ตอนที่ 110-3 เมืองหลวงเกิดเรื่อง

จำนนรักชายาตัวร้าย

“เอาเถอะ…”

 

 

ข้อเสนอของอวี้เฟยเยียน ซย่าโหวฉิงเทียนเองก็รอคอยด้วยหัวใจอย่างใจจดใจจ่อ

 

 

นางยินยอมชิดใกล้เขา นั่นเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากความคาดหมายเขาอย่างแท้จริง ซึ่งมันทำให้เขาดีใจเป็นอย่างมาก!

 

 

ถึงอย่างไรก็แล้วแต่อวี้เฟยเยียนก็ยังมีอาการเขินอายอยู่ดี เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่นางจะได้สัมผัสแฟนหนุ่มของนาง ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่กระทำเรื่องเช่นนี้ ดังนั้นอวี้เฟยเยียนจึงดับตะเกียง แล้วค่อยๆ คลำทางเข้าไปหาซย่าโหวฉิงเทียน

 

 

ถึงแม้อวี้เฟยเยียนตั้งมั่นแน่วแน่ที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดปิดกั้นของซย่าโหวฉิงเทียนให้จงได้ ทว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ก็ทำให้นางเสียใจอย่างที่สุดที่ตัดสินใจกระทำเช่นนั้นลงไป มันทรมานจนมิอาจเอื้อนเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้

 

 

พี่ชายท่านนี้ แรงที่ท่านกักเก็บเอาไว้ไม่ต้องดีถึงเพียงนี้ได้ไหมเล่า

 

 

มือของข้าจะไม่ใช่มือของตัวเองอีกต่อไปนะ มันแทบจะหลุดอยู่แล้วด้วย!

 

 

รีบทำให้มันจบเร็วเข้าเถิด!

 

 

ข้าเสียใจภายหลังแล้ว พอใจหรือยัง!

 

 

จวบจนกระทั่งไฟในห้องสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าของซย่าโหวฉิงเทียนมีความสุขจนพูดไม่ออก หลังจากที่อวี้เฟยเยียนล้างมือทั้งสองข้างแล้วเสร็จ ก็คลานขึ้นไปบนเตียงทันที

 

 

“ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว อย่ามารบกวนข้า ข้าต้องการนอน!”

 

 

อวี้เฟยเยียนคำรามใส่ซย่าโหวฉิงเทียน แล้วมุดเข้าไปอยู่ในผ้าห่มทันที

 

 

“แมวน้อย อย่าเพิ่งหลับสิ อยู่พูดคุยเป็นเพื่อนพี่ก่อน!”

 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ซย่าโหวฉิงเทียนได้สัมผัสกับความสุขสมราวกับล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรค์ แล้วจะยินยอมปล่อยนางไปได้อย่างไร

 

 

ด้วยรับรู้ว่ามือทั้งสองข้างของอวี้เฟยเยียนปวดเมื่อยอย่างหนัก เขาจึงรีบเกาะกุมมือน้อยนั้นเอาแล้ว แล้วบีบนวดคลายความเมื่อยล้าให้กับนาง

 

 

“อย่ามาแตะต้องข้านะ!”

 

 

ข้าอยากที่จะร้องไห้จริงๆ เลย!

 

 

ก่อนหน้านี้มองเห็นอาวุธเขาตั้งโด่ อวี้เฟยเยียนหลวงคิดไปว่าสัตว์ป่าเขาจะดุร้ายกว่าปกติเสียอีก

 

 

แต่หลังจากที่ได้สัมผัสด้วยตัวเองแล้ว อวี้เฟยเยียนก็แทบน้ำตานองหน้า

 

 

ท่านเป็นผู้ชายจริงๆ หรือเปล่า

 

 

เช่นนั้นท่านก็ควรดุดันราวราชสีห์สิ!

 

 

“ฉิงเทียน รอให้ข้าสำเร็จขั้นจอมเทพอาวุโสก่อนแล้วเราสองคนค่อยฝึกร่วมกันเถอะ!”

 

 

อวี้เฟยเยียนรู้สึกอย่างชัดเจนว่า การร่วมหอของนางจะกลายเป็นคืนสีเลือดเอานะสิ แถมยังเลือดทะลักออกมากเสียด้วย!

 

 

เมื่อนึกถึงว่าตนเองอาจจะต้องกลายเป็นเจ้าสาวคนแรกที่ต้องตายในคืนเข้าหอในวันแต่งงาน อวี้เฟยเยียนก็อยากจะร้องไห้ยิ่งนัก

 

 

พระเจ้าช่วย!

 

 

ในตอนนี้นางไม่อยากที่จะไปเปลี่ยนแปลงความคิดของซย่าโหวฉิงเทียนอีกแล้ว ให้เขาเป็นซย่าโหวฉิงเทียนที่น่ารักน่าทะนุถนอม ใสซื่อบริสุทธิ์เช่นเดิมนั่นแหละดีที่สุด!

 

 

ไม่อย่างนั้น พวกเราผูกพันกันด้วยสัญญาใจก็ได้นะ!

 

 

ความรักโดยไม่มีเรื่องเพศใดๆ มาปิดกั้นนั้นสวยงามที่สุดเลย!

 

 

“ไม่เอา!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนรู้สึกคับข้องใจยิ่งนักกับท่าทีก่อนและหลังของอวี้เฟยเยียนที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

 

 

เขาถือโอกาสเอนกายนอนลงเคียงข้างอวี้เฟยเยียน แล้วรั้งนางเข้ามาในอ้อมกอด

 

 

“เรื่องเมื่อครู่เจ้าไม่ชอบหรือ”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนน้ำเสียงอู้อี้

 

 

จริงๆ แล้วเขาชื่นชอบความรู้สึกที่ได้หลั่งมันออกไปอย่างที่สุด เขาไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาก่อน ลองปฏิบัติเป็นครั้งแรกก็หลงรักเสียแล้ว!

 

 

“หากว่าเจ้าไม่ชอบละก็ ต่อไปก็อย่าได้ฝืนใจตัวเองอีกเลย”

 

 

ร่างกายเขาถูกรังเกียจเดียดฉันท์ ทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนแอบเสียใจอยู่ไม่น้อย

 

 

จะทำอย่างไรดี แมวน้อยไม่ชอบเขา!

 

 

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ…”

 

 

เมื่อรู้ว่าซย่าโหวฉิงเทียนเข้าใจไม่ถ่องแท้ อาการเข้าใจครึ่งๆ กลางๆ เขามักจะทำให้เขาคิดเลยเถิดไปไกลเอาได้ง่ายๆ อวี้เฟยเยียนก็รู้ในทันทีว่าตนเองจะต้องมีความอดทนราวกับกำลังสอนเด็กน้อยเลยทีเดียว ห้ามชักนำเขาไปในทางที่ผิดเด็ดขาด

 

 

มิเช่นนั้น นางก็จะกลายเป็นหลิวเซิ้งคนที่สองทันที!

 

 

“แล้วคืออะไรกัน”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนฝังศีรษะลงที่ซอกคอของอวี้เฟยเยียน เขากำลังบอกนางว่าตนเองกำลังรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

 

 

“บอกพี่มาเถอะ…”

 

 

จู่ๆ ชายหนุ่มผู้เย็นชาเย่อหยิ่งก็ออดอ้อนด้วยความน้อยอกน้อยใจ ทำให้ในใจของอวี้เฟยเยียนรู้สึกตั้งรับไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงเขาในตอนนี้

 

 

จนกระทั่งใบหูและแก้มทั้งสองข้างของซย่าโหวฉิงเทียนปรากฏแก่สายตา อวี้เฟยเยียนถึงได้รู้ว่า คราวนี้เขาได้เปิดใจแล้วจริงๆ

 

 

แต่ว่า…นางหวาดกลัวยิ่งนัก!

 

 

“แมวน้อย เด็กดี บอกเหตุผลพี่ที!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนใช้ดวงเรียวราวหงอันงดงามนั้นชม้ายชายตามองมาที่นาง มันให้ดูราวกับสุราชั้นเลิศแรมปี ทำให้อวี้เฟยเยียนเกือบหลวมตัวติดกับ

 

 

อิดออดเป็นเวลานานอวี้เฟยเยียนก็ติดกับแผนการชายหนุ่มรูปงามเข้าให้จนได้ นางโน้มเอวลงไป แล้วกระซิบที่ข้างหูซย่าโหวฉิงเทียนแผ่วเบาสองสามคำ

 

 

คราวนี้ทำเอาใบหน้าของซย่าโหวฉิงเทียนยิ่งแดงเถือกเข้าไปอีก

 

 

“ไม่ต้องกลัวนะ แมวน้อย! พี่ไม่มีวันทำร้ายเจ้า!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนลูบไล้แผ่นหลังอวี้เฟยเยียนแผ่วเบา

 

 

“พี่ให้สัญญา เจ้าไม่อยากฝึกร่วม พี่ก็รอได้!”

 

 

“ฉิงเทียน เจ้าช่างดีจริงๆ เลย!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนให้เกียรตินางถึงเพียงนี้ อวี้เฟยเยียนซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

 

 

เพราะที่นี่คือสังคมที่ผู้ชายทรงอำนาจ แต่ซย่าโหวฉิงเทียนดีกับนางถึงเพียงนี้ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งแล้วสำหรับนาง

 

 

“เด็กโง่! เจ้าคือแมวน้อยของพี่! พี่ย่อมต้องดีกับเจ้าอยู่แล้ว!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนดีกับนางเช่นนี้ ทำให้อวี้เฟยเยียนเป็นฝ่ายที่รู้สึกผิดกับเขาขึ้นมาแทน

 

 

หากเปลี่ยนเป็นหญิงอื่น ได้พบกับชายที่มีอุดมการณ์และแข็งแกร่งเช่นนี้ จะต้องดีใจอย่างที่สุดเป็นแน่

 

 

แต่นางนั้นมีเหตุมีผล มีหลักการครบถ้วนโดยตลอด ทว่ากลับไม่เคยปฏิบัติได้จริงเลยสักครั้ง

 

 

ก่อนหน้านี้นางก็เคยพบกับกรณีของคนไข้ที่เป็นเจ้าสาวที่เจ็บตัวกับการร่วมรักในครั้งแรกหลายเคส ซึ่งยังหลงเหลือเป็นบาดแผลที่แสนเจ็บปวดฝังลึกเป็นเงาดำอยู่ในใจมาเป็นจำนวนไม่น้อย บวกกับนิสัยที่ออกจะ…แมนเกินไปสักหน่อยของซย่าโหวฉิงเทียนด้วยแล้ว นางจะถอยห่างออกมาก็นับเป็นเรื่องปกติ

 

 

เมื่อเห็นผู้ชายหล่อเหลาเข้าหน่อยก็พุ่งเข้าใส่ แต่เมื่อถึงเวลาที่ทุกอย่างพร้อมแล้วขึ้นมาจริงๆ นั้น นางกลับเป็นฝ่ายถอยร่นเสียเอง

 

 

ช่างเป็นมนุษย์ขี้ขลาดที่มีความต้องการแต่ดันไร้ซึ่งความกล้าหาญเสียนี่!

 

 

อวี้เฟยเยียนดูถูกตนเองอยู่ในใจอยู่ครู่ใหญ่

 

 

“จริงสิ เสวี่ยเยียนสืบหาพวกพ้องของคนผู้นั้นเจอแล้วหรือยัง”

 

 

หลังจากที่สงบสติอารมณ์ได้แล้ว อวี้เฟยเยียนก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา

 

 

“ยังเลย พวกมันปลอมตัวได้อย่างแนบเนียน แต่ว่า หลิวเซิ้งส่งข่าวมาแจ้งว่า พวกมันที่มาในครั้งนี้มีทั้งหมดสามคน นอกเหนือจากเฉินเจินที่ตายด้วยน้ำมือของพี่แล้ว ยังมีเฉินฉู่และตี้อู่เฉิน”

 

 

เมื่ออวี้เฟยเยียนเอ่ยถึงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหนานกงขึ้น ซย่าโหวฉิงเทียนก็ดูเคร่งขรึมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

 

 

“ในเมื่อเฉินเจินมาถึงที่นี่แล้ว เฉินฉู่และตี้อู่เฉินย่อมต้องมาถึงแผ่นดินต้าโจวแล้วเช่นกัน เพียงแต่พวกเขาปิดบังซ่อนเร้นตัวเองไว้อย่างดี”

 

 

“ตี้อู่เฉิน คนของเผ่าตันก็เข้ามาร่วมวงด้วยหรือนี่”

 

 

เมื่อได้ยินชื่อของตี้อู่เฉิน อวี้เฟยเยียนก็ขมวดคิ้วขึ้นมา

 

 

นางรู้สึกเป็นมิตรกับตี้อู่เฮ่ออียิ่งนัก แต่ว่าตี้อู่เฉินคนนี้น่าจะเป็นพวกเดียวกันกับตี้อู่หงเยี่ย เขาจะต้องเป็นชาวตันขวาอย่างแน่นอน!

 

 

เขามาในครั้งนี้ ก็เพื่อแก้แค้นให้กับตี้อู่หงเยี่ย!