ตอนที่ 515 ตลกฝืดอันน่ากระอักกระอ่วนใจ

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

เซียวหงลี่ยังไม่อยากเชื่อ ตั้งแต่ที่เขาได้ฟังความจริงเมื่อคืนนี้ ลูกสาวของเขาคือ… ไม่น่าเชื่อจริงๆ! อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับเซียวโหรว เขารู้ว่าสิ่งที่ภรรยาเล่าให้ฟังเมื่อคืนเป็นเรื่องจริง 

 

 

ไม่อย่างนั้นหญิงสาวอายุยี่สิบสามจะไม่เด็ดขาดและเก่งกล้าในเรื่องธุรกิจขนาดนี้ ตอนนี้ทุกอย่างมีคำอธิบายชัดเจนแล้ว 

 

 

เป็นแบบนี้นี่เอง… เซียวโหรวช่างเป็นเด็กผู้หญิงที่น่าสงสารจริงๆ 

 

 

เมื่อคิดถึงตรงนี้เซียวหงลี่ก็โทรหาถังซี ถังซียังคงประชุมอยู่กับเซียวเจี่ยนและทุกคนที่เซียวกรุป เมื่อเห็นหมายเลขผู้โทรเธอก็เลิกคิ้ว กล่าวว่า “ขอโทษนะคะ” กับคนอื่นๆ และออกไปรับสาย “สวัสดีค่ะ แด๊ดดี้” 

 

 

ตอนนี้ถังซีเรียกเซียวหงลี่ว่า ‘แด๊ดดี้’ 

 

 

เมื่อได้ยินเสียงหวานๆ ของถังซีเซียวหงลี่ก็ยิ้ม เขาขึ้นไปนั่งบนรถขณะกล่าวว่า “พ่อเพิ่งดูข่าว พ่อภูมิใจในตัวหนูมาก ลูกสาวพ่อ หนูทำงานเก่งมาก” 

 

 

ถังซีชะงัก เธอลังเลนิดหนึ่ง ถามเสียงเบาว่า “แด๊ดดี้รู้ตัวตนที่แท้จริงของหนูแล้วใช่ไหมคะ” 

 

 

“ใช่จ้ะ เด็กโง่ พ่อเดาว่าหนูคงเหนื่อยมากแน่ๆ ที่ต้องซ่อนศักยภาพที่แท้จริงของหนูเอาไว้ ตอนที่อยู่กับเรา” 

 

 

ถังซีส่ายศีรษะ “ไม่เลยค่ะ หนูมีความสุขมากที่ได้อยู่กับแด๊ดดี้ หนูแค่ไม่กล้าคาดหวังว่าแด๊ดดี้จะยังยอมรับหนูได้…” 

 

 

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หนูคือลูกของพ่อกับแม่เสมอ” เซียวหงลี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “นอกจากนี้หนูยังช่วยชีวิตเซียวเหยาไว้ พวกเราทุกคนยอมรับได้ตอนที่หนูบอกว่าหนูเป็นนางฟ้าน้อย แล้วทำไมเราถึงจะยอมรับไม่ได้ล่ะ เมื่อหนูบอกว่าหนูคือถังซี” 

 

 

“หนูขอโทษนะคะ หนูควรจะบอกแด๊ดดี้ก่อนหน้านี้” ถังซีกล่าวอย่างรู้สึกผิด 

 

 

เซียวหงลี่เสียบหูฟังและปลดเบรกมือเพื่อสตาร์ตรถ “ต่อไปในอนาคต ถ้ามีปัญหาอะไรอย่าเก็บไว้โดยไม่บอกพ่อกับแม่ การมีครอบครัวคือความแข็งแกร่งมากกว่าการที่หนูจะคิดเพียงคนเดียว แล้วอีกอย่าง ในเมื่อหนูมีพ่อคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลังเสมอ ทำไมหนูถึงไม่หันมาขอความช่วยเหลือจากพ่อ อย่าลืมสิว่า พ่อน่ะมีอิทธิพลพอตัวนะในเมือง A” 

 

 

ถังซีทำเสียงตอบรับในลำคอ และรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ “หนูรู้ค่ะ แด๊ดดี้ แต่ตอนนี้หนูต้องไปประชุมต่อแล้ว เอาไว้วันหลังเรามาทานข้าวกันนะคะ” 

 

 

หลังจากวางสาย ถังซีก็กลับไปที่ห้องประชุมเพื่อประชุมต่อ เฮ่อหว่านโจวให้ความสนใจถังซีทันทีที่เห็นเธอกลับมา เขายิ้มสดใสถามด้วยท่าทีหึงหวงว่า “เพิ่งคุยโทรศัพท์กับแฟนมาเหรอครับ ยิ้มหวานเชียว” 

 

 

ถังซียิ้มและส่ายศีรษะ “คนรักเก่าน่ะค่ะ” 

 

 

“คนรักเก่า!” เฮ่อหว่านโจวเบิกตาโพลง ชี้ไปที่เฉียวเหลียง “เขาไม่ใช่หรือ คนรักเก่าของคุณ” 

 

 

ถังซีอึ้ง “…” 

 

 

เฉียวเหลียงก็อึ้ง “…” 

 

 

เซียวเจี่ยนงุนงง “…” 

 

 

เซียวเหยาพูดไม่ออก “…” 

 

 

เซียวจิ่ง “ฮ่า ฮ่า… นายเอาอะไรมาพูดเนี่ย” 

 

 

เซียวส่า “ประสาท! ไร้สาระจริงๆ เลย!” 

 

 

เฉียวเหลียงจ้องมองเขาด้วยสายตาเยือกเย็น เฮ่อหว่านโจวคอหดทันที “ก็คุณสองคนเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันไม่ใช่หรือ! ผมก็แค่หยอกเล่น! อย่าจริงจังนักสิ!” 

 

 

ถังซียิ้ม “โทรศัพท์จากคุณปู่ฉันน่ะค่ะ เอาล่ะ เราไปต่อกันเถอะ” 

 

 

ในไม่ช้าทุกคนก็ลืมความกระอักกระอ่วนที่เกิดจากตลกฝืดของเฮ่อหว่านโจว และประชุมกันต่อไป… 

 

 

… 

 

 

ทางอีกด้านหนึ่ง ฉินซินหยิ่งกำลังมองฉินเย่ว์ซึ่งนั่งนิ่งเงียบอยู่บนโซฟา เธอกล่าวกับเขาด้วยความยำเกรงว่า “ถังซีสืบหาเบาะแสของป้าหล่อนตามคำสั่งถังเจิ้นหวาใช่ไหมคะ” 

 

 

แล้วเธอก็พึมพำ “ไม่น่าแปลกใจที่ถังซีรู้จักเซียวโหรว… หนูเกรงว่าถังซีจะรู้มานานแล้วว่าเซียวโหรวเป็นลูกพี่ลูกน้อง หล่อนถึงได้จงใจวางแผนเข้าไปใกล้ชิดนังเด็กนั่น บางทีอาจเป็นถังซีที่สั่งให้เซียวโหรวทำอย่างนั้นกับเรา ไม่อย่างนั้นนังเด็กบ้านนอกอย่างเซียวโหรวจะฉลาดขนาดนี้ได้ยังไง” 

 

 

ฉินเย่ว์เหลือบมองเธออย่างเย็นชา ถามว่า “ทำไมแกไม่บอกฉันก่อนหน้านี้ ในเมื่อแกสงสัยแบบนี้ เซียวโหรวรู้จักถังซีเมื่อไหร่” 

 

 

ฉินซินหยิ่งส่ายศีรษะ “หนูไม่รู้ค่ะ…” 

 

 

ถ้ารู้เรื่องนี้มาก่อน เธอคงไม่ก่อกวนเซียวโหรวโดยอ้างชื่อถังซีหรอก ถ้าทั้งสองรู้จักกันแล้วในตอนนั้น เธอก็คงดูเหมือนตัวตลกเลยใช่ไหม 

 

 

ส่วนถังซี… บางทีหล่อนอาจเลิกรักเฉียวเหลียงไปแล้ว หล่อนจึงไม่สนใจเขาเลย หล่อนคงมีความสุขมาก เมื่อเห็นเธอดิ้นไปมาเหมือนตัวตลก! 

 

 

ฉินเย่ว์หลิ่วตามองฉินซินหยิ่งและหัวเราะเยาะ “พวกมันคิดว่าร่วมมือกันแล้วจะเอาชนะฉันได้อย่างนั้นหรือ ประเมินฉันต่ำเกินไปเสียแล้ว!” 

 

 

ดวงตาฉินซินหยิ่งเป็นประกายวาววับขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนี้ เธอรีบถามว่า “คุณปู่หาวิธีแก้ปัญหาได้แล้วใช่ไหมคะ” 

 

 

“ใช่ แต่ฉันจะเก็บไว้เป็นไพ่ใบสุดท้าย!” ฉินเย่ว์กล่าวอย่างเย็นชา “กลับบ้านไปหาวิธีแก้ปัญหากันดีกว่า คอยดูก็แล้วกันว่าสุดท้ายใครจะเป็นผู้ชนะ!” 

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ฉินซินหยิ่งก็รู้สึกโล่งอก เธอเดินไปเก็บของ ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหันกลับไปมองฉินเย่ว์ “คุณปู่คะ คุณย่าน้อย…” 

 

 

“เก็บเรื่องนี้ไว้ก่อน” ฉินเย่ว์ขมวดคิ้วขณะนึกถึงน้องสาวที่ไม่ได้เจอกันมาหลายสิบปี 

 

 

ฉินหลัวเป็นน้องสาวคนเดียวของเขา ทั้งสองรักใคร่กันดีเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก แม้ว่ามารดาเขาจะต้องเสียชีวิตในครั้งนั้น แต่นั่นเป็นอุบัติเหตุ… ซึ่งทั้งหมดเป็นความผิดของถังเจิ้นหวา น้องสาวเขาไม่ผิดเลย! 

 

 

ฉินซินหยิ่งเลิกคิ้ว เธอคิดไม่ถึงว่าเซียวจิ้นหนิง ผู้หญิงโง่เง่าคนนั้นจะเป็นลูกพี่ลูกน้องเธอจริงๆ … อย่างกับนิยายน้ำเน่า! 

 

 

เมื่อฉินซินหยิ่งเก็บของเสร็จ ทั้งสองคนกำลังจะออกเดินทาง จู่ๆ ก็เห็นถังซียืนอยู่ที่ประตู ฉินซินหยิ่งขมวดคิ้ว “เธอมาทำอะไรที่นี่” 

 

 

ถังซีมองหน้าฉินซินหยิ่ง จากนั้นก็ไม่สนใจเธอ มองตรงไปที่ฉินเย่ว์ “ดูเหมือนว่าฉันจะมาทันเวลาพอดี ไม่อย่างนั้นคุณฉินก็คงหนีกลับไปเสียก่อน” 

 

 

ฉินเย่ว์มองเธออย่างเย็นชา “ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ” 

 

 

ถังซีเลิกคิ้ว “แต่ฉันมีเรื่องจะบอกคุณมากมาย คุณไม่อยากรู้หรือว่าน้องสาวคุณอยู่ที่ไหน” 

 

 

ฉินเย่ว์สูดลมหายใจ มองหน้าถังซีอย่างเย็นชา “เธอต้องการอะไร” 

 

 

ถังซีหันไปมองฉินซินหยิ่ง ฉินซินหยิ่งเชิดคางขึ้นมองเธอแล้วกล่าวอย่างหยิ่งยโส “ฉันเป็นหลานคุณปู่ ท่านไม่ว่าอะไรหรอกที่ฉันจะอยู่ตรงนี้ด้วย!” 

 

 

ถังซีหันไปมองฉินเย่ว์ด้วยรอยยิ้ม เขาจึงกล่าวกับฉินซินหยิ่งอย่างเย็นชา “ไปรอฉันอยู่ข้างนอก” 

 

 

ฉินซินหยิ่งชะงัก จ้องมองถังซี ก่อนจะหันหลังเดินออกไป