ตอนที่ 923 ความกังวลที่หาคำตอบไม่ได

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

ที่ค่ายตวนตวนเจียงเหว่ยยังคงยืนอยู่ตรงหน้าต่างบนห้องในตึกที่สูงสุดภายในค่ายตวนที่เขาเคยคุยกับหลูชูซเวครั้งที่แล้ว ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เขามักจะทำ หลังจากจัดการกับกิจการภายในที่แสนวุ่นวาย ตวนเจียงเหว่ยมักจะชอบมายืนที่ตรงนี้เพื่อมองดูทั้งค่ายของเขา
  การพัฒนาของค่ายเขาเริ่มเข้าสู่ระยะที่ช้าลงและมันเป็นไปไม่ได้ที่จะพัฒนาขึ้นในอนาคตอันใกล้เพราะพวกเขาพัฒนาไปไกลจนเกือบจะถึงขีดสุดแล้วดังนั้นสิ่งที่ตวนเจียงเหว่ยทำได้ในตอนนี้จึงเป็นการมองภาพรวมของค่ายและพยายามหาหนทางในการขยายค่ายตวน
  ทว่าวันนี้บางอย่างที่ผิดแปลกไปอย่างมากได้เกิดขึ้น ชาวบ้านของค่ายจู่ๆก็วิ่งวุ่นกันออกมาจากบ้านของตัวเอง รวมกันอัดแน่นอยู่บนถนนอย่างแตกตื่น
  ”ท่านพลเอกครับ!”ท่ามกลางความเงียบในห้องที่ตวนเจียงเหว่ยยืนอยู่ หลูชูซเวก็วิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนกโดยไม่สนใจสีหน้าเรียบนิ่งที่กำลังอยู่ในความสงบของตวนเจียงเหว่ย “ชูฮันยังไม่ตายจริงๆ เขา…”
  พูดมาถึงตรงนี้หลูชูซเวก็ชะงักเพราะว่าตรงหน้าของเธอ หน้าต่างกระจกใสที่ซึ่งตวนเจียงเหว่ยยืนมองอยู่นั้น ที่ด้านนอกมันภาพอันดับรายชื่อของเสาหินที่มีการเปลี่ยนแปลงของรายชื่อระยะ 5 แสดงอยู่ชัดเจนแจ่มแจ้ง
  อึก!
  หลูชูซเวกลืนน้ำลงคอฝืดๆอย่างหวั่นวิตกมองแผ่นหลังที่ให้ความรู้สึกมืดมนและน่ากลัวของตวนเจียงเหว่ย เธอไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของชายที่อยู่ตรงหน้าได้ ทว่าเธอสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่บีบอัดแน่น ความกดดันมหาศาลที่แผ่ออกมาจนเธอหายใจไม่ออก
  ตวนเจียงเหว่ยต้องเห็นการเปลี่ยนแปลงของเสาหินก่อนแล้วทว่าเธอไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ มีเพียงแค่ลำแสงสีม่วงจางๆจากกริชที่ถูกเสื้อของตวนเจียงเหว่ยคลุมทับอยู่สะท้อนออกมาให้เห็นลางๆ
  ท่ามกลางช่วงเวลาเงียบสงัดอันน่าสยองนี้หลูชูซเวที่เหงื่อแตก เวลาก็เดินไปเรื่อยๆ ขณะที่เธอต้องโดนความกดดันมหาศาลที่ทับถมใส่โดยไม่มีสาเหตุ ตวนเจียงเหว่ยไม่ทำอะไรเลย ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
  ในที่สุดหลังจากความเงียบอันยาวนาน ปลายเสื้อของตวนเจียงเหว่ยก็สะบัดเล็กน้อยพร้อมกับร่างของตวนเจียงเหว่ยที่ค่อยๆหมุนกลับมาเผชิญหน้ากับหลูชูซเว
  ”ท่านพลเอก?”นัยน์ตาของหลูชูซเวหดวูบอย่างแรง เธอรีมก้มหน้าหลบทันทีเป็นการแสดงความเคารพ
  ในตอนนี้หลูชูซเวเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าตวนเจียงเหว่ยไม่ใช่คนที่เคยเดินทางขึ้นเหนือไปกับเธออีกต่อไป แต่เป็นหัวหน้าที่เต็มไปด้วยอำนาจและน่าเกรงขาม
  ควบคุมทั้งค่ายตวนมีทหารเก่งกาจภายใต้การปกครองที่ซื่อสัตย์มากมาย แถมยังมั่งคงและร่ำรวยด้วยทรัพยาการที่เกินคาด  ตวนเจียงเหว่ยไม่ได้เก็บท่าทางของหลูชูซเวมาใส่ใจเขาหลุบตาลงมองกริชสีม่วงที่เอวตัวเอง ตั้งแต่ที่เขาได้กริชนี้มา เขาก็เข้าใจว่าเขาจำเป็นต้องเปลี่ยน ดังนั้นเขาจึงทำงานกับหลูชูซเว ทัศนคติที่เปลี่ยนไประหว่างเขากับผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นกระบวนการที่จำเป็นอย่างยิ่ง
  ”เฮลิคอปเตอร์ที่เต็มไปด้วยเสบียงและอาวุธทั้งสิบลำเรียบร้อยดี?”ประโยคแระที่ตวนเจียงพูดตั้งแต่หมุนตัวกลับมา ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไม่มีจุดเชื่อมต่อ เขาไม่ถามว่าทำไมชูฮันถึบไม่ตายหรือว่าชูฮันกลายเป็นอันดับหนึ่งของระยะ 5 ได้อย่างไร
  ”ค่ะ”หลูชูซเวหลุบตาหน้าและตอบกลับด้วยน้ำเสียงเคารพ
  ”ดี”มีรอยยิ้มที่ไม่อาจจะตีความได้ปรากฏขึ้น ตามมาด้วยประโยคต่อมาที่หลูชูซเวพอจะคาดเดาเอาไว้แล้ว แต่พอได้ยินมันเข้าจริงๆเธอกลับรู้สึกกลัวขึ้นมา “เสบียงแและอาวุธบนเฮลิคอปเตอร์ทั้งสิบลำ ทั้งหมดส่งไปที่ค่ายเขี้ยวหมาป่า”
  หลูชูซเวเงยหน้าขึ้นทันที”แต่ซางจิง และท่าน…”
  สิ่งที่หลูชูซเวต้องการจะพูดก็คือเธอต้องการให้ตวนเจียงเหว่ยมีอำนาจเหนือกริชสีม่วงแม้ว่าตวนเจียงเหว่ยจะไม่เคยพูด แต่ทำไมเธอจะเดาความคิดเขาไม่ออก?
  กริชสีม่วงนั้นโดดเด่นมันไม่ใช่อาวุธธรรมดา และตวนเจียงเหว่ยก็ไม่เคยไปตามหาล่าขุมทรัพย์ใดๆ ดังนั้นกริชสีม่วงนี้จะต้องถูกส่งมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ
  สามารถลอดผ่านมาตราการรักษาความปลอดภัยอันแสนเข้มงวดของค่ายตวนเข้ามาตวนเจียงเหว่ยและตวนเจียงเหว่ยก็ยังพกกริชสีม่วงติดตัวตลอดเวลา แสดงให้เห็นว่าคนที่นำพากริชสีม่วงนี้มาให้ตวนเจียงเหว่ยจะต้องมีข้อตกลงบางอย่างแก่กัน ซึ่งข้อตกลงนั้นคืออะไรหลูชูซเวไม่กล้าถาม หรือแม้แต่ว่าอีกฝ่ายคือใครหลูชูเซไม่กล้าจะคิด
  อย่างไรก็ตามจู่ๆตวนเจียงเหว่ยก็ตัดสินใจที่จะช่วยค่ายเขี้ยวหมาป่า ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ซางจิงประกาศชัดเจนว่าให้ละทิ้งค่ายเขี้ยวหมาป่า ทว่าทำไมตวนเจียงเหว่นถึงกลับเพิกเฉยเช่นนี้?
  ”ซางจิง?ไม่ใช่ปัญหา ตวนเจียงเหว่ยเอ่ยเสียงนิ่งๆ แววตาดูเรียบเฉย เห็นได้ชัดเจนว่าเขาไม่สนใจเรื่องของซางจิงเลยสักนิด
  หลูชูซเวที่ได้ยินต้องตกใจค้างอีกครั้งนี้ตวนเจียงเหว่ยตั้งใจจะเมินเจตนาของซางจิงจริงๆอย่างนั้นเหรอ?
  ไม่รอให้หลูชูซเวได้ทันทำใจ ตวนเจียงเหว่ยก็เปิดปากพูดอีกครั้งซึ่งคราวนี้มันทำให้หลูชูซเวช็อคสนิทกว่าเดิม “ไม่ต้องถามอะไรอีก ฉันวางทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว สุดท้ายค่ายตวนจะสร้างพันธมิตรกับเขี้ยวหมาป่าทั้งหมด ไม่ใช่แค่ค่ายเขี้ยวหมาป่า กองกำลังทหารของเราจะปฏิบัติตามระเบียบการของกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่มีชูฮันเป็นผู้บัญชาการสูงสุด และเมินซางจิงไปซะ”
  ”อะไรน่ะอะไรน่ะคะ?!” ครั้งนี้หลูชูซเวไม่ได้กลัว แต่เธออยากจะเป็นลม
  อะไรคือพันมิตรกับเขี้ยวหมาป่าไม่ใช่แค่ค่ายเขี้ยวหมาป่า แต่รวมถึงกองทัพเขี้ยวหมาป่า?
  นี้มันคือการทำลายตัวตนของตัวเองชัดๆเห็นได้ชัดเลยว่าชูฮันจะมีอำนาจเหนือกว่าพวกค่ายตวน!
  รู้มั้ยว่าขนาดของค่ายเขี้ยวหมาป่าในตอนนี้มันเท่าไหร่?แล้วขนาดของค่ายตวนเท่าไหร่?
  ระดับตำแหน่งพลเอกเท่ากันแต่ทำไมถึงต้องยอมอีกฝ่าย?
  แล้วที่ตวนเจียงเหว่ยพูด?ให้เมินซางจิง?
  พระเจ้าช่วย!
  หลูชูซเวกลัวจนหัวใจแทบวายนี้มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมตวนเจียงเหว่ยถึงได้ตัดสินใจเรื่องบ้าระห่ำขนาดนี้ในตอนที่ชูฮันได้ขึ้นเป็นอับดับหนึ่งบนรายชื่อเสาหนิระยะ 5 ?
  เขาเป็นคนขายข้อมูลลับของชูฮันไปก่อนหน้านี้ในราคาสูงลิ่วเองกับมือไม่ใช่เหรอ?ไม่ใช่ว่าค่ายตวนต้องการกำจัดชูฮันเหรอ? ไม่ใช่ว่าพวกเราอยู่ข้างเดียวกับซางจิง? เราต้องกำจัดค่ายเขี้ยวหมาป่าสิ?
  นี้มันเกิดอะไรขึ้นตอนนี้กันแน่?!
  ถึงแม้ว่าชูฮันจะได้อันดับที่หนึ่งในการเมิณเสาหินระยะ5 มา แต่แค่นี้มันไม่เพียงพอที่ตวนเจียงเหว่ยจะทำการตัดสินใจหุนหันพลันแล่นเช่นนี้ ยิ่งเป็นคนอย่างตวนเจียงเหว่ย ไม่มีทาง! ผู้ชายคนนี้โดยธรรมชาติเป็นคนที่สุขุม รอบคอบ และใจเย็น มีสติเสมอ เขาไม่ใช่คนที่ตัดสินใจอะไรหุนหัน ก่อนหน้านี้ที่ชูฮันได้ขึ้นเป็นอันดับที่หนึ่งมาทุกระยะ เธอไม่ใช่เคยตวนเจียงเหว่ยจะมีท่าทีสนใจมาก่อนเลยสักนิด!
  ความไม่เข้าใจสับสน ตกใจและหวาดกลัวปรากฏขึ้นในใจหลูชูซวเว จู่ๆเธอก็พบว่าเธอไม่สามารถเข้าใจตวนเจียงเหว่ยได้เลย ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่เข้าใจมากเท่านั้น เธอไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับโลกตอนนี้  ในขณะที่หลูชูซเวตกอยู่ในห้วงอารมณ์หลากหลายที่ตีปนกันไปหมดตวนเจียงเหว่ยก็หมุนตัวกลับไปอีกครั้ง สายตาจับจ้องไปที่เสาหินซึ่งอยู่ห่างออกไปด้วยสีหน้าที่ไม่มีใครเข้าใจได้ มีเพียงแค่มือข้างขวาที่ยังคงจับกริชสีม่วงตรงเอวอยู่