EG บทที่ 749 ความทะเยอทะยาน

 

บริษัทซิกส์เซนส์กลายเป็นประเด็นร้อนที่ได้รับการพูดถึงในเมืองหลังจากที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในที่สุด บริษัทนี้เป็นผู้ผลิตของเล่นเซ็กส์ทอยทรายแรกของโลกที่ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สื่อจำนวนมากรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้และนี่คือโปรโมทแบบไม่ต้องเสียเงินสำหรับบริษัท เมื่อราคาหุ้นของบริษัทซิกส์เซนส์เพิ่มขึ้น ยอดขายก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

อัตราส่วนหนี้สินของบริษัทซิกส์เซนส์นั้นสูงมาก เป็นเพราะว่าเงินกู้ยืมจากธนาคาร เฝิงหยู่สนับสนุนคาเมดะ มาซาโอะเมื่อเขาขอเงินกู้จากธนาคาร

 

เศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังอยู่ในภาวะถดถอย และในปีนี้ บริษัทอิเล็กทรอนิกส์และเคมีของญี่ปุ่นจะประสบปัญหา ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจแย่ลงกว่าเดิมอีก ส่งผลให้การเติบโตติดลบ

 

โทมิอิชิ มูรายามะตัดสินใจเด็ดขาด เขาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ประเทศต่างๆ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่มีประเทศไหนทำอย่างที่ญี่ปุ่นทำในปีนี้

 

อัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ของญี่ปุ่นลดลงเหลือ 0.08% และคนก้เล่นมุกกันว่พวกเขาต้องยอมจ่ายเงินเพื่อนำเงินเข้าธนาคาร เมื่ออัตราการออมลดลง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก็จะลดลงเช่นกัน

 

ดังนั้นจึงเป็นที่น่าเสียดายหากคาเมดะ มาซาโอะไม่ได้กู้เงินจากธนาคารด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เขาใช้ประโยชน์จากเส้นสายของเขาและกู้เงิน 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากอัตราแลกเปลี่ยนในยุคนี้ ก็เท่ากับ 3.6 พันล้านเยน!

 

อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างดอลลาร์สหรัฐและเยนคือ 1:80 คาเมดะ มาซาโอะสามารถแลกเปลี่ยนเงินเยนที่เขามีอยู่ให้กลายเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐจำนวนมากขึ้นได้ สิ่งที่เขาต้องทำก็คือแลกเปลี่ยนเงินเยนให้เป็นดอลลาร์สหรัฐ และเขาจะสามารถทำกำไรได้ นอกจากนี้ เฝิงหยู่ก็ถูกยั่วยวนด้วยผลกำไรที่ได้มาง่ายๆ แบบนี้เช่นกัน เขาโทรหาเฮะทาโร นาคาจิมะเพื่อให้ไปขอเงินกู้เป็นดอลลาร์สหรัฐ และการชำระคืนจะเป็นเงินเยนแทน เขาบอกให้เฮะทาโรกู้เงินมาให้ได้มากที่สุด แม้ว่าพวกเขาจะใช้เงินเพื่อลงทุนในตลาดสหรัฐอเมริกา แต่พวกเขาก็จะทำกำไรได้มากเช่นกัน

 

นอกจากนี้ เฝิงหยู่ยังลงทุนในตลาดสหรัฐอเมริกาด้วยเงินสดสำรองทั้งหมดของเขา เงินส่วนใหญ่ของเขาอยู่ในไมโครซอฟท์ และแม้ว่าเขาต้องการใช้เงิน เขาก็จะไม่ขายหุ้นไมโครซอฟท์ จะเกิดอะไรขึ้นกับบริษัทของเขาหากเรื่องนี้เกิดขึ้น?

 

ด้วยเงินกู้ของธนาคารที่มีดอกเบี้ยต่ำ ปัญหานี้จะได้รับการแก้ไข! ไอว่าไม่ใช่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และเฝิงหยู่เป็นผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุม หากเขาต้องการใช้เงิน เขาสามารถโอนเงินจำนวนนี้ออกจากเงินกู้ได้ เฝิงหยู่ได้ใช้เงินส่วนใหญ่ของไอว่าไปกับการลงทุนในตลาดสหรัฐอเมริกาแล้ว รวมถึงหุ้น ไมโครซอฟท์ด้วย

 

นักลงทุนต่างชาติจำนวนมากได้กู้ยืมเงินจากธนาคารญี่ปุ่นในช่วงเวลานี้ แรงจูงใจของพวกเขาก็เหมือนกับเฝิงหยู่  พวกเขาใช้เงินกู้เพื่อลงทุนในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดสหรัฐอเมริกาด้วย

 

หลายคนรวมถึงเฝิงหยู่รู้สึกว่าตลาดสหรัฐอเมริกาจะอยู่ในช่วงขาขึ้นในปีนี้ เฝิงหยู่ได้วิเคราะห์แผนภูมิและกราฟทุกประเภท ซึ่งเกือบจะเหมือนกับเมื่อชาติที่แล้วของเขา ยกเว้นความแตกต่างเพียงเล็กน้อย

 

ด้วยเงินทุนจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวสูงขึ้นจากประมาณ 3,800 ต้นในช่วงต้นปีนี้เป็นมากกว่า 4,000 ในตอนนี้ แม้ว่าหลังจากที่ดัชนีทะลุ 4,000 จุดไปแล้ว แต่ก็ยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

 

เฝิงหยู่คาดการณ์ว่าดัชนีดาวโจนส์จะสูงกว่า 5,000 ในช่วงปลายปี ซึ่งจะเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชาติที่แล้วของเขา ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาจะกลายเป็นตลาดขาขึ้นและก่อให้เกิดฟองสบู่เศรษฐกิจ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์อธิบายถึงช่วงเวลานี้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความคาดหวังที่สูงเกินไปอย่างไร้เหตุผล!

 

สิ่งที่เฝิงหยู่ต้องการคือการทำกำไรให้ได้จำนวนมากและออกจากตลาดก่อนที่ฟองสบู่จะแตก!

 

ประธานาธิบดีคลินตันจงใจสร้างช่วงเวลานี้ขึ้น ยิ่งเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาดีขึ้นมากเท่าไหร่ โอกาสของเขาที่จะได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งอีกวาระหนึ่งก็มากขึ้นเท่านั้น

 

แน่นอนว่าในปีสุดท้ายของวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของคลินตัน ฟองสบู่ดอทคอมก็แตก แต่วาระของเขาจบลงแล้ว และออกจากตำแหน่งอย่างประสบความสำเร็จพร้อมกับชื่อเสียงและความมั่งคั่ง

……

 

หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว คาเมดะ มาซาโอะ เดินทางไปยุโรป บริษัทซิกส์เซนส์กำลังสร้างโรงงานแห่งใหม่และร้านค้าขายปลีกจำนวนมากในยุโรป เขาต้องการดูแลทุกอย่างด้วยตัวเองและแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด ความผิดพลาดใดๆ ที่เกิดขึ้นจะทำให้หุ้นของบริษัทลดลง

 

บริษัทอื่นๆ ยังสามารถกดขี่และเอาเปรียบบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันได้ หากบริษัทใดในภาคธุรกิจหนึ่งประกาศว่ามีกำไรสูง หุ้นของบริษัทอื่นทั้งหมดในอุตสาหกรรมนั้นก็จะเพิ่มขึ้นด้วย แต่บริษัทซิกส์เซนส์ ไม่ได้รับผลประโยชน์เช่นนี้เพราะว่าไม่มีบริษัทที่คล้ายคลึงกันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์!

 

บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่อาจกลายเป็นดัชนีอุตสาหกรรมได้ โดยเฉพาะดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงจากหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นแนสแด็ก 100 บริษัท นอกจากนี้ S&P ยังเป็นดัชนีวัดประสิทธิภาพของบริษัทขนาดใหญ่ 500 แห่งด้วย

 

ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งในบริษัทที่จะใช้ในดัชนีพวกนี้ คาเมดะ มาซาโอะ รู้สึกว่าบริษัทซิกส์เซนส์ ควรเป็นหนึ่งในบริษัทภายใต้ ดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต!

 

เฝิงหยู่ยังสนับสนุนเรื่องนี้ ในอนาคตดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต จะครอบคลุมมากกว่า 5,000 บริษัท ทำไม บริษัทซิกส์เซนส์จะเป็นหนึ่งในนั้นไม่ได้ล่ะ?

 

แม้ว่าบริษัทซิกส์เซนส์ จะไม่ได้อยู่ในภาคธุรกิจเทคโนโลยี การเงินหรือเทคโนโลยีชีวภาพ แต่ก็ควรได้รับการพิจารณาภายใต้ภาคธุรกิจการผลิต

 

ใครบอกว่าการผลิตตุ๊กตายาง ถุงยางอนามัย ซิลิโคนและผลิตภัณฑ์ยางไม่ใช่ภาคธุรกิจการผลิต?

 

แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้อยู่ในหมวดการผลิต แต่ก็ยังสามารถเข้าสู่ดัชนีได้ หลังจากที่บริษัทซิกส์เซนส์ จดทะเบียนแล้ว จะมีบริษัทอีกมากมายในอุตสาหกรรมเดียวกันที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  บริษัทซิกส์เซนส์ เป็นบริษัทของเล่นเซ็กส์ทอยรายแรกและใหญ่ที่สุดที่ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แล้วทำไมจะเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมนี้ไม่ได้ล่ะ?

 

บางทีอาจจะไม่มีนักลงทุนคิดว่าผู้ผลิตของเล่นเซ็กส์ทอยจะกลายเป็นหนึ่งในบริษัทภายใต้ดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต ในอนาคตได้

แม้แต่เฝิงหยู่ก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเหมือนกัน

 

จนกระทั่งเมื่อคาเมดะ มาซาโอะแนะนำเรื่องนี้กับเฝิงหยู่ แล้วเขาก็เริ่มตั้งตารอคอยเรื่องนี้

 

เฝิงหยู่รู้ว่าคาเมดะ มาซาโอะมีความทะเยอทะยานสูงมากมานานแล้ว มีคนเคยพูดว่าคนที่ไม่ทะเยอทะยานจะไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องที่สำคัญ คนที่มีชื่อเสียงทุกคนที่ได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์มีความทะเยอทะยานกันทุกคน

 

ความทะเยอทะยานมีอยู่ในการเมืองหรือธุรกิจ คนที่อยู่ในวงการการเมืองจะต้องอยากเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของประเทศ และผู้ที่อยู่ในวงการธุรกิจจะอยากประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง ไม่มีคนไหนที่ไม่มีความทะเยอทะยานแล้วจะประสบความสำเร็จ

 

เฝิงหยู่รู้สึกดีใจที่คาเมดะ มาซาโอะมีความทะเยอทะยานสูงมาก นั่นเป็นเพราะเขาจะทำงานหนักเพื่อบรรลุความใฝ่ฝันของเขาและทำให้บริษัทซิกส์เซนส์ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ เขาจะทำเงินให้เฝิงหยู่ได้อย่างต่อเนื่องด้วย!

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทซิกส์เซนส์ยังคงเป็ เฝิงหยู่หลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หลังจากการออกหุ้น 30% ของบริษัทแล้ว หุ้นของเฝิงหยู่ก็ยังคงมากกว่า 51% เขายังคงมีสิทธิ์ในการออกเสียงมากกว่า 2 ใน 3

 

นั่นเป็นสาเหตุที่เฝิงหยู่ไม่กลัวว่าคาเมดะ มาซาโอะ จะเข้าครอบครองบริษัทของเขา ตราบใดที่เขายังคงสามารถควบคุมบริษัทซิกส์เซนส์ได้อยู่ เขาก็จะสามารถควบคุมคาเมดะ มาซาโอะได้!