บทที่448

ผู้แปล : N.

“นอกจากนี้! ทางเรายังได้มีอุปกรณ์อื่นมานำเสนออีกนะครับ” หลังจากที่เจียงซุนพูดจบ ก็ได้มีพนักงานนำสิ่งที่พวกเขาพูดว่าเป็น “อุปกรณ์บางอย่าง” มาให้ดู

“ตัวอุปกรณ์ที่ผมจะนำเสนอต่อไป ก็คือยานพาหนะทรงกลมขนาดเล็กที่มีรูปร่างโดยรวมเป็นทรงรีรูปไข่ กะทัดรัด และน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการเดินทางคนเดี่ยวหรือคู่”

พนักงานที่รับผิดชอบอุปกรณ์นี้ก็ได้นำยานพาหนะแม่เหล็กขนาดเล็กรูปวงรีนี้ ไปทดสอบให้พวกลูชินได้เห็นถึงประสิทธิภาพของมันทันที

วังถัง และ โรเบิร์ต อดใจไม่ได้ที่จะเข้าไปทดสอบประสิทธิอุปกรณ์นี้ด้วยตัวเอง ความรู้สึกแรกที่พวกเขาได้สัมผัสมันนั้น เป็นอะไรที่แปลกใหม่อย่างมาก ถึงแม้ว่าพื้นที่ของรถทรงกลมนี้จะเล็กกว่ารถยนต์ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาได้เข้าไปนั่ง แต่มันก็ยังถือว่าไม่ได้ลำบากแต่อย่างใด ในส่วนของความเร็วเองก็ไม่ได้แตกต่างจากรถยนต์ก่อนหน้านี้เลย

“นอกจากนี้เรายังมีอุปกรณ์อย่างสเก็ตบอร์ดแม่เหล็กลอยได้อีกด้วย ซึ่งการนำเสนออุปกรณ์นี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการโปรโมตทางการค้าครับ”

“ในส่วนของยานพาหนะที่จะนำไปใช้ในการขนส่งนั้น ทางเราได้ทำการออกแบบให้มีมันขนาดที่ใหญ่กว่าปกติไปมาก และยังได้เสริมฟังก์ชั่นในการควบคุมความเร็วเข้าไป ดังนั้นผมขอรับรองว่ายานพาหนะขนส่งของเรานั้นจะรักษากฎหมายจราจรอย่างดีเยี่ยม และในด้านความปลอดภัยเองก็ไม่มีปัญหา” ที่เป็นอย่างนั้นก็เนื่องมากจาก พวกเขาได้ทำการออกแบบในส่วนของยานพาหนะสำหรับการขนส่งนั้นได้นำส่วนในพื้นที่ห้องโดยสารทิ้งทั้งหมด ซึ่งการกระทำแบบนี้ของพวกเขานั้น ทำให้มันกลายเป็นกล่องสี่เหลี่ยมเคลื่อนที่เท่านั้น ในแง่นี้เองมันก็เป็นอะไรที่สะดวกกว่าแบบเดินเป็นอย่างมาก

ในสำนักงานส่วนตัวของลูชิน เขาได้ทำการเรียกตัวจางเกวียงและเซี่ยวไบเข้าพบเป็นการส่วนตัว เนื่องจากเขาเห็นว่าตอนนี้มันสมควรที่จะดำเนินงานในขั้นต่อไปได้แล้ว

“ฉันต้องการให้พวกนายวิจัยเครื่องจักรที่มีความแม่นยำสูงขึ้นมาในเวลาที่เร็วที่สุด! เพราะฉันต้องการฟื้นฟูห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ของเราโดยเร็ว” ลูชินได้เข้าประเด็นทันที

ในส่วนของข้อมูลเรื่องพวกนี้ มันได้มีอยู่ในฐานข้อมูลครั้งล่าสุดที่ออพติมัสได้ส่งมาให้เขา และเขาได้นำข้อมูลนี้ส่งให้กับจางเกวียงและเซี่ยวไบไปศึกษาเป็นที่เรียบร้อย

ri-8901 เป็นหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ทันสมัยที่สุดที่เขามี ดังนั้นเขาจึงมั่นใจเป็นอย่างมากในการสั่งงานชุดนี้

จางเกวียงที่ได้รับคำสั่งแบบนี้ก็ไม่มีความคิดเห็นอะไรออกมา แต่สำหรับเซี่ยวไบนั้นไม่ใช้ มันได้แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“ผมเป็นแรงงานทาสชัดๆ! ผมไม่ยอมนะ! ผมต้องการพักผ่อน! ผมอยากออกไปโต้คลื่น!” เซี่ยวไบไม่หยุดพูดเพียงแค่นี้ มันยังคงพูดต่อว่า  “เห็นได้ชัดว่าผมเพิ่งพัฒนารถยนต์ที่ใช้ระบบแม่เหล็กไฟฟ้าในการขับเคลื่อนได้สำเร็จ และนั้นเป็นอะไรที่ผมต้องใช้พลังงานทั้งหมดในการทำมัน ดังนั้นผมต้องการเวลาพักผ่อนเหมือนกับมนุษย์ปกติบ้าง”

“ก็ได้! แต่นายต้องสร้างเครื่องให้สำเร็จก่อน เดียวฉันจะอนุญาตให้นายพักได้” ลูชินยังคงพูดต่อว่า  “นายเองก็รู้ว่างานหลักของนายจริงๆนั้นคืออะไร ดังนั้นนายควรจะทำงานหลักให้สำเร็จก่อน ส่วนเรื่องเวลาพักผ่อนนั้นหลังจากนี้ฉันจะปล่อยให้นายหยุดไปพักผ่อนเอง “

“พ่อพูดแล้วนะ!” เซี่ยวไบได้ยักไหล่ของตัวเองออกมา ก่อนที่มันจะได้ถูดร่างการภายนอกออกมา  “มันช่างอึดอัดจริงๆ “

ลูชินได้มองไปที่ภาพที่อาจจะเรียกได้ว่า “ระทึกขวัญ” อย่างใจเย็น และเขายังได้พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาของเครื่องจักรที่เขาต้องการให้จางเกวียงฟังอย่างต่อเนื่อง

และจางเกวียงก็ไม่ได้ทำให้ลูชินผิดหวัง เขาได้มอบโซลูชั่นการออกแบบของเครื่องจักรที่ลูชินต้องการออกมาจำนวนมาก ซึ่งเครื่องจักรที่จางเกวียงออกแบบนั้นถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด

ในส่วนของเครื่องมือเครื่อง CNC เองก็ได้รับการออกแบบให้มีความแม่นยำสูงเกินกว่ามาตรฐานที่มีอยู่ตอนนี้ไปไกลมาก

ลูชินที่ได้รับข้อมูลมาแบบนี้ก็ได้ทำการชั่งน้ำหนักในส่วนของข้อดีและข้อเสียของมัน ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นว่า: “จุดประสงค์หลักของเราในปัจจุบันคือการปรับปรุงห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ของเราให้ดีขึ้น เพื่อให้เครื่องจักรกลของเรานั้นสามารถตอบสนองความต้องการของโรงงานผลิตยานพาหนะแม่เหล็กไฟฟ้าได้เป็นอันดับแรก ส่วนในเรื่องอื่นนั้นเราจะถือว่าเป็นเรื่องลองลงไป!”

เมื่อลูชินได้พูดออกมาแบบนั้น เขาก็ได้คลิกเลือกไปที่โครงร่างในภาพฉายตรงหน้าทันที ก่อนที่มันจะได้ปรากฏไดอะแกรมกลไกจำลองเสมือนของเครื่องจักรที่เขาต้องการออกมา

จางเกวียงที่เห็นแบบแปรนของเครื่องจักรที่เจ้านายเลือก ก็ได้พูดแนะนำขึ้นมาว่า : “โมดูลเครื่องมือเครื่อง ซีเอ็นซี ในระดับสากลขั้นสูงนั้น มันจะสามารถทำงานได้ในช่วงความแม่นยำระดับนาโนเมตร และใช้การออกแบบการควบคุมเชิงตัวเลขเป็นการควบคุม…. “

ลูชินยังได้ขยายไดอะแกรมการจำลองของโมดูลเครื่องมือเครื่องจักรกลซีเอ็นซีนี้อย่างตั้งใจ  และหลังจากนั้นตัวไดอะแกรมเองก็ได้เริ่มที่จะจำลองการทำงานชิ้นส่วนเครื่องจักรกลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในส่วนของแขนกลแปรรูป การประกอบชิ้นส่วนต่างๆ

เห็นได้ชัดว่าเครื่องจักรที่ได้รับการออกแบบใหม่โดยจางเกวียงนั้นเป็นอะไรที่แตกต่างจากเครื่องจักรที่มีอยู่ก่อนหน้า ไม่เพียงแต่มันจะสามารถผลิตชิ้นส่วนแต่ละชิ้นได้เท่านั้น แต่มันยังสามารถผลิตชิ้นส่วนที่แตกต่างกันได้พร้อมๆกันอีกด้วย!

ดังนั้นตราบใดที่เครื่องจักรเครื่องนี้ถูกสร้างขึ้นมา ในเรื่องของการผลิตชิ้นส่วนและการประกอบต่างๆจะไม่มีปัญหาอีกต่อไป!

“ มันเยี่ยมมาก! เจ้าเครื่องนี้จะใช่เวลาสร้างเท่าไหร่?” ลูชินได้ถามออกมา

จางเกวียงเองก็ได้ถูกอัพเกรดมาแล้วถึงห้าครั้ง ดังนั้นเขาจึงมีความเข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความสามารถในอุตสาหกรรมทั้งหมดที่มีอยู่บนโลก ดังนั้นหลังจากที่เขาได้รับคำถามนี้จากเจ้านาย เขาก็ได้ทำการคำนวณมันอย่างรวดเร็วและพูดออกมาว่า “การผลิตเครื่องจักรนี้ขึ้นมานั้น! จำเป็นจะต้องใช้เวลาทั้งหมดสิบห้าวัน!”

หลังจากที่ลูชินได้ฟังแบบนั้น เขาก็ได้สั่งให้เริ่มทำทันที และการสร้างเครื่องจักรเครื่องนี้เองก็ได้ถูกเก็บเป็นความลับสุดยอดไปก่อน เพราะเขาไม่ต้องการให้ประเทศมหาอำนาจมาสนใจการกระทำของเขามากนัก

……

ทุกวันนี้บริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟ และบริษัทอุตสาหกรรมในประเทศจีนนั้นกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างมาก มูลค่าตลาดของบริษัทรถยนต์รายใหญ่ในประเทศหลายแห่ง และบริษัทอุตสาหกรรมบางแห่งได้ลดลงอย่างมาก

ในส่วนของยอดการผลิตของรถยนต์ไร้คนขับยังคงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่จำนวนของสต๊อกรถยนต์ที่พวกเขาผลิตเอาไว้ก่อนหน้านี้มันใกล้จะหมดลงแล้ว ถ้าพวกเขายังไม่สามารถหาทางออกจากเหตุการณ์ได้ทัน มันจะต้องส่งผลกระทบต่อตัวบริษัทของพวกเขาอย่างแน่นอน

ในส่วนของหน้าร้านตัวแทนเองก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก พวกเขาเองต่างก็รู้สึกถึงแรงกดดันจำนวนมากที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ดังนั้นตัวแทนบางเจ้าจึงได้พยายามหาทางออกจากแรงกดดันนี้แล้ว

หนึ่งในนั้นก็คือ พ่อและลูกชายตระกูลหยู พวกเขาเองก็ได้รับรู้ถึงวิตกนี้เช่นกัน

ในร้านขายรถยนต์ของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟ ยังคงเปิดทำการตามปกติเหมือนทุกวัน มันยังคงมีการ นำเทคโนโลยีการฉายภาพเสมือนมาใช้ และตัวพนักงานเอไอเองก็ยังคงยิ้มและแนะนำผลิตภัณฑ์รถยนต์ไรค้นขับให้กับลูกค้าตาปกติ

อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุด ลูกค้าเหล่านี้ก็มักจะบ่นในเรื่องที่พวกเขานั้นไม่สามารถสั่งจองรถได้

ในสำนักงานหยูหลิงและลูกชายของเขากำลังคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเป็นกังวล

“ตอนนี้รถยนต์ไร้คนขับของเรานั้นมันหมดสต็อกไปตั้งแต่ครึ่งเดือนแล้ว และทางสำนักงานใหญ่เองก็ไม่มีสินค้า ดังนั้นตอนนี้มันจึงทำให้พ่อไม่กล้ารับคำสั่งซื้อใหม่ๆของลูกค้าเลย! ลูกพอจะมีทางออกจากเรื่องนี้ไหม?” หยูหลิงถึงกับถอนหายใจออกมา หลังจากที่เขาพูดจบ

หยูกังเองก็ไม่มีวิธีที่ดีๆเช่นกัน แต่เขาก็ไม่อยากจะทำให้พ่อของเขาต้องทุกข์ไปมากกว่านี้ : “พ่อควรจะผ่อนคลายหน่อยนะ! ไอ้เรื่องพวกนี้เองก็เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น! ผมเชื่อว่าอีกไม่นานทางสำนักงานใหญ่จะต้องหาทางออกจากสถานการณ์นี้ได้อย่างแน่นอน ซึ่งมันอาจจะต้องใช้เวลาซักหนึ่งหรือสองเดือน”

“นั่นมันช้าเกินไป! แค่ตอนนี้มันผ่านมาครึ่งเดือน เงินในร้านของเราก็แทบจะติดลบอยู่แล้ว” หยูหลิงนั้นรู้สึกไม่พอใจกับคำตอบของลูกชายตัวเองเป็นอย่างมาก “พ่อไม่รู้ว่าทำไมพวกผู้บริหารถึงไม่ยอมลดประสิทธิภาพของรถยนต์ไร้คนขับลงกัน! เห็นได้ชัดๆว่าถ้าพวกเขาทำแบบนั้นก็สามารถแก้ไขสถานการณ์นี้ได้!”

“เราไม่สามารถทำแบบนั้นได้พ่อ!” หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่ทำให้หยูกังสูญเสียเงินจำนวนมากไปในครั้งนั้น มันก็ทำให้มุมมองของเขานั้นเปลี่ยนไป เขานั้นดูสงบลงเป็นอย่างมาก  “ผมคิดว่าในเวลาเพียงสองเดือนนี้ ร้านของเรายังคงสามารถอยู่ได้ไม่มีปัญหา และถ้าเราประหยัดอีกหน่อย เราคงสามารถอยู่ได้เกือบๆสี่เดือนเลยที่เดียว”

“ซึ่งในช่วงเวลานี้ ผมคิดว่าเราต้องหันมาให้ความสำคัญด้านบริการหลังการขายมากขึ้น เราอาจจะเพิ่มบริการที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าและช่วยด้านการเงินของร้านไปในตัว “

“เฮ้อ! เราคงมันทำได้แค่นั้นในตอนนี้ … ” ยูหลิงได้ถอนหายใจออกมา

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ได้คุยกันต่ออีกซักพัก แล้วทันใดนั้นคอมพิวเตอร์ควอนตัมของหยูกังก็ได้รับอีเมลล์จากสำนักงานใหญ่

“อะไรกัน!? ทำไมสำนักงานใหญ่ถึงได้ส่งเอกสารลับนี้ให้ฉันกัน? หรือว่ามันจะเป็นเรื่องสำคัญ?” หยูกังได้มองและเริ่มอ่านเอกสารลับที่ส่งผ่านเครือข่ายควอนตัมทันที