ตอนที่ 202

Rise of The Undead Legion

Chapter 202 :ฉันไม่ชอบโดนล้อมนะเว้ย!!

เมื่อกลับเข้ามาในเกมนั้นมีเสียงตะโกนขึ้นมาจากทางเข้าซอยในเมือง Moria

” เหี้ย ! นี่มันไม่น่าเป็นไปได้ ! ฉันเสียเศษ – ไม่สิ มันโดนขโมยจากฉันไป ก่อนที่ฉันจะรู้ว่ามันใช้ไว้ทำอะไรรึมันควรต้องใช้ยังไง ! ” – เดฟ มองไปรอบๆด้วยท่าทีสงสัย

‘ ตอนแรกก็ไอ้ AI ตอนนี้ก็มาซวยอีก ‘

โจรนั้นโผล่มาจากไหนไม่รู้ก่อนจะทำการขโมยแล้วหายตัวไปในเวลาแค่เพียงพริบตาเดียว เขาไม่ทันได้เตรียมตัวเลยด้วยซ้ำ

เสียงหัวเราะเยาะเย้ยนี้เหมือนกับเสียงของไฮยีน่าแล้วมันขโมยของไปจากมือเขาได้ยังไง ? มันไม่น่าจะเป็นไปได้ในเกมนี้ !

ผู้เล่นไม่สามารถขโมยของจากผู้เล่นคนอื่นได้ โจรนั้นต้องเป็น NPC แม้ว่า เดฟ จะไม่เคยได้ยินว่า NPC นั้นขโมยของจากผู้เล่นก็ตาม อุปกรณ์และไอเท็มนั้นไม่สามารถที่จะถูกขโมยได้ แม้แต่ผู้เล่นที่มีอาชีพโจรก็ได้แต่ขโมยจาก NPC ไม่ใช่ผู้เล่น เขาสงสัยว่าเขาถูกใช้วิธีการอื่นนอกจากประกาศฆ่าแล้วคงเป็นประกาศให้ขโมยแต่มันไม่ได้มีแจ้งเตือนอะไรเลยสักนิด

‘ แล้วไอ้บ้านั่นยังเรียกฉันว่าเด็กน้อยอีก ! ‘

เขาเกือบที่จะสบถออกมาแต่ก็หยุดตัวเองไว้ได้ทัน มันทำให้เขารู้สึกดีขึ้นแต่สุดท้ายแล้วเขาก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้

เขามองไปที่ช่องเก็บของอีกครั้ง ไอเท็มทั้งหมดยังอยู่ดี แม้แต่เกราะ Doon Knight และไข่มังกรก็ด้วย เขาไม่ได้ต้องการเอาไข่ออกมาเผื่อว่าโจรจะกลับมาเอามันไปด้วย

เขาไปที่ธนาคารของเมืองแล้วเข้าไปที่กล่องเก็บของของเขา ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ทางธนาคารรึโจรนั้นไม่อาจจะเข้ามาในคลังนี้เพื่อเอาของของเขาไปได้

” อย่างน้อยฉันก็ยังมีเงิน แม้แต่เกราะกับอาวุธอันเดตก็ยังอยู่ที่นี่ “

เขาเดินไปที่ห้องประมูลเพื่อซื้อยา ยาจากดินแดนอันเดตนั้นดีกว่าและแพงกว่ายาทั่วไป ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะใช้มันในยามฉุกเฉิน

หลังจากที่ซื้อของเสร็จ เดฟ ก็ได้ตรวจสอบตัวละครของตัวเอง

***

ชื่อ : Death Stroke

เลเวล : 311

อาชีพ : Death’s Apostle

เผ่า : มนุษย์

Health : 431,200

Mana : 6,400+(275)

Stamina( ค่าแรง ): 3,120

Rage/Focus: 100

Intelligence 360 +(18)

Wisdom 410+(20.1)

Dexterity 360 (+18)

Agility 360 (+18)

Vitality 43,120

Strength 560 +(28)

Magic Absorbtion ( การดูดซับเวทย์ ) : 6,000

Damage Nullification ( ลดดาเมจ ) : 9,000

Immunity ( ต้านทาน ) : 30% +(1.5)%

HP Regen ( ฟื้นฟูเลือด ) : 0.1/sec +(0)

Mana Regen (ฟื้นฟูมานา) : 1.1/sec +(0)

Stamina Regen ( ฟื้นฟูแรง ) : 100 หน่วย/วินาที

Rage/Focus (ค่าโฟกัส/ความคลั่ง) : 1/วินาที

ฉายา : ฉันรู้ทุกอย่าง !

นักวางแผน !

เกียรติของอันเดต ! (ไม่สามารถใช้การได้ในตอนนี้ )

ผู้ถือโล่ !

ผู้สั่งการ !

ค่าสเตตัสที่ยังไม่ได้ใช้ 180 หน่วย

***

‘ หืม ไหนว่าเควสสืบทอดล้มเหลวแต่ทำไมฉันยังเป็นอาชีพเดิมอยู่อีก ?’

ผู้เล่นพากันเดินตามหลัง เดฟ ไปราวกับเด็กน้อยวิ่งตามรถไอศกรีม คำประกาศฆ่าบนหัวเขาได้ดึงความสนใจจากพวกนั้น ตาเขากระตุกอยู่ตลอดตอนที่ผู้เล่นกากๆมารวมตัวกันเป็นกลุ่ม พวกนั้นเลเวลน้อยกว่าเขาแต่เขารู้ว่าผู้เล่นเลเวลสูงอาจจะปรากฏตัวมาตอนไหนก็ได้

ตอนที่เขาเลือกวิ่งออกจากประตูเมืองไป เขาก็ได้วิ่งเข้าไปในป่าและตะโกนด่าราวกับคนบ้าใส่คนที่เข้ามาใกล้ มันมีมอนเตอร์มากมายในป่า พวกที่เลเวลต่ำไม่คิดที่จะไล่ตามเขาโดยเสี่ยงตัวเองให้มอนเตอร์ฆ่าตายตอนที่ไล่ล่าเขา

เดฟ ฮึดฮัดออกมาแล้วกระทืบพื้น เขาต้องระบายความหงุดหงิดนี้

ตาคู่สีแดงหลายคู่มอง เดฟ จากพุ่มไม้ เสียงของมอนเตอร์ในป่านั้นไม่ได้ทำให้ เดฟ นั้นสั่นไหวเลยแม้แต่น้อย เขาล่ะอยากกระทืบบางอย่างจริงๆ

และลึกเข้าไปในป่าในที่สุดเขาก็พบกับเป้าหมายที่จะใช้ระบายความโกรธ

[Ether Devouring Tree]

เลเวล : 320

ระดับ : Epic

ความอันตราย : ธรรมดา

HP : 320,000

ดาเมจ : 23,000-28,000

ลดดาเมจ : 16,000

ดูดซับเวทย์ : 12,000

สกิล :

{Sapling Throw : โยนต้นอ่อนใส่เป้าหมาย เมื่อปะทะนั้นจะทำดาเมจ 100% ต้นอ่อนที่ติดกับตัวเป้าหมายและระเบิดทำดาเมจ 120%}

{Ether Devouring Root : รัดเป้าหมายเอาไว้ 5 วินาที สำหรับทุกวินาทีที่เป้าหมายถูกตรึงไว้พวกเขาจะเสียเลือด 2% รากนั้นจะทำให้เกิดดีบัฟเพิ่มแรงของเป้าหมาย 20% เป็นการชดเชยเป็นเวลา 60 วินาที }

คำอธิบาย: มันคือต้นไม้กลายพันธุ์จากมนต์ดำ พวกมันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่หิวกระหายต่อสิ่งที่เป็นเวทย์

เดฟ ได้ใส่ดาบของ Death Knight และโล่ จากนั้นเขาก็ได้ใช้ {Stampede} พุ่งเข้าชนกับมอนเตอร์

แรงกระแทกนั้นทำให้ต้นไม้ต้องถอยกลับไป รากหลายส่วนของมันได้ติดเข้ากับตัว เดฟ เริ่มลดเลือดของเขาไป

[ ล้มเหลวในการใช้สตันท์ ! ]

ตอนที่การโจมตีของมอนเตอร์จบลง เดฟ ก็ได้ฟาดดาบตัดเข้าใส่รากอันหนึ่งของมัน หน้าของต้นไม้นั้นดูเจ็บปวดพร้อมกับมีของเหลวสีดำไหลออกมาจากราก

” นี่แหละสิ่งที่แกจะได้ ไอ้บ้า ! ” – เดฟ สบถออกมา

แต่ต้นไม้เฮงซวยนั่นไม่ได้รู้เรื่องอะไร เดฟ ต้องเจอกับผลของ {Ether Devouring Root} อีกรอบ เดฟ ไม่ต้องการใช้ {Undying Will} มันจะสำคัญว่าถ้าเอาไว้ใช้ในช่วงอื่น

[-8,990]

” น้อยเกินไป ! ” – เดฟ บ่นออกมา เขาก้าวหลบการโจมตีออกไปข้าๆและโจมตีเข้าใส่มันอีกครั้ง เดฟ ยังคงทำการโจมตีรอบตัวต้นไม้ต่อ, หลบหลีกการโจมตี, ตัดรากของมันและสุดท้ายผลของดาบในการทำลายเกราะก็ทำงาน

[-18,488]

” เอานี่ไปกิน ! เอ้า ! ” – เดฟ ตะโกนออกมาแล้วโจมตีใส่ต้นไม้ลดเลือดมันทีละนิดๆจนมีเศษไม้เน่ากระจายออกมาโดยรอบ

” และนี่ด้วย ! “

[-17,800]

” ฉัน ! “

[-18,488]

” เกลียด ! “

[-16,200]

” ต้นไม้ ! “

[-19,300]

” อีกอย่าง…”

…เขายังคงโจมตีต่อไปแม้ว่าต้นไม้นั้นจะตายไปแล้ว จนกระทั่งต้นไม้นั้นเหลือขนาดเท่ากับไม้จิ้มฟัน

***

มันมีภาพถ่ายหลายใบที่เกี่ยวข้องกับเกม Conquest กองทัพซ้อนกันราวกับหนังสือ หนึ่งในรูปรูปนั้นทำให้ทุกคนต้องหัวปั่น ในดินแดนที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ดาวแต่ละดวงนั้นไม่ใช่มีเพียงแค่แสงแต่ยังส่งเสียงออกมาได้ด้วย ดินแดนที่เต็มไปด้วยท่วงทำนองและเสียงอันไพเราะ วงแหวนของดินแดนแห่งนี้คล้ายกับคริสตัลที่ส่งเสียงอันไพเราะออกมา

ประตูสีทองตั้งอยู่ด้านบนของส่วนตัวเกม ประตูนั้นตั้งอยู่โดยไม่ได้เชื่อมต่อกับอะไรและไม่มีพื้นดินให้วางด้วย หากดูจากขนาดของประตูแล้ว มันเป็นไปไม่ที่จะคาดเดาได้ คัมภีร์ของทางโบสถ์นั้นบอกว่าประตูนี้สูงกว่าจุดสูงสุดของโลกและกว้างกว่าแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุด

เงาหนึ่งพุ่งไปอยู่ตรงหน้าประตูและยื่นมืออกมา มือนั้นขดลงกลับเป็นหมัดแล้วโจมตีไปที่ประตูแต่ด้วยหมัดเล็กๆที่ราวกับมดนี่กลับทำให้ประตูสั่นไหวและระเบิดออกมา

คลื่นพลังแผ่ตัวออกไปราวกับความร้อนปั่นป่วนสวรรค์แห่งด้วงดาว

” ใครกัน ! ” – เสียงหงุดหงิดดังขึ้นมาเหนือประตู

” เปิด ไอ้คนหลอกลวง ! “

” นาย ! เป็นไปไม่ได้ ! “

” แต่มันเป็นไปแล้ว ไอ้แก่ ! ตอนนี้ก็ปิดประตูนี่ได้แล้วรึให้ฉันฝ่าเข้าไป ! “

” ได้ ได้ ไอ้นักเลง ไม่เห็นต้องรีบอะไรเลย “

เสียงของเท้าเดินมาที่ประตู จากนั้นประตูที่เหมือนกับปิดตายก็ถูกเปิดออก แค่เพียงรอยแยกจากประตูเพียงเล็กน้อยก็มีแสงสีทองที่ว่างจ้าแผ่ออกมา

” นายไปหาอะไรจากผู้สร้าง ผู้สร้างความปั่นป่วน ? ” – เสียงทุ้มลึกดังขึ้นมารบกวนหมู่ดาวที่เพิ่งกลับคืนสู่ความสงบ

” ทำให้ช็อกได้ละกัน เดมิ แกไม่ใช่ผู้สร้าง แกเป็นเพียงแค่ช่าง “

” ฮึ่ม ! แกนี่มัน แกไม่มีสิทธิ—”

” หุบปากไปซะ ฉันจะให้ทางเลือกแก ฉันไม่ได้มาเล่นๆ ดูแลสาวกแกให้ดีๆไม่งั้นมีปัญหาแน่ เข้าใจมั้ย ? ” – มีดาบโผล่มาที่มือของเงานั้นและชี้ไปที่รอยแยกของประตูที่ Demiurge ยืนอยู่

” ได้ ฉันได้ยินแล้ว ตอนนี้ก็ไปซะ ฉันมีเรื่องสำคัญต้องทำ ! “

” ฉันได้ยินเสียงแกกรน ! “

ประตูสีทองปิดตัวลงพร้อมกับเสียงระเบิดก่อนจะทำให้หมู่ดาวสั่นไหวอีกครั้ง

เงานั้นหัวเราะขึ้นมาก่อนจะหายจากตรงนั้น