นำทางม้า
สองชั่วโมงต่อมา ซูจิ้งก็ค้นเจอต้นหญ้าและเสื้อผ้ามากมาย แต่ก็ยังไม่เจอขยะที่มีค่าอื่นๆอีกเลย และอยู่ดีๆนกตัวน้อยตัวใหญ่ก็บินเข้ามาพร้อมตะโกน “มีม้าเข้ามา”
ซูจิ้งถึงกับตะลึง ที่หมู่บ้านใกล้ๆมีม้าอยู่หลายตัว บางหมู่บ้านยังคงใช้ม้าเพื่อลากรถหรือทำงานในฟาร์มอยู่ แต่พวกมันเข้ามาที่นี่ได้ยังไง? ซูจิ้งพูดพร้อมรอยยิ้ม “พวกเธอสองตัวนี่ชอบหยอกล้อกันนะ อย่าแกล้งกันล่ะ ใครพาม้าเข้ามา?”
“ไม่ มีแค่ม้า” นกแก้วร้องบอก
“ไม่มีใครเลย” มันกล่าวเสริม
“มาตัวเดียวเหรอ?” ซูจิ้งยิ่งงงขึ้นไปอีก เขาเดินออกไปเปิดประตู อย่างที่คาดไว้ มีฝูงม้าสีน้ำตาลยืนอยู่ที่ประตู เมื่อเปิดประตูพวกม้าก็อยากที่จะเข้ามาข้างในราวกับว่าเป็นบ้านของตัวเอง
“หยุดก่อน” ซูจิ้งปล่อยพลังจิตและทำให้ม้าเชื่องได้ในทันที เขาเห็นว่ามันดูผอมอยู่สักหน่อยราวกับว่าถ้าลมพัดมาก็จะปลิวไปตามลมและจมูกมันก็เอาแต่ดมไปที่ตึกราวกับมันได้กินของกินแสนอร่อย
“เคยได้ยินมาว่าประสาทรับกลิ่นของม้าจะไวอย่างมากด้วยเหมือนกัน มีอะไรที่ดึงดูดมันเข้ามางั้นเหรอ?” ซูจิ้งคิด ทิ่มไปที่ม้าร่างผอม หยดหยดเลือดไปที่หยกหมื่นอสูรแล้วพิจารณาไปที่ม้าร่างผอม แม้ว่าความสามารถในการแสดงออกของม้าร่างผอมจะจำกัด ซูจิ้งก็อาจจะได้ยินมัน ปรากฎว่ามันเป็นม้าของหมู่บ้านตระกูลจู ในแทบชนบทไม่เพียงแต่พวกวัวที่ถูกปล่อยแต่พวกม้าก็ถูกปล่อยด้วยเหมือนกัน งั้นก็พูดได้ว่าพวกมันได้รับอนุญาตให้ออกมากินหญ้าข้างนอกได้ ม้ามากินหญ้าอยู่ใกล้ ๆ แต่เมื่อมันได้กลิ่นที่ดึงดูดมันอย่างมาก มันจึงเดินตามกลิ่นมา
ในความคิดของซูจิ้ง อาหารหลักของม้าคือหญ้า ดังนั้นมันจึงถูกกลิ่นของหญ้าดึงดูดเข้ามา เขาหยิบกำหญ้าที่มาจากโลกที่สมบูรณ์แบบออกมาจากระเป๋าเก็บของและถามออกไปว่า “พวกนายได้กลิ่นหญ้านี้เหรอเปล่า?”
“ไม่ใช่” ม้าร่างผอมดมกลิ่นแล้วก็ส่ายหัว อย่างไรก็ตามสำหรับหญ้านี้ก็เห็นได้ชัดว่ามันก็ชอบด้วยเหมือนกัน หลังจากที่กินหญ้าเข้าไปหนึ่งกำ มันก็มองไปที่บ้าน “มันรสชาติเหมือนหญ้าทั่วๆไป”
“แล้วอะไรที่ดึงดูดพวกนายมาที่นี่ล่ะ?” ซูจิ้งคิดไม่ออกว่าอะไรที่ดึงดูดม้าร่างผอมให้มาที่นี่ ด้วยความสงสัยเขาจึงขอให้ม้าร่างผอมตามหาสิ่งที่มันต้องการ ม้าร่างผอมตามกลิ่นไปและลงบันไดไป แล้วมันก็เงยหน้าดม มันอยากที่จะขึ้นไปข้างบน อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ง่ายเลยที่จะเดินขึ้นบันได ซูจิ้งกลัวว่าม้าร่างผอมจะร่วงลงมาเขาเลยไม่ยอมให้มันขึ้นไป
“ดูเหมือนว่ากลิ่นจะมาจากข้างบน มีอะไรที่ปลูกอยู่ที่ชั้นสามหรือเปล่าน่ะ?” เดี๋ยวนะ ดวงตาของซูจิ้งก็เปล่งประกายขึ้นมาทันทีและเขาก็นึกถึงต้นไม้ที่เขาลืมไปเลย มันคือหญ้าที่มาจากกองขยะเมื่อเช้า มีบางส่วนที่ถูกปลูกไว้ที่ชั้นสาม เพราะพวกหนูและปลาไม่ค่อยสนใจมันเท่าไรและหลังจากที่กินก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากด้วยและเขาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากด้วย ก็เลยลืมคิดถึงมันไปเลย
ซูจิ้งหยิบต้นหญ้าสีเขียวออกมาจากกระเป๋าเก็บของโดยตรง ซึ่งเป็นของที่เขาเพิ่มเจอจากกองขยะเมื่อเช้านี้เอง มันถูกดึงออกมาทั้งรากและใบหญ้าก็ถูกทับจนแบนไปหมดแล้ว สภาพดูแย่มากๆจนไม่สามารถเรียกได้ว่ายังเป็นต้นไม้อยู่เลย
ซูจิ้งแค่หยิบมันออกมา เพราะร่างที่ผอมมากของมันทำให้มันตาลุกวาวขึ้นมาทันที มันรีบยื่นปากเข้ามาทันทีแสดงถึงความอยากจะกินหญ้า มันตื่นเต้นมากกว่าตอนที่ได้เห็นหญ้าจากโลกที่สมบูรณ์แบบอีก เขารู้สึกประหลาดใจมาก “พวกหนูกับปลาไม่สนใจหญ้านี้เลย ทำไมพวกม้าถึงชอบมันมากขนาดนี้นะ? ชอบมากกว่าหญ้าจากโลกที่สมบูรณ์แบบซะอีก หญ้านี้เป็นหญ้าสำหรับม้าโดยเฉพาะหรือเปล่า?”
อย่างไรก็ตามซูจิ้งไม่ได้ปล่อยให้ม้าร่างผอมกินหญ้าแต่กลับถืออยู่ในมืออย่างลังเล ถึงแม้พวกหนูและปลาจะยังโอเคหลังจากที่กินแต่ยังไงซะช่วงเวลาในการทดลองก็ยังสั้นเกินไปและก็ยังบอกได้ยากในเรื่องระดับความปลอดภัย อีกอย่างพวกหนูและปลาก็ไม่ได้สนใจในหญ้าด้วยแต่ม้าร่างผอมตัวนี้ไม่เหมือนกัน มันถูกดึงดูดมาแต่ไกล เห็นได้ชัดว่ามันแตกต่างจากพวกหนูและปลาเลย มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าผลมันจะเป็นยังไงหลังจากที่กินเข้าไป?
“ฉันอยากที่จะกิน ฉันอยากที่จะกิน” ม้าร่างผอมพยายามที่จะสู้เพื่ออาหารแต่ซูจิ้งกดมันไว้ด้วยมือเดียวจนขยับไม่ได้ ซูจิ้งคิดอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะลองดู ดูเหมือนว่าหญ้านี้จะต้องถูกใช้ทดสอบประสิทธิภาพกับม้า ในกรณีนี้กับม้าจะเป็นเหมือนกันไหมน่ะ? มันเป็นโชคชะตาสำหรับม้าที่จะเจอโชคชะตาของตัวเอง
“ในเมื่อนายอยากที่จะกินขนาดนี้ งั้นฉันจะให้นายกิน แต่ในกรณีที่มีอาการไม่พึงประสงค์อย่ามาโทษฉันนะ” ซูจิ้งพูดและยื่นหญ้าที่อยู่ในมือออกไป ม้าร่างผอมรีบเข้ามาใกล้และกินหญ้าเข้าไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่กินเข้าไป มันก็กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข ลูบไปที่ซูจิ้งด้วยใบหน้าที่ยาวเหยียดแล้วก็ร้องออกมา “ฉันอยากกินอีก”
“ไม่มีแล้ว” ซูจิ้งส่ายหัวพร้อมทั้งหัวเราะออกมา เขายังไม่ได้ทดสอบเรื่องประสิทธิภาพแล้วเขาจะปล่อยให้มันกินอีกได้ยังไง ถ้าหญ้าเป็นอันตรายก็ไม่ควรที่จะให้กินเยอะเกินไป และถ้ามันมีประโยชน์มันจะเอามาใช้เสียเปล่าไม่ได้
ซูจิ้งหยิบหญ้าจากโลกที่สมบูรณ์ออกมาจำนวนมากและม้าร่างผอมก็กินอย่างมีความสุข ยังไงซะมันก็อร่อยกว่าหญ้าทั่วๆไปที่เคยกิน ซูจิ้งสังเกตุอยู่อย่างเงียบๆเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงใดๆที่จะเกิดขึ้นกับม้าร่างผอมแต่เขาก็ยังไม่เห็นอะไรในช่วงเวลานี้เลย
“…สวัสดีพี่จิ้ง” พร้อมกันนั้นก็มีเสียงดังมาจากประตูด้านหน้า ซูจิ้งมองไปรอบๆและเห็นเด็กผู้ชายอายุประมาณ 12 หรือ 13 ยืนอยู่ตรงประตู เสื้อผ้าเขาสกปรกและเต็มไปด้วยโคลน สายตาของเขาอดไม่ได้ที่จะเลื่อนไปมองม้าร่างผอมที่กำลังกินหญ้า
“นี่ม้านายเหรอ?” ซูจิ้งถาม
“ใช่ฮะ แม่ผมบอกให้เฝ้าไว้ แต่ผมออกไปเล่นแปปนึงแล้วมันก็หายไป ผมกลัวเกือบตาย ผมตามรอยเท้ามันมาตลอดทาง มีหลายคนบอกว่าเห็นมันเดินเข้ามาที่หมู่บ้านตระกูลซู และซูเหวินปินกับซูเจียนจากหมู่บ้านของพี่ก็เรียนห้องเดียวกับผมด้วย”
“งั้นเมื่อมันกินหญ้ากองนี้เสร็จแล้วนายก็พามันกลับไปได้เลยนะ” ซูจิ้งพูดพร้อมรอยยิ้ม มองไปที่เด็กหนุ่ม เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่เขายังเด็ก ครั้งหนึ่งเขาเคยเล่นจนไม่สนใจที่จะเฝ้าวัวจนมันไปกินต้นข้าวในพื้นที่ของคนอื่น
“โอ้” เด็กหนุ่มพยักหน้าเหมือนกับไก่จิกข้าว แอบมองไปที่ซูจิ้งด้วยแววตาแห่งความเคารพ แล้วสายตาเขาก็ถูกดึงดูดไปที่สัตว์เลี้ยงมากมายที่สนามหญ้า โดยเฉพาะหมาป่านักรบที่ยังนั่งหมอบอยู่ เขาทั้งชอบและกลัวมันพร้อมๆกัน
หลังจากนั้นสักพักม้าร่างผอมก็กินหญ้าจนหมดและท้องของมันก็บวมเล็กน้อย ซูจิ้งพูดออกมา “พามันกลับไปได้แล้วที่บ้านจะได้ไม่เป็นห่วง อีกอย่างช่วงนี้นายควรจะคอยสังเกตุมันหน่อยนะ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงให้รีบมาบอกพี่เลย”
“ได้ครับพี่จิ้ง” เด็กหนุ่มเชื่อฟังอย่างมาก ถ้าดขาเป็นชาวบ้านธรรมดาทั่วไปเด็กหนุ่มก็คงไม่เชื่อฟังเท่าไร อย่างไรก็ตามเขาเคยได้ยินชื่อเสียงของซูจิ้งมานานแล้ว ก็เหมือนเด็กคนอื่นๆรอบๆตัวเขาที่มองซูจิ้งเหมือนเป็นไอดอล จึงเป็นเรื่องปกติที่จะเชื่อฟัง ทั้งเด็กหนุ่มและม้าร่างผอมลังเลที่จะกลับแต่เด็กหนุ่มก็กลัวว่าพ่อแม่จะว่าจึงไม่กล้าที่จะอยู่นานนัก เขาจึงรีบนำม้าร่างผอมกลับบ้าน