บทที่ 596 การแข่งขันสิ้นสุดลง

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 596 การแข่งขันสิ้นสุดลง
คำพูดของเย่เซิ่งเทียน ทำให้ทุกคนตกตะลึง

หญิงวัยกลางคนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ และแต่งหน้าที่น่าเกลียดกลายเป็นกัวปิง ผู้บังคับบัญชากองพลอาวุธของประเทศต้าเซี่ย?

ล้อเล่นอะไรกัน? ผบ.กองพลอาวุธที่น่าเกรงขามกลับแต่งตัวเป็นผู้หญิง?

แล้วยังน่าเกลียดขนาดนั้น?

ดูยังไงก็ไม่เหมือน

หร่วนซื่อสงยังสวมหน้ากากผิวหนังมนุษย์ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความแปลกใจ

ว่าแล้วเชียว ทำไมหญิงชราที่อ้วนและน่าเกลียดคนนี้ดูคุ้นมากขนาดนี้ ที่แท้เป็นไอ้แก่กัวปิงนี่เอง

ฮ่า ๆ

แกก็มีวันนี้ด้วย!

แถมยังแต่งเป็นผู้หญิงอีก!

แล้วยังน่าเกลียดขนาดนี้อีกด้วย!

หร่วนซื่อสงไม่ได้พูดอะไร แค่ตบหน้ากัวปิงอย่างแรง!

โอกาสดี ๆ แบบนี้ แล้วเขาจะพลาดได้อย่างไร

หยางทาวที่เดินออกไปแล้ว หันกลับมามองอย่างรวดเร็ว

ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าหญิงวัยกลางคนคนนั้นคือกัวปิง และก้อนเนื้อสองก้อนบนหน้าอกของเขานั้นเด่นเกินไปแล้ว คนปกติจะใหญ่ขนาดนั้นได้หรือ?

ยังสวมชุดกี่เพ้าสีแดง ริมฝีปากใหญ่สีแดง ผมสีเหลือง มีไฝอยู่ที่มุมปาก และถุงน่องสีดำที่สวมอยู่บนขาที่ค่อนข้างใหญ่เกือบจะปริ!

“อ้วก”

หยางทาวรู้สึกคลื่นไส้และเกือบจะอาเจียนออกมา

มิน่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่าท่าทางของผู้หญิงคนนั้นคุ้นมาก ที่แท้เป็นไอ้แก่กัวปิงนี่เอง

ขณะนี้ เหงื่อเย็นบนใบหน้าของกัวปิงยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง

ปกติเขาเป็นคนที่ค่อนข้างอ้วนอยู่แล้ว น้ำหนักหนึ่งร้อยแปดสิบกว่าชั่ง และเขาเตี้ยด้วย สูงไม่ถึงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร อ้วนและเฉื่อย แล้วยังแต่งตัวเป็นผู้หญิง…

มันเหมือนกับหลี่กุยที่แต่งหน้าจัดและสวมใส่ชุดกี่เพ้า ตะโกนเรียกว่า”พี่จ๋า พี่ข๋า”

กัวปิงอยากจะหารอยแตกบนพื้นเพื่อมุดเข้าไป

ตายแล้วๆ

พวกแกจ้องผมทำไม?

อย่ามองฉันสิ

พวกแกอย่ามองผมสิ!

ขุนหลวง คุณอย่าเดินเข้ามา!

ฉันควรจะทำอย่างไรดี?

เซิ่งเทียน นายคอยดูเถอะ!

“คุณคือผบ.กัวจริง ๆ เหรอ?”

ตาของหยางทาวเป็นประกาย เวลาเช่นนี้ หลอกใช้คนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ถ้าคุณไม่เป็นแพะรับบาปแล้วจะให้ผมขุนหลวงเป็นแพะรับบาปเหรอ?

“เอ่อ…ฮ่าๆ…ผม…พวกคุณจำคนผิดแล้ว ผมไม่ใช่……”

ยังไม่ทันที่กัวปิงจะกล่าวจบ หยางทาวก็ถอดวิกของเขาออก

เพลี้ยง!

กัวปิงหน้าแตกแล้ว!

ทำอะไรของคุณ!

“ผบ.กัว เป็นคุณจริง ๆ ด้วย”

ดวงตาของหยางทาวเต็มไปด้วยความหมาย กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “คุณแต่งตัวแบบนี้ มีเอกลักษณ์มาก”

ดูเหมือนว่ากัวปิงจะได้ยินเสียงแตกสลายของหัวใจตนเอง

“ฮ่า ๆ ดีมาก ดีมาก ดีมากเลย”

หยางทาวยิ้มบาง ๆ หันหลังแล้วเดินจากไป

“นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าที่แท้ผบ.กัวชอบแต่งตัวเป็นผู้หญิง”

“รสนิยมของผบ.กัวนั้นค่อนข้างพิเศษจริง ๆ …….”

เมื่อได้ยินคำพูดถากถางเหล่านี้ กัวปิงกำลังจะเป็นบ้า

“หรวนไจ่เซี่ยง ถ้าไม่ใช่เพราะคุณแอบถ่ายภาพตลอด ผมคงไม่สังเกตว่าผบ.กัวก็อยู่ที่นี่ด้วย”

เย่เซิ่งเทียนเหลือบมองหร่วนซื่อสงซึ่งยังคงบันทึกวิดีโออยู่

“ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ วันนี้อากาศดีมาก”

สีหน้าของหร่วนซื่อสงเต็มไปด้วยความเก้อเขิน

จ้าวกั๋วจู้กล่าวเยาะเย้ยว่า “พวกคุณบอกว่าจะไม่มาไม่ใช่เหรอ? พวกคุณมาดูเย่เซิ่งเทียนอับอายขายหน้าใช่ไหม? แล้วยังแต่งตัวเป็นผู้หญิงอีก ทำไมพวกคุณถึงได้น่าขยะแขยงขนาดนี้?”

สีหน้าของกัวปิงแดงก่ำ หร่วนซื่อสงแทบอยากจะบีบคอจ้าวกั๋วจู้ให้ตาย

ถ้าพูดไม่เป็นก็หุบปากซะ!

“ผมมีเรื่องจะปรึกษากับขุนหลวง ไม่ต้องไปส่ง ไม่ต้องไปส่ง”

หร่วนซื่อสงโบกมือราวกับว่ามีคนอยากจะรั้งเขาไว้ ยิ่งอยู่เขาก็ยิ่งเดินเร็วขึ้นเรื่อย ๆ

“ผมก็เหมือนกัน ผมก็เหมือนกัน”

กัวปิงบิดสะโพกอย่างแรงแล้ววิ่งหนีไป

เผยชุนชิวกับโก้วหวยและหมอเทวดาทั้งหกคนต่างมองหน้ากัน

จ้าวกั๋วจู้แอบซ่อนโทรศัพท์มือถือตนเองเอาไว้ แล้วถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คนของสมาคมทางการแพทย์ยังมีอะไรสงสัยเกี่ยวกับการแข่งขันในวันนี้อีกไหม?”

ทุกคนสะดุ้ง แล้วใครจะกล้ามีข้อสงสัยอะไรอีกล่ะ?

“เซิ่งเทียน ผมขอตัวกลับก่อน”

จ้าวกั๋วจู้กล่าวด้วยรอยยิ้ม

เย่เซิ่งเทียนเดินขึ้นไปหาเขาและกล่าวเบา ๆ ว่า “ส่งคลิปวิดีโอมาให้ผมด้วย”

สีหน้าของจ้าวกั๋วจู้นั้นแปลเหมือนคนท้องผูก

คลิปนี้ต้องเก็บซ่อนไว้ดี ๆ ด้วยนิสัยใจแคบของขุนหลวงแล้ว ไม่รู้เขาจะเจตนาทำให้ตนเองลำบากใจอะไรอีกไหม

“เรื่องวันนี้ ถ้าใครกล้าพูดออกไป จะถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานี!”

สายตาสังหารของจ้าวกั๋วจู้เหลือบมองไปรอบ ๆ ทำให้หมอของสมาคมทางการแพทย์รีบก้มหน้าอย่างรวดเร็ว

ทางที่ดีให้เก็บการแข่งขันในวันนี้เป็นความลับ มิเช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นตระกูลเก่าแก่ผู้ดี ขุนหลวงจะไม่ปล่อยพวกเขาไปอย่างแน่นอน!

หกหมอเทวดาปรึกษาเบา ๆ ครู่หนึ่ง เผยชุนชิวยืนขึ้นและประกาศว่า “หลังจากที่พวกเราหกคนปรึกษากันแล้ว นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เจ้าเทพจะเป็นอริยาจารย์ของสมาคมทางการแพทย์ ”

หมอทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วรีบประสานมือทั้งสองแล้วคำนับและกล่าวว่า “พวกเราจะเชื่อฟังคำสั่ง และขอคารวะอริยาจารย์”

สำหรับตำแหน่งนี้ ไม่มีหมอคนไหนกล้าโต้แย้งใด ๆ แม้แต่หกหมอเทวดาก็ยังเต็มใจที่จะเคารพเย่เซิ่งเทียนเป็นอาจารย์ของพวกเขา แล้วคนอื่นจะกล้าพูดอะไรอีก?

“เวินเฉินคารวะเจ้าเทพ”

ขณะนี้ เวินเฉินมาถึงแล้ว เซียนบู๊หลายสิบคนยอมรับชะตากรรมของตนเอง คุกเข่าอยู่บนพื้นและไม่กล้าเคลื่อนไหว

ทันใดนั้น มีคนหนึ่งเงยหน้าขึ้นและกล่าวว่า “เจ้าเทพ ผมทราบข่าวเกี่ยวกับแม่ของคุณ ขอเพียงแค่คุณปล่อยผมไป ผมยินดีที่จะบอกคุณ!”