บทที่ 512 เปลี่ยนคู่เต้นรำ

รักหวานอมเปรี้ยว

พอมายืนอยู่ใกล้กันแล้ว เธอก็จะมองเห็นพวกเขาได้ตลอด จากนั้น……

มายมิ้นท์ก้มหน้าลง เห็นได้ชัดว่าอารมณ์เริ่มไม่ดีขึ้นมาแล้ว

พอทามทอยสัมผัสได้ ก็มองไปที่เปปเปอร์และพี่ลีน่า แล้วก็รู้สาเหตุที่ทำให้เธออารมณ์ไม่ดีขึ้นมาแล้ว

มันก็ใช่อยู่ เธอกลับมาตกหลุมรักเปปเปอร์เข้าอีกครั้ง พอเห็นเปปเปอร์เต้นรำอยู่กับผู้หญิงอื่น แถมยังมาอยู่ตรงหน้าด้วย จะให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้ยังไงกัน

แอบถอนหายใจเงียบ ๆ ไปทีหนึ่ง ทามทอยก็ยิ้มแล้วก็กล่าวทักทายเปปเปอร์และพี่ลีน่า “เปปเปอร์ พี่ลีน่า พวกคุณก็มาเต้นรำด้วยเหรอ”

“ใช่ มาเต้นเป็นเพื่อนใครบางคนน่ะ” พี่ลีน่าตบไหล่เปปเปอร์เล็กน้อย

เปปเปอร์เหล่ตามองเธอทีหนึ่ง เพื่อแสดงให้เธอรู้ว่าอย่าตบไปเรื่อย จากนั้นก็เบือนสายตามาอยู่ที่ตัวมายมิ้นท์

แน่นอนว่ามายมิ้นท์นั้นสัมผัสได้แล้วว่ามีคนมองมาที่ตัวแต่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร

เธอเองก็ไม่ได้เงยหน้าไปดู แล้วก็ไม่อยากเงยหน้าขึ้นไปมองด้วย

เพราะว่าในใจเธอนั้นชัดเจนดี ถ้าเห็นเปปเปอร์กับพี่ลีน่าคนนั้น ก็จะยิ่งทำให้อารมณ์เสียยิ่งขึ้นไปอีก

พอเห็นมายมิ้นท์ไม่สนใจตัวเอง เปปเปอร์ก็เม้มปากขึ้นทีหนึ่ง บรรยากาศรอบตัวก็ยิ่งหนักหน่วงขึ้นมาอีก

ดวงตาของพี่ลีน่ากลอกไปมาเล็กน้อย จากนั้นก็เม้มปากแล้วยิ้มขึ้นมา แล้วตั้งใจถามขึ้นมาว่า “ทามทอย คู่เต้นของนายคนนี้เป็นคุณหนูจากตระกูลไหนเหรอ?”

“……” ทามทอยรู้สึกไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดีแล้ว

ถ้าจะบอกว่ามาจากตระกูลกิตติภัคโสภณ พี่ลีน่าก็จะเดาออกได้ทันทีว่ามายมิ้นท์เป็นภรรยาเก่าของเปปเปอร์

ภรรยาเก่าของเปปเปอร์ แต่มาเต้นรำอยู่กับเพื่อนของเปปเปอร์ นี่ดูยังไงมันก็รู้สึกแปลก ๆ อยู่

พอมายมิ้นท์สัมผัสได้ถึงความลำบากใจของทามทอย แล้วบวกกับพี่ลีน่าคนนี้ได้ถามถึงตัวเธอขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะด้วยมารยาท หรือการช่วยแก้สถานการณ์ให้กับทามทอย

มายมิ้นท์ก็รู้ว่าตัวเองจะมาแกล้งทำเป็นเคร่งขรึม ทำเป็นไม่เห็นอะไรเลยอีกไม่ได้แล้ว

เธอค่อย ๆ สูดลมหายใจเข้าไปทีหนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา และสายตาก็มองข้ามเปปเปอร์ไป ไปตกอยู่ที่ใบหน้าพี่ลีน่า “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมายมิ้นท์ค่ะ”

“คุณชื่อมายมิ้นท์ งั้นก็เป็น……” พี่ลีน่าแสร้งทำเป็นมองไปที่เปปเปอร์อย่างตกใจ

มายมิ้นท์ตอบอืมไปคำหนึ่ง “ใช่ค่ะ ฉันเป็นภรรยาเก่าของคุณผู้ชายที่อยู่ข้างกายคุณ แต่ว่าคุณผู้หญิงไม่ต้องเป็นกังวลใจไปหรอกนะคะ ฉันกับประธานเปปเปอร์ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรต่อกันแล้ว”

พอได้ยินคำพูดนี้ หัวคิ้วของเปปเปอร์ก็ขมวดเข้าหากันแน่น

คำพูดของเธอนี้มันหมายความว่ายังไงกัน?

เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?

พี่ลีน่าเองก็อึ้งไปก่อนครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตั้งสติขึ้นมาได้ แล้วก็ขำขึ้นมา “คุณมายมิ้นท์ คุณนี่ตลกจริง ๆ เลยนะคะ ฉันกับเปปเปอร์ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณ……”

“พี่ลีน่า” คำพูดของเธอยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนทามทอยที่รู้สึกถึงอันตรายพูดขัดขึ้นมาทันทีว่า “พี่ลีน่า เปปเปอร์ ดนตรีจะเริ่มบรรเลงแล้ว ดังนั้นคำทักทายก็ปล่อยผ่านไปก่อนเถอะครับ ตรงนี้คนค่อนข้างเยอะ ผมกับมายมิ้นท์จะเหลือที่ไว้ให้พวกคุณละกัน พวกเราไปทางนั้นกันดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวเต้นไปเต้นมา จะชนกันได้ง่าย ๆ”

พูดแล้ว เขาก็ลากมายมิ้นท์เดินไปอีกทางหนึ่ง

พี่ลีน่าจ้องมองแผ่นหลังของพวกเขา แล้วก็ลูบคางขึ้นเล็กน้อย “เปปเปอร์ ทามทอยตั้งใจพูดขัดคำพูดของฉัน เหมือนกับว่าเขาจะไม่อยากให้ภรรยาเก่านายรู้ว่าพวกเรามีความสัมพันธ์อะไรกันนะ”

“ผมรู้ครับ” เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย “เพราะว่าเขาชอบมายมิ้นท์”

ตอนนี้ทามทอยก็น่าจะสัมผัสได้แล้วว่ามายมิ้นท์มีความรู้สึกต่อเขาขึ้นมาใหม่อีกครั้งแล้ว

เพราะฉะนั้นก็เลยอยากจะให้มายมิ้นท์เข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับพี่สาวไปเรื่อย ๆ

เพราะมีแต่แบบนี้ มายมิ้นท์ถึงจะอยากอยู่ห่าง ๆ เขาไว้

ดูไม่ออกจริง ๆ ว่าทามทอยในตอนนี้ก็รู้จัดใช้เล่ห์กลแบบนี้ขึ้นมาแล้ว

เปปเปอร์จ้องมองไปที่ทามทอย แล้วดวงตาก็หรี่ลงมาอย่างชั่วร้าย

“อะไรนะ? เขาชอบมายมิ้นท์เหรอ?” พี่ลีน่าโดนคำพูดของเปปเปอร์ทำให้ตกตะลึงจนสติหลุดหายไป “เขา……เขามาชอบมายมิ้นท์ได้ยังไงกัน เขาเป็นเพื่อนของนายนะ หรือว่าเขาไม่รู้เหรอ……”

“ไม่เป็นไร” เปปเปอร์ขยับเรียวปากพูดเสียงเย็นขึ้น “ถึงเขาจะชอบมายมิ้นท์ ผมก็ไม่มีทางปล่อยให้เขาเป็นแฟนกับมายมิ้นท์หรอก”

มายมิ้นท์ จะต้องเป็นของเขาเท่านั้น!

“งั้นนายกะว่าจะทำยังไง?” พี่ลีน่าถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

เปปเปอร์ไม่ได้ตอบกลับไปตรง ๆ แต่กลับเอ่ยเตือนขึ้นมา “พี่ ดนตรีมาแล้ว”

เสียงดนตรีจังหวะวอลทซ์ดังขึ้นมา ชายหญิงที่อยู่ในฟลอร์เต้นรำต่างก็ขยับตัวกันขึ้นมา เริ่มเต้นกันขึ้นมา เขย่งเท้า หมุนตัว เดินหน้า และถอยหลัง

การเต้นจังหวะวอลทซ์นั้นไม่ได้เหมือนกับการเต้นลีลาศแบบอื่นที่จะสนุกสนานคึกคัก แต่มันเป็นการเต้นรำที่อ่อนโยนและสง่างาม แต่ละท่วงท่า ล้วนทำให้มีความรู้สึกน่าชื่นชมทั้งนั้น

ถึงแม้ว่ามายมิ้นท์จะเต้นรำอยู่กับทามทอย แต่ความคิดและความสนใจ ไม่ได้อยู่บนตัวทามทอยเลย แต่กลับหนีไปอยู่ที่เปปเปอร์แล้ว

เธอจ้องมองเปปเปอร์และพี่ลีน่าคนนั้น แล้วในใจก็รู้สึกหึงหวงขึ้นมา

มือใช้ได้แค่ข้างเดียว ก็ยังจะมาเต้นรำกับพี่ลีน่าคนนี้อีก

ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าตำแหน่งของพี่ลีน่าคนนี้ อยู่ในใจเขานั้นเป็นยังไง

แน่นอนว่าทามทอยก็สังเกตเห็นสายตาของมายมิ้นท์แล้ว และสายตาก็เคร่งขรึมลง แล้วมือที่วางอยู่บนเอวเธอก็กระชับขึ้นมาอัตโนมัติ และใช้แรงรั้งตัวเธอมาตรงหน้าตัวเองทีหนึ่ง

มายมิ้นท์คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนี้ จึงทำให้เกือบจะล้มเข้าไปในอ้อมกอดเขาทั้งตัวเลย

“นี่คุณทำอะไรน่ะ?” มายมิ้นท์เงยหน้าขึ้นมามองทามทอย คิ้วเรียวสวยค่อย ๆ ขมวดขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่

ทามทอยยิ้มแล้วก็ตอบกลับมาว่า “มายมิ้นท์ คุณเป็นคู่เต้นของผมนะ แต่กลับไปสนใจอยู่แต่กับคนอื่น นี่มันเรื่องอะไรกัน อย่างน้อยคุณก็ควรจะให้เกียรติผมหน่อยใช่ไหม”

พอมายมิ้นท์ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ก็ตั้งสติกลับมาได้ว่าตัวเองทำไม่ถูกต้องจริง ๆ แล้วก็หรี่ตาลง “ขอโทษค่ะ ฉัน……”

“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว หมุน” ทามทอยคลายมือที่ประคองหลวม ๆ อยู่ที่เอวเธอออก จากนั้นก็ชูมือขวาขึ้นมาให้สูง

มายมิ้นท์ก็เต้นเหมือนกับคู่เต้นหญิงคนอื่น ๆ ที่ต่างก็หมุนตัวตามมือที่ชูสูงขึ้นมาของคู่เต้น แล้วหมุนตัวอยู่กับที่ไปรอบหนึ่ง

พอหมุนตัวเสร็จแล้ว ทามทอยก็วางมือกลับไปที่เอวของมายมิ้นท์ แล้วทั้งสองคนก็กลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง แล้วก็เต้นรำต่อไป

อีกด้านหนึ่ง เปปเปอร์จ้องมองทามทอยและมายมิ้นท์ แล้วตาก็หรี่ลงทีหนึ่ง จากนั้นก็พูดเสียงต่ำกับพี่ลีน่าขึ้นว่า “พี่ เดี๋ยวตอนที่หมุนตัวครั้งใหญ่ ช่วยอะไรผมหน่อยนะ”

“ช่วยเรื่องอะไร?” พี่ลีน่าจ้องมองดูเขา

เปปเปอร์เม้มปากแล้วพูดขึ้น “ผมจะใช้โอกาสตอนที่หมุนตัวครั้งใหญ่ แย่งตัวมายมิ้นท์มา”

พี่ลีน่าเข้าใจความหมายของเขาขึ้นมาทันที แล้วก็ขำและพูดขึ้นว่า “ฟังไปแล้วดูโรแมนติกมากเลยนะ ได้ เดี๋ยวพี่จะช่วยนายเรื่องนี้เอง”

“ขอบคุณมากครับ” พอเปปเปอร์พูดขอบคุณไปคำหนึ่งแล้ว ก็หยุดลง จากนั้นก็จูงมองพี่ลีน่า แล้วเดินไปทางมายมิ้นท์กับทามทอย

พอมาถึงตำแหน่งที่ไม่ไกลจากทั้งสองคนมากนัก เปปเปอร์กับพี่ลีน่าก็ตั้งท่าขึ้นมาอีกครั้งแล้วก็เริ่มเต้นกันต่อไป

และเพราะว่าเปปเปอร์กับพี่ลีน่าอยู่ข้างหลังมายมิ้นท์ และมายมิ้นท์ยืนหันหลังให้พวกเขาอยู่ ก็เลยไม่เห็นพวกเขาเดินมา

ส่วนทามทอยที่หันหน้ามาตรงกับพวกเขาพอดีได้เห็นเข้าแล้ว หางตาก็กระตุกขึ้นมาเล็กน้อย

นี่เปปเปอร์เจตนาใช่ไหม

ตั้งใจตามมาใช่ไหม

และที่สำคัญ ดูท่าทีที่ดีใจแบบนั้นของพี่ลีน่า เหมือนกับว่าอยากจะทำอะไรบางอย่าง

ในใจทามทอยเกิดความรู้สึกไม่ดีบางอย่างขึ้นมา พอขมวดคิ้วไปหน่อยแล้ว ก็ตัดสินใจที่จะพามายมิ้นท์เปลี่ยนตำแหน่งไปที่อื่น อยู่ให้ห่าง ๆ จากพวกเขา

แต่ปรากฏว่าทามทอยยังไม่ทันได้เริ่มดำเนินการ เสียงจังหวะดนตรีก็เปลี่ยนไป และไม่อ่อนโยนขนาดนั้นอีก แล้วเปลี่ยนเป็นคึกคักขึ้นมา

และนี่ก็เป็นส่วนที่เป็นไฮไลท์ที่สุดของจังหวะวอลทซ์แบบนี้ และในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงไฮไลท์ของการเต้นรำด้วยเหมือนกัน

ชายหญิงที่เต้นรำจะต้องแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง ฝ่ายชายจะต้องผลักฝ่ายหญิงให้หมุนตัวออกไป ในตำแหน่งเกือบสองเมตร จากนั้นหญิงสาวก็จะทำท่าหมุนตัวด้วยจังหวะรวดเร็วอยู่ตรงนั้นสองครั้ง แล้วค่อยกลับมารวมตัวกับฝ่ายชายใหม่อีกครั้ง

เพราะฉะนั้นช่วงนี้ ก็เป็นช่วงที่น่าดูที่สุดของการเต้นจังหวะวอลทซ์

ทามทอยไม่มีทางออก จึงต้องชะลอความคิดที่จะพามายมิ้นท์เปลี่ยนตำแหน่งไปชั่วคราว และกะว่าพอมายมิ้นท์หมุนตัวเสร็จกลับมาแล้ว ค่อยพาเธอเปลี่ยนไปที่อื่น

แต่สิ่งที่คิดไม่ถึงก็คือ ในวินาทีที่ทามทอยผลักมายมิ้นท์ออกไปเบา ๆ นั้น พี่ลีน่าก็หมุนตัวมาอยู่ตรงหน้าเขาเลย

ส่วนเปปเปอร์ ก็ไปปรากฏตัวอยู่ตรงหน้ามายมิ้นท์

เปปเปอร์คว้าขวับมือของมายมิ้นท์มาเลย แล้วอยู่ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของมายมิ้นท์ ก็พาเธอกลับไปอยู่ในตำแหน่งที่เต้นรำกับพี่ลีน่าในตอนต้น

“มาย……” พอทามทอยเห็นเข้า สีหน้าก็ร้อนรนขึ้น และอยากจะตามไป

พี่ลีน่ากลับยิ้มแล้วโอบไหล่เขาไว้ “ทามทอย น้องชายฉันพาคู่เต้นของนายไปแล้ว ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ แต่ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่สาวอย่างฉันจะเอาตัวเองชดใช้ให้นายเอง ดังนั้นการเต้นรำต่อไปนี้ เราสองคนก็เต้นถู ๆ ไถ ๆ กันก่อนเถอะ”

มุมปากของทามทอยกระตุกแล้วกระตุกอีก

ใครจะไปเต้นถู ๆ ไถ ๆ กับคุณกัน?

“พี่ลีน่า คุณกับเปปเปอร์ตั้งใจใช่ไหม?” ทามทอยจ้องมองพี่ลีน่าด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนักและถามขึ้นมา