เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 793
ทันใดนั้น แสงค่ายกลที่ผนึกตัวพวกเขาเอาไว้สั่นสะเทือน มารทั้งสี่พ่นเลือดออกมาพร้อมกัน ทำให้มันเปื้อน หลังจากนั้นทั้งสี่คนกระโดดเข้าไปในค่ายกลช่องว่าง แล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย

นักปราชญ์มองภาพนี้อย่างอึ้งๆ ลู่ฝานก็อ้าปากเบาๆ เช่นกัน

เป็นมารที่เด็ดขาด เป็นมารที่ไม่สนใจหน้าตาอะไรเลย จะคุกเข่าก็คุกเข่า จะร้องไห้ก็ร้องไห้ แค่เป้าหมายสำเร็จ จะใช้วิธีอะไรก็ได้

ลู่ฝานสูดหายใจลึก วันนี้ถือว่าเขาได้เปิดหูเปิดตาแล้ว

กลางอากาศ นักปราชญ์เงียบอยู่นาน จากนั้นพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย “โง่ เขลา ปัญญาอ่อน”

ด่าตัวเองไปสามคำ นักปราชญ์เอาม้วนหนังสือออกมาอีก จากนั้นลบอะไรบางอย่างด้านบนออกไปอย่างรวดเร็ว

ตัวลอยลงมาช้าๆ นักปราชญ์กวาดตามองทุกคน ชี้ลู่ฝานแล้วพูดว่า “นายตามฉันมา”

ลู่ฝานยังไม่ทันพูดอะไร ก็รู้สึกว่าร่างกายตัวเองเดินตามไปโดยไม่สามารถควบคุมได้ ราวกับโดนควบคุมเอาไว้ทันที

คนอื่นพากันมองลู่ฝานกับนักปราชญ์ออกไปด้วยความเคารพ หลิงเหยากำลังจะตามไป แต่โดนศิษย์พี่หานเฟิงดึงกลับมา

ขณะนั้นสุ่ยเชียนโหรวเดินออกมา ชี้หน้านักปราชญ์แล้วพูดว่า “นี่ นายปล่อยให้พวกเขาหนีไปแบบนั้นเหรอ”

นักปราชญ์งงไปหมด ความตกใจบนใบหน้าเหมือนกำลังพูดว่า ที่แบบนี้มีคนกล้าชี้หน้าพูดกับเขาเหรอ

นักปราชญ์มองสุ่ยเชียนโหรวตั้งแต่หัวจรดเท้า หัวเราะแล้วพูดว่า “คุณหนูตระกูลสุ่ย เหมือนฉันเคยได้ยินชื่อเธอด้วย”

สุ่ยเชียนโหรวเชิดหน้าขึ้น “ในเมื่อเคยได้ยินชื่อฉัน งั้นคงรู้ฐานะของฉัน ฉันกำลังถามนายอยู่ นายปล่อยให้พวกเขาหนีไปแบบนั้นเหรอ”

นักปราชญ์หัวเราะเบาๆ ไม่พูดอะไร พาลู่ฝานเดินออกไปข้างนอกทันที

สุ่ยเชียนโหรวโมโหทันที แต่เธอพบว่าตัวเองขยับไม่ได้

“ไอ้เลว นายกล้าผนึกฉันเหรอ!”

นักปราชญ์หัวเราะแล้วพูดว่า “เธอยืนอยู่ตรงนี้อีกสักพักเถอะ”

พูดจบ ลู่ฝานกับนักปราชญ์เลี้ยวไปบนถนนพังๆ จากนั้นก็หายลับตาคนไป

ลู่ฝานเดินตามหลังนักปราชญ์ เข้าไปในร้านน้ำชาแห่งหนึ่ง

ด้านในไม่มีคนแล้ว อาจเป็นเพราะแรงกระเพื่อมเมื่อกี้ ร้านน้ำชาดูโงนเงน

“นั่ง!”

นักปราชญ์ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น

เมื่อนักปราชญ์ผายมือ ลู่ฝานก็นั่งลง แล้วพบว่าร่างกายของตัวเองไม่ถูกควบคุมแล้ว

ลู่ฝานกำหมัดคารวะแล้วพูดว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยเหลือ”

นักปราชญ์ยกมือขัดจังหวะไม่ให้ลู่ฝานพูดต่อ เอาม้วนหนังสือออกมาจากในอก แล้วพูดว่า “วางมือของนายลงมาข้างบน แล้วนึกย้อนภาพเมื่อกี้”

ลู่ฝานไม่เข้าใจความหมายของนักปราชญ์ แต่ก็วางมือลงบนม้วนหนังสือตามที่เขาพูด

ทันใดนั้น ลู่ฝานรู้สึกถึงพลังอบอุ่นเข้ามาในตัวเขา ในกระดูกของเขา ในความจำของเขา

ลู่ฝานรีบรวบรวมสติและสมาธิ นึกย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เริ่มตั้งแต่เขาอวี่ฮั่ว ภาพต่างๆ แวบขึ้นมาในหัวของเขา

ม้วนหนังสือข้างหน้าส่องแสงสว่าง ขณะเดียวกันภาพเหตุการณ์ต่างๆ ก็สว่างขึ้นด้วย ภาพทั้งหมดในหัวของลู่ฝาน ฉายลงไปบนม้วนหนังสือทั้งหมด

“โอเคแล้ว!”

นักปราชญ์เห็นว่าพอประมาณแล้ว จึงเก็บม้วนหนังสือกลับมา

“ที่แท้เป็นคนชั่วสี่คน มิน่าล่ะพวกนายถึงรับมือไม่ได้ แต่หัวใจแห่งความมืด เป็นเรื่องที่วุ่นวาย”

นักปราชญ์เอาม้วนหนังสือเสียบลงไปที่เอว มองลู่ฝานแล้วพูดว่า “นายชื่ออะไร”

ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “ลู่ฝานแห่งเมืองลู่”

นักปราชญ์ครุ่นคิด จู่ๆ เหมือนนึกอะไรออก ยิ้มแล้วพูดว่า “เหมือนฉันเคยได้ยินชื่อนี้ นึกออกแล้ว นายคือลู่ฝานที่สอบผู้ตรวจการชั้นกลางผ่านสินะ!”