โลก
หลังจากที่ซูจิ้งเลี้ยงม้าขาวตัวน้อยด้วยหญ้าวิเศษ เขาก็ปล่อยมันไว้ลำพังและให้มันเล่นที่สนาม เขาอยากรู้เกี่ยวกับแหล่งที่มาของขยะ เขาเข้าไปในสถานีขยะและทำความสะอาดขยะต่อ
“พระเจ้า!” ซูจิ้งดึงเสื้อคลุมออกมา เมื่อพิจารณาจากพื้นผิวของเสื้อคลุม มันควรจะเป็นวัสดุประเภทที่ไม่เปียกด้วยเหมือนกัน ก่อนที่จะเปลี่ยนไปที่ชุดผู้หญิง ก็หันมาดูเสื้อผ้าของผู้ชายก่อนหรือเสื้อผ้าที่กลางๆ ที่ใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
เขาซักเสื้อคลุมและเมื่อเขาทำแบนั้น เขาก็มั่นใจแล้วว่ามันไม่เปียก หลังจากที่ซักแล้วเขาอดไม่ได้ที่จะถอดเสื้อผ้าแล้วลองสวมเสื้อคลุมตัวนี้ เขารู้สึกว่ามันนุ่มและสวมใส่ได้สบายมาก ซึ่งน่าพอใจเป็นอย่างมาก
“ลองว่ายน้ำดีกว่า” ซูจิ้งอดไม่ได้จนต้องเดินไปที่ริมทะเลตรงสนามและกระโดดลงไปว่ายน้ำในทะเล ในน้ำทำให้เขาสามารถสัมผัสความมหัศจรรย์ของเสื้อผ้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพราะมันไม่ไม่แนบติดกับตัวเหมือนเสื้อผ้าธรรมดาทั่วไป แม้จะอยู่ในน้ำมันก็ยังสวมใส่สบายมากๆ
“ทำไม! ทำไมถึงรู้สึกว่าว่ายน้ำได้เร็วขนาดนี้เนี่ย!” ซูจิ้งประหลาดใจเมื่อเจอเข้ากับเรื่องนี้ เขาเหมือนกับปลาเลย น้ำทะเลเหมือนกับต้านทานอะไรไม่ได้เลย ตอนที่เขาว่ายน้ำอยู่ในทะเล เขากลับรู้สึกสบายราวกับว่าเป็นปลาเลย
“พระเจ้า กลายเป็นว่าวัสดุนี้มีความพิเศษแบบนี้นี่เอง” ซูจิ้งรู้สึกประหลาดใจมาก เขาคิดว่าชุดว่ายน้ำที่ทำจากวัสดุนี้เป็นชุดว่ายน้ำระดับท๊อปๆแน่เลย เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ชุดว่ายน้ำไฮเทคนั้นถูกห้ามในกีฬาโอลิมปิก ไม่เช่นนั้นนักกีฬาที่สวมชุดว่ายน้ำที่มาจากวัสดุนี้จะต้องทำลายสถิติโลกได้แน่ๆ
“ม้าแก่ร่างผอมสามารถกลายเป็นม้าระดับแชมป์ได้หลังจากที่กินหญ้าจากกองขยะ เศษเสื้อผ้าที่มาจากกองขยะไม่เปียกน้ำและช่วยให้เราว่ายน้ำได้ราวกับปลา มันน่าทึ่งมากจริงๆ พวกนี้เป็นขยะจากโลกแบบไหนกันเนี่ย?” หัวใจของซูจิ้งเต้นรัว หลังจากเขาขึ้นฝั่งเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาก็ทำความสะอาดกองขยะต่อและกลายเป็นว่าได้พบข้อความเพิ่มมากขึ้น เขาอ่านมันอย่างระวัง
ข้อความบนกระดาษแผ่นหนึ่งดึงดูดความสนใจของเขา “น้ำค้างยามเช้ากระบองเพชร ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของโลก มนุษยชาติเป็นสิบเพลงของแม่น้ำเหลืองที่ไหลตะวันออก หยกแปดพันปี เหี่ยวเฉาหนึ่งคืน ถามสวรรค์ทำไมชีวิตถึงเป็นแบบนี้? เมื่อคืนเมื่อลมพัดผ่านใครกันที่จะนับดาวตก ใครคือคนที่แบ่งปันท้องฟ้าและเงามืด? หลายพันปี เป่ยโตวเคยอยู่ในวังเหยา ไม่เหมือนคู่ของเทพและนางฟ้า มันอยู่ในเจียงหู่มาหลายร้อยปีแล้ว”
ข้อความนี้ทำให้ซูจิ้งรู้สึกคุ้นเคย แต่เขาจำไม่ได้ว่าเคยอ่านมาจากที่ไหน ด้วยความสงสัย เขาค้นหาข้อความเพิ่มอีก ซึ่งขณะที่เขากำลังแยกขยะและนี่ทำให้เขารู้สึกกลัว: เฉินหนง, ซีหวังหมู่, กั๊วฟู, จกหยง, มิราจ, ลิงชาน, จิน, มู, ชุ่ย, หู่, ตู นอกจากนี้ยังมีรูปภาพของหญิงสาวสวยนอกจากนี้ก็ยังมีคำอื่นๆอีก เมื่อได้เห็นคำเหล่านี้ สมองก็ซูจิ้งก็แล่นทันทีและทันใดนั้นเขาก็คิดขึ้นมาได้
“พระเจ้า ขยะพวกนี้มาจากห้วงเวลและอวกาศของโซเฉินจิ!” ซูจิ้งทั้งประหลาดใจและพอใจ ในยุคของสามจักรพรรดิและห้าจักรพรรดิ โซเฉินจิเป็นโลกในเทพนิยายโบราณที่เต็มไปด้วยภูเขาและแม่น้ำอันงดงาม สัตว์หายาก, ทักษะวิเศษ, ความรักและความเกลียดชัง ที่นั่นมีเฉินหนง, หวางดิ, เฉียวชิโย่, ซีหวังหมู่, กั๊วฟู, ซิงเทียน, จกหยง และบุคคลในตำนานคนอื่นๆด้วย
เด็กหญิงในรูปภาพนางฟ้าเป็นหนึ่งในวีรสตรีในโซเฉินจิ ตั้งแต่เธอเกิด เธอได้รับการสถาปนาให้เป็นธิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามู่ เธออาศัยอยู่ในวังน้ำแข็งและหิมะของกูชซานตลอดทั้งปีและฝึกฝนสูตรยาอายุยืนของน้ำแข็งและหิมะ เธอมีความสวย, บริสุทธิ์และละเอียดอ่อนเหมือนนางฟ้าโดยธรรมชาติซึ่งท่ามกลางผู้คนแล้วมีความโดดเด่นอย่างมาและยังเป็นเทพธิดาในความฝันของใครๆหลายคน
ซูจิ้งหันกลับไปอ่านบทกวีที่ดึงดูดความสนใจของเขาในตอนแรก: น้ำค้างยามเช้ากระบองเพชร ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของโลก มนุษยชาติเป็นสิบเพลงของแม่น้ำเหลืองที่ไหลตะวันออก เขาจำได้ว่ามันเป็น เพลงที่มีชื่อเสียงในห้วงเวลาและอวกาศของโซเฉินจิ เพลงดั้งเดิมแต่งโดย ซิเหยาหยา ลูกสาวศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่ามู่ และเนื้อเพลงแต่งโดยธิดาศักดิ์สิทธิ์คนที่ 36 แห่งเผ่ามู่ ร้องโดย เซี้ยนซีซีและเฉินหนง
“แล้วหญ้าวิเศษนี้อาหารสำหรับสัตว์ในตำนานอย่างมังกรงั้นเหรอ?” ซูจิ้งลองเดาอย่างกล้าหาญ สิ่งที่เรียกว่าถ้ำมังกรเป็นหญ้าในตำนานชนิดหนึ่ง ม้าสามารถเปลี่ยนเป็นมังกรได้หลังจากกินมันเข้าไป ซึ่งสามารถเดินทางได้หลายพันไมล์ทุกวัน ในห้วงเวลาและอวกาศของโซเฉินจิก็ไม่น่าแปลกใจที่มีหญ้าแบบนี้อยู่ในกองขยะที่ซึ่งมังกรไม่มีความสำคัญ เพราะมีม้ามังกรจริงๆ ม้าที่มีร่างกายเป็นมังกรและสามารถวิ่งได้เป็นพันไมล์ต่อวันได้อย่างสบายๆ ที่ซึ่งม้ามังกรเป็นเพียงหญ้าธรรมดาชนิดหนึ่ง แล้วหญ้าถ้ำมังกรล่ะ?
อย่างไรก็ตามบนโลก หญ้ามังกรไม่สามารถปลูกได้ มันเป็นหญ้าของพระเจ้าที่ขัดกับท้องฟ้า ไม่น่าแปลกใจที่หนูและปลาหลังจากกินเข้าไปถึงไม่มีผลอะไร ไม่น่าแปลกใจที่ม้ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในชั่วข้ามคืน เพราะมันสำหรับม้าโดยเฉพาะ
“เสื้อผ้าเหล่านี้ไม่เปียกน้ำ พวกมันเป็นฉลามในตำนานหรือเปล่า?” ใจของซูจิ้งเต้นรัวและหยิบเสื้อคลุมออกมาเพื่อมองอย่างละเอียด หินดินดานที่เรียกว่าเป็นหินทอโดยหิน พวกมันเป็นวัสดุที่มีเอกลักษณ์ การแช่ในน้ำไม่ได้เป็นเพียงคุณสมบัติพื้นฐานเท่านั้น ปลาคิเมียราที่เรียกว่าเป็นนางเงือกในตำนาน ในห้วงเวลาและอวกาศของโซเฉินจิมีนางเงือกอยู่ในทะเล ตัวเอกคูบาเย่เกี่ยวข้องกับหนึ่งในพวกเขา ตอนนี้เมื่อมีนางเงือกแล้วมันเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับหินดินดานที่จะอยู่ที่นั่น มันไม่มีอะไรพิเศษ
“ถ้ามันเป็นห้วงเวลาและอวกาศของโซเฉินจิ งั้นทุกอย่างก็สามารถอธิบายได้แล้ว แต่น่าเสียดายที่มันเป็นแค่ขยะ ไม่งั้นมันคงจะดีกว่าที่ได้สร้างม้ามังกรตัวจริง หรือนางเงือก” ซูจิ้งอดไม่ได้ที่จะนึกฝันจินตนาการเกี่ยวกับห้วงเวลาและอวกาศของโซเฉินจิ เขาเพ้อฝันว่ามันจะวิเศษขนาดไหนถ้าสามารถเข้าสู่โลกมหัศจรรย์นี้เพื่อเข้าไปดูซะหน่อย
เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ซูจิ้งทำความสะอาดกองขยะต่อ ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ร้องเพลงออกมาด้วยความพอใจ เขารู้สึกมีความสุข เพลงที่บันทึกไว้ในนั้นมีเพลง เช่น “ช่วงเวลาแห่งความงาม”, “หินสีทองแตกคลื่น”, “สวรรค์ที่ยอดเยี่ยม” ซึ่งคนที่รักดนตรีน่าจะเอามาทิ้งไว้
อย่างที่กล่าวไว้ใน “ช่วงเวลาแห่งความงาม” แต่งโดย ซิเหยาหยา ลูกสาวศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามู่ หินสีทองแตกคลื่น เป็นเพลงที่มีเอฟเฟกต์การโจมตีที่แข็งแกร่ง สวรรค์ที่ยอดเยี่ยม เป็นเพลงที่ตั้งชื่อโดยคูบาเย่ นางฟ้าหยิงกูก็เติมเต็มด้วยคำที่สวยงามมาก: “ดวงจันทร์นั้นหนาว, แม่น้ำเป็นสีเขียวและใครจะเป็นคนเดียวที่จะไป? หน้าผาน้ำแข็ง, ดอกบัวหิมะร่วงและภาพยนตร์ก็เหมือนดาวตก ฟังว่าใคร คือ ลูยันเสี่ยว, สิบนิ้วของมอสเป็นเพียงเพลงใหม่ ร่างมนุษย์อ้วนและผอม, คางคกหยกกลมและเตี้ย และภูเขาคุนหลุนหิมะตกนานหลายพันปี เทกระบวยขนาดใหญ่ ดื่มทางช้างเผือกอย่างระมัดระวังและฉันจะเมาไปกับดวงจันทร์ที่สดใส แต่สายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิของค่ำคืน หัวใจเป็นเหมือนใบหม่อนและเป็นฤดูของดอกไม้บาน (เป็นบทที่แปลตรงตัว เนื้องจากผุ้แปลไม่มีความสามารถในร้อยกรองT_T) “
เพลงในโน้ตเพลงนี้ ซูจิ้งอ่านมันครั้งเดียวแล้วเขาก็อารมณ์ดี ตอนนี้ความสามารถด้านดนตรีกู่ฉินของเขานั้นสูงมาก เขารู้ว่าพวกมันไม่ธรรมดาเลย เมื่อเทียบกับเวทย์มนตร์กู่ฉินในห้วงเวลาและอวกาศในราชาแห่งพิณเขารู้ว่าเขาจะได้พบสมบัติอีกครั้ง