เล่มที่ 20 เล่มที่ 20 ตอนที่ 585 ความทุกข์ใจ

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

หลังจากเยี่ยโยวเหยาอุ้มซูจิ่นซีไปที่เตียง เขาก็ห่มผ้าให้นาง ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ซูจิ่นซีตกใจจนหน้าถอดสี

ก่อนที่ซูจิ่นซีจะพูดอันใด เยี่ยโยวเหยาก็สวมเสื้อผ้า และปลดม่านคลุมเตียงลง เขาโบกมือ ประตูพลันเปิดออก JX3 กับ JX4 เดินเข้ามาพร้อมกับอ่างอาบน้ำ

ซูจิ่นซีซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ซ่อนอยู่หลังผ้าม่าน ไม่กล้าส่งเสียงอันใด ทำตัวราวกับหัวขโมย กระทั่งหายใจดังยังไม่กล้า พวงแก้มเริ่มปรากฏสีแดงระเรื่อ

เยี่ยโยวเหยา บุรุษผู้นี้สั่งให้ JX3 กับ JX4 เตรียมน้ำตั้งแต่เมื่อใด เหตุใดนางถึงไม่ได้เอะใจแม้แต่น้อย

เดิมที ซูจิ่นซีต้องการชำระร่างกายเพราะรู้สึกเหนอะหนะไม่สบายตัวนัก

อย่างไรก็ตาม หากนางต้องการน้ำตอนนี้ สาวใช้ต้องสงสัยเป็นแน่ จวนเลื่องชื่อแห่งนี้ คำพูดดั่งสายลม เรื่องคงแพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว รับรองเลยว่า พรุ่งนี้ ไก่ยังไม่ทันขัน เรื่องของนางคงไปถึงหูของฮูหยินเฒ่าหานแล้ว

ฮูหยินเฒ่าหานผู้ผ่านประสบการณ์มาก่อน หากเป็นยามกลางวันคงไม่สงสัยอันใด ทว่าหากซูจิ่นซีขอน้ำในช่วงดึกดื่นเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่สงสัย

ซูจิ่นซีไม่ได้กลัวฮูหยินเฒ่าหาน ทว่าไม่ใช่การดีที่จะแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปให้ผู้อื่นรับรู้

อย่างไรก็ตาม นางไม่คาดคิดว่าเยี่ยโยวเหยาจะคิดอย่างรอบคอบ โดยการให้ JX3 กับ JX4 เตรียมการให้พร้อม

หลังจากเตรียมน้ำในอ่างเสร็จสิ้น JX3 กับ JX4 ก็ออกจากห้องไป

เยี่ยโยวเหยาถอดเสื้อออก เขาจับขอบอ่างและหย่อนตัวลงไปในอ่างอย่างเชื่องช้า

“จิ่นซี มานี่! ”

ซูจิ่นซีใจสั่นสะท้าน นางกระชับผ้าห่มบนร่างให้แน่นขึ้น และซุกตัวอยู่ที่มุมห้อง

“ท่านอ๋อง ท่าน… ท่านอาบก่อนเถิด! ”

“มานี่! ” เยี่ยโยวเหยากดเสียงต่ำเล็กน้อย ทั้งยังใช้น้ำเสียงออกคำสั่ง จนซูจิ่นซีต้องเชื่อฟัง

ซูจิ่นซีขมวดคิ้ว ทว่ายังคงไม่ขยับตัว ทำเพียงนอนบนเตียง ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม

“หม่อมฉันเหนื่อย อยากพักผ่อน ท่านอาบก่อนเถิด”

“มานี่! ” เยี่ยโยวเหยากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย

หัวใจของซูจิ่นซีเริ่มสั่นเทา ทว่านางยังไม่ยอมขยับตัว ทำเพียงแสร้งหลับตาทั้งสองข้างและทำเป็นไม่ได้ยิน

ครู่หนึ่ง มีเสียงน้ำกระเพื่อมดังขึ้น ตามด้วยเสียงย่ำเท้ามาทางซูจิ่นซี

เสียงเท้าเปล่าที่เปียกน้ำนั้นแผ่วเบายิ่งนัก ทว่าเสียงนั้นดังเข้ามาในโสตประสาทของซูจิ่นซี ราวกับมีน้ำหนักครึ่งตันกระแทกหัวใจ จนทำให้นางรู้สึกหายใจลำบาก

ซูจิ่นซีเริ่มใจเสียเล็กน้อย กลัวว่าเยี่ยโยวเหยาจะทำอันใดนางอีก

ดังนั้น ทันทีที่เยี่ยโยวเหยาเปิดม่านออก ซูจิ่นซีจึงลุกขึ้นนั่งพิงผนัง พลางมองเยี่ยโยวเหยาด้วยน้ำตาคลอเบ้า

ดวงตาดำขลับอันแสนเย็นชาของเยี่ยโยวเหยาพลันจางหายไป เขายกยิ้มมุมปากและยื่นมือมาหาซูจิ่นซี “มานี่! ”

คราแรก ซูจิ่นซีคิดจะปฏิเสธ ทว่าเมื่อเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเยี่ยโยวเหยาแล้ว นางจึงยินยอมยื่นมือออกไปวางบนฝ่ามือของเยี่ยโยวเหยา

เยี่ยโยวเหยาดึงรั้งแผ่วเบา ซูจิ่นซีก็ถลาเข้าไปในอ้อมแขน จากนั้น เยี่ยโยวเหยาก็อุ้มนางไปที่อ่างอาบน้ำ

หลังจากชำระร่างกายเสร็จ ซูจิ่นซีสวมเสื้อคลุมบางเบา และนั่งใช้ผ้าขนหนูซับผมอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง

สมัยโบราณ เทคโนโลยียังไม่พัฒนา ช่างลำบากเสียจริง ซูจิ่นซีเช็ดผมอยู่นาน ทว่าผมของนางยังไม่แห้งเสียที หากมีไดร์เป่าผมคงจะดีกว่านี้ คิดแล้ว ซูจิ่นซีก็ยิ่งขยี้ผมแรงขึ้น

เยี่ยโยวเหยาเห็นเช่นนั้นจึงขมวดคิ้ว เขาเดินไปแย่งผ้าขนหนูมาจากซูจิ่นซี

ซูจิ่นซีพลันตกใจ

เยี่ยโยวเหยาจะทำอันใด จะเช็ดผมให้นางหรือ?

บุคคลสูงศักดิ์เช่นเขา คงไม่ลดตัวลงมารับใช้ผู้อื่นกระมัง?

ซูจิ่นซีกำลังครุ่นคิด ไม่นึกว่าเยี่ยโยวเหยาจะหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมให้นาง

นิ้วเรียวยาวของเยี่ยโยวเหยาค่อยๆ เช็ดผมให้ซูจิ่นซีทีละนิดจนผมเกือบแห้งสนิท จากนั้นจึงวางผ้าขนหนู พลางมองบนโต๊ะเครื่องแป้งที่มีหวีซี่ห่างสามเล่มซึ่งมีขนาดไม่เท่ากัน และหวีเสนียดอีกสองเล่ม ก่อนจะถามซูจิ่นซี “ใช้อันใด? ”

ซูจิ่นซีหยิบหวีที่มีซี่แปรงขนาดใหญ่เล็กน้อย และยื่นให้เยี่ยโยวเหยา

เยี่ยโยวเหยาสางผมให้ซูจิ่นซีอีกครั้ง

เมื่อมองคิ้วและใบหน้าที่กำลังจดจ่อของเยี่ยโยวเหยาในกระจก ซูจิ่นซีก็ตกตะลึงเล็กน้อย

การสางผม ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทำก็ทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสางผมหลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมที่ทั้งเปียกและพันกัน หากไม่มีทักษะที่ดี ไม่มีทางสางได้แน่นอน

ไม่เว้นแม้แต่เยี่ยโยวเหยา ผู้ที่สามารถทำได้ทุกอย่าง ยังต้องพ่ายแพ้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทำไปทำมาสักพัก เส้นผมที่พันกันยุ่งเหยิงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งถูกเยี่ยโยวเหยาทำให้ยุ่งกว่าเดิม คิ้วที่ขมวดเข้าหากันก็ยิ่งขมวดหนักกว่าเดิม

ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยโยวเหยาจึงส่งหวีคืนให้ซูจิ่นซีอย่างอ่อนแรง

“เจ้าทำเองเถิด! ”

ซูจิ่นซีอดกลั้นยิ้มไม่ได้

ไม่คาดคิดเลยว่า บนโลกนี้ยังมีสิ่งที่เยี่ยโยวเหยาทำไม่ได้อยู่ด้วย

ทว่าจะโทษเยี่ยโยวเหยาก็ไม่ได้

เมื่อก่อน ตอนอยู่ที่เรือนชิงโยว เส้นผมของเยี่ยโยวเหยาส่วนมากจะเป็นบ่าวรับใช้คนสนิทที่คอยสางผมให้ บางครั้งก็เป็นแม่นมฮวาที่ทำให้เขา

เขาเป็นถึงท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ แม้แต่เส้นผมของตนเองยังไม่ต้องสางเอง แล้วเขาจะสางผมให้ผู้อื่นได้อย่างไร?

เยี่ยโยวเหยาถอยหลังเล็กน้อย ก่อนจะล้มตัวลงบนเตียง เขาเอนหลังพิงหมอนและใช้มือรองศีรษะ พลางชื่นชมซูจิ่นซีอย่างผ่อนคลาย มองดูว่านางจะจัดการกับเส้นผมดำขลับสามพันเส้นนี้อย่างไร

ซูจิ่นซีแย้มยิ้มเล็กน้อย นางหันไปทางเยี่ยโยวเหยา และปล่อยให้เขามองอย่างเปิดเผย

ซูจิ่นซีแบ่งผมออกเป็นสองช่อใหญ่ทางซ้ายและขวา โดยเริ่มสางผมจากช่อด้านซ้ายก่อน

นางสางผมพลางพูดว่า “ทุกคนต่างพูดว่า ความกังวลและความทุกข์ใจบนโลกใบนี้ก็เหมือนกับเส้นผมสามพันเส้น เป็นเช่นนั้นจริงๆ ไม่ว่าความกังวลหรือความทุกข์ใจก็ดี เส้นผมสามพันเส้นก็ดี หากรีบร้อนจะยิ่งยุ่งเหยิง ต้องเริ่มทีละน้อย ค่อยๆ ดำเนินไปอย่างราบรื่นและเชื่องช้า”

ขณะที่พูด ซูจิ่นซีก็สางผมจากส่วนปลายทีละนิ้ว ใช้เวลาไม่นาน ผมที่พันกันยุ่งเหยิงก็ถูกสางจนคลายออก หลังจากนั้น ซูจิ่นซีก็สางช่อผมด้านขวาอีกครั้ง

เยี่ยโยวเหยามองการเคลื่อนไหวของซูจิ่นซี ในดวงตาลึกล้ำปรากฏแสงสว่าง แสงนั้นค่อยๆ เคลื่อนตัวจากมือของซูจิ่นซีที่กำลังสางผมไปยังใบหน้าอันงดงาม

หลังจากที่ซูจิ่นซีคลายเกลียวผมทั้งสองข้างเรียบร้อย นางก็รวบผมไปไว้ด้านหลัง เยี่ยโยวเหยายื่นมือมาหานาง

“ซีซี มานี่! ”

ซูจิ่นซีมองมือของเยี่ยโยวเหยาที่ยื่นมาหา พลางยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย จากนั้นจึงเดินไปหาเยี่ยโยวเหยาอย่างเชื่องช้า

เมื่อซูจิ่นซีเดินมาถึงขอบเตียง เยี่ยโยวเหยาก็จับมือนางและรั้งให้นั่งลง ก่อนจะเกลี่ยมือเล็กนุ่มนิ่มของนางแผ่วเบา

ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงทุ้มต่ำทว่าเปี่ยมไปด้วยความรักของเขาก็ดังขึ้น

“ซีซี โลกมนุษย์ช่างวุ่นวาย ไม่ว่าต้องพบเจออุปสรรคขวากหนามอันใด ข้าก็จะเดินเคียงข้างเจ้า และจัดการพวกมัน… ทีละคน เหมือนกับ… เส้นผมสีดำสามพันเส้นนี้”

เมื่อพูดจบ เยี่ยโยวเหยาก็หยิบเส้นผมของซูจิ่นซีขึ้นมาใกล้ปลายจมูก พลางหลับตาสูดดมกลิ่นของมัน

แม้ซูจิ่นซีจะสางผมแล้ว ทว่ายังมีความชื้นอยู่ ผมที่เปียกชื้นมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของสบู่ที่ซูจิ่นซีใช้ กลิ่นหอมผ่อนคลายนั้นทำให้จิตใจของเขาสงบ