ตอนที่ 702 ใจอ่อน / ตอนที่ 703 การแข่งขัน

ตามใจรัก สาวนักแฮก

ตอนที่ 702 ใจอ่อน

 

 

ถงเยียนเดินเข้ามาใกล้ๆ ผู้อาวุโสเฉินแล้วเริ่มอ้อนวอน

 

 

“คุณตา หนูก็อยากจะอยู่ทานอาหารเย็นด้วยเหมือนกัน”

 

 

“คุณตา ได้โปรดอย่าเมินหนูเลยนะคะ”

 

 

“คุณตา หนูคิดถึงคุณตาจริงๆ นะ หนูไม่สามารถอยู่ห่างจากคุณตาได้”

 

 

หายากมากเหลือเกินที่ถงเยียนจะขอความเห็นใจ

 

 

ผู้อาวุโสเฉินมองเธอแล้วถอนหายใจ “ถ้าเธออยากอยู่ต่อก็อยู่เถอะ อิงอิงก็อยู่ทานมื้อเย็นด้วยกันสิ ว่าแต่พ่อแม่ของเธอเป็นยังไงบ้างล่ะ แล้วเธอมาถึงประเทศจีนตั้งแต่เมื่อไหร่”

 

 

ชุยอิงนั่งลงและตอบคำถามด้วยรอยยิ้ม “หนูมาถึงเมื่อวานค่ะคุณตาเฉิน คุณพ่อคุณแม่และปู่ย่าตายายของหนูสบายดี อันที่จริงพวกเขาฝากความคิดถึงมาถึงท่านด้วย แล้วคุณป้าอวี๋เป็นยังไงบ้างคะ”

 

 

“ป้าอวี๋สบายดี พวกเราทุกคนสบายดี ฝากความคิดถึงของฉันไปให้พ่อแม่และปู่ย่าตายายของเธอด้วยนะ”

 

 

“ดีเลยค่ะ อันที่จริงพวกเราได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของท่านก่อนหน้านี้ ปู่ย่าตายายของหนูรู้สึกเสียใจมาก ท่านก็รู้ว่าหนูกับเสี่ยวเยียนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นหนูเลยอดรู้สึกสงสารเธอไม่ได้ คุณตาเฉินคะ ความจริงแล้วเสี่ยวเยียนก็เป็นผู้เคราะห์ร้ายซึ่งไม่มีความผิดในเรื่องทั้งหมดนี้เลย และเธอเองก็ไม่สามารถอยู่ห่างจากท่านได้” ชุยอิงพูดเรื่องดีๆ แทนถงเยียน เธอรู้ว่ามันจะสามารถทำให้ความคิดของผู้อาวุโสเฉินเอนเอียง

 

 

ไม่ว่าอย่างไรผู้อาวุโสเฉินก็มีสายตาชัดเจนพอที่จะตระหนักว่าเขาไม่ควรเอาความผิดของคนรุ่นก่อนมาลงที่ถงเยียน นอกจากนี้ถงเยียนยังเติบโตขึ้นภายใต้สายตาของเขา ดังนั้นเขาเลยเข้าข้างเธอมากเป็นพิเศษ ถ้าพวกเธอสามารถทำให้ท่าทีที่ผู้อาวุโสเฉินมีต่อถงเยียนอ่อนลง ถงเยียนก็จะสามารถเป็นคนของตระกูลเฉินต่อไป

 

 

ชุยอิงกล้ายกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดก็เพราะว่าเธอสังเกตเห็นวิธีที่ผู้อาวุโสเฉินปฏิบัติต่อถงเยียน เขายังคงใจอ่อนกับหลานสาวที่เขาเป็นคนเลี้ยงมา

 

 

เป็นอย่างที่เธอคาดไว้ ผู้อาวุโสเฉินถอนหายใจ “ไม่มีใครโทษเธอเลย แต่มันยังมีอีกหลายเรื่องที่เธอไม่เข้าใจเกิดขึ้น อย่าพูดถึงเรื่องน่าเศร้าแบบนั้นอีกเลย อันที่จริงฉันประทับใจนะที่พวกเธอสองคนยังเป็นเพื่อนกันอยู่แม้จะผ่านมาหลายปีแล้ว”

 

 

“แน่นอนค่ะ ในเมื่อหนูถือว่าเธอเป็นเพื่อน ดังนั้นเธอก็จะเป็นเพื่อนของหนูไปตลอดชีวิต” ชุยอิงพูดด้วยความภาคภูมิใจ

 

 

ถงเยียนเข้าใจความนัย เธอยกมือขึ้นพูด “หนูก็เหมือนกันค่ะคุณตา! หนูถือว่าท่านคือคุณตาของหนู ดังนั้นท่านก็จะเป็นคุณตาของหนูตลอดไป! ตระกูลเฉินจะเป็นครอบครัวของหนูตลอดไป หนูเป็นคนตระกูลเฉินตราบเท่าที่หนูยังมีลมหายใจอยู่!”

 

 

ผู้อาวุโสเฉินตกตะลึงราวกับว่าเขาประทับใจกับคำประกาศของถงเยียน ชุยอิงสังเกตปฏิกิริยาของเขาแล้วรีบส่งส่งสัญญาณให้ถงเยียน

 

 

ถงเยียนเข้าใจ เธอเดินเข้าไปโอบรอบแขนของผู้อาวุโสเฉินแล้วเริ่มร้องไห้ “คุณตาคะ หนูรู้ว่าหนูเป็นเด็กที่ดื้อรั้น แต่หนูสัญญาว่านับแต่นี้ไปหนูจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง! ได้โปรดอย่าไล่หนูไปเลย หนูไม่อยากเสียทุกคนไป หนูอยากให้ท่านเป็นคุณตาของหนูตลอดไป!”

 

 

“ทำไมคุณตาเฉินถึงไม่รับเสี่ยวเยียนกลับมาล่ะคะ เธอได้รับบทเรียนแล้วจริงๆ และเธอก็ไม่อยากจะจากพวกคุณทุกคนไป เสี่ยวเยียนเป็นหลานสาวคนเดียวของท่าน ถึงแม้ว่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด เธอก็เติบโตขึ้นมาต่อหน้าท่าน หนูแน่ใจว่าท่านเองก็ไม่อยากจะตัดขาดกับเธอเพราะความผิดที่เธอไม่ได้ก่อหรอกใช่ไหมคะ” ชุยอิงพูดต่อ

 

 

ผู้อาวุโสเฉินซึ้งใจอย่างเห็นได้ชัด ชุยอิงพูดถูก ผู้อาวุโสเฉินคิดถึงถงเยียนจริงๆ ไม่ว่าอย่างไรหล่อนก็เป็นหลานสาวคนเดียวของเขา หนึ่งเดียวที่เขาทุ่มเทความรักทั้งหมดให้

 

 

อันที่จริงเขาก็ไม่สามารถทำใจตัดขาดกับเฉินหรูได้เหมือนกัน

 

 

อย่างไรก็ตามการเก็บพวกเธอทั้งสองคนไว้ใกล้ๆ ก็มีแต่จะย้ำเตือนผู้อาวุโสเฉินเกี่ยวกับทุกเรื่องที่ตระกูลหลินทำ ดังนั้นอย่างน้อยในตอนนี้เขาก็ไม่สามารถอ้าแขนต้อนรับเฉินหรูและถงเยียนกลับมาได้

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 703 การแข่งขัน

 

 

อย่างไรก็ตามความตั้งใจของเขากำลังพังทลายลงเมื่อพวกเธอมาอ้อนวอนเขาแบบนี้ ไม่ว่าอย่างไรความทรงจำของครอบครัวที่มีร่วมกันมาหลายสิบปีก็ไม่สามารถลืมได้ง่ายๆ แบบนั้น ผู้อาวุโสเฉินเป็นคนยุติธรรมต่อหน้าสาธารณชน แต่เขามักจะมีจุดอ่อนเมื่อเป็นเรื่องของครอบครัว

 

 

เฉินหรูกับถงเยียนไม่ได้มีสายเลือดเดียวกับเขา แต่เขาก็อยู่กับพวกเธอมาหลายปีแล้ว ดังนั้นมันคงเป็นการโกหกหากจะพูดว่าเขาไม่มีเยื่อใยต่อพวกเธอเลย ยิ่งไปกว่านั้นมันก็ผ่านมาสักพักแล้วหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น บวกกับที่ถงเยียนพยายามทำตัวให้เป็นที่รักใคร่ของเขา หัวใจของเขาก็เลยอ่อนยวบลงกว่าเดิม

 

 

ผู้อาวุโสเฉินรู้ว่าลึกๆ แล้วเขาก็ไม่สามารถตัดพวกเธอออกไปจากชีวิตได้ ก่อนหน้านี้เขาเต็มใจที่จะเสียสละทั้งชีวิตของเขาเพื่อถงเยียนตอนที่เขายอมให้เธอแต่งงานกับหลินเซวียน ดังนั้นแน่นอนว่าเขาเป็นห่วงเธอ

 

 

ผู้อาวุโสเฉินมองถงเยียนแล้วพูด “เสี่ยวเยียน ถ้าเธอได้รับบทเรียนแล้วจริงๆ ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะรับเธอกลับมา แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เธอต้องเข้าใจ ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้ตระกูลหลิน”

 

 

ถงเยียนรู้สึกได้ถึงความสุขที่ท่วมท้นเข้ามาในใจของเธอและเธอก็ประกาศออกมาทันที “คุณตาคะ หนูไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลหลิน! พวกเขาเป็นคนชั่วร้ายและพวกเขาไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของหนูกับคุณแม่ ดังนั้นหนูจะไม่มีวันยอมรับว่าพวกเขาเป็นญาติของหนู ทุกอย่างที่พวกเขาได้รับมันก็สมควรแล้ว ดังนั้นอย่าห่วงเลยค่ะ พวกเราจะอยู่ข้างคุณตาเสมอ สนับสนุนคุณตา ไม่ใช่พวกเขา!”

 

 

ถงเยียนพูดต่อ “คุณแม่ก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ในใจของพวกเราคุณตาและตระกูลเฉินเป็นครอบครัวที่แท้จริง พวกเราได้ตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับตระกูลหลินแล้วและจะไม่สงสารพวกเขาสักนิด จะมีก็แค่ความเสียใจเท่านั้นที่ก่อนหน้านี้เราเคยโดนพวกเขาหลอกเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้คุณแม่กับหนูขอยอมตายดีกว่าที่จะต้องไปคลุกคลีกับตระกูลหลิน! คุณตาคะ พวกเราเห็นตระกูลเฉินเท่านั้นที่เป็นครอบครัวของเรา ไม่ใช่ตระกูลอื่น”

 

 

ผู้อาวุโสเฉินซาบซึ้งใจกับคำประกาศของเธอ เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อรู้ว่าพวกเธอได้รับบทเรียนแล้วและมีจุดยืนที่ชัดเจน ความอึดอัดที่อยู่ในใจของเขาค่อยๆ ได้รับการปลดปล่อย

 

 

ในที่สุดผู้อาวุโสเฉินก็ยิ้มให้เธอและพูดว่า “ดีแล้วที่พวกเธอสองคนเลือกทางที่ถูกต้อง ความจริงแล้วฉันก็ไม่สามารถทำใจปล่อยพวกเธอสองคนให้อยู่กันตามลำพัง แต่เรื่องบางอย่างก็ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ถึงแม้ว่าเราจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม”

 

 

“ไม่เป็นไรค่ะ!” ถงเยียนพูดด้วยขอบตาแดงๆ “ตราบใดที่คุณตาเห็นพวกเราเป็นครอบครัวอีกครั้งหนูก็ไม่คิดมากหรอกว่าคุณตาจะปฏิบัติกับพวกเรายังไง ขอแค่อย่าปฏิบัติกับพวกเราเหมือนคนแปลกหน้า มันทำให้เราเจ็บปวดหัวใจจริงๆ”

 

 

“เห็นไหมล่ะคะคุณตาเฉิน ตระกูลเฉินคือสิ่งสำคัญที่สุดในใจของเสี่ยวเยียน…” ชุยอิงช่วยพูด

 

 

ผู้อาวุโสเฉินค่อยๆ เอนเอียงไปตามการชักจูงของพวกเธอแล้วใจของเขาก็ค่อยๆ เปิดรับถงเยียนเข้ามาอีกครั้ง ไม่ว่าอย่างไรการประคบประหงมและตามใจถงเยียนก็เป็นสิ่งที่เขาทำเป็นประจำมายี่สิบปีแล้ว ชั่วขณะที่ปราการด่านแรกแตกร้าว มันก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับถงเยียนที่จะหาทางกลับเข้ามาในหัวใจของผู้อาวุโสเฉินอีกครั้ง

 

 

ถงเยียนดีใจมากและชวนเขาคุยต่อไม่หยุดเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่มีเวลาสำหรับซิงเหอ ถึงแม้ว่าซิงเหอจะถูกละเลย แต่เธอก็ไม่ได้แสดงความรำคาญใดๆ ออกมาบนใบหน้า เธอแค่มองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยแววตาเฉยชา

 

 

แต่อาลิโกรธแทนเธอ!

 

 

ถงเยียนคนนี้เป็นใครกันถึงกล้ามาแยกซิงเหอออกจากผู้อาวุโสเฉิน มองดูผู้อาวุโสเฉินที่ค่อยๆ เปิดใจรับถงเยียนกลับมา เธอก็อยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าซิงเหอเป็นหลานสาวแท้ๆ ของเขา!

 

 

ถงเยียนไม่มีสิทธิ์ที่จะกีดกันซิงเหอออกมาแต่ในเมื่อซิงเหอไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ อาลิก็ไม่กล้าลงมือทำอะไรเอง เธอสามารถทำให้ตัวเองพอใจด้วยการคิดถึงความจริงเท่านั้น

 

 

คงเป็นเพราะความไม่พอใจของอาลิชัดเจนเกินไป จู่ๆ ผู้อาวุโสเฉินเลยบอกกับถงเยียน “ฉันมีบางอย่างจะปรึกษากับซิงเหอ เธอเล่นกับอิงอิงไปก่อนนะ”