SD:บทที่ 106 พาคุณไปดูสมบัติ
ในตอนแรก ลั่วชิง ยืนอยู่นอกสำนักงานและอยากรู้อยากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้อง ซูฉิวไป่ มาบริษัทในเวลาดึกดื่น อีกทั้งเมื่อเห็นพวกเขาจับมือกันในสำนักงานมันทำให้เธออ้างปากค้าง
นี่มันน่าตกใจจริงๆ!
เซี่ยหรงหรง เป็นประธานของเซี่ยกรุ๊บตั้งแต่อายุน้อย ผู้ชายมักจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะยืนอยู่เคียงข้างเธอ แม้ว่าผู้ชายบางคนจะมีฐานะคู่ควรแต่ เซี่ยหรงหรง ก็ไม่เคยมีความรู้สึกพิเศษใดๆกับพวกเขา
แต่คืนนี้…นี่มันอะไรกัน*?นี่มันเป็นภาพหลอนหรือเปล่า?หรือ..การสารภาพ?*
ลั่วชิง รู้สึกประหม่ามากจนเธอพูดไม่ออก เธอสงสัยอยู่เสมอว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่นี้เป็นใคร เธอไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะแสดงความกล้าหาญเช่นนี้
ทันใดนั้นเธอก็มองไปที่ปฏิกิริยาตอบโต้ของ เซี่ยหรงหรง
เธอจะโกรธไหม..รำคาญ?หรือว่าเธอจะ..
ในขณะเดียวกัน ซูฉิวไป่ ก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาสาบานกับทุกคนได้ว่าเขาไม่เคยกระทำแบบไร้เหตุผลแบบนี้มาก่อนเขาไม่รู้ว่าทำไมใจของเขาถึงมีความปรารถนาแรงกล้าที่จะปกป้อง เซี่ยหรงหรง จนเกิดเหตุการณ์ที่เขาจับมือของ เซี่ยหรงหรง ในตอนนี้
แต่..ฉันควรทำยังไงต่อไป
ซูฉิวไป่ รู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะในขณะที่มองใบหน้าเล็กๆที่งดงามของ เซี่ยหรงหรง เขารู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย เขาจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายเขารู้สึกแบบนี้เมื่อไหร่ ดังนั้นเขายังคงจับมือของเซี่ยหรงหรงอย่าเงียบๆแต่ในหัวใจของเขาแทบจะกระเด็นออกมาไม่ว่าปฏิกิริยาของ เซี่ยหรงหรง จะเป็นอย่างไร
เป็นผลทำให้เซี่ยหรงหรงมองหน้าเขาอย่างไม่คาดคิด จากนั้นเธอจับมือ ซูฉิวไป่ เบาๆดวงตาของเธอรู้สึกประหม่า เมื่อเห็นอย่างนั้น ซูฉิวไป่ ยังคงจับมือเธอเอาไว้
กระบวนการทั้งหมดดูเหมือนเป็นเรื่องเพียงพริบตา แต่ เซี่ยหรงหรง เท่านั้นที่รู้สึกประหม่าแค่ไหน เธอไม่เคยรู้สึกถึงสัมผัสแบบนี้และความรู้สึกหวานในใจ
เมื่อรู้สึกว่ามือเล็กๆของเธอค่อยๆขยับออกไปอย่างช้าๆ ซูฉิวไป่ รู้สึกสูญเสีย แต่สุดท้ายแล้วเขาจึงแสร้งทำเป็นเอามือแตะจมูกของเขาและหันหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อปกปิดความอับอาย
ลั่วชิง เป็นคนที่ตกใจที่สุด!
เธอคิดว่าเซี่ยหรงหรงจะโกรธและแสดงออกมาอย่างบ้าคลั่ง เพราะในสายตาของเธอเซี่ยหรงหรงนั้นเป็นผู้หญิงสมบูรณ์แบบ แม้ผู้ถือหุ้นรายนี้ค่อนข้างที่จะแข็งแกร่งและตรงไปตรงมา…แต่เธอยังคงรู้สึกว่าเขายังไม่คู่ควรกับ เซี่ยหรงหรง แต่ใครจะคาดคิดถึงเรื่องนี้!
เซี่ยหรงหรง ดึงมือของเธอออกอย่างเขินอาย!
พระเจ้าจอร์จ…นี่มันเรื่องอะไรกัน!
บางทีในฐานะที่เป็นผู้ชาย ซูฉิวไป่ อาจจะไม่รู้แต่ ลั่วชิง เข้าใจความหมายการกระทำอย่างชัดเจน
เซี่ยหรงหรง กำลังปิ๊งรักกับ ซูฉิวไป่ นี่เป็นความรู้สึกที่ไม่ธรรมดา!
หลังจากที่ ลั่วชิง หายจากอาการช็อกในใจของเธอยกผู้ถือหุ้นรายนี้อยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับ เซี่ยหรงหรง
ทั้งสองคนที่อยู่ในสำนักงานไม่รู้ว่าการกระทำที่เรียบง่ายของพวกเขาทำให้เกิดผลกระทบอย่างยิ่งต่อผู้ช่วย
สถานการณ์ที่น่าอายค่อยๆเจือจางลงดังนั้นซูฉิวไป่จึงเริ่มพูดก่อน
“เอ่อ.. มันเกิดอะไรขึ้น?..ผมหมายถึง…บางทีผมสามารถช่วยได้”
เมื่อมองดูใบหน้าของชายหนุ่มที่แสดงออกถึงความเขินอาย เซี่ยหรงหรง หัวเราะเบาๆ รอยยิ้มนั้นทำให้ ซูฉิวไป่ สับสนเขากำลังคิดว่าเขาทำอะไรผิด เขามองซ้ายมองขวาก่อนจะหันไปมองเซี่ยหรงหรงอีกครั้ง
“เซี่ยวมู่บอกผมว่าบริษัทถูกโกง?”
เพื่อบรรเทาสถานการณ์นี้โดยเร็วซูฉิวไป่นำหัวข้อนี้พูดขึ้นมาโดยตรง
หลังจากได้ยินคำพูดนี้ใบหน้าของ เซี่ยหรงหรง แสดงออกอย่างเย็นชา
เซี่ยหรงหรง ไม่แน่ใจว่าเธอควรที่จะให้เขาเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องนี้หรือไม่ นอกจากนี้ผู้ชายคนนี้ได้ช่วยเหลือเธอเอาไว้มาก อีกทั้งสถานะปัจจุบันของบริษัท ทำให้เซี่ยหรงหรงรู้สึกว่า ซูฉิวไป่ ไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้ในตอนนี้
“พูดมาเถอะ ผมจะช่วยคุณ”
บางทีอาจเป็นเพราะความลังเลของ เซี่ยหรงหรง มันทำให้ ซูฉิวไป่ พูดขึ้นอีกครั้ง
เซี่ยหรงหรง มองเข้าไปในดวงตาของเขาก่อนที่จะหายใจลึกและเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง
ประมาณครึ่งปีที่ผ่านมา เซี่ยกรุ๊บได้สนใจสินค้าชุดหนึ่ง บุคคลที่รับผิดชอบเป็นชายชราที่ทำงานกับบริษัทมาหลายสิบปี เขาไม่เคยมีปัญหากับการซื้อสินค้า หลังจากปรึกษากับทุกคนก็ได้ตัดสินใจที่จะซื้อสินค้าชนิดนี้
แต่ใครจะคิดว่าหลังจากที่โอนเงินซื้อขายบริษัทพบว่าสินค้าทั้งหมดเป็นสินค้าเลียนแบบ? แม้แต่ชายชราก็หายไปพร้อมกับ 18 มงกุฎ! ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้มีความซับซ้อนเป็นอย่างมากและจำนวนเงินที่เสียหายเกือบ 80 ล้านดอลลาร์
หลังจากเหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยราวกับว่าเงินทุนทั้งหมดของบริษัทได้ถูกทำให้ล้มละลาย สิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นปัญหาก็คือ พวกเขาได้โฆษณาสินค้าชุดนี้ออกไปแล้ว ถ้าบริษัทไม่สามารถมีสินค้าเหล่านี้ได้จะต้องเกิดการสูญเสียแย่ยิ้งขึ้นไปอีก
นั่นคือสาเหตุที่ เซี่ยหรงหรง ต้องเครียดหนัก
ในอีกด้านหนึ่งเธอหวังว่าจะพบนักต้มตุ๋นเหล่านั้นโดยเร็วในทางกลับกันเธอเองพยายามทำงานปกติราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะใช้เวลาเพียงน้อยกว่า 1 สัปดาห์แต่มันก็เครียดเกินไปสำหรับ เซี่ยหรงหรง
สิ่งที่สำคัญในตอนนี้ก็คืองานแสดงสินค้า การแสดงในอีกครึ่งเดือน หากบริษัทไม่มีสินค้าใดๆ เซี่ยกรุ๊บจะต้องเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่!
หลังจากฟังคำอธิบายของเธอแล้ว ซูฉิวไป่ ก็รู้สึกเป็นทุกข์มากขึ้น อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ยากเกินไปสำหรับเขาเช่นกัน ถ้ามันเป็นแค่เรื่องเงินเขาสามารถช่วยเธอได้ เพราะสุดท้ายแล้วเขามีโบราณวัตถุจำนวนมากอยู่ที่บ้านของเขาสามารถนำออกมาขายได้ เพียงไม่กี่ชิ้นก็สามารถแก้วิกฤตทางการเงินได้ แต่วิกฤตตอนนี้คือการแสดงสินค้าเขาจะช่วยได้อย่างไร
ในห้องตกอยู่ในความเงียบ 2-3 วินาที จากนั้น ซูฉิวไป่ ถาม ขึ้นว่า
“สินค้าเหล่านั้นคืออะไร?”
เซี่ยหรงหรง ตอบโดยไม่ลังเลเลย “พวกมันเป็นของโบราณวัตถุ…”
หลังจากพูดจบเธอเห็นสีหน้าของ ซูฉิวไป่ ผิดปกติเล็กน้อยดวงตาของเขาส่องประกาย
“เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรอ?” เซี่ยหรงหรง ถามคำถามนี้อย่างสับสน
ซูฉิวไป่ ตอบคำถามของเธอด้วยความกระตือรือร้นว่า
“คุณกำลังพูดว่า ตราบใดที่มีโบราณวัตถุจำนวนมากปรากฏขึ้นในงานแสดงสินค้าได้ เซี่ยกรุ๊บจะไม่เป็นไรใช่ไหม”
เซี่ยหรงหรง มองมาที่เขาอย่างประหลาดใจแต่ในที่สุดเธอก็พยักหน้า เมื่อเห็นหญิงสาวพยักหน้า ซูฉิวไป่ รู้สึกวันนี้เป็นเพียงเรื่องตลกเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเรื่องต่างๆจะง่ายแบบนี้ พวกเขาเพียงต้องการของโบราณวัตถุ!
มันง่ายมาก!
เซี่ยหรงหรง เริ่มบอกความกังวลใจของเธอ
“เงินไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือโบราณวัตถุที่จะแสดง..เราพยายามติดต่อนักสะสมหลายคนแต่ไม่มีใครเต็มใจที่จะ…”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ ซูฉิวไป่ ก็ขัดจังหวะขึ้น
“ไปกับผม เราจะไปสถานที่แห่งหนึ่ง”ในขณะพูด ซูฉิวไป่ พยายามช่วย เซี่ยหรงหรง เก็บข้าวของ
เซี่ยหรงหรง รู้สึกสับสนเธอเพิ่งบอกเขาเองว่าปัญหาคืออะไรและทำไมปฏิกิริยาของเขาจึงเป็นเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ซูฉิวไป่ ไม่ได้แจ้งให้เธอทราบถึงเหตุผลแม้ว่าเธอจะถามเขา เขาเพียงกระตุ้นให้เธอติดตามเขามาอย่างรวดเร็วเธอจะรู้เหตุผลเมื่อเธอไปถึงที่นั่น
แม้ว่าเซี่ยหรงหรงจะไม่เข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มคนนี้จึงแสดงตัวลึกลับอย่างกะทันหัน แต่มันก็สายเกินไปที่จะมาฟังคำอธิบาย หลังจากที่อำลา ลั่วชิง เซี่ยหรงหรง ได้ติดตาม ซูฉิวไป่ ไป
ระหว่างเดินทาง เซี่ยหรงหรง พยายามถาม ซูฉิวไป่ หลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่เขายังคงปฏิเสธที่จะพูด เขาจอดแท็กซี่ที่ชั้นล่างและพาเธอขึ้นไปชั้นบนห้องของเขา เธอรู้สึกประหม่าทันที
ผู้ชายคนนี้…คงไม่ได้คิดจะ…
เซี่ยหรงหรง คิดถึงเรื่องนี้อย่างเงียบๆในขณะที่เธอเดินตาม ซูฉิวไป่ ขึ้นไปชั้นบน ยิ่งเธอเดินเข้าใกล้ห้องมากเท่าไหร่ความวุ่นวายในใจของเธอก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นยิ่งคิดเธอก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น
ซูฉิวไป่ ไม่รู้ว่าเซี่ยหรงหรงกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่สิ่งที่เขาต้องการก็คือแสดงสมบัติล้ำค่าที่ห้องของเขา
ในที่สุดหลังจากเปิดประตู ซูฉิวไป่ ก็ดึง เซี่ยหรงหรง เข้ามาด้านใน
หลังจากที่เปิดไฟ เซี่ยหรงหรง รู้สึกตื่นตะลึงเมื่อเห็นภาพเหลือเชื่อต่อหน้าเธอ
วังไค่และสุนัขสีขาวนอนอยู่บนเครื่องประดับหยกและข้างๆพวกเขาคือกล่องและถุงที่เต็มไปด้วยเครื่องประดับ ห้องนั่งเล่นทั้งหมดเหมือนถ้ำขุมทรัพย์ของโจรสลัด!
——————————————