จวินโม่เซี่ยตกตะลึง ความจริงเหงื่อของเขาผุดออกมา .เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวใจกล้ายิ่งนัก ! ข้ามิได้คาดคิดว่าคนผู้นี้จักสามารถทำเช่นนี้ได้ !
เทียนฟาสามารถติดตามแม้แต่หนูที่อยู่ภายในอาณาเขตได้ในช่วงเวลาสงครามนี้ เช่นนั้น กองกำลังแทรกซึมจักซ่อนเร้นได้อย่างไรกัน ?
สมมุติว่าเราทำตามแผนการของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว และกองกำลังสามารถแทรกซึมเข้าไปในเทียนฟาได้ พวกเขาจักถูกล้อมไปด้วยกองกำลังของศัตรู …. และจากนั้น ศัตรูจักใช้ความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าทำลายกองกำลังทั้งหมดนั้นเสีย ! ผลลัพธ์นี้เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ตายคือตาย … แต่กองกำลังนี้จะมุ่งหน้าเข้าสู่การฆ่าตัวตายหากทำเช่นนี้ …
จวินโม่เซี่ยรู้ว่าเขานั้นประเมินความฉลาดของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวอย่างระมัดระวังเกินไป เขาประเมินเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวสูงเกินไป ดูเหมือนว่าหัวของคนผู้นี้จักเหมือนฟักหลังจากฝึกฝนกับเหยี่ยวผาหิมะ เช่นนั้น ความฉลาดของเขาเริ่มคล้ายคลึงกับเหยี่ยวแล้วในตอนนี้ …
“วันนี้ยังไม่แล้วเสร็จ….”
จวินวูอี้ถอนใจ
“เทียนฟาได้ประกาศสงคราม มันให้เวลาเราเตรียมตัวเป็นเวลาสามวัน ก่อนการต่อสู้เต็มรูปแบบจักเริ่มต้นขึ้น และ พวกเรายังคงค้นหาผู้บัญชาการสูงสุด ….”
” พูดถึงผู้สมัครเป็นผู้บัญชาการสูงสุด ลุงสามนั้นมีชื่อนัก ”
ตงฟางเหวินชิงคำรามทางจมูกเยือกเย็น จากนั้นเขาเอ่ยต่อด้วยโทสะ
” นครพายุหิมะสีเงินแนะนำเขาทันที พวกเขาจากนั้นเขาก็ได้ยกย่องความสามารถของ ขุนพลเลือดอย่างจริงจัง จากนั้น คุณชายน้อยของ มณฑลฉือฮั่น ลี่เติ้งหยวน ลุกขึ้นและแนะนำเขา … มันเกือบจักตัดสินได้แล้ว ! เจ้าพวกระยำเหล่านั้น ! พวกเขาพยายามยืมมีดมาสังหาร ! พวกเขาต้องการใช้ชื่อเสียงของลุงสามเพื่อทำอันตรายเขา ! ”
จวินโม่เซี่ยกรอกตา
” ท่านคิดเห็นเช่นไรกับเรื่องนี้ลุงสาม ?”
จวินวูอี้เลิกคิ้ว
” พวกเรามาที่นี่เพื่อจัดการเรื่องนี้ เช่นนั้น จักเป็นอะไรไปหากคนเหล่านี้เล็งเป้าไปที่การยืมมีดมาสังหาร ? กบฏอสูรเชวียนนี้คุกคามไปทั่วแผ่นดินใหญ่ เช่นนั้น มันต้องถูกกำจัดและหยุดยั้ง ยิ่งไปกว่านั้น การต่อสู้ถึงที่สุดนั้นเป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินเรื่องทั้งหมด ! ยอดคนไม่ทำสิ่งที่ไม่ดี ! คนอื่นจักเข้ามาแทนที่ข้า หากข้าไม่ก้าวขึ้นไป ! ยิ่งไปกว่านั้น มิใช่เรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากข้าจักตายในหน้าที่ …”
” หืมม … ? ท่านหมายความว่าท่านยอมรับมันหรือ ? “
จวินโม่เซี่ยยืนขึ้น และถามสุขุมหลังจากที่เขาก้าวไปสองวก้าว
” ข้ายอมรับ ”
จวินวูอี้ตอบอย่างสงงบ
” เพียงแค่ข้าเท่านั้นที่ได้รับการเสนอชื่อ ไม่มีผู้อื่น และ ชื่อเสียงสกุลจวินต้องด่างพล้อยหากข้ารักตัวกลัวตายในสถานการณ์เช่นนี้ และปฏิเสธที่จักเป็นผู้นำในการทำสงครามนี้ ความจริง ชื่อเสียงของสกุลเราจักตกไปต่ำอย่างมาก ! เชื่อเสียงและความกล้าหาญทั้งหมดในอดีต ซึ่งปู่ของเจ้า พ่อ ลุงสอง และพี่ทั้งสองของเจ้ามอบให้สกุลจวิน จักถูกชะล้างสิ้น และข้าจักทำลายมันพินาศหากข้ารักชีวิต และหวาดกลัวความตายเช่นนนี้ ! ดังนั้น … ข้าต้องไม่ถอยแม้นว่าต้องตาย ! ยอดบุรุษได้รับชื่อเสียงนั้นมีเหตุผล ! ”
” พวกเขาเสนอชื่อเจ้าเพราะรู่ว่าเจาจักไม่ปฏิเสธ ไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากนี้ พวกเขารู้ดีว่าเจ้าจักไม่ถอย ”
ตงฟางเหวินชิงคร่ำครวญ
” เจ้ารู้ว่านั้นเป็นกับดัก และเจ้ายังกระโดดลงไปอีกอย่างนั้นหรือ ? นี่หรือเรียกว่ายอดบุรุษ ? นี่ไม่ต่างอันใดจากการกระทำที่โง่เขลา ! “
” เช่นนั้นข้าจักตายโดยไม่เสียใจ! ”
สีหน้าของจวินวูอี้เยือกเย็น
” ชื่อเสียงของสกุลจวินนั้นเกินกว่าข้าจักกังวล ! ข้ามิให้ความสำคัญเช่นนั้น ! และข้าจักไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงของสกุลจวินต้องล่มสลาย ! “
“โง่เขลา ! ”
ตงฟางเหวินชิงตำหนิรุนแรง
” เจ้าไปออกรบเป็นเพียงการเสียสละอย่างไร้ความหมายเพียงเท่านั้น ! ”
” ยอดบุรุษนั้นต้องแบกรับความรับผิดชอบของพวกเขา และชื่อเสียงสกุลจวินนั้นคือความรับผิดชอบของข้า ! ”
จวินวูอี้ขมวดคิ้ว แต่ มีความเด็ดเดี่ยวบนใบหน้าของเขา
” สกุลจวินจักต้องไม่ตกต่ำ ท่านพ่อ และโม่เซี่ยยังคงอยู่ … แม้นว่าข้าจะจากไป เช่นนั้น สกุลจวินจักไม่ตกต่ำ ! และ ตอนนี้ข้าจักก้าวต่อไปเพื่อสกุลของข้าในนามของ จวิน อย่างไรก็ตาม ข้าจักไม่ทำสิ่งนี้เพราะข้าต้องการที่จักติดกับ …หรือกลายเป็นวีรบุรุษ สิ่งนี้เพียงเพื่อชื่อเสียงของสกุลจวินของข้าเท่านั้น ! สกุลจวินจักไม่เคยเกรงกลัวต่อศัตรู หรือทำตัวขี้ขลาด ! ”
ตงฟางเหวินชิงสั่นสะท้านไปทั้งตัวเนื่องด้วยโทสะ เขากระทืบเท้าและสถบ
” ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดไร้สมองมาก่อนในชีวิต ! เจ้าพูดอะไรบ้าง โม่เซี่ย ! ”
“ข้ามิได้มัดผมมาเป็นเวลาสิบปี และทุกคืนข้ามองไปยังพระจันทร์และหวังว่าจะได้มาที่เทียนเชียง … แต่ข้ารู้ว่าชีวิตนั้นมิได้ย้อนกลับ ”
จวินโม่เซี่ยเอ่ยเสียงดัง เขาเงยหน้าขึ้นทันที และเอ่ยด้วยเสียงต่ำ
” ท่านจักทำทั้งๆที่เป็นเช่นนี้หรือ ลุงสาม ? เรื่องเกียรตินั้นมิใช่นิสัยของ้ขา ข้าไม่สนใน ! และข้ามั่นใจว่าแม้แต่ท่านปู่ก็เป็นเช่นเดียวกัน ! ชีวิตของท่านนั้นสำคัญยิ่งสำหรับพวกเรา ! อีกทั้ง อย่าลืมว่ามีใครบางคนที่รอคอยท่านของบนหุบเขาหิมะ นางรอท่านมาสิบปี่ เพราะความรู้สึกของนาง และ นางจักยังคงรอต่อไป …”
ร่างของจวินวูอี้เริ่มสั่นรุนแรง และใบหน้าของเขาแสดงความเจ็บปวด สีหน้าของเขาเริ่มหม่นหมองภายในเสี่ยววินาที จากนั้นเขาหลบหน้าไป และแก้มของเขาหายเข้าไปในความมืดจากแสงตะเกียงอันริบหรี่ จากนั้นเขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงทรมาณ
” มันมิใช่เพียงเกียรติยศเท่านั้น สนามรบก่อให้เกิดร่างที่สิ้นลมมานับล้านแต่อดีต พวกเขามิใช่คนที่มีพ่อแม่ที่แก่เฒ่าหรือ ? ไม่มีภรรยาสาวสุดที่รักหรือ ? ข้า จวินวูอี้ นั้นแตกต่าง ? ข้าเป็นทองล้ำค่า ? นี่เป็นเหตุผลที่เพียงพออย่างนั้นหรือ ? “
” ข้าได้ตัดสินใจแล้ว พี่ใหญ่ ท่านทั้งสามอย่างได้รบเร้าโม่เซี่ย อย่างไรก็ตาม ข้าเชื่อว่า การที่ข้าได้เป็นแม่ทัพสูงสุดจักส่งผลที่ยิ่งใหญ่ อย่างน้อยข้าก็สามารถทำได้ดีกว่าคนที่ดื้อรั้นไร้ประโยชน์”
จวินวูอี้ยิ้มแข็งแกร่ง
” ไม่เป็นไรหากท่านไปต่อสู้ แต่จำเป็นไหมที่ต้องมีแค่ท่านคนเดียว ? คนอื่นมิอาจสู้ได้อย่างนั้นหรือ ? “
จวินโม่เซี่ยกรอกตา
” ท่านจักนำทัพคนสามัญและปะทะกับศัตรูแบบตัวต่อตัว ? มันถือได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตายหากท่านนับทัพคนสามัญ แต่ สกุลทรงพลังมากมายได้ส่งคนของพวกเขามายังเทียนฟา และ ท่านต้องการกองทหารนับพันสำหรับการต่อสู้ครั้งนี้ ยิ่งกว่านั้น พวกเขาจำนวนหนึ่งจักต้องอยู่ในขั้น ปฐพีเชวียน และต้องมี หยกเชวียนอีกนับพันหากท่านต้องการชนะ เราจักสามารถหากขุนศึกเช่นนั้นได้อย่างไรในกองทัพสามัญนี้ … ? เช่นนั้น ท่านต้องขอทหารชั้นยอดเหล่านี้ด้วย ความจริงท่านต้องบังคับให้ มณฑลฉือฮั่น และ นครพายุหิมะสีเงิน ส่งชนชั้นสูงของพวกเขาเข้าร่วมกองทหารที่ท่านจักนำเข้าสู่การต่อสู้ ….”
” หึม ? เจ้าหมายความว่าอย่างไร ? “
แสงสว่างเปล่งประกายในดวงตาของจวินวูอี้
” เราสามารถยืมมีดมาสังหารได้! ”
ฟันสีขาวของจวินโม่เซี่ยเผยให้เห็นขณะที่เขายิ้ิมชั่วร้ายชั่วชณะ และ พวกมันเริ่มส่องประกายท่ามกลางแสงตะเกียง ความจริง เขาดูราวกับสัตว์กินคนขณะที่วางมือลงและเอ่ยอย่างชั่วร้าย
“การวางแผนสังหารท่านในครั้งนี้จักต้องมีราคาที่มหาศาล พวกเขาต้องการให้เราถูกกำจัดมิใช่หรือ ?! แต่แล้ว ทุกก๊กเหล่าที่ทรงพลังจักต้องพบจุดจบกับพวกเรา ! มีผู้ใดอยากจากโลกนี้ไปบ้าง ? ผู้ใดกล้าวุ่นวายกับสกุลจวินของข้า ?! พวกเราจักปล่อยให้แผนการของเขาดำเนินไปอย่างราบรื่นได้อย่างไร ? โชคชะตาของพวกเขาจักติดตามพวกเราไปหากพวกเราเสียเลือดไปแม้แต่หยดเดียว ! ”
” และ นี่เป็นที่ที่ท่านควรชิงความได้เปรียบ ท่านลุง ! ท่านควรตอบรับตำแหน่งท่านในเรื่องนี้ ! ”
ดวงตาของจวินโม่เซี่ยหรี่ลงขณะที่กลิ่นไอชั่วร้ายแผ่ออกมาจากร่างของเขา
” พวกเขาว่าแผนจักส่งสกุลจวินของเราลงหลุม แต่พวกเขาต้องเตีรยมตัวเองในเวลาที่เราชนะในแผนการนี้ ! ”
” มันดูราวกับเราโยนชีวิตของเราทิ้งไปหากเรายอมรับสิ่งนี้ เช่นนั้น เราต้องมีคนอื่นที่นอนตายข้างๆเรา ! ยอดฝีมือเชวียนต้องการให้ท่านตายโดยการให้ท่านนำทัพทหารสามัญ เช่นนั้น เราควรรักษาสิ่งนั้นไว้เป็นเงื่อนไขของเรา ! และเราจักไม่ยอมรับสิ่งใดหากพวกเขาไม่ยอมรับความต้องการนี้ เพราะว่า … นั้นจักเป็นการติดกับที่ง่ายดายเกินไป ! และ เหตุใดที่เราต้องลงนรก ในเมื่อพวกเขาเองไม่ต้องการ ? ชีวิตของพวกเขาจักมีค่าเกินกว่าพวกเราได้อย่างไร ? และ หากพวกเขาเห็นด้วย แล้ว …ฮี่ฮ๊่ … ผู้ใดจักรู้ว่าใครจักตาย ….”
จวินโม่เซี่ยหัวเราะเยือกเย็น และ เอ่ย
” มั่นใจได้ ท่านลุง … มันจักเป็นไปด้วยดี ”
จากนั้นเขาหันหลังและจากไป
สามพี่น้องตงฟางเหลือบมองจวินวูอี้ และเดินออกไปเช่นกัน
” ลุงสามของเจ้ามี …. หัวใจของผู้ที่ประสงค์จักตาย “
ตงฟางเหวินชิงมองไปยังพระจันทร์เต็มดวง และถอนใจ กลิ่นไออันคมชัดของป่าได้เข้ามาสู่รูจมูกของเขา
” หากข้ารู้ก่อนหน้านี้ ….”
จวินโม่เซี่ยเอ่ยเศร้าหมอง
” หัวใจของเขาแสดงถึงสัญญาณที่โศกเศร้ามาก่อนหน้านี้ หากท่านปู่มิได้แก่เช่นนั้น …หรือก่อนหน้านี้ข้ามิได้ไร้ค่า … เช่นนั้นท่านลุงอาจจะ … เขาได้ประบสบกับความสุญเสียมานานหลายปีนัก คนอื่นๆคงฆ่าตัวตายมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วตอนนี้ …… และตอนนี้ ท่านก็มาถึง นั่นเท่ากับการปกป้องข้า … ความจริง เท่ากับข้าได้รับผู้อุปถัมภ์ เช่นนั้น ลุงสาม …ถึงมิอาจอดทนได้อีกต่อไป ….”
” เป็นจริงเช่นนั้น ….”
ลุงทั้งสามถอนใจขณะพวกเขาเอ่ย
” ยากจักคาดเดาว่าเรื่องเหล่านั้นส่งผลต่อลุงสามของเจ้าเช่นไร เขามิได้ภาคภูมิใจที่ได้เป็น ยอดบุรุษอย่างนั้นหรือ ? พวกเราคงเป็นบ้าไปนานแล้วหากเป็นเขา แต่ ลุงสามของเจ้าระสบกับความทรมาณเช่นนั้นมามากกว่าสิบปี ! ”
” ความเจ็บปวดของเขาจะต้องอยู่อีกไม่นาน ข้าตัดสินใจแล้ว ! ”
จวินโม่เซี่ยเงียบอยู่ชั่วครู่ก่อนเขาจักเอ่ยวาจาเหล่านี้อยางนุ่มนวล อีกสามผู้เงยหน้ามองเขาในทันที และ ดวงตาของพวกมเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
.เขาเผชิญหน้ากับนครพายุหิมะสีเงินหากต้องการที่จักลบความทุกข์ทรมาณของจวินวูอี้ เขาคิดว่ามันง่ายอย่างนั้นหรือ ?
” ข้าจักไปนอน ข้าเหนื่อยจริงๆ ”
จวินโม่เซี่ยเอ่ยวาจาเล็กน้อย เขาหันหลังและเดินจากไป
.อะไรนะ ?
ลุงทั้งสามตกตะลึง พวกเขารู้สึกว่าหัวของพวกเขาจักระเบิดจากความสับสน
เรากำลังคุยกันเรื่องเป็นตาย…และแล้ว เจ้าเหลือขอผู้นี้บอกว่าเขาต้องการไปนอน ? นั้น …. เขาเหนื่อยหรือ ? เขาไม่รู้หรือว่าสกุลจวินกำลังอยู่บนปากเหวแห่งความล่มสลาย ?
” เจ้าเหลือขอผู้นี้ไร้หัวใจเช่นนี้ได้อย่างไร ?! “
พวกเขาพยักหน้าพร้อมกัน และเดินไป
จวินโม่เซี่ยเป่าตะเกียง จากนั้นความคิดของเขาก็หลั่งไหล แล้วเขาหายไปจากกระโจม ปรากฏรตัวราวภาพหลอน ขณะที่เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปยังเทียนฟา
เขาไปอยู่ด้านนนอก นครสวรรค์ใต้อย่างรวดเร็ว จากนั้น จวินโม่เซี่ยรู้สึกผ่อนคลาย และกระตุ้นเคล็ดอิสระหยินหยางเต็มกำลัง ร่างของของเขาเป็นเหมือนดั่งผีพุ่งใต้ ขณะที่ร่างอันไร้ตัวตนของเขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
ชัดเจนว่าลุงสามมีความต้องการเข้าร่วมสงครามนี้อย่างแน่นอน
จวินโม่เซี่ยคิด
ข้าต้องพบ กระเรียนคอยาว และหมีใหญ่ …เร็วที่สุดที่ข้าสามารถ ข้าจักแสร้งเป็นว่าพลั้งมือหากจ้าชั่วสองตัวนั้นกล้าโจมตีกองกำลังของลุงสาม เนื่องจากพวกเขาจักโจมตีคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกับตัวเองโดยไม่รู้ตัว !
และนอกจากนี้ … คนของเจ้าคิดว่าข้าไม่สามารถยืมมือสังหารได้อย่างนั้นหรือ ? ข้านั้นชำนาญในเกมที่เจ้าเล่นอย่างมาก !
ชัดเจนว่าจวินโม่เซี่ยไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง หรือสามารถแสดงตัวตนที่แท้จริงได้ ในเวลานั้น เช่นนั้น เขาจึงเปลี่ยนตัวตนของเขาเป็นยอดฝีมือบุรุษลึกลับที่เก่งกาจ และ เขารู้สึกมีความสุขในเรื่องนี้
มันไม่ง่าย … แม้นว่าจักมียอดฝีมือทรงพลังผู้นี้เข้ามามีส่วนร่วม ดูเหมือนว่าข้าต้องทำงานหนักอย่างมาก และต้องป่าเถื่อนอีกครั้ง
จวินโม่เซี่ยรู้สึกเหมือนมังกรในมหาสมุทร … หรือเสือที่อยู่ในป่า ในตอนที่เขาเข้าไปยังเทียนฟา ความจริง เขาเดินทางข้ามระยะยี่สิบห้ากิโลเมตรในชั่วพริบตาเดียว
มันสะดวกสบายอย่างมากสำหรับเขา และง่ายดายยิ่งนัก !
ไม่ว่าจักเป็นร่างกายภายนอก หรือจิตวิญญาณภายใน ทุกสิ่งรู้สึกผ่อนคลายอย่างมกา และ ความรู้สึกผ่อนคลายและพึงพอใจอย่างที่สุดของเขาเริ่มเพิ่มความรู้สึกพึงพอใจต่อป่าเทียนฟายิ่งขึ้น
ตามตำนานนี่เป็นสถานที่ซึ่ง อันตรายและโหดร้ายที่สุดใยดินแดนเชวียนเชวียน อย่างไรก็ตาม พื้นที่นี้ได้ส่งความสุขสบายแก่หัวใจของจวินโม่เซี่ย