ตอนที่ 693 จะต้องโหดร้ายด้วย

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าว่าเจ้าเข้าใจอะไรผิดไปแล้วกระมัง ข้าไม่ได้วางยาพิษเจ้า พิษเหล่านั้นในร่างกายเจ้า ข้ามอบให้กับอาจารย์เจ้า เป็นหนังสือท้ารบกับตาเฒ่าประหลาดแห่งหุบเขาหมอเทวดาผู้นั้น”

ทุกคนต่างก็ตกตะลึงขึ้น หนังสือท้ารบส่งให้กับท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดา!

สาวน้อยผู้นี้ช่างอวดดีเกินไปแล้ว ต้องรู้เอาไว้ก่อนว่าท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดานั้นเป็นถึงยอดปรมาจารย์นักปรุงยาเชียวนะ

“นี่เจ้า! ท่านอาจารย์ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ หุบเขาหมอเทวดาไม่ปล่อยเจ้าเป็นแน่” อวี้เหลียนชิงกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว

“สาวน้อย เอาหม้อพิษสามอสูรออกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!” ผู้ที่ช่วยอวี้หลียนชิงผู้นั้น แน่นอนว่าเขาไม่วางใจเป็นอย่างมากที่จะให้หม้อพิษสามอสูรตกไปอยู่ในมือมู่เฉียนซี ดังนั้นเขาจึงส่งคนออกไปแย่งชิงมันกลับคืนมา

“อู๋ตี้ผู้ไร้เทียมทาน หนึ่งเดียวในใต้หล้า พวกเจ้ากล้าแตะต้องนายท่านของข้าก็ลองดู!”

“เพลิงเผาสวรรค์!”

ชิงอิ่งกวาดล้างศัตรูที่อยู่รอบ ๆ ผู้ที่พลังวิญญาณต่ำกว่าขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งนั้นถูกชิงอิ่งฆ่าภายในชั่วพริบตาเดียว

มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสองทำได้เพียงแค่ฝืนใจต่อสู้กับชิงอิ่ง ส่วนระดับสามก็เช่นกัน

มู่เฉียนซีก็ประหลาดใจเช่นกัน หลังจากที่ชิงอิ่งตื่นขึ้นมาในครานี้ กำลังยุทธ์ของเขานั้นก็เพิ่มขึ้นรุนแรงมาก ตอนนี้นางมีชิงอิ่งอยู่ในมือ จะต้องกวาดล้างพวกคนสารเลวของหุบเขาหมอเทวดาเหล่านี้ได้แน่นอน

ชิงอิ่งเก่งกาจเช่นนี้ คนของหุบเขาหมอเทวดาก็ไม่กล้าที่จะลงมือกับมู่เฉียนซีแล้ว ทำได้เพียงแค่จ้องมองมู่เฉียนซีด้วยความโกรธแค้น

กองกำลังสนับสนุนของหุบเขาโอสถก็ได้มาถึงแล้ว และยิ่งทำให้ไม่มีศัตรูคนไหนว่างมาต่อกรกับมู่เฉียนซี

ตอนนี้หอโอสถยังอยู่ในอากาศ มู่เฉียนซีเอายาขวดหนึ่งออกมา

ต้องลองดูแล้ว นางทุ่มทั้งแรงกายแรงใจปรุงยานี้ออกมา ดูสิว่าจะได้ผลหรือไม่

มู่เฉียนซีกล่าว “ชิงอิ่ง พาข้าไปบนอากาศ ไปที่หอโอสถนั่น”

ชิงอิ่งดึงมู่เฉียนซีพุ่งขึ้นไปในอากาศอย่างไม่รีรอ ทันทีที่มู่เฉียนซีเข้าไปใกล้หอโอสถ ก็ถูกหอโอสถรับเข้าไปด้านในทันที

“คนงาม คนงาม!” เสียงของเสี่ยวเย่าดังขึ้น

“เอ่อ…เจ้าหลอมยาสวรรค์ว่านหลิงได้แล้วใช่หรือไม่ ข้าจะเอา…” พลังของยาในแสงสว่างนั้นทำให้มันรู้สึกสบายมาก แต่มันยังไม่พอ!

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าไม่ได้หลอมยาสวรรค์ว่านหลิง เจ้าก็รู้ดีว่าพลังของข้าไม่สามารถหลอมยาสวรรค์ว่านหลิงได้”

เสี่ยวเย่ากล่าว “เป็นไปไม่ได้ แสงของรุ้งเจ็ดสีนั่น พลังของยานั่นเข้ากับข้าพอดีอย่างไม่อาจเปรียบได้ มันต้องเป็นยาสวรรค์ว่านหลิงแน่นอน”

“มันไม่ใช่ยาสวรรค์ว่านหลิงจริง ๆ แต่มันเป็นยาแผนปัจจุบัน (ยาน้ำ) ที่ข้าปรุงขึ้นมา!”

มู่เฉียนซีเอายาน้ำสีเขียวอ่อนออกมา ทันทีนางเปิดขวดยา เสี่ยวเย่าก็ตื่นเต้นขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง

“มันคือสิ่งนี้ พลังเช่นนี้ ข้าต้องการ…”

“คนงามเจ้าเก่งกาจเกินไปแล้ว ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ได้หลอมยาสวรรค์ว่านหลิง แต่พลังของยานี้ก็เหมือนกัน รีบเอามาให้ข้า!”

มู่เฉียนซีกล่าว “ได้ ข้าให้เจ้า!”

มู่เฉียนซีส่งขวดยานี้ไป หอโอสถรับไว้ด้วยความดีใจ จากนั้นก็ดูดซับพลังของยานั้นไป

“ข้าจะเอาอีก เอาอีก!” ยาขวดเล็กขวดเดียวไม่พอแน่นอน หลังจากที่ดูดซับไปหมด เสี่ยวเย่าก็กลายเป็นหอโอสถตะกละทันที

มู่เฉียนซีกล่าว “ตอนนี้ด้านนอกวุ่นวายมาก รอหลังจากที่สถานการณ์กลับมาสงบ ข้าจะปรุงเพิ่มให้เจ้าอีก”

เสี่ยวเย่ากล่าว “จะทำให้สงบนั้นไม่ยาก เมื่อข้าได้ดูดซับพลังเข้าไปแล้ว ข้าพอมีกำลังอยู่บ้าง ข้าสามารถทำให้พวกสารเลวกลุ่มนี้ออกไปจากหุบเขาโอสถได้ พวกมันจะไม่ต้องทำให้เจ้ารำคาญ!”

“กล้ามาแย่งชิงข้าไป แกว่งเท้าหาเสี้ยนจริง ๆ!”

“กล้าใช้หม้อพิษสามอสูรหลอกล่อข้าออกมา รนหาที่ตาย!”

ทันทีที่กล่าวจบ แสงสีขาวก็ได้ห่อหุ้มหุบเขาโอสถเอาไว้ หอโอสถจงเกลียดจงชังคนหุบเขาหมอเทวดามาก ดังนั้นพวกเขาจึงถูกพลังของหอโอสถโจมตีจนกระเด็นออกไป อีกทั้งยังร่วงตกลงมาจากกลางอากาศอีกด้วย!

ปัง ปัง ปัง! คนของหุบเขาหมอเทวดาถูกโยนออกไปจากหุบเขาโอสถแล้ว และหุบเขาโอสถก็กลับมาสงบอีกครั้ง

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินตกใจผงะไปครู่หนึ่ง “นายท่านหอโอสถลงมือแล้ว”

“พลังของนายท่านหอโอสถฟื้นกลับมาแล้วงั้นเหรอ ?”

“เสี่ยวซีหลอมยาสวรรค์ว่านหลิงสำเร็จแล้ว แล้วตอนนี้นางอยู่ไหนล่ะ ?”

“……”

เมื่อพบว่านางไม่อยู่ พวกเขาก็รู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก

“คุณหนูมู่คงจะไม่โดนคนของหุบเขาหมอเทวดาจับตัวไปแล้วกระมัง!”

“ตามไป!” หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินร้อนรนใจเป็นอย่างมาก

มู่เฉียนซีรีบให้เสี่ยวเย่าส่งนางออกไป เพื่อไม่ให้หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินตามไปโจมตีคนของหุบเขาหมอเทวดาเหล่านั้น

มู่เฉียนซี “ข้าไม่ได้ถูกเขาจับตัวไป เมื่อครู่ข้าก็เพียงแค่เข้าไปในหอโอสถก็เท่านั้น”

“เยี่ยมไปเลย!”

“ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”

“……”

พวกเขาก็ถอนหายใจออกด้วยความโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง

ครั้งนี้ที่หุบเขาหมอเทวดาลอบโจมตีอย่างกะทันหันทำให้พวกเขาตั้งตัวรับไม่ทัน อีกทั้งพวกเขายังมีหม้อพิษสามอสูรอีก หุบเขาโอสถแทบจะรับมือเอาไว้ไม่อยู่

โชคดีที่แสงรุ้งเจ็ดสีนั้นปรากฏขึ้น โชคดีที่พลังของหอโอสถฟื้นฟูกลับมาแล้ว มิเช่นนั้นเกรงว่าหุบเขาโอสถของพวกเขาคงจะถูกข้าศึกยึดเป็นแน่

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินได้สั่งให้ผู้อาวุโสบางคนกอบกู้สถานการณ์กลับมาเป็นดังเดิม จากนั้นก็ได้ไปพูดคุยกับมู่เฉียนซี

“เสี่ยวซี ครั้งนี้ทำให้เจ้าตกใจแล้ว”

“หัวหน้าหุบเขาเวินเหริน หยุดขอโทษขอโพยข้าได้แล้ว ท่านมีสิ่งใดจะถามข้าก็ถามมาตรง ๆ เถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าว

“เจ้ากลายเป็นยอดปรมาจารย์นักปรุงยาจริง ๆ แล้ว เจ้าหลอมยาสวรรค์ว่านหลิงออกมาได้แล้ว” หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินกล่าวด้วยความตื่นเต้น

“หัวหน้าหุบเขาเวินเหริน ท่านก็รู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้มันค่อนข้างซับซ้อน…” มู่เฉียนซีได้เล่าเรื่องยาแผนปัจจุบัน (ยาน้ำ) ให้กับหัวหน้าหุบเขาเวินเหรินฟังไปรอบหนึ่ง

“นึกไม่ถึงว่ายาแผนปัจจุบัน (ยาน้ำ) จะมีประสิทธิภาพเช่นนี้ แต่ไหนแต่ไรมาข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน” แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ทำให้เขาต้องเชื่อว่ามียาที่วิเศษเช่นนี้อยู่

มู่เฉียนซีกล่าว “ยาขวดเดียวแน่นอนว่ามันไม่พอ ข้าจะต้องปรุงเพิ่มอีกสักหน่อย”

“วันนี้เจ้าเหนื่อยมามากแล้ว พักผ่อนก่อนเถอะ!”

มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่เป็นไร! เจ้านั่นตะกละยิ่งนัก หากปล่อยให้มันรอนาน มันจะโกรธเอาได้ หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินก็คงจะไม่อยากจะเห็นเช่นนั้นหรอกกระมัง!”

“เช่นนั้นเจ้าก็อย่าได้เหนื่อยเกินไปก็แล้วกัน!”

หลังจากที่มู่เฉียนซีไป ร่างสีเขียวก็เคลื่อนไหวไปมา ชิงอิ่งนั้นได้ตามมู่เฉียนซีออกไป

หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินตกใจผงะไปครู่หนึ่ง และกล่าวเสียงต่ำว่า “เมื่อครู่มีคนอยู่ด้านหลังเสี่ยวซีเหรอ!”

ชิงอิ่งนั้นได้อยู่ด้านหลังของมู่เฉียนซีตลอด แต่ด้วยพลังที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ของเขานั้น เขาสามารถทำให้ตนเองกลายเป็นเงาตามหลังมู่เฉียนซีได้ คนปกติทั่วไปยากที่จะค้นพบ

หลังจากที่มู่เฉียนซีได้ทุ่มเทปรุงยามาหลายวัน ในที่สุดก็ได้ทำให้หอโอสถอิ่มท้องแล้ว

“เพียงพอแล้ว! เพียงพอมากแล้ว!” เสี่ยวเย่ากล่าวอย่างมีความสุข

“คนงาม เจ้ายอดเยี่ยมยิ่งนัก”

“คนงาม ต่อจากนี้ไป หากเจ้ามีสิ่งใดให้ข้าช่วยก็บอกข้าได้เลยนะ ข้าจะช่วยเจ้าทุกอย่างเลย แต่เพราะว่าเจ้าไม่ได้หลอมยาสวรรค์ว่านหลิง ดังนั้นสมุนไพรวิญญาณอีกครึ่งหนึ่งข้าไม่อาจให้เจ้าได้ ต้องขอโทษเจ้าจริง ๆ”

“ฮือ ฮือ ฮือ! เจ้าปรุงยาที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ช่วยข้า แต่หออย่างข้าไม่รู้จัก ต้องโทษผู้สร้างในตอนนั้นที่แก่โบราณเกินไป แม้กระทั่งยาน้ำก็ไม่รู้จัก”

เสี่ยวเย่าเป็นกลไกวิญญาณ ไม่สามารถแก้ไขกฎของหอโอสถได้

มู่เฉียนซีคิดไปคิดมา และได้กล่าวขึ้นว่า “เมื่อได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้ ข้าก็รู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบแล้ว หากเจ้าชดเชยให้ข้าได้ก็คงจะดี”

เสี่ยวเย่ากล่าว “คนงาม เจ้าบอกมาเลย ขอเพียงแค่ข้าทำได้ ข้าจะรับปากเจ้าทันที”

มู่เฉียนซีกล่าว “ที่สำนักศึกษาซวนเสียของข้ามีนักเรียนอยู่กลุ่มหนึ่ง ปกติแล้วเวลาจะฝึกฝนข้าก็ไม่ค่อยได้ชี้แนะพวกเขาสักเท่าไหร่ จึงเตรียมจะโยนพวกเขามาฝึกที่นี่ เจ้าคิดเช่นไร ?”

“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน ตอนนี้ข้ามียาที่เพียงพอแล้ว จะเปิดการคัดเลือกอีกครั้งก็ไม่มีปัญหา ข้าจะฝึกฝนพวกเขาแทนเจ้าเอง” เสี่ยวเย่ากล่าว

เป็นเพราะว่าพลังของหอโอสถไม่เพียงพอ จึงได้เปิดการคัดเลือกแค่ปีละครั้ง แต่ตอนนี้เพียงพอแล้ว และไม่จำเป็นต้องรอนานเช่นนั้น

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ต้องโหดร้ายด้วยนะ!”

“คนงามเป็นถึงอัจฉริยะเหนือชั้น หากนักเรียนของเจ้าไม่เก่งกาจ ข้าเองก็ต้องโกรธเป็นแน่ และหากข้าโกรธขึ้นมา ข้าก็จะสั่งสอนพวกเขาอย่างโหดร้ายแน่นอน จะไม่ทำให้พวกเขาต้องทำให้คนงามต้องอับอายขายหน้าแน่นอน ดังนั้นเจ้าวางใจเถอะ!”

นักเรียนบางคนที่อยู่ไกลโพ้นอย่างสำนักศึกษาซวนเสียตอนนี้ก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นทันใด คล้ายกับว่ามีกำลังมีเรื่องที่น่ากลัวจะเกิดขึ้นก็มิปาน

“คุณหนูมู่ ท่านหัวหน้าหุบเขาเวินเหรินให้มาเชิญขอรับ” หลังจากที่มู่เฉียนซีพูดคุยกับหอโอสถเสร็จ ก็มีคนมารายงาน