“นาย……” เฉินเข่อซินถึงกับไปต่อไม่ถูก แต่เธอจะหยุดแค่นี้ไม่ได้ “เฉินโม่ ฉันไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งหรอกว่านายจะคุยกับใคร แต่ถ้านายล่วงเกินตระกูลเอียน เพราะการกระทำของนายวันนี้ รอให้ถึงการประชุมประจำปีของปีนี้ นายรอรับความโกรธของตระกูลได้เลย!”

เฉินเข่อเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ ทนดูไม่ไหวแล้ว พูดเถียงว่า “พี่ พี่เฉินโม่จะคุยกับใคร เป็นสิทธิ์ของเขา เราไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย พี่จะเอาข้ออ้างนี้กลับไปฟ้องตระกูลไม่ได้นะ!”

เห็นน้องสาวตัวเองเห็นคนอื่นดีกว่าญาติพี่น้อง เฉินเข่อซินโมโหจนหน้าแดง “เข่อเอ๋อร์ เธอหลงไอ้หมอนี่ไม่เบาเลยนะ พูดแทนเขาทุกอย่าง ฉันว่าเธอน่าจะเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขามากกว่านะ!”

เห็นพี่สาวโมโห เฉินเข่อเอ๋อร์กลัวเล็กน้อย แต่ก็ยังพยายามต่อสู้ด้วยเหตุผล “ฉันช่วยคนที่มีเหตุผล ถึงเป็นญาติแต่ไร้เหตุผล ฉันก็ไม่ช่วย!”

“เธอ……” เฉินเข่อซินง้างมือขึ้นกำลังจะตบ เฉินเข่อเอ๋อร์รีบไปหลบหลังเฉินโม่

เฉินเข่อซินทำอะไรไม่ได้ จึงทำได้เพียงล้มเลิกความคิด

หลังจากนั้นเธอมองเฉินโม่ ใช้ความคิดอยู่ในใจ

จู่ๆ แววตาเฉินเข่อซินมีความอึมครึม พูดด้วยสีหน้าผ่อนคลายลง “เฉินโม่ เดือนหน้าเป็นวันเกิดครบรอบ 20 ปีของฉัน ฉันจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่บ้าน ถึงตอนนั้นเชิญนายไปร่วมงานด้วย!”

เฉินเข่อซินจะใช้โอกาสตอนงานเลี้ยงวันเกิด ทำให้เฉินโม่อับอายอย่างรุนแรง ทำให้เขารู้ว่าวิธีปฏิบัติตัวของเขา มันปัญญาอ่อนขนาดไหน

เฉินโม่ตอบกลับทันที “ไม่สนใจ”

“นาย!” เฉินเข่อซินเสียเซลฟ์ทันที เธอคิดว่าเฉินโม่เหมือนดอกฝ้าย ไม่ว่าคุณจะใช้กำลังทำร้ายเขามากมายเท่าไร ก็เหมือนกับตีใส่อากาศ ทำให้คนรู้สึกไม่รู้จะลงที่ไหน

“ช่างเถอะ คนแบบนาย ไปก็ขายหน้าเปล่าๆ” เฉินเข่อซินเริ่มใช้วิธียั่วโมโห แต่เฉินโม่ไม่สนใจเธอสักนิด

“หึ!” เฉินเข่อซินทำได้เพียงออกไปอย่างทำอะไรไม่ได้ เธอคิดว่าขืนมองเฉินโม่อีกต้องโมโหแน่นอน

เมื่อเฉินเข่อซินไปแล้ว จู่ๆ เฉินเข่อเอ๋อร์มีท่าทางน้อยใจ มองเฉินโม่เหมือนจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่พูด

แน่นอนว่าการแสดงออกของเฉินเข่อเอ๋อร์ หนีสายตาของเฉินโม่ไม่พ้น เฉินโม่ถามว่า “มีเรื่องในใจเหรอ”

เฉินเข่อเอ๋อร์ไม่อยากหลอกเฉินโม่ จึงพยักหน้าอย่างว่าง่าย พูดด้วยความน้อยใจว่า “อืม!”

“พูดมาสิ บางทีฉันอาจช่วยเธอได้นะ!” รอยยิ้มของเฉินโม่เต็มไปด้วยกำลังใจ

เฉินเข่อเอ๋อร์พูดว่า “อันที่จริงฉันเกลียดงานวันเกิดของพี่สาวมาก”

เฉินโม่ถามอย่างประหลาดใจ “ทำไมล่ะ”

เฉินเข่อเอ๋อร์ย่นปากยู่ แล้วพูดว่า “เพราะงานวันเกิดของพี่สาวทุกครั้ง เป็นวันที่ฉันเสียหน้าที่สุด ฉันเกิดวันเดียวกับพี่สาว ตอนงานวันเกิดเธอทุกครั้ง ก็คืองานวันเกิดฉันเหมือนกัน แต่พี่สาวดีเลิศขนาดนั้น รู้จักเพื่อนเยอะแยะ งานวันเกิดเธอทุกครั้ง มักจะมีคนมากมายมาอวยพรวันเกิดเธอ”

“แต่เมื่อเทียบกับงานวันเกิดของพี่ งานวันเกิดของฉัน เงียบเหงาทุกครั้ง พวกที่เด็กกว่าฉันในตระกูลพากันหัวเราะเยาะฉัน พี่เฉินโม่ พี่ว่าทำไมฉันถึงโชคร้ายขนาดนี้ ทำไมต้องเกิดวันเดียวกับพี่สาวด้วย!”

เฉินเข่อเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าน้อยใจ น้ำตาคลอเบ้า

เฉินโม่ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง วางใจเถอะเข่อเอ๋อร์ ฉันรับรองว่างานวันเกิดเธอปีนี้ ต้องคึกคักกว่าพี่สาวเธอแน่นอน ต่อไปจะไม่มีใครหัวเราะเยาะเธออีก”

“จริงเหรอ” ใบหน้าเฉินเข่อเอ๋อร์เต็มไปด้วยความยินดี

แต่ไม่นานก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง พูดด้วยใบหน้ากลุ้มว่า “ช่างเถอะ ฉันรู้ว่าพี่เฉินโม่กำลังปลอบฉัน ไม่เป็นไรหรอก หลายปีขนาดนี้ฉันชินตั้งนานแล้ว”

เห็นเฉินเข่อเอ๋อร์ไม่เชื่อ เฉินโม่ก็ไม่ได้อธิบาย ถามออกมาประโยคหนึ่งว่า “เข่อเอ๋อร์ เดือนหน้าเธอจัดงานวันเกิดตอนไหน”