ตอนที่ 1785

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,785 : ปฐมเวทย์กลืนกิน

 

พอลองคิดดูก็สมควร…

 

ชายชราผู้นี้สมควรมีส่วนเกี่ยวข้องกับพื้นที่มรดกเวทย์พลังอย่างบึงไร้ก้นบี้งนี่…เช่นนั้นอีกฝ่ายจะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร!?

 

ถึงแม้ตัวตนระดับนี้จะสะกดพลังฝึกปรือเอาไว้ หากแต่ก็ยังมีข้อได้เปรียบมากมายนัก!

 

ประสบการณ์ทั้งเชิงยุทธ์ กระทั่งวรยุทธ์ที่ชายชราฝึกปรือมา ไม่ใช่อะไรที่ตัวตนขอบเขตเซียนขัดเกลาขั้นต้นจะเทียบได้!

 

ตอนนี้นับว่าเป็นโชคครั้งใหญ่ของต้วนหลิงเทียนแล้วจริงๆ ที่อีกฝ่ายไม่อาจใช้ปราณสุริยันแรกกำเนิดได้!

 

ต้องทราบด้วยว่าที่เขาสามารถฝ่าฟันบททดสอบพื้นที่มรดกเวทย์พลังในแดนลับเซียนมาได้จนถึงตอนนี้ ต้องยกความดีความชอบให้ปราณสุริยันแรกกำเนิดทั้งสิ้น

 

เพราะพลังอำนาจของปราณสุริยันแรกกำเนิดระดับเซียนขัดเกลาขั้นต้น มันไม่ได้ด้อยไปกว่าอริยะเซียนขั้นต้นแม้แต่น้อย!

 

“หืม? ความเร็วยังเพิ่มขึ้นได้อีก!”

 

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนฉากหลบการโจมตีจากฟ้าของชายชรา เขาก็พบว่าอีกฝ่ายสามารถปะทุความเร็วเปลี่ยนทิศทางติดตามมาลงมือต่อเนื่องได้อีกครั้ง!

 

ด้วยสำนึกเทวะที่แผ่ออกไปตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงรอบกายตลอดเวลา ทำให้ต้วนหลิงเทียนรู้ดีว่าปราณแรกกำเนิดในร่างของชายชรายังคงอยู่ในระดับเซียนขัดเกลาขั้นต้น ไม่ได้เพิมพูนขึ้นมาแต่น้อย!

 

กลับเป็นวรยุทธ์ท่าร่างนั่น! ที่ทำให้ความเคลื่อนไหวของชายชรารวดเร็วพลิกแพลงได้ถึงขนาดนี้!!

 

“ให้ตายเถอะ…ต่อให้เป็นวรยุทธ์เซียนระดับนภาโดดเด่น ก็ไม่มีทางทำให้เซียนขัดเกลาขั้นต้นบรรลุถึงความเร็วระดับนี้ได้!”

 

เจอกับความเร็วในการเคลื่อนไหวของชายชราตอนนี้ ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ

 

เพราะความเร็วที่ชายชราใช้ออกตอนนี้ น่ากลัวว่ากระทั่งเซียนขัดเกลาขั้นกลางยังยากจะจับได้ไล่ทัน!

 

หากต้วนหลิงเทียนไม่ได้อานิสงค์จากปราณสุริยันแรกกำเนิดที่ทำให้บรรลุความเร็วของอริยะเซียนขั้นต้น ไม่พ้นถูกชายชราทุบตีจนสิ้นสภาพไปนานแล้ว!

 

ที่สำคัญการลงมือของชายชราก็นับว่าเปิดหูเปิดตาเขาแล้วจริงๆ เพียงฝ่ามือที่เหมือนจะตบฟาดออกมาส่งๆ มิคาดกลับปะทุพลังออกมาได้อย่างมหาศาล ราวกับควบรวมผนึกพลังมาเนิ่นนาน! ไม่รู้ว่าที่แท้เป็นวิชาฝ่ามือเลิศล้ำอันใดกันแน่!!

 

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะพลังหรือความเร็วของชายชรา ก็ล้วนถูกพลังอำนาจของต้วนหลิงเทียนครอบงำไว้ได้หมดจด ไม่มีทางที่ชายชราจะทำร้ายต้วนหลิงเทียนได้เลย กระทั่งจะสัมผัสให้ถูกตัวเขายังเป็นไปไม่ได้!

 

เพราะในด่านพลังฝึกปรือทัดเทียมกัน ไม่ว่าจะความเร็วหรือพลังของต้วนหลิงเทียน ล้วนเหนือกว่าอีกฝ่ายถึง 1 ขอบเขตเต็มๆ ทั้งหมดคือความสามารถอันน่าสะพรึงของปราณสุริยันแรกกำเนิด!

 

เช่นนั้นเมื่อเจอกับชายชราที่มีวรยุทธ์ท่าร่างทั้งจู่โจมเลิศล้ำ หากแต่พลังฝึกปรือมีเพียงเซียนขัดเกลาขั้นต้น จึงไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับต้วนหลิงเทียนแม้แต่น้อย

 

“โชคดีนักที่คนที่ผ่านมาถึงบททดสอบนี้เป็นข้า…หากเป็นผู้ฝึกตนทั่วไปมาเจอบททดสอบครั้งนี้ คงยากที่ใครจะผ่านมันได้!”

 

ต้วนหลิงเทียนรู้เหตุผลที่ทำให้บททดสอบนี้กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาดี

 

หากให้เขาไร้ปราณสุริยันแรกกำเนิด แต่เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตอริยะเซียนขั้ยต้น น่ากลัวว่าคงแพ้พ่ายไปแล้ว

 

“อ่าว ทำไมนิ่งไปไม่ลงมือแล้วล่ะ?”

 

ทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียนพลันพบว่า ชายชราที่รุกไล่เขาเมื่อครู่อยู่ดีๆก็หยุดลง อีกฝ่ายยังหันมองเขาด้วยสายตาประหลาดใจเล็กน้อยค่อยกล่าว “สหายน้อย ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นผู้ที่ข้ากำลังรอคอยอยู่จริงๆ…หากเจ้ายังสามารถเอาชนะข้าได้หลังจากข้าใช้ ปฐมเวทย์กลืนกินแล้ว ข้าจักถ่ายทอดปฐมเวทย์กลืนกินให้เจ้า”

 

วาจาครึ่งประโยคแรกของชายชราต้วนหลิงเทียนไม่ได้สนใจอะไร

 

หากแต่ยามที่ชายชรากล่าววาจาถึงท้ายประโยค ลูกตาต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะหดเล็กหยีลง!

 

ข้าจะถ่ายทอดปฐมเวทย์กลืนกินให้เจ้า!?

 

คำนี้ของชายชรา ไม่ได้หมายความว่าปฐมเวทย์กลืนกินคือเวทย์พลังของอีกฝ่ายงั้นเหรอ?

 

‘หรือบึงไร้ก้นบึ้งนี่ จะเป็นพื้นที่มรดกที่อาวุโสผู้นี้ทิ้งไว้?’

 

จังหวะนี้หัวใจต้วนหลิงเทียนเต้นรัวขึ้นมาทันที

 

ถึงแม้เขาจะได้รับสืบทอดเวทย์พลังจากมรดกเวทย์พลังมาแล้ว 3 ชิ้น แต่ไม่มีชิ้นไหนเลยที่จะมีใครปรากฏตัวออกมาถ่ายทอดให้อย่างชายชรา กระทั่งแค่ทิ้งข้อความเสียงอะไรไว้ยังไม่มีด้วยซ้ำ!

 

ทว่าในบึงไร้ก้นบึ้งแห่งนี้ไม่เพียงแต่ชายชราจะปรากฏกายขึ้น ยังกล่าววาจากับปากตัวเองว่าจะถ่ายทอดปฐมเวทย์กลืนกินให้เขา หากเขาสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้!

 

เรื่องนี้จะไม่ให้ใจเขาเตลิดได้อย่างไร?

 

“หืม?”

 

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังตื่นเต้นจนใจเตลิด เขาก็พบว่าปราณสุริยันแรกกำเนิดของเขากลับมีที่ท่าว่าจะรั่วไหลออกมาจากร่างกายของเขาเอง ทั้งๆที่เขาไม่ได้โคจรใช้ออก

 

โชคดีที่เขาตอบสนองได้ทันเวลา สามารถรั้งพลังกลับคืนได้ทัน!

 

หาไม่แล้วปราณสุริยันแรกกำเนิดของเขา คงต้องหลั่งไหลออกไปนอกร่างอย่างไม่ทันรู้ตัว

 

หลังจากกลับมารู้สึกตัว ต้วนหลิงเทียนก็พบว่าบรรยากาศรอบกายชายชราเบื้องหน้าพลันเปลี่ยนไป

 

ความว่างเปล่ารอบกายชายชราเริ่มสั่นไหว ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนกลับกลายคล้ายวังวนมหึมาหนึ่ง

 

และวังวนมหึมาดังกล่าวก็เริ่มดูดกลืนพลังวิญญาณในฟ้าดินโดยรอบเข้าร่างอย่างไม่หยุดยั้ง!

 

“อะไรกัน! กลิ่นอายพลังของอาวุโสกำลังเพิ่มสูงขึ้น…!”

 

ด้วยสำนึกเทวะที่แผ่ออกไปตรวจสอบเรื่องราวอยู่ตลอด ต้วนหลิงเทียนย่อมสัมผัสได้ชัดเจนว่ากลิ่นอายพลังในร่างกายของชายชรากำลังเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ! สุดท้ายพอถึงระดับหนึ่งมันก็หยุดลง!!

 

ในขณะเดียวกันวังวนประหลาดรอบกายชายชราก็หายไป

 

วู้มมม!!

 

ทันใดนั้นเองความว่างรอบกายชายชราพลันสะท้านสะเทือนไปอีกครั้ง สนามพลังทรงกลมน่ากลัวขุมหนึ่งแผ่พุ่งออกมากินรัศมี 100 หมี่โดยยึดชายชราเป็นจุดศูนย์กลาง!

 

ที่ประหลาดก็คือกลิ่นอายพลังของปราณแรกกำเนิดในเขตแดนนี้ ไม่ใช่กลิ่นอายพลังของปราณแรกกำเนิดระดับเซียนขัดเกลาขั้นต้น!

 

มันกลับเป็นกลิ่นอายพลังของปราณแรกกำเนิดของเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุด!!

 

แน่นอนว่ากลิ่นอายพลังปราณแรกกำเนิดขอบเขตเซียนขัดเกลาขั้นสุงสุดของชายชรา ไม่อาจเทียบกับกลิ่นอายพลังปราณแรกกำเนิดของเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุดที่แท้จริงได้!

 

เหตุผลที่ไม่อาจเทียบได้นั้น เพราะแม้ระดับพลังจะทัดเทียม หากแต่เสถียรภาพของพลังกลับไม่มี! เพราะมันเป็นพลังอำนาจที่เพิ่มพูนขึ้นมาโดยมีฐานพลังแค่เซียนขัดเกลาขั้นต้นเท่านั้น!!

 

“บ้าน่า! นี่น่ะเหรอ พลังของปฐมเวทย์กลืนกิน!!”

 

เห็นฉากเรื่องราวเบื้องหน้าร่างต้วนหลิงเทียนถึงกับสะท้าน แผ่นหลังรู้สึกเสมือนมีไอเย็นแล่นผ่าน ยังอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ! นี่ทำให้เขาตื่นตระหนกแล้วจริงๆ!!

 

ปฐมเวทย์กลืนกินนั่น พริบตากลับดูดกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบมาแปรเปลี่ยนเป็นขุมพลังของตัวเอง…กระทั่งยังยกระดับพลังของเซียนขัดเกลาขั้นต้น ให้กลายเป็นเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุดได้ในช่วงเวลาสั้นๆ?!

 

เวทย์พลังนี่จะไม่น่ากลัวเกินไปหน่อยหรือไง!?

 

เขตแดนของชายรานั้น เป็นเขตแดนที่มีบรรยากาศอึมครึมลี้ลับ ในอาณาเขตเต็มไปด้วยหมอกพลังสีเลือด!

 

และเมื่อต้วนหลิงเทียนเพ่งมองไปในหมอกพลังสีเลือดที่ฟุ้งตลบทั่วเขตแดนของชายชรา เขาก็พบว่ามันมีอสรพิษน่ากลัวอยู่นับพันๆตัว!

 

อสรพิษน่ากลัวไม่เพียงแต่ซุ่มซ่อนอยู่ในหมอกพลังสีเลือดนั่น บางครั้งพวกมันยังสามารถพุ่งออกมานอกเขตแดนได้! ทว่าหลังจากเลื้อยเลี้ยวขดร่างไปมาครู่หนึ่ง มันก็พุ่งกลับไปซ่อนตัวในเขตแดน!

 

ฟู่ม!!

 

เสียงแหวกฝ่าสายลมฉับไวดังขึ้น ต้วนหลิงเทียนทราบได้ทันทีว่าชายชราที่ควบรวมสร้างเขตแดนเสร็จได้ลงมือแล้ว!

 

กลิ่นอายพลังของปราณแรกกำเนิดชายชราที่มีระดับเซียนขัดเกลาสูงสุดนั้น ต้วนหลิงเทียนยังสัมผัสได้ว่ามันกำลัง ส่อสัญญาณอ่อนโทรมลงเรื่อยๆ แม้กระบวนการเสื่อมถอยของพลังจะเชื่องช้าก็ตามที

 

‘ดูเหมือนว่าปราณแรกกำเนิดที่ยกระดับขึ้นมาด้วยปฐมเวทย์กลืนกินไม่อาจคงสภาพไว้ได้นานเท่าไหร่…และดูท่าอาวุโสคนนี้คงคิดใช้ประโยชน์จากปราณแรกกำเนิดขอบเขตเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุด ลงมือสยบข้าในกระบวนดียว!’

 

ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนเองก็จำต้องลงมืออย่างตั้งใจแล้ว

 

เพราะต้องกล่าวเลยว่ายามที่พลังของชายชราบรรลุถึงขอบเขตเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุด ความเร็วทั้งพลังนั่น เรียกว่ามันเหนือกว่าร้อยละเก้าสิบเก้าของผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุดที่เขาเคยพบเจอ!

 

อย่างไรก็ตาม ต้วนหลิงเทียนที่บรรลุถึงพลังและความเร็วของอริยะเซียนขั้นต้น ยังคงรับมือได้ไม่ยากเย็น!

 

ถึงแม้ตอนนี้ปราณแรกกำเนิดของชายชราจะเร่งพลังมาถึงเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุด

 

หากแต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ชายชราจะสำแดงความเร็วของเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุดที่แท้จริงออกมาได้ เพราะอย่างไรเสียฐานพลังของชายชราก็มีแค่เซียนขัดเกลาขั้นต้นเท่านั้น

 

ที่สำคัญ แม้อริยะเซียนขั้นต้นจะห่างจากเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุดแค่ขั้นเดียว ทว่ามันเป็น 1 ขั้นของอีกขอบเขต ความแตกต่างมันมากมายมหาศาลนัก ยังต่างมากกว่าเซียนขัดเกลาขั้นต้นกับเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุดเสียอีก…

 

เรียกว่าความแตกต่างระหว่างทั้งคู่ เสมือนห่างกันพันลี้!

 

เช่นนั้นแล้วต่อให้ชายชราจะใช้ปฐมเวทย์กลืนกินยกระดับพลังขึ้นมาทัดเทียมกับเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุด ก็ยังยากที่จะแตะถูกตัวต้วนหลิงเทียนได้!

 

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

 

……

 

แต่แน่นอนว่าตอนนี้ชายชราไม่ได้สู้ลำพัง ยังมีอสรพิษนับพันในเขตแดนของมันอีกด้วย เหล่าอสรพิษพยายามพุ่งออกจากหมอกพลังสีเลือดเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนไม่หยุด!

 

“เขตแดน?”

 

เผชิญหน้ากับเขตแดนของชายชรา ต้วนหลิงเทียนยกยิ้มบางๆ ปราณสุริยันแรกกำเนิดในร่างปะทุสูงขึ้นทันใด ก่อนที่สนามพลังน่ากลัวขุมหนึ่งจะแผ่กางขึ้นครอบคลุมไปทั่วร่างของเขา

 

เขตแดนหมื่นกระบี่!

 

ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!

 

……

 

อสรพิษนับพันหรือจะสู้กับสิบพันกระบี่! อสรพิษทั้งหลายล้วนถูกกระบี่พลังในเขตแดนหมื่นกระบี่ของต้วนหลิงเทียนสะกดเอาไว้จนสิ้นทาง ไม่อาจวาดลวดลายอะไรได้!

 

เขตแดนนั้นจะทรงอำนาจหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับปราณแรกกำเนิดที่จ่ายไปควบรวมสร้างทั้งสิ้น…

 

ด้วยความที่ปราณแรกกำเนิดของต้วนหลิงเทียนคือปราณสุริยันแรกกำเนิด เช่นนั้นเขตแดนที่เขาควบรวมจึงเปี่ยมล้นไปด้วยพลังอำนาจของขอบเขตอริยะเซียน ซึ่งเป็นอะไรที่สามารถบดขยี้พลังของเขตแดนเซียนขัดเกลาได้ทั้งมวล!

 

“หืม? พลังตกลงแล้ว?”

 

ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนพลันพบว่าปราณแรกกำเนิดในร่างของชายชราได้ตกลงไปอยู่ในขอบเขตเซียนขัดเกลาขั้นเชี่ยวชาญแล้ว!

 

“ได้เวลาจบเรื่องแล้ว…!”

 

ทันใดนั้นสองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเรืองวูบ หมื่นกระบี่ในเขตแดนพลันหลอมรวมสู่หนึ่ง! กลับกลายเป็นกระบี่พลังมีสภาพสีทองเล่มเขื่อง!!

 

มองไกลๆยังสว่างไสวคล้ายดวงตะวัน

 

ทันใดนั้น ต้วนหลิงเทียนที่คิดจบเรื่องราว ก็สะบัดฝ่ามือออกไปส่งๆ

 

กระบี่พลังมีสภาพสีทองที่ส่องแสงจ้าดั่งดวงตะวัน พลันหันเล็งไปทางชายชราทันที! พลังอำนาจปะทุออกแกร่งกล้า พุ่งแหวกฟ้าไปฉับไว หมายทะลวงร่างชายชราอย่างไร้ปราณี!

 

ทว่ามิคาด พริบตานี้เองชายชราพลันใช้ออกด้วยปฐมเวทย์กลืนกินอีกครั้ง! กลิ่นอายพลังที่ตกลงไปอยู่ในขอบเขตเซียนขัดเกลาขั้นเชี่ยวชาญเริ่มเพิ่มพุนขึ้นดว้ยความเร็วอัศจรรย์!!

 

ปราณแรกกำเนิดของชายชราพุ่งไปหยุดอยู่ที่เซียนขัดเกลาขั้นสูงสุดอีกครั้ง อนิจจาเมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่พลังมีสภาพสีทองที่ฉาบไว้ด้วยพลังอำนาจลี้ลับของยอดใจกระบี่ ชายชราย่อมไร้พลังอำนาจต้านทาน ปราณที่เร่งเร้ากางกั้นเป็นม่านพลังประหลาด กลับถูกกระบี่พลังมีสภาพทะลวงผ่านง่ายดายดั่งเยื่อกระดาษ กระบี่บินยังเสียบเข้ากลางอกทะลุออกแผ่นหลังไปได้อย่างง่ายดาย ร่างชราค่อยๆสลายหายไปในอากาศ…

 

“ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าบททดสอบสุดท้ายจะกลายเป็นอะไรที่ง่ายที่สุด…”

 

ตอนนี้ใจต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะคิดไปอย่างตื่นเต้นยินดี สะบัดมืออีกครั้ง กระบี่พลังมีสภาพสีทองที่พุ่งไปทะลวงร่างชายชราก่อนหน้าก็สลายหายไป ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนก็ลอยล่องขึ้นไปในอากาศด้วยรอยยิ้มยินดี

 

ก็จริง

 

ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในบึงไร้ก้นบึ้งแห่งนี้ แต่ละบททดสอบที่ผ่านกว่าจะมาถึงบททดสอบที่ 9 เรียกว่าลำบากไม่น้อย

 

ก่อนหน้านี้ในสายตาของต้วนหลิงเทียนบททดสอบที่ 9 สมควรเป็นอะไรที่ยากที่สุด

 

ตอนที่ยังไม่ได้เผชิญกับมันจริงๆเขายังอดหวั่นใจไปเสียไม่ได้ เพราะมีวูบหนึ่งที่ใจฉุกคิดไปว่าไม่รู้เขาจะสามารถผ่านบททดสอบที่ 9 นี้ได้หรือไม่…เขาจะเอาชนะชายชรานั่นและได้รับสืบทอดมรดกเวทย์พลังของพึงไร้ก้นบึ้งจริงหรือ?

 

ทว่าสุดท้ายแล้วเขาก็ผ่านมันมาได้สำเร็จ! กระทั่งยังผ่านมาได้อย่างง่ายดายที่สุด!!

 

แน่นอนว่าทั้งหมดทั้งมวลล้วนต้องยกความดีความชอบให้ปราณสุริยันแรกกำเนิด!

 

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นน่ากลัวว่าคงไม่มีทางผ่านได้แน่!

 

เรื่องนี้พอคิดดูก็สมควรเป็นเช่นนั้น!

 

‘บึงไร้ก้นบึ้งนี่น่ากลัวจริงๆ…ปฐมเวทย์กลืนกินของอาวุโสนั่นจะไม่ร้ายกาจเกินไปหน่อยรึไง! แถมดูเหมือนจะใช้ต่อเนื่องได้อีก…แบบนี้ปัญหาเรื่องระยะเวลาใช้งานไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลยรึไง?’

 

พอนึกถึงปฐมเวทย์กลืนกินที่ชายชราใช้ออก สองตาต้วนหลิงเทียนพลันทอประกายเจิดจ้าขึ้นมา ในใจยังเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอันยากระงับ