ตอนที่ 306 ความลับของทางน้ำใต้ดิน / ตอนที่ 307 ใต้น้ำ

จอมใจจ้าวพิษ

ตอนที่ 306 ความลับของทางน้ำใต้ดิน 

 

 

หันเทียนซวี่หยุดเล่า แล้วถามว่า 

 

 

“ท่านเคยได้ยินเรื่องนี้หรือ” 

 

 

“ไม่เคย ข้าแค่คาดเดา” 

 

 

หันเทียนซวี่พูดต่อ 

 

 

“เจ้าคาดเดาถูกต้องแล้ว เมื่อรู้ข่าวว่าอีกแปดเผ่าบุกมา ด้านล่างของป้อมปราการที่งดงามแยกออกเป็นสองส่วน พวกเขาคาดการณ์ถึงหายนะที่จะตามมาก่อนแล้ว ในวันที่แปดเผ่าบุกมาถึง พวกเขาหลบซ่อนไปแล้ว ทั้งยังทิ้งสัตว์ประหลาดกินคนไว้รอบๆ ที่ที่พวกเขาซ่อนตัว 

 

 

พอถังเฉียนได้ยินเช่นนี้ก็ฉุกคิดถึงเขตหวงห้ามของสกุลเถิงเฟิง แล้วคลำเมล็ดบุปผากินคนในอกเสื้อ คิดในใจว่าวันนี้มันจะได้แสดงบทบาทออกมา 

 

 

ขณะที่พูดคุยกันทั้งสองก็เดินมาสุดทาง ทางน้ำมาถึงปลายสุดแล้ว น้ำในนั้นยังไหลออกมาข้างนอก แต่ตรงหน้ามีป้ายศิลาขนาดมหึมาปิดทางข้างหน้าไว้ 

 

 

“น้ำข้างล่างยังไหลอยู่ แต่ไม่มีทางแล้ว น่าแปลก” 

 

 

หันเทียนซวี่ลองผลักป้ายศิลาตรงหน้า ไม่เขยื้อนแม้แต่น้อย ราวกับเชื่อมต่อเป็นเนื้อเดียวกันกับภูเขา 

 

 

“เจ้าไปหาดูรอบๆ ว่ามีกลไกหรือไม่” 

 

 

ถังเฉียนมองดูรอยเท้าของพวกเขา แล้วดูสภาพแวดล้อมรอบๆ รู้สึกว่าแปลกชอบกล หันเทียนซวี่มองสำรวบรอบๆ แต่ไม่พบอะไร เขาหันกลับมา เห็นนางนั่งยองๆ อยู่ที่พื้น จึงเดินมาหาแล้วถาม 

 

 

“ทางข้าไม่พบอะไร แล้วท่านเล่า” 

 

 

นางชูคบไฟขึ้น มองดูรอบๆ แล้วพูดว่า 

 

 

“เจ้าสังเกตไหม เมื่อครู่ตอนที่เราเข้ามาล้วนมีรอยเท้า แต่หลังจากที่เราข้ามประตูศิลาบานนั้นแล้ว หลังจากนั้นจะไม่มีรอยเท้าเลย ราวกับว่าไม่มีเราสองคน แต่ตรงนี้เป็นดิน” 

 

 

พอถังเฉียนพูดจบ หันเทียนซวี่ก็พบว่าน่าแปลก เขาย่อตัวลง ใช้นิ้วคีบดินสีเหลืองขึ้นมาจ่อที่จมูก แล้วดมดู จากนั้นจึงยืนขึ้น แล้วนับนิ้ว คิ้วขมวดแน่น 

 

 

“เมื่อกี้ข้าเห็นรอบๆ มีคบไฟหลายอัน ข้าจะไปจุดดู” 

 

 

ถังเฉียนเดินตามหันเทียนซวี่ไป ที่นี่เป็นลานรูปสี่เหลี่ยม ทั้งสี่ด้านมีคบไฟขนาดใหญ่ ทั้งสองจุดคบไฟ ทำให้ห้องนี้สว่างขึ้นมาก หันเทียนซวี่ย่อตัวลงข้างๆ ร่องน้ำ ตรวจสอบดูเงียบๆ 

 

 

“ข้าสงสัยว่าในน้ำจะมีอะไรบางอย่าง?” 

 

 

หันเทียนซวี่พยักหน้า แต่ไม่พูดอะไร แล้วหยิบเนื้อชิ้นหนึ่งออกจากถุงสัมภาระ แล้วเกี่ยวเข้ากับเบ็ดตกปลา จากนั้นค่อยๆ ปล่อยลงข้างล่าง ถังเฉียนมองดูเนื้อชิ้นนั้นค่อยๆ จมลงในน้ำ เดิมมองดูน้ำเหมือนตื้นมาก แต่ทิ้งเนื้อลงไปนานแล้วก็ไม่เห็นถึงพื้น แต่ลึกลงไปเรื่อยๆ 

 

 

“นี่มันสิ่งใดกัน” 

 

 

หันเทียนซวี่บอกว่า 

 

 

“เราเข้ามาในดินแดนอาถรรพ์แล้ว คราวนี้แย่แน่” 

 

 

ดินแดนอาถรรพ์? นี่เป็นคำศัพท์ใหม่ ถังเฉียนยื่นมือลงไปในน้ำ เดิมคิดว่าน่าจะแต่ถูกพื้น แต่คลำไม่เจอหินเลย ถังเฉียนยื่นมือลงไปอีก ก็ยังไม่ถึงพื้น นางใช้มือข้างหนึ่งยันริมน้ำ เพื่อจะได้ยื่นแขนลึกลงไปอีก แต่เช่นนี้แล้วก็ยังไม่แตะถูกพื้น ถังเฉียนคิดแล้ว จึงนอนหมอบลงไปริมน้ำ 

 

 

หันเทียนซวี่ผูกเบ็ดเข้ากับก้อนหิน แต่พอเห็นถังเฉียนยื่นแขนลงไปในน้ำก็ร้องอุทานด้วยความตกใจ รีบดึงแขนนางขึ้นจากน้ำทันที 

 

 

แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ ปลายนิ้วของถังเฉียนก็ยังถูกแทงเป็นแผล เลือดสดๆ ไหลออกจากปลายนิ้วทั้งห้า ทำให้ถังเฉียนเจ็บแปลบไปถึงหัวใจ 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 307 ใต้น้ำ 

 

 

“เมื่อครู่ชิ้นเนื้อของข้าไปไม่ถึงพื้น ข้างล่างต้องมีอะไรบางอย่างกินเนื้อนั่น ดังนั้นท่านอย่ายื่นมือลงไปอีกเด็ดขาด” 

 

 

ถังเฉียนมองมือตัวเองแล้วพยักหน้าทันที 

 

 

“คิดไม่ถึงว่าใต้เท้าหันจะมีความรู้มากจริงๆ” 

 

 

หันเทียนซวี่พูดอย่างถ่อมตัวว่า 

 

 

“ก็อายุมากแล้ว อย่างไรก็พบเห็นมาบ้าง ไม่มีอะไรต้องโอ้อวด แต่ท่านต้องระวังตัว ที่นี่แปลกมาก” 

 

 

ถังเฉียนพยักหน้าแล้วช่วยหันเทียนซวี่หาก้อนหิน ขณะที่นางหันไป อาศัยแสงสลัวของคบไฟ เห็นผนังถ้ำซึ่งเมื่อกี้พวกเขาเกาะเดินผ่านมา เต็มไปด้วยแมลงสีดำ แมลงพวกนี้มีเปลือกแข็งและมีหนวดสัมผัสยาวมาก 

 

 

ถังเฉียนร้องด้วยความตกใจและผงะถอย จนเกือบตกลงไปในน้ำ หันเทียนซวี่มองตามที่นางชี้นิ้วไป คว้าตัวนางไว้พลางพูดว่า 

 

 

“แย่แล้ว ที่นี่เป็นสุสานโบราณ คิดไม่ถึงว่าจะมีแมลงกินศพตัวใหญ่ขนาดนี้ ระวังอย่าให้ถูกพวกมันกัดเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเทวดาก็ช่วยไม่ได้” 

 

 

ถังเฉียนพยักหน้า แล้วพยายามเลี่ยงบริเวณที่พวกมันเกาะอยู่ 

 

 

“เหตุใดเจ้าถึงรู้มากอย่างนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะข้ารู้ว่าเจ้าเป็นนักพรต คงคิดว่าเจ้าเป็นโจรขุดสุสาน” 

 

 

ขณะนี้หันเทียนซวี่เคร่งขรึมเป็นพิเศษ ถังเฉียนพูดล้อเล่นเขา แต่เขาไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เพียงแต่ก้มหน้า ง่วนอยู่กับการใช้หินวัดความลึกของน้ำ 

 

 

“ถ้าข้าทายไม่ผิด ในนี้มีทางน้ำขนาดราวหนึ่งเมตร ดูแล้วน้ำไหลไม่เร็วนัก แต่เราต้องคอยระวังเจ้าตัวที่กินคน พวกมันมีชื่อเรียกว่าปลานางฟ้า เป็นปลาที่สวยมาก ถ้ามองดูพวกมันใต้แสงจันทร์จะเป็นสีน้ำเงิน คล้ายหิ่งห้อย เป็นการสะท้อนแสงจันทร์ ไม่ใช่เปล่งแสงเองได้” 

 

 

ถังเฉียนร้องอืม ถ้าพวกเขาขืนบุ่มบ่ามลงไป คงถูกปลานางฟ้ากินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก 

 

 

“ตอนนี้เราควรจะทำเช่นไร ถ้าเราจะเข้าไป เจ้ามีวิธีจัดการกับปลานางฟ้าพวกนี้หรือไม่” 

 

 

หันเทียนซวี่ลองแตะน้ำ แต่พวกมันเป็นปลา ถึงจะกลัวแสงไฟ แต่ว่ายกระจายออกไปสักครู่ก็ว่ายกลับมา 

 

 

“ของอะไรที่สามารถเปล่งแสงและความร้อนในน้ำได้ แต่ไม่ดับลงทั้งๆ ที่เป็นไฟ?” 

 

 

ใครๆ ก็รู้ว่าน้ำปราบไฟ น้ำกับไฟไม่ถูกกัน จะมาของที่ว่าได้อย่างไร ยกเว้นจะมีอิทธิฤทธิ์ 

 

 

“ลองดูนี่!” 

 

 

ถังเฉียนใช้เนื้อก้อนหนึ่งตกได้ปลานางฟ้าหลายตัว นางกัดปลายนิ้วตัวเอง หยดเลือดลงไปบนปลา ไม่นานนักปลานางฟ้าตัวอื่นกินปลาที่เปื้อนเลือดนาง พากันถูกพิษหงายท้องลอยขึ้นมา 

 

 

ถังเฉียนยิ้มแล้วว่า 

 

 

“ได้ผลจริงๆ”  

 

 

แต่ถังเฉียนเพิ่งพูดจบ รอบๆ ก็เกิดการเคลื่อนไหวขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะได้กลื่นคาวเลือดบนตัวถังเฉียนหรือไม่ แมลงสีดำพวกนั้นที่เดิมทีเหมือนจำศีลอยู่ แต่ขณะนี้พากันคลานมาดำพรืด มุ่งมาหานาง 

 

 

คราวนี้ทำให้ทั้งสองคนตกใจแทบแย่ แมลงกินศพสีดำคืบคลานเข้าใกล้ขึ้นทุกที หันเทียนซวี่ตัดสินใจเฉียบขาดแล้วพูดว่า 

 

 

“กระโดดลงไปในน้ำ! ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย ลุยกันเถอะ” 

 

 

ถังเฉียนคาดไม่ถึงว่าเขาจะมีความกล้าไม่น้อย นางจึงวางเสี่ยวจินไว้บนฝั่ง เพราะมันว่ายน้ำไม่เป็น ถ้ามันลงไปแบบนี้คงตายแน่นอน 

 

 

ถังเฉียนเพิ่งลงไป ปลานางฟ้ารอบๆ ก็ว่ายล้อมเข้ามา หันเทียนซวี่ดึงถังเฉียน คิดจะว่ายน้ำไปทางปากถ้ำ ถังเฉียนและเขาถูกกัดตามตัวหลายแผล ปลานางฟ้าที่กัดถังฉียนทยอยกันตายอย่างรวดเร็วเพราะพิษในตัวนาง จากนั้นปลานางฟ้าที่ตายก็กลายเป็นอาหารของปลาตัวอื่น