ตอนที่ 563 รีบ

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 563

รีบ

“อากกก”เสียงร้องที่ดังออกมาเพราะความเจ็บปวดของเหล่ากลุ่มผู้ต่อต้านดังระงมไปทั่วค่ายทหารพร้อมร่างของเหล่ากลุ่มต่อต้านที่เริ่มล้มกองอยู่บนพื้นมากขึ้นเรื่อยๆ

“มัน…..มันมาจากไหนกัน”เหล่าอดีตทหารต่างพากันมองไปขวาทีซ้ายทีด้วยท่าทางตกใจ พวกมันต่างโดนเล่นงานโดยไม่ทราบเลยว่าอีกฝ่ายนั้นอยู่ตรงไหน

“อัก”ทั้งๆที่มองหาจนทั่วแล้วแต่ก็ยังมองไม่เห็นว่าผู้โจมตีพวกมันนั้นมาจากทางไหน ความรู้สึกยามนี้ราวกับกำลังต่อสู้กับภูตผีไม่มีผิด

เปรี้ยง!!

ชิวซุยที่กำลังใช้ฝ่ามือบังคับหกปักษาหนึ่งในกระบวนท่าสิบแปดฝ่ามือท่องแดนอสูรอยู่นั้นกำลังเดินผ่านเหล่าทหารด้วยท่าทีนิ่งเฉยราวกับกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนไม่มีผิด นางเพียงปัดฝ่ามือไปมาเหล่ากลุ่มต่อต้านก็พากันล้มระเนระนาดกันหมดแล้ว ท่าทางกองทัพนี้จะมีแต่จำนวนเท่านั้น

“ท่าทางชิวซุยจะอารมณ์บูดจริงๆด้วยสิ”หลานฮวาตอบพลางมองเหล่าทหารที่กำลังโดนโจมตีอย่างต่อเนื่องโดยไม่ทราบเสียด้วยซ้ำว่าใครกำลังโจมตีตนเอง

“ช่วยไม่ได้นี่นา ท่านก็เห็นตอนที่ชิวซุยพูดถึงระเบียงสายรุ้งนี่นา”หลินเฟยตอบด้วยท่าทีลำบากใจ แต่ถึงจะพูดคุยกันตามปกติแต่กระบี่ในมือของทั้งสองก็ฟาดฟันศัตรูไปหลายสิบคนแล้ว ยิ่งพวกกลุ่มต่อต้านวิ่งเข้ามาเท่าไหร่ก็ยิ่งโดนจัดการไปมากเท่านั้น

“ไม่ต้องกลัว พวกมันมีจำนวนน้อย ไม่นานก็หมดแรงเอง”กลุ่มต่อต้านคนหนึ่งพูดพลางเรียกเอาอาวุธของตนออกมา

เปรี้ยง!!

ยังไม่ทันได้ใช้อาวุธ หลินเฟยก็เตะก้อนหินเข้าใส่ใบหน้าของชายคนนั้นทันที ก่อนที่หลินเฟยจะหันไปใช้กระบี่สู้กับคนอื่นๆต่อด้วยท่าทีสบายๆไม่มีอาการเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย

“น้องจูล่ง ชิวซุยท่าทางจะอยากไปเที่ยวแล้ว เจ้าจัดการให้จบไปเลยดีกว่าไหม”ชางซีที่ยังอยู่ใกล้ๆกับโกดังถามขณะกำลังปาระเบิดพิษเข้าไปกลางวงกลุ่มต่อต้านทำเอาพวกมันแตกกระจายออกจากกันด้วยความกลัว

“ก็ได้ขอรับ”ไป๋จูล่งพยักหน้าพลางใช้ทวนของตนเหวี่ยงใส่ร่างของกลุ่มต่อต้านคนหนึ่งที่วิ่งเข้ามาใกล้ แรงเหวี่ยงเบาๆของไป๋จูล่งนั้นทำเอาร่างของกลุ่มต่อต้านคนนั้นกระเด็นไปกระแทกกลุ่มต่อต้านคนอื่นๆจนล้มเป็นทางยาวเลยทีเดียว

“ผิงกั่ว เจ้าไปตามชิวซุยกลับมา”ต้าหวานเห็นจูล่งจะลงมือก็บอกให้ผิงกั่วไปตามหลานสาวที่บุกเข้าไปลึกเกินไปกลับมาก่อน เพราะหากโดนลูกหลงของจูล่งเข้าแม้จะเป็นสายเลือกตระกูลไป๋ก็คงบาดเจ็บหนักแน่ๆ

“ได้เจ้าค่ะพี่ต้าหวาน”ผิงกั่วรับคำก่อนจะวิ่งออกไปตรงจุดที่เหล่าทหารโดนชิวซุยโจมตีอยู่ทันที

ฟุบ!!

ทันทีที่ผิงกั่วมาถึง อยู่ๆตรงหน้าของชิวซุยก็ปรากฏไอเย็นพุ่งวาบเข้าใส่เหล่ากลุ่มต่อต้านตรงหน้าจนพวกมันส่วนหนึ่งกลายเป็นน้ำแข็งกันจนหมด ทำให้ยามนี้เหล่ากลุ่มต่อต้านแถวหน้าสุดกลายสภาพเป็นรั้วน้ำแข็งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ชิวซุย เจ้ากลับมากับน้าก่อนนะ”ผิงกั่วว่าพลางมองไปยังจุดที่ไม่โดนแช่แข็ง พลังที่ชิวซุยใช้ออกมายามนี้สามารถละลายไอเย็นระดับนั้นได้สบาย ผิงกั่วเลยใช้ไอเย็นแบบนั้นเพื่อหาตัวชิวซุยเฉยๆ

“ทำไมละเจ้าคะ”ชิวซุยถามพลางปลดสถานะล่องหนออก นางอยากจะรีบๆจัดการจะได้ไปจากที่นี่เสียที

“น้าจูล่งของเจ้าจะลงมือเอง พวกเราจะได้ออกจากที่นี่เร็วๆยังไงล่ะ”ผิงกั่วตอบพลางยิ้มกว้างออกมาด้วยท่าทีมั่นใจ

“เจ้าค่ะ”ชิวซุยได้ยินเช่นนั้นก็ตอบตกลงทันที หากให้ท่านน้าจัดการละก็ต้องไวกว่าพวกนางช่วยกันจัดการแน่ๆ

.

.

“พวกเจ้า…”ระหว่างรอผิงกั่วกับชิวซุยกลับมาอยู่นั้น ตรงหน้าโกดังที่ไป๋จูล่งและคนอื่นๆยืนอยู่ก็ปรากฏร่างของหัวหน้ากลุ่มต่อต้านที่กลับมาพร้อมชุดเกราะและอาวุธประจำตัวอันใหม่ ท่าทางมันจะหายไปเตรียมอุปกรณ์มาแน่ๆ

“อย่าได้ดูถูกอาณาจักรโรเน่โดยเด็ดขาด”หัวหน้ากลุ่มต่อต้านคำรามพลางปล่อยพลังวิญญาณออกมา ระดับพลังของมันนั้นอยู่ระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 หรือก็คือเป็นระดับยอดฝีมือแล้วนั่นเอง แถมระดับพลังนั้นยังแทบจะก้าวข้ามมาเป็นระดับเจ้าสวรรค์แล้วอีกต่างหาก จะเรียกว่าไม่แปลกนักที่จะโอ้อวดก็คงได้เพราะในอาณาจักรอื่นๆนั้นมีคนระดับนี้อยู่น้อยมาก

“ไม่เลวๆ”ต้าหวานพูดพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีพึงพอใจ พวกนางทุกคนต่างปกปิดพลังวิญญาณเอาไว้อย่างแนบเนียน ทำให้อีกฝ่ายไม่ทราบพลังที่แท้จริง แต่ได้เห็นชัดๆแล้วว่าพวกตนแข็งแกร่งกว่าขนาดไหนยังกล้าสู้กันอีกนับว่าคนพวกนี้เป็นทหารกล้าอย่างไม่ต้องสงสัย เสียดายที่ยึดติดกับการยึดอาณาจักรไชน์เกินไป

“วันนี้ข้าจะทำให้พวกเจ้าได้รู้จักความน่ากลัวของอาณาจักรโรเน่”หัวหน้ากลุ่มต่อต้านคำรามพลางเรียกเอาก้อนหินรอบๆขึ้นมาปกคลุมตัวเอง ท่าทางมันจะเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณธาตุดินอย่างไม่ต้องสงสัย วิชาที่มันใช้จึงมีส่วนคล้ายวิชาของหยงเวยอยู่ไม่น้อย

ตูม!!

ร่างที่ปกคลุมไปด้วยก้อนหินของหัวหน้ากลุ่มต่อต้านพุ่งตรงเข้ามาใส่พวกจูล่งอย่างรวดเร็วราวกับหินถล่มลงมาจากภูเขา กำลังทำลายของกระบวนท่านี้นั้นรุนแรงมาก ต่อให้เป็นกำแพงเมืองก็ยังทะลุได้ไม่ยาก เพียงแต่เมื่ออยู่ต่อหน้ายอดฝีมือที่เหนือชั้นกว่าอย่างต้าหวาน นางเพียงยกทวนขึ้นมาแทงสวนไปทีหนึ่งก็หยุดการโจมตีของหัวหน้ากลุ่มต่อต้านได้แล้ว

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าแค่พวกเราก็ต้านกองทัพของพวกเจ้าเอาไว้ได้”หลินเฟยที่กลับมาถึงจุดที่ไป๋จูล่งอยู่พูดด้วยท่าทีสบายๆราวกับไม่ได้กังวลว่าต้าหวานจะรับไม่ได้แต่อย่างไร อย่าลืมสิว่าพวกนางคือผู้ฝึกฝนวิชาเทพประสาน วิชาที่เพิ่มพูนพลังวิญญาณได้น่าเหลือเชื่อที่สุด เวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้นอกจากจะได้สมุนไพรของพวกท่านน้ามาช่วยแล้วพวกนางยังไม่ลืมที่จะฝึกฝนอยู่ทุกคืน ทำให้ยามนี้ทั้งต้าเฉียนและต้าหวานต่างก็อยู่ระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 7 กันทั้งคู่ แค่ระดับยอดฝีมือที่เค้นพลังขึ้นมาได้นิดหน่อยไม่ทำให้พวกนางลำบากหรอก

“เจ้า…..”หัวหน้ากลุ่มต่อต้านที่ถูกหยุดเอาไว้ได้คำรามออกมาพลางใช้ดาบของตนโจมตีใส่ต้าหวานทันที

เคร๊ง!

ดาบเล่มใหม่ของหัวหน้ากลุ่มต่อต้านโดนต้าหวานตีแตกไปอีกเล่ม ท่าทางอาวุธของพวกกลุ่มต่อต้านจะเกราะบางเสียเหลือเกินถึงโดนตีแตกได้ง่ายเช่นนี้

“อย่าคิดว่าแค่นี้พวกข้าจะแพ้นะ”หัวหน้ากลุ่มต่อต้านถอยออกมาจากต้าหวานหลังจากโจมตีไม่สำเร็จ

ปัก!

อยู่ๆหัวหน้ากลุ่มต่อต้านก็ยิงสัญญาณสีแดงขึ้นท้องฟ้า ทำเอาเหล่ากลุ่มต่อต้านที่อยู่ด้านหลังหน้าเสียหันไปมองหน้ากันไปมาทันที

“ท่าทางจะมีลูกเล่นอีกสินะ”หลินเฟยว่าพลางเดินกลับมายืนข้างๆน้าจูล่งของมัน

“หึหึ จงดูเอาไว้เถอะ”หัวหน้ากลุ่มต่อต้านยิ้มออกมาพลางมองไปที่ด้านหลังของตนเอง ที่นั่นมีอาคารหลังหนึ่งตั้งอยู่ ทันทีที่มันส่งสัญญาณสีแดงออกไปประตูบานนั้นก็เริ่มเปิดออกทันที

“กรรร” เสียงคำรามดังออกมาจากภายในอาคาร ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของมังกรตนหนึ่งจะพุ่งพรวดออกมาจากภายในอาคาร

“มังกร…”หลินเฟยกะพริบตาปริบๆมองไปทางมังกรตนนั้น มันเป็นมังกรระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 1 แน่นอนว่ามันต้องแข็งแกร่งกว่าระดับยอดฝีมืออยู่แล้ว แต่ทำไมถึงถูกคนพวกนี้จับมาได้กันเรื่องนั้นต้องยอมรับว่าหลินเฟยสงสัยอยู่ไม่น้อยเลย

“เป็นไงล่ะ กลัวละสิ”หัวหน้ากลุ่มต่อต้านยิ้มพลางมองมังกรที่กำลังวิ่งตรงมาทางตน เจ้ามังกรนั่นพวกมันจับมาได้ตอนมันกำลังฟักไข่อยู่พอดี ทำให้เจ้ามังกรนั่นแค้นเคืองตัวหัวหน้ากลุ่มต่อต้านอย่างมาก แต่หัวหน้ากลุ่มต่อต้านก็คิดจะใช้ความโกรธนั่นในการล่อเป้าให้มันโจมตีใส่พวกจูล่งด้วย

“พอดีเลย ถ้าจะลงจากเขาละก็ขี่มังกรน่าจะไวกว่า”หลินเฟยว่าพลางเดินเข้าไปยืนตรงหน้าต้าหวานแทน สำหรับอสูรนั้นให้คนตระกูลไป๋จัดการจะเป็นเรื่องง่ายกว่ามาก แต่มังกรที่กำลังวิ่งเข้ามานั้นกลับหยุดอยู่กลางทางเสียเฉยๆ

“เจ้าไม่เป็นไรนะ ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ”ชิวซุยที่พึ่งกลับมาถึงขวางหน้ามังกรตนนั้นเอาไว้พอดี ทำให้มังกรตนนั้นหยุดอยู่ตรงที่ชิวซุยอยู่ก่อนจะเข้ามาถึงตัวหลินเฟยเสียอีก

“คุณหนู เจ้ามนุษย์นั่นทำลายไข่ของข้า แถมยังจับตัวข้ามาอีก”มังกรตนนั้นได้ยินคำถามของชิวซุยก็ตอบออกไปด้วยท่าทีเศร้าหมองทันที

“ไม่ต้องห่วงนะ ข้าจะบอกให้ท่านน้าจัดการคนไม่ดีให้ อย่าร้องเลยนะ”ชิวซุยตอบพลางลูบหัวของมังกรตนนั้นด้วยท่าทีเอ็นดู ก่อนจะจูงมือมังกรตนนั้นเดินกลับเข้ามาหาพวกจูล่งอย่างกับพาสุนัขเดินเล่นไม่มีผิดทำเอาหัวหน้ากลุ่มต่อต้านได้แต่มองตาค้างราวกับเจอเรื่องแปลกสุดๆเข้าให้

“ท่านน้า คนพวกนี้เป็นคนไม่ดีเลยเจ้าค่ะ ทำร้ายแม่มังกรด้วย”ชิวซุยพอมาถึงก็ฟ้องท่านน้าของนางทันที แถมพอมองดูดีๆแล้วก็พบว่าบนตัวของมังกรตนนี้มีทั้งโซ่และปลอกคอมัดเอาไว้ ทำให้ตามร่างกายมีรอยบาดแผลจากของพวกนั้นเต็มไปหมด

“เข้าใจแล้ว น่าจะจัดการเอง”ไป๋จูล่งตอบพลางปลดปล่อยพลังวิญญาณและพลังอสูรของตนเองออกมา พริบตานั้นรอยสัญลักษณ์ดวงตาทั้ง 6 ของไป๋จูล่งก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผากอันเป็นสัญลักษณ์ว่าไป๋จูล่งเปิดใช้งานเนตรแมงมุมทั้ง 8 ออกมาพร้อมกันแล้วนั่นเอง

“…………..”หัวหน้ากลุ่มต่อต้านมองไปทางไป๋จูล่งด้วยท่าทีตกใจ ระดับพลังของมันคืออะไรกัน ทำไมมันถึงได้สูงลิบเช่นนั้น

เปรี๊ย!!

เมื่อไป๋จูล่งลืมตาขึ้นมากระแสไฟฟ้าก็แล่นออกไปตามร่างกายก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า พริบตานั้นหัวหน้ากลุ่มต่อต้านถึงได้สังเกตว่าท้องฟ้ายามนี้เปลี่ยนจากท้องฟ้าปลอดโปร่งเป็นท้องฟ้ามืดครึ้มไปเสียแล้ว

ตูม!! ตูม!! ตูม!!ๆๆๆๆๆ

ราวกับสวรรค์มีรอยรั้วไม่มีผิด กระสุนอัสนีที่ราวกับปล่อยออกมาจากมังกรอัสนีทองคำถูกปล่อยลงมาเป็นสิบๆลูกติดต่อกัน กวาดเอาพื้นที่โดยรอบหายไปเกือบทั้งหมด เหลือเพียงโกดังที่พวกตัวประกันอยู่และตรงจุดหน้าโกดังที่พวกไป๋จูล่งอยู่เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไรเลย

“…….สวรรค์”หัวหน้ากลุ่มต่อต้านที่บังเอิญอยู่ใกล้ๆกับพวกไป๋จูล่งได้แต่มองสภาพเบื้องหน้าด้วยท่าทีอึ้งๆ นี่มันอะไรกันสวรรค์พิโรธงั้นหรือถึงได้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้

“จงสำนึกเอาไว้ว่าโชคดีขนาดไหนที่ท่านน้าข้าเป็นผู้ลงมือ”หลินเฟยพูดพลางมองดวงตาตื่นตกใจของหัวหน้ากลุ่มต่อต้านด้วยท่าทีนิ่งเฉย แม้จะเป็นภาพที่น่ากลัวขนาดนี้ แต่เพราะท่านน้าใช้ดวงตาสีขาวคำนวณเอาไว้ก่อนแล้ว ห่าฝนอัสนีเช่นนี้จึงไม่คร่าชีวิตใครเลยแม้แต่คนเดียว สายฟ้าทั้งหมดที่พุ่งลงมานั้นเพียงทำให้คนหลายหมื่นหมดสติไปเท่านั้น มันยากยิ่งกว่าการฆ่าให้หมดตั้งเท่าไหร่ หากไม่ใช่ท่านน้าละก็คนพวกนี้คงตายไม่เหลือแม้แต่คนเดียวไปแล้ว