หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินออกไปต้อนรับ พวกเขามองไปที่ชายชราผมหงอกนั้นและกล่าวว่า “ไป๋เวิงออกมาจากการบำเพ็ญแล้ว แถมยังเดินทางไกลพันลี้มาถึงหุบเขาโอสถของข้า หากไม่ได้ออกมาต้อนรับด้วยตัวเองก็คงจะเป็นการเสียมารยาทจริง ๆ”

ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งหุบเขาหมอเทวดาผู้นั้น ไม่รู้ว่าเป็นเฒ่าประหลาดที่มีชีวิตมากี่ปีแล้ว

ไป๋เวิงกล่าวอย่างหยิ่งยโสว่า “อย่ามาพูดจาไร้สาระกับข้า ที่ข้ามาวันนี้ก็เพราะมีเรื่องสำคัญ”

“พวกเราเข้าไปด้านในก่อนและค่อยว่ากันเถอะ!” หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินรู้ดีว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มาดี

“พวกข้าหุบเขาหมอเทวดาต้องการยืมหอโอสถไปใช้! นี่พวกเจ้าต้องการให้หอโอสถต้องพังลงโดยที่ไม่ยอมให้หุบเขาหมอเทวดาของพวกข้าลงมือทำให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมงั้นเหรอ ?” ไป๋เวิงกล่าวอย่างใช้อำนาจบาตรใหญ่

ใบหน้าของหัวหน้าหุบเขาโอสถเผยร่องรอยความโกรธเกรี้ยวออกมา “ข้าว่าครั้งที่แล้วข้าได้พูดกับเจ้าหนูอวี้ไปชัดเจนมากแล้วนะ ตกลงไป๋เวิงเจ้ายังไม่รู้รึ ?”

“ช่วงนี้หัวหน้าหุบเขาตระหนักได้ถึงบางอย่างก็เลยเก็บตัวบำเพ็ญอยู่ เขาไม่สามารถนำหม้อเทพนิรันดร์มาได้ แต่เสี่ยวชิงกลับได้รับคำสั่งของท่านอาจารย์เขาให้นำหม้อเทพนิรันดร์มา”

“หุบเขาหมอเทวดาของพวกข้าตามหาหม้อเทพนิรันดร์มาโดยตลอด อันที่จริงก็หาเจอมานานแล้วล่ะ เพียงแต่กลัวถูกกองกำลังอื่นแย่งชิงไป ก็เลยไม่ได้ประกาศออกไปให้ใครรู้ก็เท่านั้น หุบเขาโอสถของพวกเจ้าช่างขี้สงสัยยิ่งนัก และเพื่อไม่ให้หอโอสถต้องหลับใหลไป พวกข้าก็เลยจำใจต้องเปิดเผยเรื่องที่หุบเขาหมอเทวดาครอบครองหม้อเทพนิรันดร์ไว้”

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินตกใจผงะไปครู่หนึ่ง หรือว่าหม้อเทพนิรันดร์จะตกไปอยู่ในกำมือของพวกหุบเขาหมอเทวดาจริง ๆ สวรรค์ช่างไม่เปิดตาดูบ้างเลย

ไป๋เวิงกล่าวเตือนว่า “พวกเจ้าหุบเขาโอสถอย่าได้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปเด็ดขาด มิเช่นนั้นแล้วหุบเขาหมอเทวดาไม่ปล่อยพวกเจ้าเป็นแน่”

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินกล่าว “หุบเขาโอสถของพวกข้าแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยกระทำเรื่องผิดสัญญา เรื่องนี้พวกเจ้าหุบเขาหมอเทวดาวางใจเถอะ!”

ไป๋เวิงกล่าว “หุบเขาหมอเทวดาของพวกข้ามีหม้อเทพนิรันดร์อยู่ ดังนั้นจึงไม่อยากให้หอโอสถต้องพังลงไป ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้หอโอสถได้สร้างคุณูปการเกี่ยวกับการปรุงยามากมายในแดนใต้ ก็เลยคิดที่จะลงมือช่วยเหลือ พวกเจ้าอย่าได้ทำสิ่งที่ไม่รู้ว่ามีภัยแก่ตัวเลย อีกอย่างพวกข้าก็แค่ยืมมาใช้พันปีก็คืนให้แล้ว ใช่ว่าจะไม่คืนให้สักหน่อย”

หากไม่มีหอโอสถ หลังจากนี้พันปี หุบเขาหมอเทวดาของพวกเขาจะต้องมีวิธีที่ทำให้หุบเขาโอสถหายไปจากโลกใบนี้ได้แน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นพวกเขาอยากจะคืนให้ก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปคืนที่ไหนแล้ว!

ไม่มีทาง หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินไม่มีทางเชื่อคำพูดหลอกลวงของพวกเขาแน่นอน

“ข้าอยากจะเห็นหม้อเทพนิรันดร์ หากไม่เห็นหม้อเทพนิรันดร์ข้าก็ไม่อาจจะตัดสินใจลงไปได้!”

ไป๋เวิงกล่าว “เสี่ยวชิง เอาหม้อเทพนิรันดร์ออกมาให้หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินดูสิ!”

ครั้งนี้หุบเขาหมอเทวดาของพวกเขาส่งยอดฝีมือมาไม่น้อยเลย หากหุบเขาโอสถคิดจะแย่งชิงแล้วล่ะก็ พวกเขาไม่สามารถที่จะทำได้

ท่านผู้เฒ่ากลัวว่าพวกเขาจะสงสัย ถึงแม้ว่าศิษย์ผู้นี้ของเขาจะไร้ประโยชน์ แต่ภายใต้การควบคุมของเขาแล้วแน่นอนว่าเขามีความเชื่อใจมาก

ดังนั้น หม้อพิษสามอสูรของเขาก็ทำได้เพียงแค่ให้อวี้เหลียนชิงนำมา แม้กระทั่งพวกเขาที่อยากจะสัมผัสสักหน่อยก็ยังทำไม่ได้

ในตอนนี้เอง หม้อยาโบราณสีดำสนิทได้ถูกอวี้เหลียนชิงเอาออกมาสู่สายตาพวกเขาแล้ว

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินมองดูหม้อยาสีดำสนิทหม้อนั้นและกล่าวว่า “นี่คือหม้อเทพนิรันดร์เหรอ”

นอกจากมู่เฉียนซีแล้ว น้อยคนนักที่จะรู้ว่ารูปร่างหน้าตาของหม้อเทพนิรันดร์นั้นเป็นเช่นไร ดังนั้นหุบเขาหมอเทวดาก็เลยต้องการเลียนแบบหม้อเทพนิรันดร์ เอาหม้อพิษสามอสูรมาหลอกหุบเขาโอสถ

“หากเจ้าไม่เชื่อ เจ้าก็เอาหม้อยาของเจ้ามาลองได้ หรือไม่ก็ใช้พลังจิตตรวจสอบดูก็ได้” อวี้เหลียนชิงกล่าว

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินเอาหม้อยาอันล้ำค่าของตนเองออกมา ผลที่ได้คือเขาสามารถรับรู้ได้ว่าหม้อยาของเขามีความหวาดกลัวราวกับได้เผชิญหน้ากับผู้เป็นราชาก็มิปาน

ผู้อาวุโสสูงสุดคิดจะใช้พลังจิตตรวจสอบความจริง แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ พรวด! เขากระอักเลือดคำโตออกมา

ไป๋เวิงกล่าว “พวกเจ้ายังสงสัยสิ่งใดอยู่อีกหรือไม่ สิ่งนี้คือหม้อเทพนิรันดร์จริง ๆ!”

“ตอนนี้พวกเจ้าจะตัดสินใจยังไงก็รีบพูดมาเถอะ พวกข้าไม่มีความอดทนมากมายเช่นนั้น!”

“หุบเขาหมอเทวดาของพวกเจ้าช่างน่าสนใจจริง ๆ นึกไม่ถึงว่าจะเอาหม้อพิษสามอสูรมาแอบอ้างเป็นหม้อเทพนิรันดร์ หม้อพิษสามอสูรก็ดีนะ แต่หากเทียบกับหม้อเทพนิรันดร์แล้วมันยังห่างไกลอีกเยอะเลยล่ะ” เสียงขี้เล่นดังขึ้น

หญิงสาวชุดม่วงผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขา ใบหน้าเหนื่อยล้าแต่ก็ไม่อาจบดบังความงามนั้นได้

นางมองหม้อพิษสามอสูรนั้นอย่างพิจารณา ใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มขี้เล่น

นางนึกถึงหม้อพิษสามอสูรมาโดยตลอด นึกไม่ถึงว่าหุบเขาหมอเทวดาจะนำหม้อพิษสามอสูรมาประเคนถึงที่ ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก

“เจ้าพูดจาเหลวไหล!” ถูกเปิดโปงเช่นนี้ การตอบสนองของอวี้เหลียนชิงนั้นรุนแรงมาก!

“มู่เฉียนซี เป็นเจ้าอีกแล้วเหรอ นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้ายังไม่ออกไปจากหุบเขาโอสถ เหตุใดทุกครั้ง ๆ ถึงต้องเป็นเจ้าที่ต่อกรกับข้า!” อวี้เหลียนชิงกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว

“ต่อกรกับเจ้า เจ้ากินยาผิดไปแล้วกระมัง คนอย่างเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า เหตุใดข้าถึงต้องต่อกรกับเจ้าด้วย!”

“นี่เจ้า!” หญิงสาวผู้นี้ช่างกล้ายิ่งนัก

ไป๋เวิงกล่าว “สาวน้อย เจ้าอย่าได้พูดจาเหลวไหลไป เจ้าบอกว่านี่คือหม้อพิษสามอสูรก็ต้องเป็นหม้อพิษสามอสูรอย่างนั้นเหรอ!”

มู่เฉียนซีกล่าว “คนเฒ่าคนแก่หากพูดจาเหลวไหลอายุจะสั้นเอาได้นะ แล้วเจ้าบอกว่ามันคือหม้อเทพนิรันดร์ก็ต้องเป็นหม้อเทพนิรันดร์อย่างนั้นเหรอ!”

“แล้วถ้าหากข้าบอกว่าบนนิ้วข้ามีแหวนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ล่ะ พวกเจ้าจะเชื่อหรือไม่ ?” มู่เฉียนซียกมือขึ้นเผยให้เห็นแหวนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ที่สวมอยู่ที่นิ้ว

อวี้เหลียนชิงกล่าวอย่างดูถูกเหยียดหยามว่า “ข้าว่าผู้หญิงเช่นเจ้ามันบ้าไปแล้ว เจ้าคิดจริง ๆ เหรอว่าแหวนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์นั้นจะมีอยู่ทั่วทุกแห่งหนหน่ะ!”

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินมองไปที่มู่เฉียนซี “เสี่ยวซี นี่คือหม้อพิษสามอสูร ไม่ใช่หม้อเทพนิรันดร์จริง ๆ หรือ”

มู่เฉียนซีอยู่ที่หุบเขาโอสถมาหลายวันแล้ว หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินรู้ดีว่าคำพูดนี้ของมู่เฉียนซีไม่ใช่คำพูดที่เหลวไหล

“ถูกต้อง!” มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว

เดิมทีนางกำลังศึกษาการปรุงยาสวรรค์ว่านหลิงอยู่ และได้ศึกษาเค้าโครงออกมาได้เล็กน้อยแล้ว แต่หม้อเทพปาฮวางชิงมู่กลับมีปฏิกิริยาที่แปลกประหลาดราวกับว่าได้เจอกับหม้อที่มีลักษณะเดียวกับมันแล้ว

และนี่เป็นผลให้นางต้องหยุดการปรุงยาเอาไว้ก่อนและมาที่นี่ นึกไม่ถึงว่าอวี้เหลียนชิงจะเอาหม้อพิษสามอสูรออกมา และแอบอ้างว่าเป็นหม้อเทพนิรันดร์ ช่างน่าขำยิ่งนัก!

ถ้าหากนิรันดร์ไม่ได้หลับใหลไป มันคงต้องออกมาด่าเจ้าหมอนี้จนกลายเป็นสุนัขเป็นแน่

“นางเป็นเพียงแค่สาวน้อยคนหนึ่ง จะรู้ได้เช่นไร ?” ไป๋เวิงกล่าวอย่างเย็นชา

“ข้าเคยเข้าไปในจวนซางไห่ที่เสียโจวมาแล้ว ในจวนซางไห่มีบันทึกเกี่ยวกับหม้อเทพนิรันดร์ รวมถึงบันทึกของเลียนแบบอื่น ๆ ของหม้อเทพนิรันดร์ด้วย แน่นอนว่าข้าเห็นแวบเดียวก็รู้ว่านี่ไม่ใช่หม้อเทพนิรันดร์ แต่เป็นหม้อพิษสามอสูร” มู่เฉียนซีกล่าว

“สาวน้อย เจ้าต้องคุยโวโอ้อวดไปเป็นแน่!” ไป๋เวิงกล่าวอย่างเย็นชา

มู่เฉียนซีมองไปที่หัวหน้าหุบเขาเวินเหริน และกล่าวว่า “กลไกวิญญาณของหอโอสถเคยบอกข้าว่ามันรู้ว่าหม้อเทพนิรันดร์เป็นเช่นไร หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินลองไปถามหอโอสถดู ก็จะได้รู้ทุกอย่างอย่างกระจ่างแจ้งแล้ว”

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินกล่าว “ข้าจะไปถามนายท่านหอโอสถ!”

ตอนนี้สีหน้าของเหล่าบรรดาคนของหุบเขาหมอเทวดาดำคล้ำยิ่งกว่าก้นหม้อเสียอีก ไป๋เวิงกล่าวเสียงขรึมว่า “ไม่ต้องไปถามแล้ว นี่คือหม้อพิษสามอสูรจริง!”

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินกล่าว “พวกเจ้าหุบเขาหมอเทวดานับวันยิ่งไร้ยางอายมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว นึกไม่ถึงว่าจะกล้าโกหกพวกข้า”

คนของหุบเขาหมอเทวดาเหล่านี้กล่าววาจาโกหกโดยที่ไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังกล้ากล่าวต่ออีกว่า “หม้อพิษสามอสูรเป็นถึงวัตถุเลียนแบบหม้อเทพนิรันดร์ ระดับของมันสูงกว่าหอโอสถมาก รอให้กลไกวิญญาณตื่นขึ้นมา มันต้องมีวิธีทำให้หอโอสถกลับมาเป็นปกติได้แน่นอน พวกเจ้าต้องคำนึงถึงข้อสำคัญนี้สิ!”

“อีกอย่าง พวกข้ามีวัตถุที่เลียนแบบอยู่ การจะหาหม้อเทพนิรันดร์เจอนั้นมันก็อยู่ไม่ไกลแล้ว ตกลงหอโอสถนี้พวกเจ้าจะให้พวกข้ายืมหรือไม่ หากไม่ให้ หอโอสถก็คงมีเพียงเส้นทางแห่งความตาย แล้วอย่าหาว่าหุบเขาหมอเทวดาของพวกข้าไม่ให้โอกาสพวกเจ้า!” ไป๋เวิงกล่าว