ในเมื่อทั้งคู่ก็เป็นคนของตระกูลป่ายเหมือนกันถ้างั้นมันก็น่าจะมีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดของป่ายหวีเนอและป่ายยู ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะใช้เลือดของป่ายหวีเนอได้
ยิ่งไปกว่านั้นเลือดบนชิ้นผ้าผืนนี้ยังสดใหม่เหมือนเดิมอยู่เลย!
เกาช้าวฮุ่ยที่ไม่รู้ว่าชูฮันรู้ว่าป่ายยูและป่ายหวีเนอเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเขาจึงไม่เข้าใจว่าชูฮันกำลังทำอะไรกันแน่!
เพราะงั้นในสายตาของเกาช้าวฮุ่ยและหวังไคเมื่อจู่ๆชูฮันสามารถหยุดกลไกใต้เท้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ พุ่มไม้รอบๆกลับเข้าสู่สภาวะปกติอย่างกระทันหัน ถนนด้านหลังที่ถูกบดบังก่อนหน้านี้จดมองไม่เห็นอะไรก็เปลี่ยนเป็นภาพเฮลิคอปเตอร์ดังเดิม
จนกระทั่งชูฮันเดินนำออกไปขณะคอยมองการเปลี่ยนแปลงที่พื้นใต้เท้าแปลกๆที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ มันมีถนนยาวเป็นเส้นทางเดินลึกลงไปใต้ดินปรากฏขึ้น เกาช้าวฮุ่ยสติหลุดลอย อ้ำอึ้งด้วยความตกใจ นิ้วชี้ไปที่ทางเดินลงใต้ดินตรงหน้าอย่างช็อคๆ ริมฝีปากเผยออยู่นานและะไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากเขาเลย
พระเจ้าใครสามารถบอกเขาได้บ้างว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น?
ฐานลับของป่ายยูแห่งตระกูลป่ายสถานที่ที่ไม่มีทางเป็นไปได้ที่ใครจะบุกรุกไปได้ แต่มันกลับจบลงเพียงแค่ชิ้นผ้าที่ชูฮันหยิบออกมา?
นี้ล้อเขาเล่นรึไง!
มันเป็นเลือดใครบนผ้านั้นกันแน่?
ป่ายยู?มันน่าเหลือเชื่อยิ่งกว่าถ้าจะเชื่อว่านั่นเป็นเลือดของป่ายยูบนชิ้นผ้า พละกำลังที่ป่ายยูมี ไม่ต้องพูดถึงหยดเลือดเลยด้วยซ้ำ แค่จะเข้าใกล้ตัวของป่ายยูมันยังเป็นไปไม่ได้เลย!
ในเมื่อไม่ใช่ป่ายยูแล้วมันเลือดของใครกันที่ระบบฐานลับแห่งนี้จดจำได้?
ด้วยความรู้สึกสับสนมืดแปดด้านจนแทบจะหน้ามืดเกาช้าวฮุ่ยเดินขนาบไปพร้อมชูฮันลงไปตามทางเข้าใต้ดินอย่างเลื่อนลอย
ทางเดินมีขนาดความกว้างพอสำหรับคนสองคนมันทั้งสูงและมีความยาวลึก ผนังนั้นไร้ห่างจากคำว่าวิทยาศาสตร์ทันสมัยที่เขาพบเห็นมาทั้งชีวิตอย่างสิ้นเชิง มันเป็นอะไรที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน ตัวผนังมีแสงสลัวๆจางด้วยตัวเอง ไม่เกิดจากหลอดไฟหรือตัวให้ความสว่าง แสงมันไม่ได้จ้าเหมือนพระอาทิตย์ หรือสลัวเหมือนกับจุดไฟจากเทียนไข มันเป็นระดับความสว่างที่พอดีกับสายตาของมนุษย์อย่างสมบูรณ์แบบ
การใช้งานไฟแบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อทางเดินนี้โดยเฉพาะแม้แต่ชูฮันที่เคยเห็นเรื่องเหลือเชื่อและเรื่องราวมากมายในชาติที่แล้วมาก็ยังแอบจะประหลาดใจไม่ได้ มันไม่มีหลอดไฟเพิ่มเติม อาศัยแค่ไฟจางๆจากตัวผนังเพื่อสะท้อนให้มองเห็นทางเท่านั้น ความลับของตระกูลลึกลับทำให้ชูฮันแอบตกใจอย่างมากแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าเกาช้าวฮุ่ยพูดไว้แต่แรกแล้วว่าที่นี้คือฐานลับของป่ายยูก็ตาม
สถานที่ส่วนตัวของสมาชิกตระกูลลึกลับนั้นส่วนตัวและหรูหราและยังใช้เงินก่อสร้างมหาศาลเพียงเท่านี้ก็สามารถบ่งบอกได้เลยว่าตระกูลป่ายหรือสมาชิกที่เหลือในตระกูลนั้นแข็งแกร่งมากขนาดไหน
แม้ว่าฝีเท้าที่ทั้งคู่ใช้เดินจะค่อนข้างช้ากว่าปกติหากมันก็ใช้เวลาไม่นานเลยที่ทั้งสองจะมาถึงด้านล่างสุดของทางเดินในตอนนี้พวกเขาไม่สามารถคาดเดาความสูงจากบนดินมาถึงจุดที่พวกเขายืนอยู่ได้ออกเลย ถ้าดูจากอาณาบริเวณของเกาะแห่งนี้แล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเจาะชั้นใต้ดินลงมาได้ลึกขนาดนี้ ดังนั้นชูฮันถึงกับแอบคาดการณ์ในใจว่าป่ายยูอาจจะสร้างฐานลับนี้โดยจากก้นทะเลโดยตรงก็เป็นได้
ณตอนนี้ ตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันของพวกเขาเองก็อยู่ในทะเลลึก ซึ่งเป็นสถานที่ที่น่าทึ่งอย่างมาก ตระกูลลึกลับสามารถสร้างที่แห่งนี้ขึ้นมาได้ยังไง?
เท่าที่รู้เกาช้าวฮุ่ยเคยพูดเอาไว้ว่าเขาเคยมาที่แห่งนี้เมื่อสิบปีที่แล้ว ถ้างั้นก็หมายความว่าสถานที่ที่แห่งนี้มีมาก่อนที่จะเกิดการปะทุน่ะสิ? ความสามารถของมนุษย์ในยุคศิวิไลซ์นั้นมีมากพอที่จะโครงการที่เป็นไปไม่ได้ สร้างฐานลับใต้ดินโดยทำทางเข้าจากก้นทะเล?
ตระกูลลึกลับลึกลับจริงๆ!
ขณะที่ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวชูฮันก็เดินนำมาจนถึงประตูหินสีขาวที่ตั้งอยู่ตรงหน้าพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆที่สัมผัสได้ มันทำให้สถานการณ์ตรงหน้ายิ่งดูลึกลับน่าสงสัยและซับซ้อนเข้าไปอีกในมุมของชูฮัน
”นายต้องมีรหัสผ่านถึงจะเข้าไปได้”เสียงของเกาช้าวฮุ่ยดังขึ้น น้ำเสียงแฝงไปด้วยความตื่นเต้นและยั่วยุอยู่ในที
ชูฮันดึงความคิดกลับมาเขาปกปิดอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ภายใต้ท่าทีนิ่งเฉยทั้งที่จริงแล้วบางอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจู่ๆก็ปะทุขึ้นในอกของชูฮัน
ตัวอักษรบนหินนั่น…
เขาอาจจะรู้ว่ารหัสผ่านคืออะไร
ตัวอักษรที่ถูกสลักนูนตรงประตูหินสีขาวนี้ต่อหน้าเขาช่างบังเอิญที่ชูฮันเคยเห็นตัวอักษรพวกนี้มาก่อนที่หุบเขาหยินหยางในชาติที่แล้ว ในสถานที่ที่ลึกที่สุดของหุบเขาหยินหยาง ที่ซึ่งไม่มีใครเคยผ่านเข้าไป มันมีสถานที่ที่แห่งหนึ่งซ่อนอยู่และก็มีตัวอักษรแบบเดียวกันนี้ปรากฏอยู่ที่ประตูหิน หรือว่า…
ตระกูลลึกลับเกี่ยวข้องกับหุบเขาหยินหยาง?
หัวใจชูฮันเต้นรัวขณะนึกย้อนทบทวนเหตุการณ์ต่างๆตั้งแต่ขวานซิ่วโหลไปจนถึงการตายของเหย่โม่ ไหนจะสถาบันจิวัยลับใต้ดินของซาวชุนฮุยที่อยู่ในค่ายหนานตู้ ไปจนถึงท่าเรือหนานช้าที่เสี่ยวเมิงชีและเกาช้าวฮุ่ยเคยพูดถึง อะไรคือความเกี่ยวข้องระหว่างหุบเขาหยินหยางและตระกูลลึกลับหรือ…ทั้งโลก?!
ขณะที่ความคิดมากมายกำลังตีกันอยู่ในหัวชูฮันเกาช้าวฮุ่ยก็เดินเข้ามาประชิดชูฮันและพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเชื่อ “กฏแห่งเส้นทาง การสิ้นสุดแห่งสหัสวรรษ ล่มสลาย ดวงดาวและทะเล”
ในเวลาเดียวคำพวกนี้เหมือนเป็นการทำสมาธิให้กับจิตใจชูฮัน ทุกคำที่เกาช้าวฮุ่ยเอ่ยมันทำให้หัวใจของชูฮันเต้นรัวยิ่งกว่าเดิม
แน่นอนว่ามันเหมือนกันทุกคำ!
นี้คือประโยคที่สลักไว้ด้วยอักษรโบราณที่เขาอ่านไม่ออกบนประตูหินที่ส่วนที่ลึกที่สุดของหุบเขาหยินหยางที่เขาเคยเจอในชาติที่แล้วเดิมทีป่ายหวีเนอเป็นคนอ่านมันให้เขาฟัง หลังจากทั้งคู่เจอมันพร้อมกัน
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในส่วนที่ลึดที่สุดในหุบเขาหยินหยางวันนั้นฝังลึกเข้าไปในกระดูกชูฮันอย่างไม่มีลืมเลือนเขาไม่เคยลืมแม้แต่รายละเอียดเดียว ทุกอย่างเหมือนกันหมดแม้กระทั่งคำอ่านที่ไม่ขาดหรือเกินไปสักคำ
ตัวอักษรโบราณที่ป่ายหวีเนอสามารถเข้าใจและอ่านมันได้ภาพเเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นซ้ำต่อหน้าเขาอีกครั้งในขณะนี้ ทุกอย่างมันเหมือนกับเกิดภาพทับซ้อนที่ตีกันอยู่ในหัวชูฮัน
นี้มันคือความเกี่ยวข้องอะไรกัน?
อะไรคือความหมายของคำพวกนี้?
กฏแห่งเส้นทางการสิ้นสุดแห่งสหัสวรรษ คำพวกนี้หมายความว่ายังไงกันแน่ มันยากอย่างมากที่จะเข้าใจจนชูฮันแอบกลัวอยู่ลึกๆ
หุบเขาหยินหยางและล่มสลาย?
แล้วอะไรคือดวงดาวและทะเล?
สองคำแรกคืออะไรแล้วอีกสองคำหลัง
ก็ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกกันเลยทำไมพวกกมันถึงต้องอยู่รวมกัน?
จู่ๆชูฮันก็ต้องตกใจปนอึ้งเพราะทันทีที่เสียงของเกาช้าวฮุ่นจางหายไป ประตูหินตรงหน้าก็ค่อยๆเคลื่อนตัวหลบเข้าไปด้านหลังเปิดทางเดินให้พวกเขา
”ครืดดดดดดดดด!”
”เดินเข้าไปกัน!”เกาช้าวฮุ่ยรอไม่ไหวอีกแม้แต่นาทีเดียว ภาพตรงหน้านั้นมันน่าทึ่งอย่างมาก เกาช้าวฮุ่ยก้าวเท้าเข้าไปก่อน ก่อนจะหันกลับมามองชูฮัน “ฉันไม่ควรจะพานายเข้ามาที่นี้หรือปล่อยให้นายรู้รหัสผ่าน แต่ช่างมันเถอะไหนๆก็มาแล้ว ยังไงฉันก็มาด้วย”
หลังจากนั้นเกาช้าวฮุ่ยก็ออกเดินนำเข้าไปโดยไม่คิดอะไรอีก
แววตาชูฮันเป็นประกายเขาค่อยๆย้อนคืนความทรงจำเก่าๆเงียบๆและขณะคอยจับสังเกตปฏิกิริยาของเกาช้าวฮุ่ยเอาไว้ ทว่ามันยังมีอีกอย่างในใจชูฮันที่เรียกกร้อง
เกาช้าวฮุ่ยเกาช้าวฮุ่ย นายไม่ควรพาเขามาที่นี้และก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเผยรหัสให้เขาฟัง!