ตอนที่ 1777

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,777 : มรดกเวทย์พลังระดับสูง?

 

“ตอนนี้ในเมื่อข้อตกลงลุล่วงแล้ว…หลังจากนี้ข้าพึ่งได้แต่ตัวเองเท่านั้น”

 

เซียวตุนกล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ

 

ด้วยพลังฝีมือของมัน การเดินทางในแดนลับเซียนช่างเป็นเรื่องที่ลำบากยากแค้นนัก

 

ลำพังพื้นที่มรดกเวทย์พลังระดับต่ำ มันคนเดียวอาจจะผ่านได้

 

แต่หากเป็นพื้นที่มรดกเวทย์พลังระดับกลางหรือระดับสูงนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่มันคนเดียวจะผ่านได้

 

“ข้ายังจะต้องการอันใดมากมายกัน แค่ได้เวทย์พลังป้องกันระดับกลางมาเช่นนี้ก็นับว่าเหนือความคาดหมายมากแล้ว! ด้วยพลังฝีมืออ่อนด้อยเท่านี้คิดหวังเวทย์พลังระดับสูง นับว่าฝันเฟื่องจริงๆ!!”

 

พอคิดได้เซียวตุนก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาไม่น้อย บนหน้ายังปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา

 

มันปลงตกแล้ว

 

“ศิษย์พี่หลิงเทียน ขอให้ท่านโชคดีและได้รับสิ่งดีๆ”

 

มองไปยังทิศทางที่ต้วนหลิงเทียนหายไปพักหนึ่ง เซียวตุนก็กล่าวด้วยความจริงใจ ก่อนที่จะหันหลังแล้วจากไป กลายเป็นหมาป่าเดียวดายตัวหนึ่งในแดนลับเซียน

 

ขณะเดียวกันด้านต้วนหลิงเทียนที่เดินผ่านค่ายกลเข้ามา ก็มาถึงพื้นที่อันประหลาดแห่งหนึ่งบรรยากาศค่อนข้างอึมครึม วิเวกวังเวง…รอบๆเป็นป่ารก ส่วนด้านหน้านั้นมองไปเห็นบึงขนาดมหึมาตั้งอยู่ไกลๆ น้ำในบึงนิ่งสงบทั้งมืดดำ ไม่ทราบมีสิ่งใดอยู่ในนั้นกันแน่

 

และสิ่งแรกที่ต้อนรับเขาก็คือ สัตว์ร้าย 4 ตัวที่พุ่งพรวดออกมาจากป่ารกโดยรอบ

 

สัตว์ร้ายทั้ง 4 ยามลงมือจู่โจมพร้อมกัน ก็มีพลังทัดเทียมกับสัตว์ร้ายทั้ง 5 ที่พระราชวังก่อนหน้า

 

เพียงแค่คราวนี้พวกมันเป็นสายพันธุ์เดียวกัน สามารถร่วมมือสอดประสานกันได้เป็นอย่างดี

 

อนิจจาด่านพลังของมันก็เพียงเซียนดั้งเดิมขั้นสูงสุดเท่านั้น แม้ร่วมมือกันแล้วจะเทียบได้กับเซียนขัดเกลาขั้นต้น ก็ไม่ได้นับเป็นตัวอะไรสำหรับต้วนหลิงเทียน

 

ต้วนหลิงเทียนเองก็คร้านเสียเวลา เพียงสะบัดมือคราหนึ่งปรากฏกระบี่พลังไร้สภาพมากมายผุดจากความว่างไประเบิดทำลายพวกมันหมดสิ้น

 

“อ้าว? ทำไมไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อล่ะ?”

 

หลังจากฆ่าสัตว์ร้ายทั้ง 4 ไป ต้วนหลิงเทียนก็แผ่สำนึกเทวะออกไปตรวจจับความเคลื่อนไหวโดยรอบทันที แต่เขาก็พบว่าทุกที่ทางล้วนสงัดเงียบ ไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวใดๆ

 

ต้องทราบด้วยว่าไม่ว่าจะเป็นหอคอยลิ่วเหอ หรือพระราชวังที่เขาผ่านมาก่อนหน้า พอกำจัดสัตว์ร้ายที่ขวางทางชุดแรกไป ประตูล้วนเปิดออกทั้งสิ้น

 

ตราบใดที่เข้าประตูและผ่านทดสอบด้านในได้ ก็จะสามารถได้รับสืบทอดมรดกเวทย์พลัง

 

ทว่ากับบึงประหลาดคราวนี้ หลังจากกำจัดสัตว์ร้ายทั้ง 4 ไปแล้ว กลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆต่ออีกเลย

 

แล้วเช่นนั้นเขาจะไปยังบททดสอบต่อไปได้อย่างไร หรือต้องพุ่งหลาวลงไปในน้ำดำๆนั่น?

 

“หืม?”

 

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังสงสัยนั้นเอง เขาก็สัมผัสได้ว่าพื้นดินใต้ฝ่าเท้าบังเกิดการสะเทือนขึ้นมาเบาๆ

 

ด้วยสำนึกเทวะ ต้วนหลิงเทียนได้ทำการตรวจสอบที่ทางโดยรอบอย่างละเอียด และไม่นานแรงสั่นสะเทือนบนพื้นยิ่งมาก็ยิ่งมาก แถมตอนนี้ในบึงน้ำดำเบื้องหน้า ก็เริ่มปรากฏฟองอากาศผุดลอยขึ้นมาปุดๆ! ไม่นานบึงสงบก็คล้ายจะกลายเป้นปั่นป่วน คลื่นน้ำสาดออกมาปานจะคุ้มคลั่ง!!

 

หึ่ง! หึ่ง! หึ่ง! แซ่ก! แซ่ก! แซ่ก!

 

……

 

และตอนนี้เองปลายรัศมีสำนึกเทวะต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวบางอย่าง บางสิ่งจำนวนมหาศาลกำลังกรูกันเข้ามาจากแนวป่าไม่หยุด! พวกมันพุ่งผ่านป่ารกมาด้วยความเร็วสูง ในบึงน้ำก็ปรากฏร่างสัตว์ประหลาดน่าเกลียดพุ่งพรวดขึ้นมาตัวแล้วตัวเล่า!!

 

“สัตว์ร้ายพวกนี้มัน..”

 

ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนพลันพบว่า มีสัตว์ร้ายพุ่งมาทางเขาจากรอบทิศทาง จำนวนพวกมันมีมากมายมหาศาลนัก มองไปยังเหมือนฝูงตั๊กแตนที่กำลังโถมเข้าไร่นา! รูปร่างหน้าตาของมันก็คุ้นตาเขานัก!!

 

พวกมันเหมือนกันกับที่เขาฆ่าตายไปก่อนหน้าไม่มีผิด!

 

“ขั้นกลาง ขั้นเชี่ยวชาญ ขั้นสูงสุดเซียนดั้งเดิม…อะไร มีกระทั่งเซียนขัดเกลาขั้นต้น?”

 

หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนเปิดใช้เนตรเทวะหันไปว่ายมองรอบๆ เขาก็รับรู้พลังฝึกปรือของฝูงสัตว์ร้ายเหล่านี้ทันที ตัวที่อ่อนแอที่สุดอยู่ในขอบเขตเซียนดั้งเดิมขั้นกลาง ส่วนที่ร้ายกาจที่สุดกลับเป็นเซียนขัดเกลาขั้นต้น!

 

แถมไม่ได้มีแค่ตัวเดียวแต่มีทั้งสิ้น 9 ตัว!

 

9 สัตว์ร้ายเซียนขัดเกลาขั้นต้น!

 

“อ๋าวววู~”

 

“วู้ววววว”

 

“วู้ววววว”

 

……

 

ฝูงสัตว์ร้ายจำนวนมหึมาดั่งห่าตั๊กแตนพลันส่งเสียงคำรามกู่ร้องดังลั่น มองปราดเดียวต้วนหลิงเทียนก็บอกได้ทันทีว่าพวกมันมีไม่ต่ำกว่าพันตัว! “สัตว์ร้ายพวกนี้มันตัวอะไรกัน? กลับมากันฝูงใหญ่ขนาดนี้!?”

 

ต้วนหลิงเทียนบอกได้ว่าสัตว์ร้ายพวกนี้นั้นท่าทางจะอยู่ได้ทั้งในน้ำและบนบก

 

แถมเขาฆ่าพวกมันไป 4 ตัว ทำให้ตอนนี้ท่าทางพวกมันจะมีโมโหไม่น้อย

 

“ฝูงสัตว์ร้ายนี่…คงไม่ใช่บททดสอบแรกของมรดกเวทย์พลังหรอกนะ?”

 

กระทั่งต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่ทราบว่าไฉนอยู่ๆถึงคิดขึ้นมาแบบนี้

 

ทว่าขณะเดียวกันสองตาเขาก็ส่องประกายสว่างจ้าออกมาทันที!

 

หากฝูงสัตว์ร้ายรอบๆตัวเขามันเป็นบททดสอบแรกของพื้นที่มรดกเวทย์พลังนี้จริงๆ… นั่นไม่ได้หมายความว่ามรดกเวทย์พลังชิ้นนี้ มีระดับสูงกว่าร่างทองลิ่วเหอกับปราการศิลาสวรรค์รึไง?!

 

พอคิดเรื่องนี้ขึ้นมา ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น!

 

สำหรับฝูงสัตว์ร้ายเบื้องหน้าแม้จำนวนมันจะมีมากมาย แต่พลังของพวกมันก็ไม่นับเป็นอะไรสำหรับเขา

 

“แต่…ไหงพวกมันอาแต่จ้องข้าตาขวางล่ะ ทำไมไม่เข้ามาซะที?”

 

เมื่อเห็นว่าสัตว์ร้ายนับพันโดยรอบเพียงหยุดมองเขาตาเขม็งไม่ลงมือเสียที ต้วนหลิงเทียนก็อดแปลกใจไม่ได้

 

ทำให้ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนพลันมีเวลาสำรวจสัตว์ร้ายเหล่านี้อย่างละเอียด

 

ถึงแม้เขาจะฆ่าสัตว์ร้ายชนิดนี้ไปแล้ว 4 ตัว แต่เขาก็ไม่ทันได้สนใจอะไรพวกมันมากมาย

 

สัตว์ร้ายชนิดนี้มองไปคล้ายสัตว์อสูรอยู่บ้าง เพราะมันมีรูปลักษณ์คล้ายมนุษย์หากแต่บนหัวปูดโปนตะปุ่มตำป่ำ ยังมีเขางอกเงย แผ่นหลังปรากฏปีกกว้างดั่งค้างคาว ผิวหนังทั่วร่างของมันแลดูยับย่นอัปลักษณ์นัก มองไปจึงคล้ายตัวประหลาดน่ารังเกียจ!

 

ในบรรดาฝูงสัตว์ร้าย ตัวที่อยู่ในขอบเขตเซียนขัดเกลาขั้นต้นนั้นตัวใหญ่ที่สุด มันสูงราวๆ 5 หมี่!

 

ตัวที่อ่อนแอกว่ามันขั้นหนึ่งก็สูงแค่ 4 หมี่

 

ยิ่งอ่อนแอตัวพวกมันยิ่งเล็กลง

 

“หืม?”

 

ทันใดนั้นเอง สำนึกเทวะของต้วนหลิงเทียนพลันสั่นไหว เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังขุมหนึ่งในบึงน้ำด้านหลัง!

 

กลิ่นอายพลังดังกล่าวยังสูงกว่ากลิ่นอายของสัตว์ร้ายเซียนขัดเกลาขั้นต้น!!

 

ระฆังกระบี่คลุมกาย!!

 

ทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายพลังดังกล่าวคล้ายกำลังเพ่งเล็งมาที่ตัวเขา สังหรณ์อันตรายประการหนึ่งร้องเตือนในใจ เร่งใช้ออกด้วยระฆังกระบี่คลุมกายทันที!

 

ปราณสุริยันแรกกำเนิดโคจรฉับไว ปะทุออกมาควบรวมก่อเกิดเป็นกระบี่พลังสีทองมีสภาพนับร้อยนับพันเล่ม วนเวียนไปทั่วกายตามแนวทางวรยุทธ์ระฆังศรคลุมกาย!

 

เปรี๊ยงงง!!

 

และแทบจะพร้อมๆกันกับที่ระฆังกระบี่คลุมกายปราฏขึ้น ลำแสงพลังงานสายหนึ่งก็พุ่งยิงทะลุออกมาจากบึงน้ำดำ! มันแหวกอากาศพุ่งมาถึงตัวเขาด้วยความเร็วสูง! พาลให้ระฆังกระบี่คลุมกายของเขาถึงกับสั่นไหวเป็นระลอก!!

 

อย่างไรก็ตามแม้มันจะนับว่าลอบโจมตีสำเร็จ แต่น่าเสียดายที่ไม่อาจฝ่าการป้องกันของระฆังกระบี่คลุมกายมาได้!

 

ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนก็หันหลับมามองผู้ที่ลอบโจมตีเขา…มันเป็นสัตว์ร้ายตัวเขื่องสูงนับ 10 หมี่!

 

ลักษณะของมันก็ละม้ายคล้ายคลึงกับฝูงสัตว์ร้ายโดยรอบ

 

หากแต่บนหัวของสัตว์ร้ายมหึมาตัวนี้กลับมีมงกุฏสีทองอร่ามสวมใส่อยู่ ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่โตราวเนินเขาย่อมๆ บอกให้รู้ว่ามันไม่ใช่สัตว์ร้ายธรรมดาๆ

 

“ฮู่มมมมม!!!”

 

“อ๋าวววูววว!!”

 

“ฮว่าสสสส!!”

 

……

 

ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนพลันพบว่าสัตว์ร้ายนับพันที่ตอนแรกมองเขาอย่างสงบ พลันหันไปมองสัตว์ร้ายตัวใหญ่ใส่มงกุฏทันที ต่างยังกู่ร้อง บ้างคำราม บ้างหอนออกมาคล้ายจะทักทายทำความเคารพ

 

“ดูเหมือนว่าเจ้าตัวใหญ่นั่นจะเป็น ราชา ของเจ้าพวกนี้งั้นสิ?”

 

หากเรื่องแค่นี้ต้วนหลิงเทียนยังไม่ทราบ หลายปีที่ใช้ชีวิตอยู่มาคงนับว่าเสียเปล่าแล้ว…

 

“เซียนขัดเกลาขั้นเชี่ยวชาญ…สัตว์ร้ายตัวใหญ่นี่กลับอยู่ในขอบเขตเซียนขัดเกลาขั้นเชี่ยวชาญ! หากสัตว์ร้ายพวกนี้เป็นบททดสอบแรกของมรดกเวทย์พลังจริงๆ มรดกเวทย์พลังที่นี่สมควรมีระดับสูงแน่! เพราะบททดสอบมันแปรผันกับมรดกเวทย์พลังโดยตรง!!”

 

ตอนแรกต้วนหลิงเทียนก็ตื่นเต้นไม่น้อย แต่ทว่าต่อมาพอคิดได้เขาก็รู้สึกเสมือนมีน้ำเย็นราดรดศีรษะ พาลให้กลับมาสำนึกถึงความเป็นจริงอีกครั้ง…

 

บททดสอบแรกยังยากขนาดนี้ แล้วบดทดสอบหลังจากนี้เล่า จะง่ายดายได้หรือ?

 

เห็นได้ชัดว่าไม่ง่ายแน่ๆ!

 

‘จะยากแค่ไหนค่อยว่ากัน ตอนนี้ข้าต้องจัดการไอ้พวกนี้ก่อน..’

 

ไม่นานความสนใจของต้วนหลิงเทียนก็กลับมาอยู่ที่ฝูงสัตว์ร้ายอีกครั้ง ตอนนี้พวกมันแลดูเหมือนกำลังรอรับคำสั่งราชาอยู่ก็ไม่ปาน แต่ละตัวยังมองมาที่เขาด้วยสายตาไม่สู้ดี…

 

ก็อย่างที่ต้วนหลิงเทียนคิดไว้ไม่มีผิด ที่ดีไม่มา ที่มาไม่ดี!

 

“ฮู่มมมม!!”

 

ด้วยเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของราชา สัตว์ร้ายนับพันที่จ้องมองเขาตาขวาง ก็คล้ายได้รับสัญญาณปล่อยตัว สองตาพวกมันลุกวาวเผยความกระหายเลือด ต่างพุ่งเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนด้วยความดุร้ายทันที!!

 

สัตว์ร้ายตัวเขื่องนับพันโถมเข้ามารอบทิศแบบนี้ แม้ต้วนหลิงเทียนจะผ่านอะไรมามาก แต่เจอแบบนี้ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตึงเครียดอยู่บ้าง

 

แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าต้วนหลิงเทียนกลัวพวกมัน แค่ปฏิกิริยาตอบสนองไปตามธรรมชาติ

 

“คิดใช้ปริมาณเข้าว่างั้นเหรอ?”

 

เผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายตัวเขื่องนับพันที่กรูกันเข้ามาทั้ง 4 ทิศ 8 ทาง มุมปากต้วนหลิงเทียนพลันเผยยิ้มแสยะขึ้น

 

ทันใดนั้นเอง อาณาบริเวณกินรัศมี 100 หมี่รอบต้วนหลิงเทียน พลันปรากฏสนามพลังปะทุออกมาแกร่งกล้า! ความว่างปั่นป่วนวุ่นวาย สุดท้ายก็กลายเป็นโดมพลังงานสีทองทรงกลมขนาดมหึมาห้อมล้อมคลุมกายเขาเอาไว้มิดชิด!

 

อย่างไรก็ตามสัตว์ร้ายนับพันคล้ายไม่หวาดกลัวอะไร พวกมันวิ่งกรูกันเข้าใส่ เขตแดนหมื่นกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนเปิดกางออกอย่างคุ้มคลั่ง!

 

ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!

 

……

 

ในเขตแดนหมื่นกระบี่ของต้วนหลิงเทียน กระบี่พลังมีสภาพสีทองนับหมื่นเล่ม พุ่งวาบไปมาจนเห็นเป็นเส้นแสง ไม่ว่าสัตว์ร้ายตัวใดที่กร้ำกลายเข้ามาแตะเขตแดน พวกมันล้วนถูกกระบี่พลังไม่ต่ำกว่า 10 เล่มพุ่งทะลวงเข้าใส่ในชั่วพริบตา ตัวที่แข็งแกร่งหน่อยก็สามารถอาศัยศพสหายรอดการโจมตีมาได้สักครั้ง แต่ทว่าเมื่อกระบี่อีกชุดพุ่งเข้าใส่ มันก็ไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมปุพรุนดั่งรังผึ้งไปได้

 

ไม่นานเหล่าสัตว์ร้ายตัวเขื่องระดับเซียนขัดเกลาขั้นต้นทั้ง 9 ก็บุกเข้ามา

 

“รอพวกเจ้ามานานแล้ว…”

 

ตั้งแต่ที่เปิดใช้เขตแดนหมื่นกระบี่ออกจนถึงตอนนี้ สีหน้าต้วนหลิงเทียนยังคงสงบเฉยเมยไม่ได้ลงมืออะไรมากมาย แต่พอเห็นร่างสัตว์ร้ายเซียนขัดเกลาขั้นต้นทั้ง 9 ที่เข้ามา มุมปากพลันยกยิ้ม สายตาเผยประกายเย็นเยียบ มือขวายกขึ้นเบาๆ

 

พริบตาต่อมาไม่ทราบต้วนหลิงเทียนลงมืออย่างไร ร่างคนพลันอันตรธานหายไปทันใด!

 

ทว่าหายไปเพียงชั่วพริบตา ร่างเขาก็กลับมาปรากฏที่เดิม…

 

ส่วนอีกด้านนั้น ร่างสัตว์ร้ายขอบเขตเซียนขัดเกลาขั้นต้นทั้ง 9 กลับร่วงตกจากฟากฟ้าทีละตัวๆ ร่างของมันแยกออกเป็นเสี่ยงๆกลางอากาศ ตายคาที่!

 

“ฮู่มมมม!!”

 

เมื่อสัตว์ร้ายขอบเขตเซียนขัดเกลาขั้นต้นทั้ง 9 ตกตาย ราชาสัตว์ร้ายที่อยู่นอกเขตแดนคล้ายสัมผัสได้ มันกู่ร้องคำรามเสียงดังเสียดแก้วหู ก่อนที่จะพุ่งเข้ามาในเขตแดนหมื่นกระบี่ของต้วนหลิงเทียนด้วยเช่นกัน

 

เมื่อพบว่า ราชา ของพวกมันบุกเข้ามาอย่างเกรี้ยวกราด สัตว์ร้ายที่ยังเหลือรอดอยู่นับร้อยๆ ก็คึกคักปานถูกฉีดเลือดไก่ ต่างทวีความดุร้ายคุ้มคลั่งขึ้นมาทันที โถมกรูเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนอย่างไม่คิดชีวิต

 

น่าเสียดาย สิ่งเดียวที่รอคอยพวกมันอยู่ก็คือชะตากรรมตายตก

 

“อะไร? คิดแก้แค้นให้ลิ่วล้อ?”

 

เมื่อหันมาเห็นราชาสัตว์ร้ายตัวเขื่องที่พุ่งเข้ามาสองตาแดงฉาน ต้วนหลิงเทียนก็หัวเราะเบาๆก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่มันเช่นกัน กระบี่พลังสีทองมีสภาพในมือเปล่งแสงทองสวางเรืองรองสาดส่องออกไปทุกทิศทาง!