TB:บทที่130 มวยใต้ดิน (2)

ด้านในเป็นสนามประมาณ 200 ตารางเมตรพร้อมกับไฟหลากสีด้านบน ตรงกลางของสนามมีเหล็กลวดล้อมสนามมวยเป็นวงแหวนอยู่  ในวงแหวนนั้นมีหน้าจอ LED ที่เอาแสดงภาพการต่อสู้ ตอนนี้บนหน้าจอมีข้อมูลของนักมวยสองคนที่กำลังจะแข่งเป็นคู่ต่อไป

รอบๆวงแหวนนี้มีเก้าอี้หนังล้อมรอบอยู่ด้วยซึ่งมีทั้งชายและหญิงต่างนั่งที่เก้าอี้พวกนั้นเพื่อรับชมการแข่งชกมวย ชายผู้นำทางได้พาแขกทั้งสี่คนมายังที่นั่งด้านหน้าที่ใกล้กับสนามมวยและนั่งลงบนที่ของตัวเอง

เฉินหลงมองไปที่นักมวย พวกเขาเกือบทั้งหมดดูเหมือนจะมีฐานะและเฉินหลงก็เห็นคนรู้จักของเขาด้วย นั้นก็คือ จินเหลียงหยวน

เมื่อเฉินหลงมองไปที่เขา จินเหลียงหยวนก็มองกลับไปที่เฉินหลงด้วย

เฉินหลงยิ้มให้ก่อนจะละสายตาไป

เมื่อเห็นรอยยิ้มของเฉินหลง เพื่อนอีกสามคนของเขาก็ดูไม่พอใจ เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาแต่ละคนควรที่จะได้เงิน 25 ล้านหยวนจากเฉินหลง แม้ว่าเงินจำนวน 25 ล้านหยวนจะดูไม่มากนักสำหรับพวกเขา แต่มันก็พอที่จะทำให้พวกเขาไม่ขัดสนเรื่องเงินได้ในช่วงเวลาหนึ่ง

เดิมทีพวกเขาต้องมาที่สนามมวยใต้ดินก็เพื่อแค่มาระบายความแค้น คาดไม่ถึงว่าพวกเขาต้องมาเจอเฉินหลงอีกครั้ง

“ทำไมพวกเราไม่เดิมพันกับเขาอีกครั้งละ?” อวี่จินหรู ทำท่าเหมือนจะพูด

“ไม่เอาหน้า เด็กนั้นไม่สนเรื่องเงินอยู่แล้ว ถึงเราจะชนะ เขาก็คงไม่สนใจอะไรหรอก อีกอย่างนะพวกเราไม่มีเงินพอที่จะเดิมพันตอนนี้แล้ว” จินเหลียงหยวนหมดหนทาง

อวี่หรูจินพูดอย่างท้าทายว่า “ฉันรู้ว่าเด็กนั้นเป็นคนรวยมาจากแผ่นดินใหญ่และเขาก็ไม่ค่อยสนใจเงินเท่าไหร่ แต่พวกเราไม่ได้ทำให้โดนโกรธแบบนี้ในเซียงเจียงนานเท่าไหร่แล้วนะ?  สิ่งที่ขนานนามว่ามังกรผู้แข็งแกร่งยังไม่ถูกงูเจ้าถิ่นงาบไป เราต้องถูกเจ้ามังกรที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมากลืมกินจริงๆหรอ แต่นายไม่กล้า ก็ให้ฉันเดิมพนันเองคนเดียว ฉันไม่สามารถหายใจร่วมกันกับมัน ฉันยังมีเหลืออยู่ 5 ล้านหยวนและฉันก็จะเดิมพันอีกครั้ง “

“แล้วนายจะไปเดิมพันกับมันยังไง?” คำพูดของอวี่่จินหรูทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาสั่นคลอน

“ใช่ ถึงแม้ว่าจะพูดไม่ได้ว่าพวกเราโดนแผลงฤทธิ์ใส่ถึงเซียงเจียง แต่พวกเราก็ยังเป็นคนมีชื่อ มีสกุล ใครก็ตามที่เจอพวกเราก็ต่างทักทายด้วยรอยยิ้ม แต่ตอนนี้มีมังกรที่ข้ามทะเลมาทำให้พวกเราต้องหม่นหมอง”จินเหลียงหยวนก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน

อวี่จินหรูพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นั้นง่ายมาก ฉันจะท้าเขาว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการแข่งทั้งสามแมตท์คืนนี้ เขาอาจจะมีสายตาที่ดีกับการเลือกหยก แต่มันใช้ไม่ได้กับการชกมวย ยิ่งกว่านั้นนะ การชกมวยมันสามารถควบคุมได้ด้วย”

“ควบคุมงั้นหรอ?” จินเหลียงหยวนหันไปมองเพื่อนของเขา

“ใช่ ฉันได้รับข่าวใหม่มาว่าสองในสามแมตท์คืนนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุม ตราบใดที่พวกเราชนะสองเกมส์ พวกเราก็มีสิทธิ์ชนะมากขึ้น ฉันไม่เชื่อว่ามันจะเดาทั้งสามเกมส์ออก” อวี่จินหรูดูสมควรกับตำแหน่งเจ้าเล่ห์จริงๆ เขาช่างร้ายกาจ

เมื่อได้ยินคำพูดของอวี่จินหรู ตาของจินเหลียงหยวนก็สว่าง ถ้าเป็นตามแบบที่เพื่อนเขาพูด ชัยชนะครั้งนี้จะยิ่งใหญ่มาก เขาจึงตกลงด้วย

“ยังไงก็ตาม พวกเราก็หักหน้ามัน มาออกกันคนละล้านหยวนแล้วพนันกับมันกัน”

ข้อเสนอของจินเหลียงหยวนถูกตอบรับโดยอวี่จินหรู

จากนั้นอวี่จินหรูก็เป็นตัวแทนที่จะไปท้าพนันกับเฉินหลง

เฉินหลงถึงกับขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าอวี่จินหรูเดินตรงมาหา มันต้องไม่เรื่องดีแน่ถ้าชายคนนี้เดินมาที่นี่

เมื่ออวี่จินหรูเดินมาหแล้ว เขาก็ยิ้มและพูดกับซูชิงเฟิ่งว่า

“ผู้เฒ่าซู มาดูมวยใต้ดินด้วยหรอครับ”

“ใช่” ซูชิงเฟิ่งพยักหน้าพร้อมยิ้ม

“คุณซู คุณคิดว่านักมวยของวันนี้ดูเป็นยังไงบ้าง?” อวี่จินหรูพูดต่อ

“การชกยังไม่เริ่มเลย ผมจึงไม่มีความเห็นใดๆ ถ้ามองจากข้อมูลข้างบนแล้ว นักมวยทุกคนดูมีทักษะพิเศษกันทั้งนั้น ตราบใดที่พวกเขาคุมเกมส์ได้ก็มีสิทธิ์ที่จะชนะ” ซูชิงเฟิ่งสมควรกับการที่เป็นคนแก่ที่น่ายกย่อง

จากนั้นอวี่จินหรูก็หันไปมองเฉินหลงและถามว่า

“ผมไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงกับนักมวยพวกนั้นบ้างคุณเฉิน?”

ในฐานะที่เป็นเศรษฐีรุ่นที่สองของเซียงเจียง อวี่จินหรูพอมีกำลังอยู่บ้างมันจึงไม่ยากที่จะทำให้รู้ชื่อเฉินหลง

“ผมหรอ? นี่เป็นแรกที่ผมมาดูมวยใต้ดิน ผมจึงไม่สามารถออกความเห็นอะไรได้ครับ” เฉินหลงส่ายหน้า

“คุณเฉิน คุณนี่ถ่อมตัวจังเลยนะครับ เห็นอยู่แล้วว่าคุณไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป อย่าปิดบังพวกเราเลย บอกพวกเราเถอะ” อวี่จินหรูพูด

“ผมไม่มีความคิดเห็นอะไรจริงๆครับ” เฉินหลงไม่รู้ว่าอวี่จินหรูกำลังหมายถึงอะไร แต่รู้ว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดีแน่

หลังจากที่เฉินหลงพูดไป อวี่จินหรูก็หยุดพูดเรื่องไร้สาระแล้วก็พูดเข้าประเด็น

“ผมรู้ว่าคุณเฉินมีความเห็นของตัวเอง แต่คงไม่เต็มใจที่จะพูดมากกว่า ไม่งั้นเรามาพนันกันเล็กน้อยๆไหมว่าใครจะชนะการชกมวยในเย็นวันนี้ พนันกัน 5 ล้านหยวน คุณเฉินว่าไงละ คุณกล้ารึเปล่า? ” เมื่อรู้ถึงความตั้งใจอวี่จินหรูแล้ว เฉินหลงก็ถึงกับยิ้ม ถ้าเขาอยากจะเดิมพัน เฉินหลงก็จะสนองให้

“มันเป็นการต่อสู้เล็กๆ น่าเบื่อจะตาย” จากนั้นเฉินหลงและยู่จินหรูก็เดิมพันกันในการแข่งชกมวยครั้งนี้

การชกมวยทั้งสามแมตท์ของเย็นวันนี้ ซางจาย อาฮาน คนที่รู้จักกันดีในนามของ ‘ช้างยักษ์เอสาม’ และมารุยาม่า สึบาสะ ที่มีฉายาในญี่ปุ่นว่า’เงาของญี่ปุ่น‘ และพวกเขาทั้งสองเพิ่งเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรก”

ซางจาย อาฮานอายุ 28 ปีฉายาของเขาคือ ช้างยักษ์เอสาม’ มีส่วนสูงสองถึงสามเมตรได้ เขาน่าจะเดินบนถนนได้ลำบากแต่เขาเชี่ยวชาญในเรื่องโยคะ ทุกๆการโจมตีสามารถจู่โจมได้อย่างน่าทึ่งจนทำให้คู่ต่อสู้ป้องกันตัวยาก การที่ได้พบกับเขาก็เหมือนกับการมาเจอกับช้างยักษ์ และคุณสามารถทำได้เพียงปล่อยให้เขากลิ้งมาหาเท่านั้น สถิติการแข่งขันทั้งหมด 35 ครั้ง ชนะ 33 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง ซึ่งทั้ง 33 ครั้งเขาฆ่าคู่ต่อสู้ของเขาทั้งหมด

คู่ต่อสู้ของเขาในวันนี้คือ มารุยามะ สึบาศะ อายุ 29 ปี ส่วนสูง 189 เซนติเมตร เขาเชี่ยวชาญอากิโดญี่ปุ่น คาราเต้และยูโด เนื่องจากเขาเป็นคนว่องไวจนคู่ต่อสู้ของเขาเห็นเขาเป็นเหมือนผีจนสามารถจู่โจมและน็อคได้เพียงแค่หนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้น ปัจจุบันสถิติการแข่งขันคือ 25 ครั้ง เสมอ 1 ครั้งและชนะ 20 ครั้งและชนะน็อคเอาท์ถึง 4 ครั้ง

ในการชกของคู่ที่สอง ‘ประสงค์’นักมวยที่มาจากประเทศไทยมีฉายาว่า ‘งูหลาม’ และอเล็กเซจากประเทศรัสเซียที่มีฉายาว่า’หมีขาวใหญ่’

ประสงค์ อายุ 25 ปี สูง 183 เซนติเมตร เขาเชี่ยวชาญการชกมวยไทยและทักษะร่วม เขาเป็นที่แกร่ง อึด ถึก ทน ตอนโจมตีคู่ต่อสู้ หากคู่ต่อสู้เผลอเพียงแค่นิดเดียว เขาก็สามารถใช้ขาอันทรงพลังของเขาเตะข้างหรือรวบตัวคู่ต่อสู้ด้วยทักษะร่วมของเขา สถิติการแข่งขันทั้งหมด 40 ครั้ง ชนะ 37 ครั้ง เสมอ 2 ครั้งและแพ้ 1 ครั้ง แต่ทั้ง 37 ครั้งที่เขาชนะ เขาสามารถชนะน็อคเอาท์คู่ต่อสู้ได้ทั้งหมด

อเล็กเซอายุ 30 ปี ส่วนสูง 190 เซนติเมตร และเพิ่งออกมาจากค่ายฝึกไซบีเรีย เขามีพละกำลังที่น่าทึ่งและมีจิตวิทยาในการต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบ เขาเป็นคนเยือกเย็น สงบและพร้อมที่จะตายแต่ก็ต้องการที่จะเอาตัวรอดด้วย การตายในค่ายฝึกถือเป็นเรื่องปกติแต่เขาไม่มีทางตายแน่นอน เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดแล้ว เขาต้องแข็งแกร่งให้มากขึ้นเท่านั้น ต้องพยายามทำตัวให้แข็งแกร่งจนถึงขั้นครูผู้ฝึก สถิติการแข่งขันปัจจุบัน การแข่งขันทั้งหมด 50 ครั้ง ชนะ 50 ครั้งและชนะน็อคเอาท์ทั้ง 50 ครั้ง