มีกลุ่มอสูรเชวียนอยู่บนยอดไม้  และ มีอีกมากมายที่เดินไปมาบนพื้น  พวกมันถ่ายทอดข้อมูลไปมาอย่าง ต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมี อสูรที่อยู่บนท้องฟ้าซึ่งเฝ้าดู นครสวรรค์ใต้อยู่  พวกเขาบินโฉบเหนือยอดไม้เป็นบางครั้ง และจากนั้นก็กลับไป  จากนั้นพวกเขาก็ถูกแทนที่ด้วยอสูรเชวียนกลุ่มอื่นๆ  การมีผู้ที่มาใหม่นั้นหมายถึงการเปลี่ยนกะคุ้มกัน  และ กิจวัตรนี้เป็นไปอย่างเที่ยงตรง ความจริง การป้องกันของพวกเขานั้นมิได้น้อยไปกว่าของมนุษย์

ไม่รู้ว่ามีอสูรเชวียนหลบซ่อนอยู่ในความมือดของป่าอีกมากเท่าไหร่  ความจริง เอ่ยได้ว่าทุกซอกหลืบของเทียนฟาได้ถูกเปลี่ยนเป็นกับดักสังหาร

 

อย่างไรก็ตาม กับดักสังหารเหล่านี้มิได้ทำอันตรายใดๆแก่คุณชายน้อยจวิน

 

อย่างเช่น คุณชายน้อยจวินเพิ่งเหยียบไปบนหัวของ พยัคฆ์เชวียนทอง  แต่กระนั้น ก็น่าเสียดานที่ต้องเอ่ยว่า อสูรเชวียนนั้นไม่รู้สึกอันใด  แล้ว มันก็ยังคุยกับ พยัคฆ์ทองที่นั่งอยู่ข้างๆต่อไป …

 

” ปรู๊ว …บรู๊ว …โบ้ว ?  .เจ้าเห็นอันใดหรือไม่ ?

 

” โอ โอ บรู๊ว ….”

.ข้าไม่พบสิ่งใด

 

” บรู็ว บู้ว โอ้วว … อำ อัก ….”

.ข้าอยากกินอาหาร

 

” โอ้ โอ อัก …”

ข้าก็อยากกินเช่นกัน

 

” โอ้ว ..โอ้ว ..บรู๊ววว อัก ? “

เมียงของเจ้าเจอเมียน้อยของเจ้าหรือยัง ?

 

 

“โอ้ว อัก บรู้วว …”

.เขาตอบอย่างภูมิใจ …นี่น่าตลกนัก … ไม่มีทางที่ยายแก่นั่นจะพบได้ …

 

คุณชายน้อยจวินไม่สามารถเข้าใจพวกเขาได้แม่นว่าความสามารถของเขานั้นจักเกินธรรมดา  ความจริงเขาไม่เข้าใจสิ่งใดเลย  อย่างไรก็ตาม เขาเหลือบมองพวกเขาในขณะที่พวกเขาขยิบตาใส่กัน  เช่นนั้น เขาจึงอดที่จักอยากรู้อยากเห็นไม่ได้  ท้ายที่สุดแล้ว มิใช่เรื่องปกตที่จักเห็น พยัคฆ์ทองที่มีสีหน้ากามตันหา  อย่างไรก็ตาม จวินโม่เซี่ยไม่ได้มีความสามารถในการแปลมากมายเช่นนั้น …

 

ท้ายที่สุดจวินโม่เซี่ยไม่สามารถเข้าใจพวกเขาได้  เช่นนั้น เขาจึงจากไปอย่างไม่มีทางเลือก เขากำลังจะจากไปในตอนที่เขาตั้งใจใช้พลังนิดหน่อยเตะไปยังหัวของ อสูรเชวียน ทำให้หัวของ พยัคฆ์เชวียนทองก้มลง  ความจริงมันเกอบจะกระแทกกับพื้น

” โออออ ! ”

มันลุกขึ้นโดยที่หางเหยียดตรงราวท่อนเหล็ก  จากนั้นอสูรมองไปรอบๆด้วยทีท่าสงสบ และพยักหน้า  จากนั้นมันมองไปรอบๆอีกครัง และแยกเขี้ยว

” กรอนนน กรอนนนน หืมมม ? “

.เจ้าเห็นอะไรไหม ?  เหตุใดเข้าถึงรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างโดนหัวข้า ?

 

” บรู๊วว บรู๊ว อัก! ”

พยัคฆ์เชวียนทองสี่ตัวหันไปหาเพื่อนของมัน  สีหน้าของพวกมันเต็มไปด้วยความเหยียดหยามขณะที่กรอกตา

” บรู๊ว บรู๊ว อืม อัก…”

เจ้ามันเป็นบ้า !  กลานคืนเจ้านอนไม่หลับอีกแล้วหรือ ?  เจ้าดูโง่เง่า !

 

” อืมมม อัก บรู๊ว! ”

แม่เจ้า  ข้ามีร่างที่สุขภาพดี …!

จากนั้นพยัคฆ์เชวียนยืดอุ้งมือที่มีขนปกคลุมออกมา และเตะที่หัว  จากนั้นมันขยับหัว และครุ่นคิดเล็กน้อย  แต่ อสูรเชวียนยังคงไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น  เช่นนั้น เขาจึงตัดสินใจลืมเหตุการณ์ลึกลับ และนอนลงอีกครั้ง  จากนั้น เขาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการหิ้วสาวกับเพื่อนของเขาต่อ …

 

 

ลึกเข้าไปในป่าเทียนฟา …

 

” เจ้าได้ประกาศถึงการต่อสู้แล้วหรือ ? “

บุรุษชุดดำถือเจ้าขาวน้อยไว้ขณะที่เขาถามด้วยเสียงต่ำ

 

” เอ่อ ข้าคิดว่าเจ้ามนุษย์โอหังนั่นจักให้ความสนใจในการแข่งขันนี้ ! ”

กระเรียนคอยาวกระพริบตาที่ละเอียดอ่อนของเขา

 

” ข้าจักไปเก็บตัวแล้วตอนนี้  สำคัญที่จักต้องไม่รบกวนข้า ! ”

บุรุษชุดคลุมดำถอนใจ

” ข้ารู้สึกถึงการเริ่มต้นการพัฒนาในช่วงปลายนี้  ความแข็งแกร่งในร่างกายของข้ากำลังถึงขีดจำกัด  และ มันจักกลายเป็นเรื่องยากมากที่จักรักษาเอาไว้ … การต่อสู้นี้เข้ามาในช่วงเวลาที่ย่ำแย่ ”

 

” อุ่นใจได้ พี่ใหญ่  การพัฒนาของท่านสำคัญนัก  ท่านไม่ต้องกังวล  ปล่อยให้พวกเราจัดการเรื่องอื่นๆ  ไม่มีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นแน่นอน ”

กระเรียนคอยาว และหมีใหญ่ตอบพร้อมเพรียง

 

” อืม เป็นเช่นนั้น แต่อย่างแรกเจ้าต้องดูแลเจ้าตัวน้อยนี้  และ พยายามหาเจ้านายของมันให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ … ก่อนที่ศึกชีชะตาจะเริ่มขึ้น  ข้าเชื่อว่ามีโอกาสอย่างมากที่เจ้านายของมันเป็นหนึ่งในคนจากสกุลตูกูแห่งเทียนเชียง  นี่เป็นโอกาสที่จักสืบสวนถึงวิธีการพัฒนา ”

 

จากนั้นบุรุษชุดดวางเจ้าขาวน้อยลงบนมือของหมีใหญ่  หมีใหญ่ยิ้ม และวางเขาไว้บนหัว ดูราวกับลิงกอริล่าสีดำใส่หมวกสีขาว  เป็นฉากที่น่าขันยิ่งนัก

 

บุรุษชุดดำหัวเราะชั่วครู่ และจากนั้นร่างสูงโปร่งของเขาหายไปในทันที  ความเร็วในการเคลื่อนไหวของเขาสูงส่งยิ่งนัก

 

” เคล็ดเชวียนของพี่ใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างยอดเยี่ยม เขาจักไล่ตามราชันในอดีตได้หากเขาสามารถบรรลุขั้นหกได้ ใช่ไหม ?  ข้ารอคอยและหวังอย่างยิ่งว่าชีวิตที่เหลืออยู่ของข้าจะเป็นเช่นนั้น ”

น้ำเสียงของกระเรียนคอยาวเต็มไปด้วยการยอมรับและโศกเศร้า

 

” หือ !  พวกเราทั้งคู่จะพ่ายแพ้ !  เรายังคงติดอยูที่ระดับสิบ  พวกเราทำงานอย่างหนักมาทั้งชีวิต และไปไดใแค่เพียงระดับสิบ ! ”

หมีใหญ่แขวนคอตัวเอง และเอ่ยตอด้วยท่าทีท้อใจ

” และในที่สุดเราได้พบผู้ที่สามารถช่วยเราให้พัฒนาต่อไปได้หลังจากผ่านความยากลำบากมามาก  ยิ่งกว่านั้น เงื่อนไขของกาช่วยเหลือของเขาก็มิได้ยากเลย  แต่ เจ้าชั่วลีจื้อเทียนเข้ามาก้าวก่าย … ข้าจะจับตาเฒ่าผู้นั้นมากินดิบๆ ! ”

 

เขามีโทสะขณะพูด  จากนั้นเขาคว้าไปที่เจ้าขาวน้อย และอ้าปากกว้างราวแอ่งน้ำ  จากนั้นเขาเอาเจ้าขาวน้อยมาที่ปาก และและทำเหมือนว่าเขาจะโยนสิ่งมีชีวิตตัวน้อยนี้เข้าไปในปากของเขา  และจากนั้น เขายืดตัวและเขย่าเบาๆ ขณะจามกด้วยเสียง ฮัจฉิ้ว ! ”

น้ำลายพ่นออกมาจากปากของเขาออกไปสูงอย่างมาก  จากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง จามอีกครั้ง และพ่นน้ำลายเพิ่มอีกครั้ง

 

เจ้าขาวน้อยหวาดกลัวต่อความซุกซนของเจ้าหมีใหญ่  เช่นนั้น มั้นจึงร้องเสียงแหลมและตะโกน  แต่ ราชัญอสูรเชวียนทั้งสองยังคงหัวเราะ  ชัดเจนว่า การเล่นกับ ลูกบอลขนฟูเล็กๆนั้นมิใช่เพื่อฆ่าเวลาเท่านั้น มันยังให้ความสนุกแก่ราชันอสูรเชวียนอีกด้วย

 

แค่มองหมีใหญ่ก็สามารถบอกได้ว่านี่คือนิสัยของเขา

 

” พอแล้ว !  หยุดดล่อเล่น !  เจ้าจักมีปัญหาหากเจ้าแกล้งมันจนตาย !  เจ้านายของสิ่งนี้ และ บุรุษลึกลับ และ ยอดฝีมือลึกลับนั้นมีความสนิทสนมกันอย่างแน่นอน  เช่นนั้นเจ้าเช่นนั้นเจ้าจักถูกจับได้หากเจ้าถูกกล่าวหา ….”

 

จากนั้นกระเรียนคอยาวมองอย่างประหลาดไปในเทียนฟา  และเขาเอ่ยด้วยท่าทีครุ่นคิด

” ข้าไม่รู้มาก่อนว่า ราชันงู กำลังมองหา ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งเทียนฟา นางจักทำได้อย่างไรในเวลาเช่นนั้น ? “

 

” ครุ่นคิดเรื่องนั้นช่างไร้ประโยชน์  อย่างไรเราก็มิได้กินมัน  พลังของเราอยู่ในระดับการพัฒนาอีกครั้ง เช่นนั้น ร่างของเราจะกระเบิดหากเราทำตัวโง่เง่า และกินเข้าไป  และ พี่ใหญ่เอ่ยว่า มีเพียงแค่พวกเขาเท่านั้นที่ควรกิน ความจริง พวกเรามิสามารถกินมันได้แม้นว่าเราจักได้รับอนุญาตก็ตาม  แต่ ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาจักอดทนกับมันได้หรือไม่ ”

หมีใหญ่หยอกล้อเจ้าขาวน้อย และวางเขาไว้บนหัวอีกครั้ง  แต่ เขาไม่กล้ายุ่งกับเจ้าตัวเล็กอีกแล้ว

 

จากนั้น เขาเริ่มมีโทสะและกระทืบเท้าทันที

” นี่เพราะว่าเจ้าชั่วลีจือเทียน !  เจ้าชั่วนั้น และลูกชายตัวร้ายของเขา !  กองกำลังมหาศาลนั้นจักมาล้อมที่นี่หรือหากเราสามารถทำงานให้เสร็จเร็วกว่านี้ ?  มันจักดี หากเราสามารถพัฒนาได้ด้วยการช่วยเหลือจากบุรุษลึกลับและกิน ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์หลังจากนั้น  แต่ พ่อลูกคู่นี้ทำให้เราพลาดโอกาสอันหาได้ยากยิ่งนี้  นี่ทำให้ข้ามีโทสะจนมิอาจควบคุม  ข้าอาจไม่สามารถรับมือกับพ่อได้ แต่ข้าจักสังหารลูกหากข้ามีโอกาส …! ”

 

” พวกเราพลาดโอกาสที่ดีอย่าแน่นอน  เช่นนั้นจึงไม่ต้องคิดถึงมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาคับขันเช่นนี้  ราชันอสูรเชวียนไม่น้อย ระเบิดและตายหลังจากกิน ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ ในตอนที่พวกมันปรากฏขึ้นครั้งล่าสุด เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถรับมือกับพลังได้  และตอนนี้ หาก…”

ดวงตาของกระเรียนคอยาวเต็มไปด้วยความกังวล

” มันจักดีอย่างไรหากเราสูญเสียพวกเขามากขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ? ”

 

พวกเขาทั้งสองเริ่มเงียบ  จากนั้นพวกเขามองออกไปในป่าด้วยความคิด และเป็นกังวล

 

จวินโม่เซี่ย พุ่งไปราวสายลม  เขามองหากลิ่นไอของหมีใหญ่อยู่ชั่วครู่  อย่างไรก็ตาม ป่านั้นใหญ่โตมโหฬารเกินกว่าจักทำให้เขามองหาอสูรเชวียนได้อย่างง่ายดาย  เขาเคลื่อนที่รวดเร็ว และหยุดลงเมื่อพบบางสิ่ง

 

เขาพบว่า อากาศในพื้นที่นี้หม่นหม่องอย่างมาก  ยิ่งกว่านั้น มันยังเต็มไปด้วยพิษที่ช่วยร้าย

 

นี่เป็นสถานที่ที่มีพิษมหาศาล

และนี่เป็นการกล่าวน้อยกว่าความจริงในสายตาคุณชายน้อยจวิน  แม้แต่ยอดฝีมือเชวียนที่ทรงพลังที่สุดก็ต้องตายจากพิษ หากเขาไม่สามารถป้องกันตัวเองและหายใจด้วยอากาศที่อยู่ในพื้นที่นี้  พิษเหล่านั้นเป็นเลิศยิ่งนัก

 

พิษอันใดกันที่เลวร้ายเช่นนี้  ?

จวินโม่เซี่ยเหงื่อแตก

เป็นสิ่งดีที่ข้าใช้เคล็ดอิสระหยินหยาง  มิเช่นนั้น ข้าคงตายและกลายเป็นกองกระดูกแห้งด้วยความแข็งแกร่งอันน้อยนิดของข้า

 

จากนั้น เขาได้ยินเสียง กรอบแกร็บดังจากที่ห่างไกลขณะที่เขากำลังคิดถึงสิ่งนี้ และสายตาของเขาก็มุ่งไปทันที

 

มีแสงสีเขียวเปล่งประกาย และหญิงสาวในชุดเขียวปรากฏตัวขึ้นใต้ต้นไม้อย่างรวดเร็ว  ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นขณะที่นางก้มตัวลงมองบางสิ่ง …

 

ผิวของหญิงสาวนั้นเรียบเนียนอย่างมาก  ใบหน้าของนางงดงาม สง่าเกินกว่าพรรณนา  นางเปล่งประกายกลิ่นไออันไร้เดียงสางและมีสเสน่ห์  ยิ่งกว่านั้นร่างของนางดึงดูดอย่างมาก   ให้พูดอย่างเที่ยงตรง … ร่างของนางนั้นเลิศเลอยิ่งกว่าหญิงทุกคนที่จวินโม่เซี่ยเคยเห็น…

 

ร่างส่วนหน้าของนางนั้นโค้งนูน ในขณะที่ส่วนหลังเว้าเข้ามา ร่างของนางเพรียวตั้งแต่ คอ หยก ไปจนถึงข้อเท้า  ดูราวกับมันถูกสรรค์สร้างจากสรวงสวรรค์  ความจริง ส่วนนูนดังกล่างนั้นยื่นออกมาเกินความเป็นจริงนัก  แต่ ส่วนเว้าตามธรรมชาตินั้นเรียบเนียนมาก การที่ได้เห็นร่างของนางทำให้หัวใจของคนผู้นั้นเต้นแรง

 

.ใบหน้าของนางดูเหมือนคนอายุ สิบเจ็ดหรือสิแปด  ข้าไม่รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นผู้ใหญ่อย่างไร … แต่นางมีใบหน้าของนางฟ้า และร่างของปิศาจ

 

เขาตะลึงงันชั่วขณะเมื่อเขาได้พบกับความจริงบางอย่าง หญิงสาวผู้นี้ปรากฏขึ้นจากสถานที่ซึ่งอันตรายเช่นป่าเทียนฟา และในช่วงเวลาที่อันอย่างมากเช่นนี้ !  อย่างไรก็ตาม เขาประหลาดใจยิ่งขึ้นเมื่อได้รู้ความจริงว่านางดูเหมือนไม่หวาดกลัวพิษร้ายที่อัดแน่นอยู่ในอากาศ  และ ความคิดนี้ยิ่งทำให้จวินโม่เซี่ยสนใจนางมากยิ่งขึ้น …

 

พืชประหลาดโตขึ้นใต้ต้นไม้  มันมีรูปร่างที่ประหลาด และ มีลำต้นหลากสี มีก้านที่บางเท่านิ้ว  เก้าใบไม้แตกยอดออกมาจากต้น แต่ละใบเปล่งประกายด้วยสีที่ต่างกัน และแต่ละใบมีหยดน้ำค้างหนึ่งหยด  หยดน้ำกลิ้งไปมา แต่ไม่เคยหยดลงจากใบ  ผลไม้แปลกประหลาดหลากสีเติบโตบนยอดของพืชนั้น  และมันปลดปล่อยกลิ่นที่เข้มข้นและน่าพิศวง

 

สีทั้งเจ็ดค่อยๆรวมเข้าด้วยกันในขณะที่กลิ่นค่อยๆเข้มข้นขึ้น  และ พิษมากมายในอากาศเริ่มคล้ายดั่งลมพายุ และก่อตัวเป็นวังวน และการหมุนวนแต่ละครั้งนั้นถูกดูดซึมเข้าไปในผลไม้ที่ประหลาดนี้