บทที่ 1042 ปรับรูปแบบแก๊งมังกรเขียว

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

ณสำนักงานเขตเทศบาลเมืองจิงฉู..
  เวลาแปดโมงสี่สิบห้านาที..หลี่ยี่เฟิงกับถังเทียนห่าวกำลังยืนรอใครบางคนอยู่หน้าตึก ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว..
  สิบนาทีต่อมา..รถปอร์เช่ก็แล่นมาจอดอยู่หน้าประตูสำนักงาน และทันทีที่รถจอดสนิท ชายหนุ่มสองคนก็ก้าวเดินลงมาจากรถ และตรงเข้าไปทักทายหลี่ยี่เฟิงกับถังเทียนห่าวทันที
  และแน่นอนว่าต้องไม่ใช่ใครที่ใหนนอกจากหลิงหยุนกับถังเมิ่ง..
  “ลุงหลี่..ลุงถัง.. ทำไมออกมายืนรอรับผมแบบนี้ล่ะครับ ทำแบบนี้ผมจะรับไหวได้ยังไงกัน?”
  หลิงหยุนเห็นหลี่ยี่เฟิงกับถังเทียนห่าวมายืนรอรับตนเองเช่นนั้นก็รีบเดินลงจากรถมาทักทายทันที
  “หลิงหยุน..พวกเราต่างก็เหมือนคนในครอบครัว เธอก็อย่าได้เกรงใจนัก!”
  หลี่ยี่เฟิงเดินตรงเข้าไปหาหลิงหยุนพร้อมกับยื่นมือออกไปตบไหล่เขาเบาๆ“แล้วอาการบาดเจ็บของเธอเป็นยังไงบ้างล่ะ”
  “ขอบคุณครับลุงหลี่..ผมหายดีแล้วครับ!”
  หลิงหยุนไม่ต้องการลงรายละเอียดมากนักเพราะที่เขามาวันนี้ก็ไม่ได้ต้องการมาพูดเรื่องเหล่านี้..
  “งั้นก็ดี!เอาล่ะเข้าไปคุยในห้องทำงานของฉันดีกว่า!”
  พูดจบ..หลี่ยี่เฟิงก็หันหลังกลับ และเดินนำทุกคนเข้าไปด้านในของอาคาร ส่วนถังเทียนห่าวก็หันไปสั่งถังเมิ่งให้ขับรถเข้ามาจอดด้านใน..
  ………
  “หลิงหยุน..นั่งก่อน แล้วก็ทำตัวตามสบาย!”
  หลี่ยี่เฟิงร้องบอกหลิงหยุนอย่างเป็นกันเองระหว่างที่นั่งลงหลิงหยุนก็สูดดมกลิ่นชาที่หอมสดชื่นเข้าไปเต็มปอด
  ถัดจากหลี่ยี่เฟิงก็คือถังเทียนห่าวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อีกตัวแยกกัน ถังเทียนห่าวทำหน้าที่รินชา จากนั้นทั้งสามคนก็เริ่มถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของกันและกัน และแสดงความเป็นห่วงเป็นใยกัน ก่อนจะเริ่มเข้าสู่การพูดคุยธุระในวันนี้.
  “หลิงหยุน..เพราะเรื่องที่ดินหนึ่งพันไร่แถบเมืองใหม่หลินเจียงนั้น เมื่อวานฉันจึงได้เปิดให้มีการเปิดประชุมวิสามัญขึ้น..”
  เพียงแค่หลี่ยี่เฟิงเอ่ยออกมาหลิงหยุนก็สามารถเข้าใจได้ทันที..
  “ลุงหลี่ครับ..ไม่เห็นจำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลยครับ!”
  “นี่หลิงหยุน..ฉันจะบอกอะไรให้ เมื่อวานลุงหลี่ของเธอได้ขอให้ที่ประชุมเห็นชอบอนุมัติซื้อที่ดินแถบอ่าวจิงฉูกว่าห้าร้อยไร่ เพื่อให้เธอเป็นผู้พัฒนาพื้นที่เหล่านั้นทั้งหมด..”
  หลิงหยุนถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก..เขาคิดไม่ถึงว่าไม่เพียงที่ดินกว่าหนึ่งพันไร่ที่กำลังจะเป็นของตนเอง แต่นี่เขากลับจะได้รับที่ดินเพิ่มมาอีกห้าร้อยไร่ฟรีๆ อย่างนั้นหรือ
  หมายความว่า..เขากำลังจะเป็นเจ้าของทีดินทั้งหมดกว่าหนึ่งพันห้าร้อยไร่!
  หลี่ยี่เฟิงเพียงพูดขึ้นยิ้มๆ“ตั้งใจทำให้ดีล่ะ!”
  “ที่ดินหนึ่งพันไร่นั้นเธอจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนหนึ่งพันแปดร้อยล้านหยวน..”
  “ครับลุงหลี่..พรุ่งนี้ผมจะให้คนจัดการเรื่องเงินจำนวนนี้ให้”
  “ผมต้องขอขอบคุณลุงหลี่กับลุงถังมากนะครับ!”
  หลิงหยุนรีบเอ่ยปากขอบคุณทั้งสองคนทันทีเพราะความจริงแล้วพื้นที่หนึ่งพันไร่รอบเมืองใหม่หลินเจียงนั้น น่าจะมีมูลค่าถึงสองพันล้าน แต่นี่เขากลับจ่ายเพียงแค่หนึ่งพันแปดร้อยล้านเท่านั้น และยังได้ที่ดินมาถึงหนึ่งพันห้าร้อยไร่..
  หลังจากเสร็จธุระเรื่องที่ดินแล้วหลิงหยุนจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นว่า “ลุงหลี่ครับ.. ผมมาพบคุณลุงวันนี้ เพราะมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือ!”
  หลี่ยี่เฟิงหันไปมองถังเทียนห่าวก่อนจะหันมาพยักหน้าให้หลิงหยุนพร้อมกับพูดขึ้นว่า “พูดมาได้เลย!”
  หลิงหยุนไม่รีรอและรีบบอกความต้องการของตนเองทันที “ลุงหลี่ครับ.. ตอนนี้ตำแหน่งของหลี่จิ่วเจียงกับหลู่กวนหวังยังคงว่างอยู่ใช่มั๊ยครับ”
  เมื่อได้ยินหลิงหยุนถามเช่นนั้นหลี่ยี่เฟิงถึงกับร้องถามขึ้นมาทันที “ทำไม เธอพบคนที่มีคุณสมบัติจะมารับตำแหน่งแทนแล้วงั้นรึ?”
  หลิงหยุนเองก็ไม่อ้อมค้อมและตอบอย่างตรงไปตรงมา “ครับ.. ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เธอก็คือรองครูใหญ่ของโรงเรียนมัธยมจิงฉู ชื่อว่ากงเสี่ยวลู่!”
  “เรื่องนี้กำลังทำให้ฉันปวดหัวมากเลย..คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เธอเองก็จะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาพอดี!”
  แต่คำพูดต่อมาของหลี่ยี่เฟิงก็ถึงกับทำให้หลิงหยุนคาดไม่ถึงจริงๆเขาไม่คิดว่าหลี่ยี่เฟิงจะรู้ และเข้าใจในเรื่องนี้ได้อย่างละเอียด..
  “นี่ไม่ใช่คำขอร้องที่มากมายอะไร!ฉันจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมในการประชุมครั้งต่อไป จากผลสอบเอนทรานซ์ในปีนี้ โรงเรียนมัธยมจิงฉูเองก็ได้สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองจิงฉูอย่างมาก ครั้งนี้นับว่าครูใหญ่จางทำผลงานไว้ดีมาก แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการทุ่มเทแรงกายแรงใจของกงเสี่ยวลู่ด้วย..”
  “ทั้งคู่นับว่าเหมาะสมกับตำแหน่งที่ว่างอยู่..”
  ช่างง่ายดายอะไรยิ่งนัก!ง่ายดายจนแม้แต่หลิงหยุนเองยังถึงกับงุนงง..
  ทางด้านถังเทียนห่าวที่เห็นสีหน้างุนงงของหลิงหยุนก็ได้แต่ยิ้มและไม่พูดอะไร..
  แต่ความจริงแล้วก็ไม่น่าแปลกประหลาดใจอะไรในเมื่อเวลานี้หลี่ยี่เฟิงควบคุมดูแลทั่วทั้งเมืองจิงฉู เรียกได้ว่าไม่เหลือคู่แข่ง หรือคู่ขัดแย้งเลยแม้แต่คนเดียว เช่นนี้แล้วหากเรื่องแค่นี้ยังไม่สามารถจัดการได้ ก็คงจะนับว่าแย่มาก..
  “ลุงหลี่ครับ..แล้วเรื่องเปิดบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นของถังเมิ่งล่ะครับ”
  แต่ถังเทียนห่าวรีบแก้ไขให้ถูกต้องทันที“หลิงหยุน.. บริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นของเธอต่างหากเล่า!”
  หลิงหุยนหัวเราะออกมาพร้อมกับตอบไปว่า“ฮ่า.. ฮ่า.. ก็เหมือนกันล่ะครับ!”
  หลี่ยี่เฟิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ไม่ต้องห่วง.. เรื่องของบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่น ลุงจะสนับสนุน และเปิดไฟเขียวให้กับทุกๆเรื่องเอง..”
  หลี่ยี่เฟิงอธิบายต่อว่า“ในสายตาของพวกเธอ.. อาจจะดูเหมือนว่าการเปิดบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นนั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ แต่ในสายตาของทางการอย่างพวกเรา นี่นับว่าเป็นปฏิวัติเมืองจิงฉูอย่างแท้จริง และเป็นเรื่องที่ทางการต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก..”
  “เธอไม่ต้องห่วง..ฉันจะสั่งการไปทุกภาคส่วน ขอให้พวกเขาสนับสนุนเธออย่างเต็มที่ หากใครกล้าขัดขวาง และทำให้บริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นเปิดดำเนินการล่าช้า หัวหน้าของภาคส่วนนั้นต้องรับผิดชอบด้วยการถูกเด้ง..”
  หลิงหยุนถึงกับเย็นวาบและได้แต่คิดในใจว่าภาครัฐให้ความสนใจกับบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นของเขามากถึงเพียงนี้เชียวหรือ
  “ส่วนเรื่องกว้านซื้อธุรกิจต่างๆเธอก็ไม่จำเป็นต้องห่วงอะไร!”
  หลิงหยุนเข้าใจคำพูดของถังเทียนห่าวดีเขากำลังจะบอกว่า.. การเจรจาซื้อธุรกิจต่างๆ จะเป็นไปอย่างราบรื่น และไร้ซึ่งปัญหาอย่างแน่นอน!
  หลิงหยุนได้แต่แอบคิดในใจว่า..สิ่งที่เขากังวลว่าเป็นปัญหา แต่กลับไม่อยู่ในสายตาของหลี่ยี่เฟิง และถังเทียนห่าวเลยแม้แต่น้อย..
  “ขอบคุณลุงหลี่กับลุงถังมากครับ..”
  “ไม่เป็นไร!ฉันรู้ว่าบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นนั้นสำคัญกับเธอมาก เธอเองก็เป็นนักกว้านซื้อธุรกิจตัวยง ส่วนถังเมิ่งเองก็ยังมีวัยวุฒิไม่มากพอ การได้รับการสนับสนุนจึงเป็นเรื่องสำคัญ” ถังเทียนห่าวเอ่ยเตือนหลิงหยุนกลายๆ
  ส่วนหลี่ยี่เฟิงก็เสริมต่อว่า“นับจากนี้ไป.. ไม่ว่าเธอต้องการที่จะทำอะไร พวกเราก็พร้อมที่จะสนับสนุน และหาคนที่เป็นมืออาชีพมาช่วย และหากขาดเงินลงทุน พวกเราก็จะช่วยเจรจากับธนาคารให้!”
  หลิงหยุนแสดงสีหน้าซาบซึ้งใจแต่เขามีเงินมากพอ จึงได้แต่ยิ้มและตอบไปว่า “ลุงหลี่ครับ.. เรื่องเงินไม่ต้องกังวล ผมมีมากพอ!”
  จากนั้นหลี่ยี่เฟิงก็ถามขึ้นว่า“เธอยังมีเรื่องอะไรจะขอร้องอีกมั๊ย”
  หลิงหยุนได้แต่ตอบกลับไปยิ้มๆ“ลุงหลี่ครับ.. ลุงสนับสนุน และช่วยเหลือผมมากมายถึงเพียงนี้ ผมยังจะกล้าขอร้องอะไรอีกล่ะครับ”
  หลี่ยี่เฟิงพยักหน้าและหันไปทางถังเทียนห่าว “เฒ่าถัง.. คุณมีอะไรก็พูดกับหลิงหยุนได้เลย!”
  ถังเทียนห่าวมองหลิงหยุนนิ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “หลิงหยุน.. ขอโทษด้วยที่ต้องเชิญเธอมาที่นี่ด้วยตัวเอง!”
  หลิงหยุนรีบตอบกลับไปทันที“ลุงถังครับ.. ผมยินดีอย่างยิ่ง! เชิญพูดธุระของลุงมาได้เลยครับ!”
  ถังเทียนห่าวพยักหน้าและพูดตรงเข้าประเด็นทันที “ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำให้แก๊งมังกรเขียวกลับมาขาวสะอาด..”
  “เรื่องนี้จะเป็นผลดีต่อทั้งตัวเธอเองต่อฉัน ต่อเจ้าเมิ่ง และต่อพลเมืองจิงฉูทุกคน!”
  ถังเทียนห่าวเกรงว่าหลิงหยุนจะไม่เห็นด้วยจึงรีบอธิบายเพิ่มเติมทันที..
  “ฉันรู้ดีว่าแก๊งมังกรเขียวนั้นก่อตั้งมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของหลงคุนหากจะปล่อยให้สูญสลายไปย่อมไม่สมควร ฉันจึงขอแนะนำให้เปลี่ยนรูปแบบองค์กรแทน..”
  จากนั้นถังเทียนก็ได้เสนอแนะความคิดเห็นของตนเองให้หลิงหยุนฟัง..
  “อย่างโถงมังกร..เธอก็ปรับเปลี่ยนมาเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยก็ได้ ส่วนโถงมนุษย์.. เธอก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นบริษัทต่างๆ แยกตามธุรกิจแต่ละประเภทไป..”
  “ส่วนเรื่องจะบริหารจัดการอย่างไรนั้นฉันก็จะไม่เข้าไปก้าวก่าย..”
  หลี่ยี่เฟิงรีบเสิรมขึ้นทันที“แต่คนของแก๊งมังกรเขียว และธุรกิจต่างๆของแก๊งมังกรเขียว ก็ต้องไม่เข้าไปปะปนกับกลุ่มบริษัทเทียนตี้..”
  หลิงหยุนได้แต่แอบคิดในใจว่า‘ดูท่าจิงจอกเฒ่าทั้งสองคงจะนัดแนะกันมาดิบดีแล้ว ถึงได้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียว!’
  หลิงหยุนยิ้มและตอบไปว่า“ผมรับปากจะทำตามที่คุณลุงทั้งสองแนะนำ..” novel-lucky
  ในทุกความสัมพันธ์นั้นล้วนต้องมีทั้งให้ และรับ.. หลิงหยุนจึงรับปากทันที!
  “ลุงคิดไว้แล้วว่าเธอต้องไม่ปฏิเสธ!”
  ถังเทียนห่าวเห็นหลิงหยุนยอมรับข้อเสนอแต่โดยดีจึงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข เขายกถ้วยชาขึ้นจิบ และไม่พูดเรื่องนี้อีก..
  จากนั้น..ถังเทียนห่าวจึงลุกขึ้นยืนพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ถังเมิ่งไปจอดรถตั้งนานทำไมยังไม่ขึ้นมา! ฉันขอตัวไปดูเจ้าเมิ่งหน่อยนะ..”
  พูดจบถังเทียนห่าวก็เดินออกจากห้องทำงานของหลี่ยี่เฟิงไปและหลิงหยุนเองก็รู้ดีว่าถังเทียนห่าวเปิดโอกาสให้หลิงหยุนกับหลี่ยี่เฟิงได้คุยกันตามลำพัง..
  หลี่ยี่เฟิงยกถ้วยชาขึ้นจิบและดูเหมือนกำลังใคร่ครวญว่าจะเริ่มต้นเช่นไรดี หลิงหยุนเห็นเช่นนั้นจึงเป็นฝ่ายถามขึ้นว่า
  “ลุงหลี่..ไปปักกิ่งคราวนี้เป็นยังไงบ้างครับ”
  หลิงหยุนรู้อยู่แล้วว่าที่หลี่ยี่เฟิงไปปักกิ่งกว่าครึ่งเดือนนั้นเขาถูกเรียกเข้าไปในเขตหวงห้ามที่เรียกว่าพื้นที่สีแดง และไปพบกับบุคคลอันดับหนึ่งของประเทศจีน..
  ดังนั้นข่าวคราวที่ได้มาย่อมต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน..
  ไม่เช่นนั้นด้วยความสนิทสนมของหลียี่เฟิงกับถังเทียนห่าวไม่จำเป็นที่ถังเทียนห่าวจะต้องขอตัวออกไปเช่นนั้น
  “ปักกิ่งกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลง!”
  แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆเพียงแค่คำพูดประโยคแรกของหลี่ยี่เฟิง ก็ทำให้หลิงหยุนถึงกับอึ้งไปเช่นกัน
  “เวลานี้ภายในตระกูลซันกำลังโกลาหลวุ่นวายน่าดูตอนนี้แม้แต่เทพองค์ใหนก็คงช่วยพวกเขาไม่ได้ และพวกเขาก็กำลังออกแรงดิ้นเฮือกสุดท้าย..”
  หลิงหยุนได้แต่นั่งฟังอย่างเงียบๆและแอบคิดอยู่ในใจว่า ตระกูลซันเป็นตระกูลแรกที่เขาจะจัดการล้างบางเมื่อกลับไปปักกิ่งอีกครั้ง!
  “ส่วนตระกูลเฉินเองก็วุ่นวายไม่แพ้กันแต่ก็ยังมีผู้นำตระกูลอยู่ อีกทั้งอดีตผู้นำตระกูลคนหนึ่งก็ยังอยู่ในหน่วยนภาด้วย เพียงแต่คนผู้นี้ไม่ควรเข้าไปข้องแวะด้วย ฉันก็เลยไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่แท้จริงภายในตระกูลเฉินนั้นเป็นอย่างไร”
  และตระกูลเฉินก็เป็นเป้าหมายที่สองของหลิงหยุน!
  “ส่วนตระกูลใหม่ๆต่างก็อาศัยโอกาสนี้สร้างคลื่นแห่งความวุ่นวายขึ้นมาเช่นกัน!”
  การที่หลิงหยุนได้สังหารยอดฝีมือของตระกูลซันและตระกูลเฉินไปเป็นจำนวนมากนั้น นับว่าได้ทำลายสมดุลของเจ็ดตระกูลใหญ่แห่งปักกิ่งลงอย่างสิ้นเชิง..
  เวลานี้จึงเหลือเพียงห้าตระกูลใหญ่แต่ตระกูลเกานั้นไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้ จึงเหลือเพียงแค่ตระกูลหลง ตระกูลเย่ ตระกูลหลี่ และตระกูลหลิง..
  ตระกูลหลงกับตระกูลเย่นั้นเป็นตระกูลยักษ์ใหญ่ของประเทศจีนมาเนิ่นนาน และไม่รู้ว่าหยั่งรากลึกลงไปมากเท่าใดแล้ว
  ส่วนตระกูลหลี่นั้น..นอกจากความร่ำรวยแล้ว ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร!
  ส่วนตระกูลหลิงนั้นก็อยู่บนความพยายามที่จะยืนด้วยลำแข้งของตนเองไม่พึ่งพาผู้ใด!
  เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นในปักกิ่งจึงราวกับมีคลื่นใต้น้ำ เพราะหลายตระกูลต้องการขึ้นมาแทนที่ตระกูลเฉิน และตระกูลซัน..
  “ที่ฉันสนับสนุนเธอและไฟเขียวให้กับเธอในทุกเรื่องนั้น ก็เพราะรู้ว่าหลังจากที่เธอก่อตั้งบริษัทเทียนตี้เสร็จแล้ว เธอก็จะไปจากจิงฉู..”
  “และเมืองแรกที่เธอจะไปคือปักกิ่ง!”
  หลิงหยุนพยักหน้ายอมรับอย่างไม่ลังเล..
  “หลิงหยุน..จำคำพูดของฉันให้ดี! ปักกิ่งไม่เหมือนจิงฉู ที่นั่นมีคลื่นลูกใหญ่กว่าที่นี่มากนัก เธอเข้าใจที่ฉันพูดใช่มั๊ย”
  หลิงหยุนคิดใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงถามขึ้นว่า “ลุงหลี่ครับ.. ลุงต้องการจะบอกอะไรกับผมกันแน่”
  หลี่ยี่เฟิงได้แต่ถอนหายใจและขมวดคิ้วพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ฟ้าเบื้องบนนั้นยากที่จะคาดเดา.. ฉันเองก็พูดไม่ได้!”
  “เอาเป็นว่า..หากฉันเดาไม่ผิด เธอควรจะระมัดระวังยอดฝีมือจากหน่วยนภาให้ดี!”
  “ครับ..”
  หลิงหยุนกับหลี่ยี่เฟิงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้ยืดยาว..
  หลี่ยี่เฟิงถูกเรียกตัวไปปักกิ่งครั้งนี้..เพราะต้องไปรายงานเรื่องของหลิงหยุน และการกระทำของเขาทั้งหมดเมื่ออยู่ในจิงฉู
  ข้อมูลเหล่านี้สำคัญกับผู้ที่อยู่ในเขตหวงห้ามนี้อย่างมากเพราะเขาคือผู้ที่ตัดสินใจว่าจะจัดการกับหลิงหยุนเช่นไร
  จู่ๆหลิงหยุนก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับถามขึ้นว่า “ลุงหลี่.. ผมขอถามลุงตามตรง ตระกูลหลี่ในปักกิ่งเกี่ยวข้องกับลุงอย่างไร”
  หลิงหยุนจำเป็นต้องรู้ความจริงเรื่องนี้ก่อนที่จะเดินทางไปปักกิ่งเพราะไม่แน่ว่าวันข้างหน้าเขาอาจจะต้องขัดแย้งกับตระกูลหลี่ก็เป็นได้..
  หลี่ยี่เฟิงหัวเราะเสียงดังและตอบไปว่า “เรื่องนั้นไม่สำคัญแม้แต่น้อย! ที่ฉันขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะไต่เต้าขึ้นมาทีละขั้นด้วยตัวเอง..”
  “ฉันจะเล่าให้เธอฟังก็ได้..”
  “ฉันทำงานให้กับคนผู้นั้น..”หลี่ยี่เฟิงพูดพร้อมกับชี้ไปทางผนัง..
  “คนผู้นี้เคยเป็นหัวหน้าเก่าของฉัน..”
  และภาพนั้นก็คือภาพของรัฐมนตรีท่านหนึ่งหลิงหยุนถึงกับหัวเราะออกมา และพูดขึ้นว่า
  “ลุงหลี่ไปปักกิ่งครั้งนี้คงได้รับประโยชน์กลับมามากมาย!”
  หลี่ยี่เฟิงลุกขึ้นยืนเช่นกันเขายิ้มให้กับหลิงหยุนพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ขอบอกเธอตามตรง.. เมื่อไหร่ที่เธอไปจากจิงฉู ฉันเองก็ต้องย้ายเช่นกัน!”
  “ตำแหน่งอะไรเหรอครับ”
  หลี่ยี่เฟิงกระซิบตอบเสียงเบา..
  …………
  “เฮ้อ..ยังไงมังกรก็เป็นมังกร ยากที่จะอยู่ที่นี่ได้!”
  ระหว่างที่มองหลิงหยุนขึ้นรถไป..หลี่ยี่เฟิงถึงกับพึมพำออกมาพร้อมกับส่ายหน้าไปมาด้วยความเสียดาย
  “พวกเราต่างก็ทำดีที่สุดแล้วล่ะ!”
  ถังเทียนห่าวที่ยืนอยู่ข้างๆบอกกับหลี่ยี่เฟิง..
  ………..
  “ถังเมิ่ง..ทำไมนายถึงไม่ตามเข้าไป!” ทันทีที่เข้าไปนั่งในรถหลิงหยุนก็ร้องถามถังเมิ่งทันที
  “พ่อสั่งไว้ไม่ให้ฉันเข้าไปฉันจะกล้าขัดคำสั่งเหรอ” ถังเมิ่งตอบยิ้มๆ
  “แล้วนายรู้มั๊ยว่าผลเป็นยังไง”หลิงหยุนถามขณะที่กำลังกดโทรศัพท์โทรออก
  “ไม่รู้หรอก..ถ้าฉันควรรู้พี่ก็บอกมา!”
  หลิงหยุนส่งสัญญาณให้ถังเมิ่งหยุดพูดชั่วคราว..
  “ครูกงครับ..ผมมีข่าวดีจะบอก!”
  “ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาประจำจิงฉูกำลังจะเป็นของครูในเร็วๆนี้”
  “ห๊ะ!”
  “ส่วนตำแหน่งผู้อำนวยการกองการศึกษาประจำมณฑลเจียงหนานจะเป็นของครูใหญ่จาง ฝากครูบอกเขาด้วย..”