสี่ยวเฉียวและอามู่ขวางไว้ในทันที

“พวกเจ้าจะทำอะไร เสี่ยวเฉียว หลบไป!” เฟิงอู๋ชิงไม่สบอารมณ์ ลูกศิษย์ของเขาเชื่อฟังอู๋ฮ้ว

เสี่ยวเฉียวรู้สึกลำบากใจ:“ท่านแม่ต้องการการพักผ่อน อาจารย์อย่าเข้าไปเลยเจ้าค่ะ”

“ใช่ อาจารย์จะเข้าไปไม่ได้นะขอรับ เชิญเจ้าหอเฟิงกลับไปก่อน ตวนอ๋องเย่ต้องการเจ้าหอ”

อวิ๋นจิ่นเหลือบมองไปที่เด็กทั้งสองคนและมองไปที่เฟิงอู๋ชิง:“เจ้าหอ อวิ๋นจิ่นขอร้องท่าน”

อวิ๋นจิ่นยกกระโปรงขึ้นและกำลังจะคุกเข่า แต่เฟิงอู๋ชิงเพิกเฉย และผลักประตูห้องของฉีเฟยอวิ๋น ไม่มีใครอยู่ข้างใน อวิ๋นจิ่นเองก็ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ในห้องมีเพียงความว่างเปล่า และคราบเลือดที่หลงเหลืออยู่บนพื้น แสดงให้เห็นว่าเคยมีตนอยู่ที่นี่จริง ๆ

เฟิงอู๋ชิงหันไปมองรอบ ๆ แต่ไม่มีใครอยู่เลย

อวิ๋นจิ่นกล่าวว่า:“เจ้าหอ กลับไปช่วยจวนอ๋องเย่เถอะ แม้ว่าจะไม่ช่วยก็ไปรอพระชายาเย่อยู่ที่นั่นจะดีกว่า”

เฟิงอู๋ชิงกล่าวว่า:“ข้ากลับไปก็ได้ แต่หกเกิดอะไรขึ้นกับอู๋ฮัว ข้าจะล้างจวนแม่ทัพด้วยเลือด”

“เจ้าค่ะ”

อวิ๋นจิ่นตกลง เฟิงอู๋ชิงจึงหันหลังจากไป จากนั้นอู่ซังก็ได้รับคำสั่ง

“ไปตามหวาอู๋ฮัว”

“ขอรับ”

หลังจากส่งทุกคนออกไปแล้ว อวิ๋นจิ่นก็หยิบยาออกมาให้หวาชิงกินหนึ่งเม็ด และให้คนพาหวาชิงไปสงที่จวนอ๋องเย่ จากนั้นก็อธิบายกับหวาชิงว่าคนหายไปแล้ว และต้องการให้นางไปรอที่จวนอ๋องเย่

หลังจากที่หวาชิงถูกส่งตัวไปแล้ว อวิ๋นจิ่นก็มองไปที่แม่ทัพฉีที่อยู่ในห้อง นางสั่งให้อามู่และเสี่ยวเฉียวดูแลแม่ทัพฉีให้ดี และรีบไปเชิญช่างฝีมือมาในทันที

อามู่รับหน้าที่ในทันทีและเรียกพ่อบ้านมาสั่งการ

อวิ๋นจิ่นไปดูแม่ทัพฉีด้วยตนเอง

หลังจากเคาะประตูแล้ว อวิ๋นจิ่นก็รออยู่นาน แต่ไม่มีใครตอบ อวิ๋นจิ่นจึงกล่าวว่า:“ท่านแม่ทัพ อวิ๋นจิ่นจะเข้าไปแล้วนะเจ้าคะ

อวิ๋นจิ่นผลักเปิดประตูเข้าไป จากนั้นก็มีดาบมาอยู่ที่คอของอวิ๋นจิ่น อวิ๋นจิ่นยืนอยู่ที่หน้าประตูและเงยหน้าขึ้นมองแม่ทัพพฉี แม่ทัพฉีกล่าวว่า:“เจ้าออกไป”

อวิ๋นจิ่นกล่าวว่า:“ในนี้มียาพิษอยู่สามเม็ด วันนี้อวิ๋นจิ่นมาเพื่อฆ่าท่านอม่ทัพ ท่านแม่ทัพทำร้ายนายท่านก็อย่าคิดว่าจะมีชีวิตอยู่ได้”

“……” แม่ทัพฉีเอาดาบออกไป แล้วจ้องมองไปที่ยา:“เจ้าฆ่าข้าได้หรือ?”

“หากฆ่าไม่ได้ก็จะฆ่าตัวตายเสีย อวิ๋นจิ่นไม่สามารถล้างแค้นนายท่านได้ เช่นกันก็ตายจะตายเพื่อไถ่โทษ” ในขณะที่พูด อวิ๋นจิ่นก็กำลังจะกินยาลงไป แต่ถูกแม่ทัพฉีผลักออก