การเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง
“แม่ ผมกลับมาแล้วนะครับ” จูเสี่ยวฮัวจูงม้ากลับไปที่คอกหลังบ้าน เมื่อเขาเห็นหญิงวัยกลางคนเขาก็ตะโกนออกไปทันที
“ได้ข่าวมาว่าลูกเสียม้าไปอีกแล้วเหรอ น่าสงสารจริงๆ ลูกเคยเสียมันไปเมื่อครึ่งปีก่อน แต่โชคดีที่พอตกดึกมันก็กลับมา ลูกเคยถูกพ่อตีมาครั้งแล้วจำไม่ได้หรอ” หญิงวัยกลางคนต่อว่าออกมา
ครั้งที่เขาถือว่าโชคดี ถึงแม้ม้าจะตัวสูงใหญ่แต่ม้าที่ถูกเลี้ยงมามักจะกลัวเมื่อตกดึก ถ้าพวกม้าถูกพาออกไปในป่าตอนดึกๆพวกมันจะตัวติดกับเจ้าของไม่ห่าง พวกมันจะตามเจ้าของไปทุกที่ แต่ถ้าพวกมันออกไปตามลำพังพวกมันก็จะรีบหาทางกลับบ้านและนั่นก็เป็นเรื่องเดียวกัน อย่างไรก็ตามไม่ใช่ม้าทุกตัวที่จะหาทางกลับบ้านถูก นอกจากนี้พวกวัวและม้าเป็นสิ่งที่มีค่ามาก ถ้าเอาไปเชือดแล้วแล่เนื้อมาขายก็จะขายได้ราคาดีมาก พวกมันจึงตกเปาเป้าได้ง่ายและการที่ทำพวกมันหายก็เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก
“มันหายไป ไม่อยู่ที่นี่เหรอ?” จูเสี่ยวฮัวรีบเดินเข้ามาและน้อมหัวลง
“แม่ได้ยินว่าลูกออกไปตามหาม้าทุกทีเลย แม่เกือบจะส่งคนออกไปช่วยหาด้วยแล้ว โชคดีที่ลูกเจอพวกมันแล้วไม่งั้นเดี๋ยวพ่อกลับมาต้องตีลูกตายแน่ๆเลย” หญิงวัยกลางคนพูดต่อว่าม้าที่น่าสงสารแม้แต่ม้าร่างผอมก็มีค่ากับครอบครัวเล็กๆแบบนี้มาก
“จริงๆแล้วผมไม่ได้ทำมันหายนะ ผมแค่วิ่งเล่นเพลินไปหน่อย แม่คิดว่าผมเลี้ยงมันไม่ดีเหรอฮะ?” จูเสี่ยวฮัวพูด แต่ก็ยังตบเบาๆไปที่ท้องของม้า เขาพูดพร้อมรอยยิ้ม ทั้งวัวและม้าควรจะได้รับอาหารที่เพียงพอและไม่ว่าพวกมันจะผอมหรืออ้วนก็ตาม
“มันอิ่มดีแล้ว แต่มันไม่ได้ไปกินข้าวโพดคนอื่นใช่ไหม?” หญิงวัยกลางคนยังรู้สึกไม่สบายใจ จูเสี่ยวฮัวใช้เวลานานมากเพื่อทำให้แม่สบายใจและขออย่าให้บอกพ่อเรื่องนี้
ตอนนี้ก็เกือบจะดึกแล้วและไม่มีใครเอาม้าไปใช้งานแล้ว เขาจึงเอาม้าเข้าคอก เช้าวันรุ่งขึ้นของวันต่อมา จูเสี่ยวฮัวเพิ่งตื่นและวิ่งไปที่คอกเพื่อที่จะดูม้าแก่ของเขา อันที่จริงเขาสัญญากับซูจิ้งไว้ว่าจะดูแลมันอย่างดีแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่ต่อมาเขาก็รู้สึกแปลกๆกับคำพูดของซูจิ้งนิดหน่อย จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงและจะให้สังเกตุหาอะไรจากม้าแก่ๆของเขาล่ะ?
อย่างไรก็ตามในเมื่อนี่เป็นคำสั่งจากไอดอลของเขา จึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะทำตามคำสัญญาที่ได้ให้ไว้ ดังนั้นในทุกๆเช้าและเย็นเขาจึงมีแผนที่จะคอยสังเกตุความเปลี่ยนแปลงของม้าแก่ตัวนี้อย่างละเอียดเพื่อที่จะเอาไปรายงานซูจิ้ง
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเดินเข้าไปในคอกและแวบแรกที่เห็นม้าแก่ของตัวเอง ดวงตาก็ต้องเบิกกว้าง ปากอ้าจนเกือบจะถึงพื้นและก็ต้องตะลึงไปกว่า 5 วินาทีก่อนที่จะอุทานออกมาได้ “บ้าเอ๊ย ใครมาสลับม้าฉันเนี่ย?”
ม้าร่างผอมในคอกกลายเป็นม้าที่ตัวมันเงา, เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ, แผงคอดำเข้มและดวงตาเปล่งประกาย โดยเฉพาะขาของมันทั้งสี่ที่วิ่งได้อย่างแข็งแรง
ปฎิกิริยาแรกของจูเสี่ยวฮัวคือมีคนมาสลับม้าของเขาแต่เมื่อคิดดูอีกทีก็ไม่น่าจะใช่แบบนั้น
ใครจะเอาม้าที่ดูแบบนี้มาเปลี่ยนกับม้าผอมแก่ๆของเขากันล่ะ? จะทำไปเพื่ออะไรกัน?
นอกจากนี้ก็เห็นได้ชัดว่าสายบังเหียนนี่เป็นของเขาเอง จูเสี่ยวฮัวรู้สึกว่ามันเหมือนกันอย่างกับแกะและเหมือนม้าแชมป์อย่างไม่คาดคิด มันถึงขนาดแลบลิ้นออกมาเลียมือของเขา นี่มันเหมือนม้าแก่ของครอบครัวเขาจริงๆ
“โอ้บ้าไปแล้ว แกเป็นม้าของฉันใช่ไหม?” จูเสี่ยวฮัวรู้สึกว่ามันเหมือนกันมากจริงๆ เขาไม่อยากจะเชื่อจึงปลดเชือกออกจากม้า ใส่อานม้าเข้าไปและเริ่มที่จะทดลองขี่ดู นอกจากวิ่งได้อย่างแผ่วเบาและแข็งแรงมากขึ้นแล้ว มันยังมีท่าทีแบบม้าหนุ่มอีกด้วย
จูเสี่ยวฮัวตกใจมาก ดูเหมือนว่าม้าตัวนี้จะเป็นม้าของเขาเอง เขาคิดถึงคำพูดของซูจิ้งและในที่สุดก็เข้าที่เรื่องความเปลี่ยนแปลงที่ซูจิ้งพูดถึง ในคิดเดิมของเขาคือถ้ามีการเปลี่ยนแปลงมันก็คงจะค่อยๆเปลี่ยน เขาไม่ได้คิดว่ามันจะเปลี่ยนภายในชั่วข้ามคืน
“พระเจ้า นี่เรื่องจริงหรือเปล่าเนี่ย ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” จูเสี่ยวฮัวอดไม่ได้ที่จะร้องตะโกนออกมา
“เสี่ยวฮัว ออกมาทำอะไรแต่เช้าเนี่ย?” แม่ที่สวมผ้ากันเปื้อนเพื่อที่จะเตรียมอาหารเช้า เดินออกมาพร้อมกับจานในมือ เมื่อเธอได้เห็นม้าสีดำของจูเสี่ยวฮัว เธอก็ถึงกับตะลึง จานที่อยู่ในมือร่วงลงกระทบพื้นแตกเป็นเสี่ยงๆ
“สองแม่ลูกำลังทำอะไรกันอยู่?” พ่อเดินออกมาจากห้องน้ำและก็ต้องตะลึงเมื่อได้เห็นม้าสีดำของจูเสี่ยวฮัว
“เสี่ยวฮัว เมื่อวานแม่ไม่ได้ดูให้ดี นี่ลูกทำม้าตัวเองหายแล้วไปขโมยม้าคนอื่นกลับมาหรือเปล่า? ลูกไม่ใช่เด็กนิสัยแบบนั้นเลยนะ” ผู้เป็นแม่อยากจะตีจูเสี่ยวฮัวให้ร่วงไปเลย
“ม้าอะไรหาย? มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหรอ?” พ่อของจูเสี่ยวฮัวถาม หลังจากที่ได้ยินคำถาม เรื่องที่เขาอยากจะปกปิดไว้ได้ถูกเปิดเผยอีกครั้ง
“แม่ฮ่ะ พ่อฮ่ะ ผมสาบานได้เลยว่าม้าที่ผมเอากลับมาเมื่อวานคือม้าตัวเก่าของครอบครัวเราจริงๆ ผมจะเอามาผิดตัวได้ยังไง?” จูเสี่ยวฮัวพูดอย่างร้อนรน
“ถ้าเป็นอย่างที่พูด งั้นมีใครเอาม้าเด็กแข็งแกร่งเข้ามาเปลี่ยนกับม้าแก่ของเรากลางดึกงั้นเหรอ? มันเป็นไปได้เหรอ ใครมันจะโง่ขนาดนั้นนั้น?” แม่ของจูเสี่ยวฮัวยังไม่อยากจะเชื่อ
“แน่นอน ไม่ได้มีใครมาเปลี่ยนมากับเราหรอกแต่ม้าของเราเปลี่ยนแปลงไปชั่วข้ามคืน นี่คือม้าของเรา ถ้ามันเปลี่ยนไปแค่นิดหน่อยแม่ก็คงไม่รู้สึกใช่ไหม?” จูเสี่ยวฮัวพูด
“เป็นไปไม่ได้ ม้าของเราอยู่ได้อีกกี่ปีกันเชียว? มันแก่ขนาดนั้นแล้วนะ” แม่ของจูเสี่ยวฮัวกล่าว
“เสี่ยวฮัว ลูกคิดว่าเราแก่มากแล้วจะเชื่ออะไรแบบนี้ง่ายๆงั้นเหรอ?” พ่อพูด
“นี่คือม้าของเราจริงๆ ถ้าไม่เชื่อลองดูก็ได้” จูเสี่ยวฮัวรู้สึกเหนื่อยมากแล้วที่ต้องพูดให้พ่อและแม่เชื่อเรื่องนี้ ม้าตัวนี้เหมือนกับม้าแก่ที่อยู่กับพวกเขามา 12-13 ปีอย่างกับแกะ มันคุ้นเคยกับครอบครัวพวกเขามาก แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยแต่นิสัยทั้งหมดกลับเหมือนเดิมทุกอย่าง อีกอย่างถ้ามันเป็นม้าตัวอื่นมันก็คงไม่เชื่อฟังพวกเขาแบบนี้หรอก
“พระเจ้า นี่เป็นม้าของเราจริงๆด้วย มันเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ชั่วข้ามคืนได้ยังไงกัน?” พ่อและแม่ถามด้วยความแปลกใจ
“อันที่จริง เมื่อวาน…” จูเสี่ยวฮัวแอบตามม้าแก่เข้าไปในบ้านซูจิ้งและเขาเอาหญ้าให้มันกิน ก่อนที่จะกลับซูจิ้งบอกเขาให้คอยดูการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ต้นจนจบ พ่อและแม่ของจูเสี่ยวฮัวจ้องเขม่ง
“เป็นเพราะซูจิ้งงั้นเหรอ ใครๆต่างก็รู้ว่าอาจิ้งแห่งหมู่บ้านซูเจี่ยรู้เรื่องการฝึกสัตว์ เขาเป็นตำนานเลย แต่ไม่คิดว่าเขาจะเก่งได้ขนาดนี้ งั้นหลังจากที่พวกม้าของเราหนีออกไปเราก็จะสร้างเงินได้แล้ว” แม่ของจูเสี่ยวฮัวประหลาดใจอย่างมาก
“จะตัดสินจากรูปร่างภายนอกของมันอย่างเดียวไม่ได้ เสี่ยวฮัวพาม้าออกไปวิ่งข้างนอกก่อน” แต่พ่อยังไม่เชื่อเรื่องนี้
“ได้ฮะ” จูเสี่ยวฮัวพยักหน้า เท้าของเขาแตะเข้าที่ด้านหลังของม้า ดึงสายบังเหียนและทันใดนั้นม้าสีดำก็วิ่งออกไปเต็มฝีเท้าทั้งสี่ ความเร็วในการออกตัวเร็วมากจนเขาเกือบจะตกจากหลังม้า มากกว่านั้นคือม้าสีดำตัวนี้เริ่มวิ่งเร็วขึ้นๆไปอีก สุดท้ายแล้วมันวิ่งได้เร็วเกือบเหมือนม้ามืออาชชีพที่ใช้วิ่งแข่งในสนามไม่มีผิด มันวิ่งเร็วมากจนหายไปจากสายตาของพ่อจูเสี่ยวฮัวและแม่ของเขา ซึ่งทำให้ทั้งสองรู้สึกประหลาดใจอย่างที่สุด