บทที่ 1818 - ผลประโยชน์ส่งต่อถึงชิงสุ่ย

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

AST
  บทที่1818 – ผลประโยชน์ส่งต่อถึงชิงสุ่ย?
  ร่างกายของเฉินหวงเป็นไปด้วยความเหนื่อยล้าเธอแทบจะไม่สามารถหลบการโจมตีได้อีกแล้ว สายตาของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวังขณะมองไปรอบๆ เธอเองก็ไม่กลัวตาย ที่จริงแล้วเธอก็พร้อมจะระเบิดร่างกายของตัวเองเพื่อทำลายพื้นที่โดยรอบ อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ทำอะไร
  ทันใดนั้นในใจของเธอก็ปรากฏให้เห็นเป็นภาพของชิงสุ่ยเธอไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้นึกถึงชายคนนี้
  ”หวงเอ๋อถ้าหากเจ้าคิดฆ่าตัวตาย ข้าจะเป็นคนลงมือทรมานฮัวเฟิง ข้าจะทำให้มันทุกข์ทรมานยิ่งกว่านรกบนดิน”จินเฟิงมองออกถึงแผนการของเฉินหวง เขาจึงพูดเพื่อตัดความคิดของเธอ  ดวงตาของเฉินหวงแปรเปลี่ยนเป็นความเย็นยะเยือกขณะที่เธอจ้องมองจินเฟิง
  ด้วยความสามารถของเฉินหวงเธอสามารถสังหารทั้ง 4 คนที่อยู่ต่อหน้าเธอได้แทบจะทันที แต่เพราะพลังของค่ายกลและพลังในการสะกดจิต มันทำให้เธอเหมือนกับกำลังสูญเสียพลังบางส่วนไป
  ร่างกายที่อยู่ในสภาวะสะกดจิตมันทำให้เธอรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกายตลอดเวลา มันเป็นความเจ็บปวดเหมือนกับเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้เผาร่างกายของเธอ แม้เธอจะพยายามต่อต้าน แต่พลังปราณจิตของเธอกลับถูกดูดกลืนและหายไปโดยไร้ประโยชน์
  ทันใดนั้นชายร่างใหญ่ก็เดินตรงเข้ามาหาเฉินหวงพร้อมตั้งค่าโจมตีส่วนด้านหลังของเขาปรากฏให้เห็นเป็นเสือโคร่งโบราณมันเองก็กำลังพุ่งเข้าโจมตีเฉินหวงเช่นกัน
  ร่างกายของเฉินหวงมาถึงขีดจำกัดแล้วผลของตัวยาพิษทำให้เธออ่อนแอลงอย่างมาก แม้เธอจะสามารถหลบหนีจากเสือโคร่งตัวนั้นได้ แต่เธอก็ไม่อาจหลบหนีการโจมตีของชายร่างยักษ์ได้อย่างแน่นอน
  ปังงงงง!!
  เฉินหวงถูกอัดกระแทกปลิวกระเด็นไปด้านหลังพร้อมกับเลือดสดๆที่พ่นออกจากปาก
  ฮ่าฮ่าฮ่า
  จินเฟิงระเบิดเสียงหัวเราะขณะมองดูเฉินหวงที่ใกล้จะถึงจุดจบเขาเดินตรงมาหาเธออย่างช้าๆ แต่สุดท้ายเขาก็ถูกหยุดโดยชายร่างใหญ่ “ตะขาบถูกตัดครึ่งกลางลำตัวมันยังไม่ตาย เจ้าเองก็รู้ดีว่านางมีพลังเพียงใดฉะนั้นเจ้าก็ไม่ควรประมาท ”
  ”ถ้าเช่นนั้น ก็รอต่อไปอีกสักพัก แต่ข้าชักจะหมดความอดทนแล้ว”ใบหน้าของจินเฟิงแดงกล่ำ มันเหมือนกับใบหน้าของคนโรคจิตที่กำลังแสดงความตื่นเต้น
  ในขณะที่เฉินหวงจะถูกโจมตีกระเด็นออกไปสัตว์อสูรโดยรอบก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหรือมือ พวกมันร่วมมือกันพุ่งตรงเข้ามาขย้ำเฉินหวงจากทั่วสารทิศ
  ถึงแม้ว่าเฉินหวงจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งและสวมเสื้อผ้าที่ทำมาจากวัสดุพิเศษ ตอนนี้ร่างกายของเธอกระดูกแตกหักหลายส่วน ทุกครั้งที่เสียงกระดูกร่างกายของเธอนั่นลั่นร้อง จินเฟิงก็ยิ่งแสดงใบหน้ามีความสุข
  ”ตอนนี้ถือว่าปลอดภัยแล้วนางเอกก็ใกล้ตายเต็มทน เชิญเจ้าเข้าไปได้”
  จินเฟิงรีบเดินตรงเข้าหาเฉินหวง
  เขากำลังเดินเข้ามาใกล้เข้ามาใกล้เรื่อยๆ
  แม้ว่าจินเฟิงจะยังคงเกรงกลัวในพลังของเฉินหวงแต่จากสภาพร่างกายมันบ่งบอกอย่างชัดเจนเลยว่าต่อให้เป็นยอดยุทธที่แข็งแกร่ง เมื่อมีสภาพร่างกายเช่นนี้มันไม่ต่างอะไรจากลูกแกะในกำมือหมาป่า
  จินเฟิงโน้มตัวลงไปข้างหน้าและใช้มือจับคางเฉินหวงก่อนจะเชิดหน้าขึ้นเฉินหวงลืมตาทั้งสองข้างมองดูจินเฟิง มันเป็นดวงตาที่พร้อมจะกินเลือดกินเนื้อเจาะทะลุทะลวงไปถึงจิตใจ
  ในขณะเดียวกันจินเฟิงก็รู้สึกราวกับว่าตัวของเขากำลังถูกยิงด้วยธนูเขาจึงปิดตาโดยสัญชาตญาณ และเฉินหวงก็ใช้โอกาสที่เหลือเตะศัตรูที่อยู่ด้านหน้าของเธอด้วยขาทั้งสองข้าง
  แรงถีบส่งให้เธอกระเด็นถอยหลังกลับไปอีก
  ช่างเป็นเรื่องที่น่าบังเอิญชิงสุ่ยได้มาถึงสถานที่ต่อสู้พร้อมกับได้เห็นภาพที่เธอกำลังเตะศัตรูพอดิบพอดี ดูเหมือนเป้าหมายของเธอจะมุ่งเน้นไปที่บริเวณอวัยวะเพศของจินเฟิง มันเป็นลูกเตะที่งดงามที่สุดเท่าที่ชิงสุ่ยจะเคยเห็น
  ปังงงง!!
  ร่างกายของชิงสุ่ยถึงกับสั่นสะเทือนเมื่อได้ยินเสียงแตกที่ดังฟังชัดจินเฟิงกรีดร้องอย่างน่าสังเวช พร้อมกับก้มตัวเอามือกุมไข่ ชายร่างใหญ่ลังเลชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกระบี่ยักษ์พุ่งเข้าหาเฉินหวง  เฉินหวงหลับตาและยอมรับโชคชะตาของตนเองตอนนี้ร่างกายของเธอไม่มีพลังงานมากพอจะช่วยให้เธอหลบหนีได้แล้ว
  ปังงงงงง!!
  เสียงของโลหะปะทะกันดังสนั่นหวั่นไหวเฉินหวงแสดงใบหน้างุนงงก่อนจะลืมตาด้วยความประหลาดใจ สิ่งที่เธอเห็นคือร่างของชายร่างยักษ์กำลังปลิวกระเด็นออกไปพร้อมกับกระอักเลือดคำโตฟุ้งกระจายกลางอากาศ ก่อนจะพุ่งกระแทกลงพื้นพร้อมร่างกายที่เหนื่อยหอบ ส่วนผู้ที่ยืนขวางอยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช่ใครอื่นไกล เขาก็คือชิงสุ่ย
  ทันทีที่ชิงสุ่ยเห็นสภาพของเฉินหวงเปลวเพลิงแห่งความโกรธก็ระเบิดขึ้นในใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชายร่างใหญ่ที่กำลังคิดจะสังหารเฉินหวง ชิงสุ่ยไม่รีรอปลดปล่อยทักษะวชิระจู่โจมอัดใส่ศัตรู
  ความแข็งแกร่งที่ระเบิดขีดสูงสุดเกือบ2 ล้านเต๋าคือระดับพลังที่ชายร่างใหญ่ไม่สามารถต้านทานได้ แม้ว่าเขาจะฝึกฝนร่างกายและมีกระบี่ยักษ์ที่ช่วยขจัดความเสียหายส่วนใหญ่ แต่สุดท้ายเขาก็หนีไม่พ้นโชคชะตากรรมที่จะต้องถูกสังหาร
  เฉินหวงเองก็แทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นชายผู้นี้มีระดับพลังมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร? ทำไมการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวกับสามารถสังหารศัตรูที่แข็งแกร่งได้ในชั่วพริบตา
  แน่นอนว่าทักษะนี้คือทักษะที่ชิงสุ่ยสามารถใช้ได้วันละไม่กี่ครั้งหากวันใดที่เขาสามารถปลดปล่อยมันได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากวันนั้นเป็นต้นไปเขาจะปลอดภัยอย่างแน่นอน แต่ความจริงก็คือความจริง ทักษะที่แข็งแกร่งย่อมมีข้อจำกัด และมันก็คือทักษะที่ชิงสุ่ยเก็บไว้ใช้เสมือนไพ่ตาย
  จินเฟิงลุกขึ้นยืนพร้อมกับใบหน้าที่ซีดเซียวลูกเตะของเฉินหวงทำให้เขากลายเป็นขันทีแทบจะทันท่วงที แม้ว่าจอมยุทธระดับสูงจะสามารถควบคุมความเจ็บปวดของร่างกายได้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถควบคุมความกลัวได้  ชายชราทั้งสองคนหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
  อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็ไม่ปล่อยให้ชายชราทั้งสองคนทำเช่นนั้นแม้ว่าชายชราทั้งสองคนจะเป็นสุดยอดปรมาจารย์ค่ายกลที่แข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับชิงสุ่ย พวกเขาเป็นได้แค่เศษเล็บ สุดท้ายชายชราทั้งสองคนก็ไม่อาจรอดพ้นเงื้อมมือของชิงสุ่ย
  เมื่อจินเฟิงมองเห็นชิงสุ่ยที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาหาเขาความกลัวก็ยิ่งถาโถมทวีคูณ ในชั่วพริบตาหลังจากการโจมตีเพียงแค่ช่วงสั้นๆ จินเฟิงก็กลายเป็นเพียงแค่ร่างหลับไหลไร้สติคณะกระเด็นออกไปไกลจากเฉินหวง
  ชิงสุ่ยรีบเดินกลับมานั่งด้านข้างเฉินหวงเพื่อตรวจดูอาการเบื้องต้นแม้ว่าใบหน้าของเธอจะดูซีดเซียว แต่ความงามของเธอยังคงดึงดูดเหมือนเช่นดั่งเดิม
  นี่เป็นครั้งแรกที่ชิงสุ่ยได้เห็นหญิงสาวโฉมงามคนนี้กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบากแม้ว่าร่างกายของเธอจะเต็มไปด้วยคราบเลือดแต่มันก็ไม่อาจปิดกั้นความงดงามของเธอได้ ชิงสุ่ยยื่นมือของเขาออกไปและคว้าแขนของเธอ เขาค่อนข้างประหลาดใจที่เธอตอบกลับมาด้วยความไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนดั่งก่อน
  ชิงสุ่ยหยิบเข็มออกมา2-3 เล่มและเริ่มฝังลงบนร่างกาย จากนั้นเขาก็เริ่มใช้ทักษะหัตถ์สวรรค์เพื่อซ่อมแซมกระดูกและกล้ามเนื้อที่ผิดปกติ สุดท้ายเขาก็นำใบดอกบัวพุทธองค์ทองคำออกมาให้เธอกิน
  ร่างกายของเฉินหวงค่อยๆฟื้นฟูสภาพในอัตราเร็วที่สามารถเห็นได้ทันตาเห็นแม้ว่าเธอจะไม่สามารถฟื้นฟูสภาพกลับมาเหมือนตอนแรก แต่ทุกอย่างรวมทั้งความแข็งแกร่งส่วนใหญ่ก็เริ่มกลับมา ปัญหาเพียงอย่างเดียวคือยาพิษที่กำลังครอบงำจิตใจของเธอ
  ชิงสุ่ยพาเธอออกมาจากค่ายกลสะกดจิตเพื่อให้เธอสามารถฟื้นฟูพลังปราณจิตกลับคืนมา
  เฉินหวงเดินตรงไปด้านข้างจินเฟิงจากนั้นก็ยกขาเหยียบย่ำลงบนขาของจินเฟิง  จินเฟิงที่หมดสติถึงกลับฟื้นคืนสติและกรีดร้องอย่างน่าสังเวชใจ “นางแพศยา!! ไม่มีตัวยาใดสามารถรักษายาพิษราคะอมตะได้ น่าบัดซบจริงๆ ที่สุดท้ายไอ้เด็กเมื่อวานซืนคนนี้ กลับกลายเป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดไปแทน”
  ขณะที่จินเฟิงกล่าวใบหน้าของเขาก็เผยให้เห็นเป็นรอยยิ้มอันขมขื่น
  เฉินหวงสะบัดมือด้วยความโกรธเพื่อสังหารชายชราทั้งสองคนที่กำลังนอนหมดสติเมื่อเธอเห็นจินเฟิงกำลังระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เธอก็กระทืบลงบนขาอีกข้างนึงของเขา
  ”ไอ้มนุษย์เศษสวะ”เฉินเฟิงตะโกนด้วยความเย็นชา
  ในใจของจินเฟิงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและยิ่งถูกหญิงที่เขาหมายปองด่าซ้ำๆ เขาก็ยิ่งเจ็บปวด
  ”ฮ่าฮ่าฮ่าอีกไม่นาน เจ้าก็จะไม่สามารถยับยั้งความชั่งใจที่แท้จริงของเจ้าได้ ส่วนเจ้าเจ้าจะต้องประหลาดใจในการกระทำของนาง”
  ”โชคร้ายที่เจ้าจะไม่ได้เห็นการกระทำนั้น”เฉินหวงยิ้มก่อนจะปิดปากจินเฟิงให้เงียบไปตลอดกาล
  ไม่มีแม้แต่รอยเลือดไหลออกจากปากจินเฟิงร่างของเขาค่อยๆอ่อนระทวยพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจ