ตอนที่ 298 ผจญภัย / ตอนที่ 299 ศีรษะคน

จอมใจจ้าวพิษ

ตอนที่ 298 ผจญภัย

 

 

ถังเฉียนได้ยินเช่นนี้ก็ย่นคอแล้วพูดว่า

 

 

“ที่นี่เดิมมีเหมืองจริง ผลิตถ่านหินลายเงิน ได้ยินว่าทาสของเซวียนกั๋วจำนวนมากถูกส่งมาทำงานที่นี่ แต่วันนี้ข้าให้หลี่กู้อันลองสอบถาม กลับไม่มีแม้แต่คนเดียว”

 

 

หันเทียนซวี่รู้สึกว่าถังเฉียนทำการบ้านอย่างเต็มที่ รู้กระทั่งว่าที่นี่มีทาสแรงงานจำนวนมาก ยังรู้ว่าทาสต้องโทษที่ถูกเนรเทศไปที่หวังหนิงกู่ถ่าจะถูกส่งมาที่นี่

 

 

“คิดไม่ถึงว่าท่านหมออาหรูน่าจะจะรู้จักที่นี่อย่างลึกซึ้ง”

 

 

ผู้ชายในครอบครัวของถังเฉียนล้วนถูกส่งมาที่นี่ ที่จริงนางอยากหาโอกาสสอบถามดูว่ามีคนในครอบครัวนางหรือไม่ เวลานี้ถูกหันเทียนซวี่ถามเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนางนึกระแวงหรือไม่ แต่มักรู้สึกว่าหันเทียนซวี่รู้อะไรบางอย่าง

 

 

“ข้าเพียงรู้สึกว่าจู่ๆ คนหายไปมากมายขนาดนี้ น่าสงสัยมาก”

 

 

หันเทียนซวี่ได้ยินเช่นนี้ก็แหงนมองท้องฟ้า จากนั้นก็นับนิ้วมือ แล้วบอกว่า

 

 

“ที่เจ้าพูดน่าจะไม่ผิด ที่นี่ไอร้ายรุนแรงขึ้นไปบนฟ้า เป็นสถานที่อัปมงคล เกรงว่าอาจจะมีหลุมฝังศพหมื่นคนหรือสุสานแห่งนี้มีคนถูกฝังไว้มากมาย”

 

 

ถังเฉียนผงกศีรษะ นางไม่สนใจสุสาน เดิมคิดจะหาเบาะแสแต่ไม่พบ ทั้งยังไม่พบผู้ชายในสกุลถัง การมาผจญภัยครั้งนี้ดูแล้วคงไม่ได้ผลอะไร

 

 

“ไปกันเถอะ เราไม่ควรอยู่ที่นี่นานเกินไป คาถาสยบวิญญาณของข้า ไม่สามารถใช้ได้นาน”

 

 

เมื่อครู่ถังเฉียนใช้คาถาของเผ่าพีส่ากับเหาเก๋อ เรียกว่าคาถาสยบวิญญาณ เดี๋ยวนี้นางเชี่ยวชาญวิชาประหลาดเหล่านี้มากขึ้น แต่กลับละเลยวิชาสมุนไพรไปบ้าง

 

 

“คาถาสยบวิญญาณ ตอนนั้นเจ้าใช้วิชานี้กับท่านมหาเสนาบดีใช่หรือไม่”

 

 

ถังเฉียนผลักเขาทีหนึ่ง ไม่อยากยุ่งกับคนที่น่ารำคาญผู้นี้ แต่ลืมไปว่าที่นี่มีตะไคร่น้ำขึ้นเต็ม หันเทียนซวี่ลื่นล้ม ลื่นไถลลงไปตามทางบนเขา แล้วตกลงไปในน้ำดังตูม ถังเฉียนรีบวิ่งไปดู

 

 

หันเทียนซวี่หกล้มไม่เบา กอดขาตัวเองไว้ไม่กล้าขยับตัว ถังเฉียนเห็นเช่นนี้ก็นึกเสียใจ

 

 

“ขึ้นมาเถอะ ข้าจะแบกเจ้ากลับไป ต้องโทษที่ข้าไม่ระวัง ลืมไปว่าแถวนี้มีตะไคร่น้ำขึ้นเต็มไปหมด ทำให้เจ้าเดือดร้อน”

 

 

ร่างส่วนใหญ่ของหันเทียนซวี่จมอยู่ในน้ำ อยู่ที่นี่พอลมพัดก็หนาวจนตัวสั่น ถังเฉียนคิดว่าต้องพาเขากลับไปก่อน แล้วก่อไฟผิงให้อุ่น ไม่เช่นถ้าเกิดล้มป่วยที่นี่ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

 

 

“โทษข้าเองที่ทำอะไรบุ่มบ่าม”

 

 

ถังเฉียนยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น กลับเป็นหันเทียนซวี่ที่ไม่โกรธ เขายกมือขึ้นโบกไปมา แล้วรู้สึกว่านิ้วมือเกี่ยวกับอะไรบางอย่าง จึงหันมาจะเอาของสิ่งนั้นออก

 

 

“เป็นอะไรไป? ต้องให้ข้าช่วยหรือไม่”

 

 

ถังเฉียนเห็นเขามีท่าทางไม่สบาย จึงขยับเข้าไปดูใกล้ๆ พอมองดูใต้แสงจันทร์ ก็ทำให้นางตกใจแทบตาย

 

 

ถังเฉียนทรุดนั่งลงกับพื้น ถ้าไม่ใช่เพราะหน้ากากบังอยู่ หันเทียนซวี่คงเห็นสีหน้านางตกใจสุดขีด ถังเฉียนยื่นมือออกไป อ้าปากกว้าง แต่กลับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว

 

 

“เป็นอะไรไป”

 

 

หันเทียนซวี่แกะของนั่นอยู่นาน แต่มีของที่เป็นสายพันอยู่ทำให้แกะไม่ออก เขาหันมาดู แล้วเห็นวัตถุสีดำเกี่ยวอยู่บนนิ้วมือ จึงสะบัดมือ

 

 

“อยู่นิ่งๆ…”

 

 

ถังเฉียนพูดขึ้นทันที แล้วกดมือเขาไว้ แต่พอชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ก็ได้กลิ่นประหลาด พอมองดูอีกครั้งก็ถึงกับจะคลื่นเ**ยนทันที หันเทียนซวี่แปลกใจ จึงยกมือตัวเองขึ้น แล้วพบว่าบนมือเป็นศีรษะครึ่งหัว ตาข้างหนึ่งยังติดอยู่ ซึ่งก็คือที่ถังเฉียนเห็นเมื่อกี้ แต่พูดอะไรไม่ออก

 

 

“นี่มัน”

 

 

 

 

ตอนที่ 299 ศีรษะคน

 

 

หันเทียนซวี่สะบัดของชิ้นนั้นหลุดออกไป แล้วขยับถอยหลังสองก้าว ศีรษะอันนั้นกับเส้นผมห้อยอยู่บนกิ่งไม้ริมลำธาร ตาที่เหลือเพียงข้างเดียวยังคงเบิกกว้าง จ้องมองถังเฉียนและหันเทียนซวี่ ทำให้ทั้งสองเสียวสันหลัง ขนลุกซู่

 

 

“นี่ นี่มัน…”

 

 

ถังเฉียนไม่เคยเผชิญกับสภาพเช่นนี้ ถ้าบอกว่าไม่กลัวย่อมเป็นการโกหก แม้หันเทียนซวี่จะเป็นผู้ชายแต่ก็ยังขวัญผวา แต่เขากล้ำกลืนความผะอืดผะอม หยิบศีรษะครึ่งหัวอันนั้นมาวางบนพื้นหญ้า แล้วตรวจดูอย่างละเอียด

 

 

”นี่ดูเหมือนจะถูกฟันที่คมกริบกัดแหว่งไปครึ่งหัว น่าจะเป็นสัตว์ป่าที่กินคนได้ ข้ายังไม่เคยเห็นเช่นนี้มาก่อน”

 

 

ถังเฉียนขยับเข้ามาตรวจดู แล้วพูดว่า

 

 

“ทำร้ายคนด้วยความเร็วสุดขีด กัดทีเดียวก็ทำให้ครึ่งศีรษะหลุดออก กะโหลกคนแข็งมาก ถ้าจะสร้างบาดแผลเช่นนี้อย่างน้อยต้องใช้แรงหมื่นชั่ง ต่อให้เป็นเสือสิงห์ก็ทำไม่ได้”

 

 

ถังเฉียนคิดตรองอย่างละเอียด ยิ่งรู้สึกว่าที่นี่เต็มไปด้วยเรื่องประหลาด

 

 

“จุ๊!”

 

 

ถังเฉียนถูกผลัก แล้วล้มลงบนพื้นหญ้า ศีรษะอันนั้นตั้งอยู่ห่างจากตัวนางเพียงไม่กี่นิ้ว นางเบิ่งตากว้างมองดูศีรษะครึ่งหัวนั่น แต่ถูกเอามือปิดปากไว้ นางไม่กล้าขยับตัวอย่างผลีผลาม ครู่ต่อมาก็มีคบไฟและคนเดินผ่านด้านหลังเหนือหัวพวกเขาไป

 

 

“เมื่อครู่เหมือนเห็นคนที่นี่”

 

 

ถังเฉียนได้ยินก็ตกใจจนไม่กล้าขยับเขยื้อน แม้นางจะไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นใคร แต่เมื่อครู่เห็นศีรษะครึ่งหัว ทำให้นางมั่นใจว่าที่นี่ต้องมีความลับที่สะเทือนฟ้าแน่นอน

 

 

ถังเฉียนไม่กล้าเคลื่อนไหว โดยเฉพาะที่เหาเก๋อเคยเตือนว่าห้ามเข้าใกล้ที่นั่นเด็ดขาด

 

 

“เจ้าคงตาฝาด เดี๋ยวนี้ไม่มีใครกล้ามาที่นี่แล้ว คราวก่อนพวกที่มาก็ถูกฆ่าตายหมดไม่ใช่หรือ ชาวบ้านโง่ๆ ข้างนอกคิดว่าที่นี่มีผีร้าย คนที่ไม่อยากมีชีวิตแล้วถึงจะกล้าเข้ามาใกล้”

 

 

ถังเฉียนฟังคนพวกนี้คุยกัน จากนั้นเสียงฝีก้าวก็ค่อยๆ ห่างออกไป แต่หันเทียนซวี่ยังกดนางไว้ ทำให้นางรู้สึกอึดอัด ถังเฉียนขยับเท้าเพียงเล็กน้อย แสงไฟบนนั้นก็ย้อนกลับมาทันที ที่แท้คนกลุ่มนั้นไปแล้วแต่ย้อนกลับมาอีก

 

 

“ข้าบอกแล้วว่าไม่มีอะไร ใยเจ้ากลับระวังตัวถึงเพียงนี้”

 

 

คราวนี้ข้างบนไม่มีเสียงจริงๆ แล้ว ผ่านไปนานมาก หันเทียนซวี่จึงค่อยๆ คลายมือออกจากปากถังเฉียน แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างระแวดระวัง ดูจนแน่ใจว่าข้างบนไม่มีคนแล้ว จึงวางใจดึงตัวถังเฉียนขึ้นมา แต่มือถังเฉียนยังคงจับเส้นผมของศีรษะอันนั้นไว้แน่น

 

 

“วันนี้กลับกันก่อนเถอะ พวกนั้นเฝ้าระวังเข้มงวดอย่างนี้ เราคิดจะแฝงตัวเข้าไป คงทำได้ยาก”

 

 

ถังเฉียนร้องอืม แต่พอหันไปก็เห็นบริเวณที่เมื่อครู่เก็บศีรษะครึ่งหัวได้ แล้วมองเห็นของสีดำเมื่อมเป็นกลุ่ม คราวนี้ถังเฉียนฉลาดขึ้น นางใช้กิ่งไม้เขี่ยของสีดำกลุ่มนั้นขึ้นมา พอเห็นชัดก็ยิ่งตกใจ

 

 

“ยังมีอีก?”

 

 

หันเทียนซวี่รีบวิ่งมาดู ถังเฉียนใช้กิ่งไม้แห้ง แทงเข้าไปในโพรง แล้วเกี่ยวศีรษะครึ่งหัวออกมาได้หลายอัน ถังเฉียนรู้ว่าตรงนี้เป็นตาน้ำเพราะแตะถูกแล้วรู้สึกเย็นมาก แสดงว่าตรงนี้มีน้ำใต้ดิน

 

 

“ตรวจเจออะไร”

 

 

ถังเฉียนสั่นศีรษะแล้วพูดว่า

 

 

“บางส่วนเอามาต่อกันได้ บางส่วนก็ทำไม่ได้ แสดงว่าที่นี่มีคนตายหลายคน ที่ข้าขุดออกมาเมื่อครู่ ที่นี่มีคนตายอย่างน้อยสิบคน ถ้ารวมกับศพที่พบก่อนหน้านี้ น่ามีคนตายหลายสิบคนเลย”