บทที่ 578 เรามาพนันกัน

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

หลังจากที่ฮาชิโมโตะ คันนะเคาะประตู ประตูของโบสถ์ก็ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว บาทหลวงคนหนึ่งได้ยื่นหน้าออกมา จ้องมองเย่เทียนด้วยสีหน้าที่เย็นชา จากนั้นก็หันไปมองฮาชิโมโตะ คันนะ ถึงยอมหลีกทางให้

ฮาชิโมโตะ คันนะถลึงตาใส่เย่เทียน จากนั้นก็ชิงพุ่งเข้าไปข้างในก่อน

เย่เทียนบีบๆ จมูก แล้วรีบตามเข้าไปข้างใน

พอเข้าไปในโบสถ์ ทัศนวิสัยก็ดีขึ้นมาก บาทหลวงที่ทำหน้าเย็นชาคนนั้นได้ปิดประตูลง จ้องมองเย่เทียนด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจ ใช้หางตาเหลือบมองฮาชิโมโตะ คันนะไปทีหนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบซ่านว่า

“เขาเป็นใคร? ไม่น่าจะเป็นคนของเราใช่มั้ย?”

“ตอนนี้ยังไม่เป็น”

เห็นได้ชัดว่าฮาชิโมโตะ คันนะค่อนข้างคุ้นเคยกับที่นี่ ดูไม่ค่อยแปลกใจกับการตอบสนองของบาทหลวงสักเท่าไหร่ เบ้ปากแล้วพูดไปว่า “ฉันเจอเขาระหว่างทาง บอกว่าอยากเข้าร่วมกิลด์แห่งความลับของเราน่ะ”

“เข้าร่วมกับพวกเรา?”

สายตาที่หยั่งลึกของบาทหลวงนั่นก็เป็นประกายขึ้นมา แล้วสายตาก็จ้องเขม็งไปที่เย่เทียน

เย่เทียนก็ยังไม่กลัวเหมือนเดิม จ้องมองบาทหลวงด้วยสายตาที่เรียบเฉย

แต่ว่า หลังจากที่ทั้งสองจ้องตากันไปหายวิ สุดท้ายบาทหลวงก็ได้ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น และยอมแพ้ที่จะสู้ตากับเย่เทียนแล้ว

เย่เทียนไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ภาพที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ในใจของฮาชิโมโตะ คันนะเกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้น ไม่รู้ว่าทำไมบาทหลวงถึงเลือกที่จะหลบตาไปเอง

ต้องรู้ว่า ในทางปฏิบัตินั้น กิลด์แห่งความลับไม่ใช่แก๊ง แต่เป็นกลุ่มของนักฆ่าจากทั่วทุกมองโลกที่มารวมตัวกันเท่านั้น!

ไม่ว่าใครก็ไม่อยากมีเรื่องกิลด์แห่งความลับแน่นอน!

เพราะว่า นั่นมันเป็นการไปหาเรื่องกับนักฆ่าจากทั่วโลก เหล่านักฆ่าก็จะตามไปถึงบ้างเหมือนตั๊กแตนอย่างไม่หยุดหย่อนถ้านักฆ่าไม่ตาย ก็เป็นเป้าหมายนี่แหละที่จะตาย มันจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่ตายไม่เลิกอย่างแน่นอน!

แค่คิดก็รู้แล้ว การที่บาทหลวงคนนี้ได้กลายเป็นคนเฝ้าประตูของที่ทำการสาขาแห่งกิลด์แห่งความลับนั้น จะเป็นคนที่เก่งขนาดไหนกัน?

บาทหลวงคนนี้ไม่เพียงมีความสามารถในการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา ความสามารถในการมองคนก็อยู่เหนือคนทั่วไปเหมือนกัน

แต่ว่าทำไม ตอนที่กำลังสบตากับเย่เทียนนั้นเขากลับเลิกที่จะถอยก่อน แล้วมันจะไม่ให้ฮาชิโมโตะ คันนะตกใจได้ยังไงล่ะ!

“ไอหมอนี่มันแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ? แม้แต่บาทหลวงยังกลัว?”

ฮาชิโมโตะ คันนะรู้สึกสับสนอย่างถึงที่สุด พอนึกถึงตอนก่อนหน้าที่พบกับเย่เทียน ในใจทั้งอายทั้งโกรธ

เย่เทียนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นบททดสอบ เขาได้ยักไหล่อย่างไม่คิดอะไร และยังคงยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับบาทหลวงคนนี้แม้แต่น้อย

“เข้าไปได้!”

บาทหลวงยื่นมือชี้ไปยังรูปแกะสลักของพระเยซูที่อยู่กลางโบสถ์ แล้วพูดเตือนไปว่า “ถ้าอยากเข้าร่วมกิลด์แห่งความลับอย่างเป็นทางการ จำเป็นต้องผ่านบททดสอบสามอย่าง ขอให้โชคดี!”

ฮาชิโมโตะ คันนะรีบระงับความตกใจที่อยู่ข้างในไว้ ชิงนำหน้าเดินไปยังรูปแกะสลักของพระเยซูก่อน

เย่เทียนกวาดตามองบาทหลวงอย่างสบายๆ ดวงตาสีดำคู่นั้นได้ส่องประกายเยือกเย็นออกมาอย่างกะทันหัน

บาทหลวงเกิดตกใจขึ้นมาทันที รู้สึกเหมือนถูกงูพิษตัวหนึ่งจับจ้อง จนต้องถอยหลังไปเองสองก้าว และถึงขั้นสะดุ้งไปหลายครั้ง

พอเย่เทียนได้เห็นอย่างนั้น ก็ได้เบ้ปากอย่างดูถูก ไม่อยากสนใจบาทหลวง เดินตามฮาชิโมโตะ คันนะไปยังรูปแกะสลักของพระเยซู

“ไอ้หมอนี่ แก่งมาก!”

ระหว่างมองดูแผ่นหลังของเย่เทียนที่ไกลไปเรื่อยๆ บาทหลวงก็ได้พึมพำกับตัวเอง เพียงสบตากับเย่เทียนไม่กี่วิ เขาก็ตื่นกลัวจนเหงื่อออกเต็มหลังแล้ว

ฮาชิโมโตะ คันนะนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ระหว่างที่เดินอยู่ข้างหน้าก็ได้หันหลังมามองเป็นพักๆ ดวงตาสวยๆ เต็มไปด้วยความสงสัย ไอ้หมอนี่มันมีดีอะไรกันแน่ ถึงทำให้บาทหลวงยอมถอยไปแบบนั้น?

“เมื่อกี้นายทำอะไร? ทำไมบาทหลวงถึงดูกลัวนายขนาดนั้น?”

เย่เทียนขยี้จมูก แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ “ฉันทำอะไรเหรอ? เมื่อกี้เธอก็ดูอยู่ตลอดไม่ใช่รึไง?”

ฮาชิโมโตะ คันนะมองบนใส่เขาด้วยความรังเกียจ แต่เมื่อเย่เทียนไม่อยากอธิบาย เธอก็ยากที่จะถามต่อ

ทั้งสองมาถึงใต้รูปแกะสลักพระเยซูอย่างรวดเร็ว เห็นฮาชิโมโตะ คันนะกดไปที่ขาของรูปแกะสลักทีหนึ่ง แล้วมีทางเดินที่ไว้เดินไปข้างล่างเปิดออก

ฮาชิโมโตะ คันนะก็ยังคงเป็นคนแรกที่เดินนำไปก่อน เดินไปพูดไปว่า “อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ หลายคนที่อยู่ข้างล่างค่อนข้างเกรี้ยวกราด อีกเดี๋ยวทางที่ดีนายอย่าก่อเรื่องจะดีกว่า ถ้าไปทำให้พวกนั้นโกรธเข้า ต่อให้น้าเล็กของฉันออกหน้ามันก็ช่วยนายไม่ได้อยู่ดี!

ไม่ใช่ว่าฮาชิโมโตะ คันนะเป็นห่วงเย่เทียนหรอก แต่เป็นเพราะถ้าเย่เทียนเกิดก่อเรื่องขึ้นมาจริง ถึงตอนนั้นเธอก็ไม่มีโอกาสได้แก้แค้นกับมือแล้ว!

“เกรี้ยวกราดอย่างนั้นเหรอ?”

เย่เทียนพูดพร้อมยักไหล่ “ฉันรู้สึกว่าบาทหลวงเมื่อกี้เป็นคนดีเลยนะ!”

ยังไม่ทันที่ฮาชิโมโตะ คันนะจะได้พูด เย่เทียนก็ได้ส่ายหน้าอีกครั้ง “ช่างเถอะ ยังไงนิสัยของฉันก็ไม่ได้ดีเด่อะไร ถ้าพวกเขาไม่มาหาเรื่องฉัน ฉันก็ไม่มีทางไปหาเรื่องพวกเขาก่อนหรอก แต่ถ้ามีใครที่มันไม่เจียมตัว ฉันก็ไม่มีทางยืนให้กระทืบอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ”

ฮาชิโมโตะ คันนะส่ายหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ ยังไงเธอก็ได้เตือนไปแล้ว ถ้าลงไปแล้วเย่เทียนเกิดรนหาที่ตาย งั้นเธอก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว

พอเห็นเด็กสาวไม่พูดอะไร เย่เทียนก็ชวนเปลี่ยนเรื่อง “เมื่อกี้บาทหลวงนั่นพูดถึงบททดสอบสามอย่างใช่มั้ย แล้วมันเป็นการทดสอบแบบไหนล่ะ?”

“สู้กันจนตาย!”

ฮาชิโมโตะ คันนะเหลือบมองเย่เทียนอย่างขบขัน แล้วเปล่งเสียงออกมาจากทางซอกฟันสองพยางค์

“ง่ายๆ แค่นี่เองเหรอ?”

เย่เทียนตกใจ แล้วเผยรอยยิ้มที่ลึกซึ้งออกมา “แต่ว่า ฉันก็ชอบนะ!”

พอเห็นท่าทางที่องอาจของเย่เทียน ฮาชิโมโตะ คันนะก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ถึงไอ้หมอนี่จะบ้าบิ่นไปหน่อย แต่เขาก็เก่งพอที่จะบ้าบิ่นล่ะนะ!

“อีกเดี๋ยวนายน่าจะได้ทำการสู้อย่างถึงตายสามครั้ง โดยต้องสู้กับนักฆ่าเหรียญทองแดง นักฆ่าเหรียญเงินและนักฆ่าเหรียญทอง”

ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ฮาชิโมโตะ คันนะก็ยังอธิบายกับเย่เทียนอยู่ดี “แต่ว่า ถ้านายสามารถชนะการต่อสู้ในตาแรกไปได้ นายก็มีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้าเป็นสมาชิกกิลด์แห่งความลับของเราแล้ว”

“การต่อสู้อีกสองครั้งที่เหลือ นายสามารถเลือกที่จะสู้หรือไม่ก็ได้ มันต่างกันก็แค่ระดับนักฆ่าที่นายจะได้เป็นเท่านั้น”

“แต่ว่านะ ฉันแนะนำให้นายอย่าประมาท พวกที่อยู่ข้างล่างนั่นไม่มีใครที่เป็นคนธรรมดาเลย!”

เย่เทียนถามด้วยความอยากรู้ “แล้วเธออยู่ระดับไหนเหรอ?”

“ฉันเหรอ?”

ฮาชิโมโตะ คันนะตอบไปตามตรง “ฉันเป็นนักฆ่าเหรียญทองแดง จนถึงตอนนี้ฉันชนะไปได้แค่ครั้งเดียว”

ถึงจะบอกว่าเป็นระดับต่ำสุด แต่ฮาชิโมโตะ คันนะก็ไม่ได้แสดงสีหน้าที่เขินอายเลย แถมยังเหมือนจะดูภูมิใจอีกด้วย

ยังไงซะ ตอนนี้เธอเพิ่งอายุเท่าไหร่? การที่สามารถเอาชนะสมาชิกของกิลด์แห่งความลับได้คนหนึ่ง มันก็มากพอที่จะทำให้ภูมิใจได้แล้ว

เย่เทียนเบ้ปาก แล้วพูดเยาะเย้ยอย่างไม่ไว้หน้าว่า “เป็นแค่ระดับเหรียญเงินเองเหรอ? อ่อนขนาดนั้นเลย?”

“อ่อนเหรอ? แน่จริงนายก็ลองชนะทั้งสามตาให้ได้สิ!”

ไฟแห่งโทสะที่ดับลงของฮาชิโมโตะ คันนะก็ได้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง

“มันมีอะไรยากเหรอ?”

เย่เทียนพูดอย่างขบขันว่า “ไม่งั้นเรามาพนันกันหน่อยมั้ย? ถ้าฉันแพ้จะยอมทำตามที่เธอบอกอย่างหนึ่ง!”

“ได้! ถ้านายชนะสามตาติด ฉันก็จะทำตามที่นายบอกอย่างหนึ่งเหมือนกัน!”

ฮาชิโมโตะ คันนะถูกยุจนหน้ามืด ถึงเธอจะรู้ว่าเย่เทียนไม่ธรรมดา แต่เธอเชื่อยิ่งกว่าว่าเย่เทียนจะไม่ชนะสามครั้งติดแน่นอน!

เย่เทียนหัวเราะคิคิ “เรื่องอะไรก็ได้เหรอ?”

“ใช่! เรื่องอะไรก็ได้!”

ฮาชิโมโตะ คันนะทำเสียงฮึดฮัด “อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ ผู้ชายอย่างพวกนายก็คิดอยู่แค่เรื่องใต้สะดือไม่ใช่รึไง?”

พูดอย่างนั้นออกมา เย่เทียนก็แทบสำลัก เด็กนี่อายุเท่าไหร่? ทำไมในหัวถึงมีแต่เรื่องแย่ๆ แบบนี้เนี่ย?

แต่ว่า ฉันชอบนี่!