ตอนที่ 687 เจ้าตะกละกล่าวเตือน

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินกล่าว “ข้าไม่เชื่อคําพูดของเจ้าสัตว์ประหลาดเฒ่าที่ชั่วร้ายนั่นอย่างแน่นอน แต่เมื่อเขาพูดถึงหม้อเทพนิรันดร์เขาย่อมไม่เอ่ยถึงมันโดยไม่มีเหตุอย่างแน่นอน”

“ตอนนี้หอโอสถไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว ถ้าพวกเขาไม่สามารถหาหม้อเทพนิรันดร์ให้พบได้ หอที่หลับใหลก็ไร้ประโยชน์สําหรับพวกเขา”

“ถ้าราชันย์ของหม้อทั้งปวง หม้อเทพนิรันดร์ ปรากฏขึ้นมาจริง ๆ ล่ะก็ บางทีอาจจะสามารถช่วยหอโอสถไว้ได้”

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินคิดได้ดีมาก หม้อเทพนิรันดร์ได้เคยปรากฏตัวขึ้นแล้วและยังปรากฏขึ้นในหอโอสถอีกด้วย

แต่นิรันดร์ไม่ได้ตื่นขึ้นมา ก็ยังคงทําอะไรไม่ได้

มู่เฉียนซีถามขึ้นว่า “หากข้าปฏิเสธที่จะอยู่ในหุบเขาโอสถเพื่อฝึกฝน หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินจะตกลงที่จะร่วมมือกับหุบเขาหมอเทวดาหรือไม่ ?”

“ถ้าพิสูจน์ว่าพวกเขาสามารถหาหม้อเทพนิรันดร์พบได้จริง ๆ ข้าก็คิดที่จะร่วมมือกับพวกเขา หอโอสถในสายตาพวกเราไม่ใช่เพียงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ชิ้นหนึ่งอีกต่อไป แต่มันเป็นอาจารย์และญาติสนิทมิตรสหายของพวกเรา ข้าไม่อยากให้มันหลับสนิทจนไม่ตื่นไปอีกตลอดกาลจริง ๆ”

ความรู้สึกของพวกเขา มู่เฉียนซีนั้นเข้าใจดี สําหรับนางก็เหมือนกันกับอาถิงและนิรันดร์

เด็กน้อยไร้เดียงสาอย่างเสี่ยวเย่านั้นน่ารักมาก นางไม่อยากให้มันตกไปอยู่ในมือของกลุ่มคนอย่างหุบเขาหมอเทวดาเลยจริง ๆ

หุบเขาหมอเทวดาเป็นศัตรูของนาง และนางก็ไม่ต้องการให้หุบเขาหมอเทวดาเพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

มู่เฉียนซีถาม “หัวหน้าหุบเขาเวินเหริน เจ้าเชื่อใจข้าหรือไม่? ถ้าเจ้าเชื่อใจข้า ก็ให้ปฏิเสธหุบเขาหมอเทวดาไปซะ! ”

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินถอนหายใจและกล่าวว่า “ข้าขอคิดดูก่อน”

“ได้!”

อวี้เหลียนชิงเองก็ไม่ได้นอนทั้งคืน อวี้เหลียนชิงกําลังเร่งเร้าให้หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินตอบ

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว “หัวหน้าหุบเขา ที่จริงแล้วเรื่องนี้พวกเราควรไปถามท่านหอโอสถว่าจะไปหรือไม่ไปที่ไหนให้ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง”

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินตบหัวตัวเองและกล่าวว่า “ใช่แล้ว! ทําไมข้าถึงได้ลืมเรื่องสําคัญเช่นนี้ไปได้ เราไม่สามารถตัดสินใจแทนท่านหอโอสถได้!”

“หุบเขาหมอเทวดา! คือที่ที่เจ้าเด็กโง่นั่นอยู่ ข้าไม่อยากไป! ไม่อยากไป!” เมื่อได้ยินคําพูดของท่านหุบเขาเวินเหริน เสี่ยวเย่าก็ต่อต้านอย่างรุนแรง

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินกล่าว “แต่ท่านหอโอสถ สถานการณ์ของท่านในตอนนี้ทําให้พวกเรากังวลมาก พวกเราไม่อยาก…”

“สาวน้อยคนสวยช่วยข้าได้ ข้าคุยกับนางแล้วว่าข้าจะรอให้นางช่วยข้า พวกเจ้าแค่พยายามช่วยนางให้ดีที่สุดก็พอแล้ว อย่าไปยุ่งกับเจ้าคนวุ่นวายพวกนั้น”

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินตกตะลึง คิดไม่ถึงว่ามู่เฉียนซีไม่เพียงแต่จะผ่านการทดสอบชั้นเจ็ดของหอโอสถอย่างน่าอัศจรรย์เท่านั้น แต่กลับยังทำให้ท่านหอโอสถรักและไว้วางใจเป็นอย่างมาก

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินกล่าว “ได้! เราเคารพการตัดสินใจของท่านหอโอสถ!”

อวี้เหลียนชิงกล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อ “พวกเจ้าปฏิเสธ? พวกเจ้าปฏิเสธหรือ?”

หัวหน้าหุบเขาเวินเหริน “ถ้าท่านผู้เฒ่าหุบเขาหมอเทวดามีความจริงใจจริง ๆ ล่ะก็ ให้เขานําหม้อเทพนิรันดร์มาที่นี่ด้วยตัวเอง!”

“ใครก็ได้! ส่งแขก!”

ไม่ใช่การส่งแขก แต่อวี้เหลียนชิงถูกขับไล่ออกไปจากหุบเขาโอสถโดยตรง

ไม่ได้อันดับหนึ่งในการคัดเลือกของหุบเขาโอสถและภารกิจที่อาจารย์มอบหมายให้ก็ไม่สําเร็จอีก นี่ทําให้อวี้เหลียนชิงโมโหอย่างมาก

“ไอ้สารเลวหุบเขาโอสถ ฝากไว้ก่อนเถอะ!” อวี้เหลียนชิงกล่าวอย่างโกรธเคือง

เสี่ยวเย่าเชื่อใจนางมากเช่นนี้ ถึงกับทำให้ท่านหัวหน้าหุบเขาเวินเหรินไล่อวี้เหลียนชิงออกไป มู่เฉียนซีหยิบสูตรยาขึ้นมาและกล่าวว่า “ขอบคุณท่านหัวหน้าหุบเขาเวินเหรินที่เชื่อใจข้า? ข้าเองก็ต้องเพิ่มความแข็งแกร่งในการกลั่นยาเช่นกัน ดังนั้นข้าจึงวางแผนที่จะอยู่ในหุบเขาโอสถเพื่อศึกษาค้นคว้าสักระยะหนึ่ง”

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินกล่าวอย่างมีความสุข “ได้!”

“สาวน้อยซี เจ้าต้องการอยู่ต่อรึ!” อาจารย์ใหญ่หวงฝู่ รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย หุบเขาโอสถกําลังแย่งคนจากพวกเขาอยู่!

มู่เฉียนซียิ้มและกล่าวว่า “อาจารย์ใหญ่หวงฝู่ท่านวางใจได้! ตราบใดที่ข้ายังไม่จบการศึกษา ข้าก็จะยังเป็นนักศึกษาของสํานักซวนเสีย ข้าเพียงแค่เก็บตัวอยู่ในหุบเขาโอสถสักพักหนึ่ง”

อาจารย์ใหญ่หวงฝู่รู้ว่าทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของหุบเขาโอสถเหมาะสมกับการเพิ่มระดับของมู่เฉียนซีมากกว่า ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ขัดขวาง

“ถ้าเจ้าเฒ่านั่นรู้ว่าข้าไม่ได้พาเจ้ากลับไป เกรงว่าจะเอาข้าตาย”

“อาจารย์ใหญ่หวงฝู่อธิบายกับอาจารย์สักหน่อย อาจารย์จะต้องเข้าใจแน่!”

มู่เฉียนซีเก็บตัวอยู่หลายวัน เมื่อเห็นว่าสูตรยานี้ยังงุนงง นางพยายามปรับปรุงสูตรยาแล้ว แต่ก็ไม่ได้!

สูตรยานี้ระดับสูงเกินไป ไม่ใช่ว่านางอยากปรับก็จะสามารถปรับได้!

“นิรันดร์เจ้าเป็นหมูหรือเปล่าเนี่ย! เจ้าจะนอนไปถึงเมื่อไหร่จึงจะตื่นขึ้นมาได้” มู่เฉียนซีบ่นพึมพำ

นิรันดร์ไม่สามารถช่วยได้ มู่เฉียนซีนึกได้ว่ามีอีกคนที่จะสามารถช่วยได้

มู่เฉียนซีไปหาหัวหน้าหุบเขาเวินเหริน “ท่านหัวหน้าหุบเขาเวินเหริน ข้าคิดได้ว่าเพื่อนของข้าคนหนึ่งสามารถช่วยได้ แต่ไม่รู้ว่าจะสามารถบอกเรื่องหอโอสถให้เขาทราบได้หรือไม่!”

หัวหน้าหุบเขาเวินเหริน “ถ้าคนผู้นั้นเป็นคนที่เจ้าไว้ใจได้ เช่นนั้นบอกเขาไปก็คงไม่เป็นไร”

มู่เฉียนซีกล่าว “เขาเป็นเพื่อนที่ดีของข้า และไว้ใจได้อย่างแน่นอน! ข้าจะเขียนจดหมายเดี๋ยวนี้ พวกท่านส่งไปยังทวีปเสียโจวให้ข้าหน่อย ”

“แล้วก็ ซื้ออาหารท้องถิ่นรสเลิศของทวีปอวิ๋นโจวส่งไปด้วย” มู่เฉียนซีกล่าวเสริม

ให้จวินจอมตะกละทําธุระ แน่นอนว่าต้องดูแลกระเพาะของเขาให้ดี

จวินจอมตะกละได้กินอย่างมีความสุขแล้ว ก็จะตอบกลับอย่างมีความสุข

“นับว่าสาวน้อยนั้นมีน้ำใจนัก ไปทวีปอวิ๋นโจวแล้วยังคิดถึงข้าอีก”

จวินโม่ซีอ่านและยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “สาวน้อยผู้นี้ฉลาดแต่มักจะถูกความฉลาดของตนนำโทษมาให้”

หลังจากเขียนจดหมายเสร็จก็ให้คนรีบส่งไป มู่เฉียนซีเปิดจดหมายดูและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย!

เม็ดยาขั้นสวรรค์ระดับที่เก้าที่หอโอสถนําออกมาทําให้นางจํากัดความคิดของนางไว้ที่ยานั่น และทําให้นางมองข้ามยาน้ำที่นางคุ้นเคยไป

จวินโม่ซีเขียนในจดหมายไว้ว่า “เม็ดยาขั้นสวรรค์ระดับที่เก้าขั้นสูงสุด เกรงว่าคงไม่มีใครในโลกทั้งสี่ที่จะสามารถหลอมออกมาได้ เจ้ากับข้าต้องฝึกอีกกี่ร้อยปีถึงจะสามารถสําเร็จได้”

“ถึงไม่สามารถปรุงเม็ดยาระดับสวรรค์ขั้นเก้าขั้นสูงสุดได้ แต่เจ้าผู้วิปริตมากเช่นนี้ เจ้าสามารถปรุงยาน้ำที่เทียบได้กับเม็ดยาระดับสวรรค์ขั้นเก้าขั้นสูงสุดออกมาได้! หอโอสถต้องการดูดซับพลังของยาเท่านั้น พลังของยาน้ำของเจ้านั้นจะต่างกับยาเม็ดมากน้อยสักแค่ไหนเชียว บางทีของเหลวอาจจะยังดูดซับได้ดีกว่าก็ได้!”

นี่เป็นข่าวดีอย่างแน่นอน แต่มู่เฉียนซีไม่ได้รีบร้อนที่จะบอกกับหัวหน้าหุบเขาเวินเหริน

สิ่งที่จวินโม่ซีพูดนั้นดูง่ายดายมาก แต่ยาน้ำที่เทียบได้กับเม็ดยาระดับเก้าขั้นสูงสุด ไหนเลยจะปรุงออกมาได้ง่าย ๆ แม้ว่าในมือของนางจะมีสูตรยาก็ตาม

กองสมุนไพรวิญญาณที่หอโอสถให้มานั้น มีวัตถุดิบในการสกัดกลั่นเม็ดยาสวรรค์ว่านหลิง และยังมีมากอีกด้วย!

มู่เฉียนซีตัดสินใจว่าไม่ว่านางจะลองอีกกี่ครั้งและปรุงยาอีกกี่รอบ นางก็จะต้องปรุงออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดให้ได้

ในวันถัดมา มู่เฉียนซีหมกมุ่นจนแทบจะลืมกินลืมนอนอยู่ในห้องปรุงยา นี่ทําให้ท่านหัวหน้าหุบเขาเวินเหรินและผู้อาวุโสทุกคนกังวลเป็นอย่างมาก

“สาวน้อยผู้นี้สู้สุดชีวิตเกินไปแล้ว ร่างกายของนางจะทนได้หรือ ?”

“พวกเรากดดันนางมากเกินไปหรือเปล่า”

“เฮ้อ! ถ้าพรุ่งนี้นางยังไม่ออกมาอีก เราจะพุ่งเข้าไปตีให้สลบและพานางออกมา ”

แต่ก่อนที่พวกเขาจะลงมือในวันพรุ่งนี้ ก็มีคนมารายงานว่า “ท่านหัวหน้าหุบเขา! ผู้อาวุโสใหญ่แห่งหุบเขาหมอเทวดาผู้เฒ่าไป๋และ ศิษย์สายตรงของผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาอวี้เหลียนชิงมุ่งหน้ามาที่หุบเขาโอสถเพื่อคารวะท่านหัวหน้าหุบเขาและบอกว่ามีเรื่องสําคัญที่ต้องหารือกัน! ”

ใบหน้าของหัวหน้าหุบเขาเวินเหรินหม่นคล้ำลง “หุบเขาหมอเทวดายังไม่เลิกคิดอีก! มาอีกแล้ว!”