ขณะเดียวกันชาวบ้านในที่ค่ายหนานตู้ก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของรายชื่อบนเสาหินเช่นกัน ภายในค่ายร้อนระอุไม่ต่างอะไรกับครั้งแรกที่รู้ว่าจะโดนกองทัพซอมบี้โจมตีใส่เลย…
ถนนทุกเส้นกำแพงเมือง ร้านอาหาร ตราบใดที่ทุกที่ชาวบ้านสามารถไปรวมตัวกันได้เพื่อพูดคุยถึงหัวข้อร้อนแรงที่กำลังเป็นประเด็นใหญ่ในตอนนี้
เรื่องของชูฮัน!
บนยอดตึกสูงที่สุดในค่ายหนานตู้สีหน้าของฉางกวนหลงนั้นยากที่อ่านออก มู๋หรงยู่เฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยความเกรงค่อยๆพูดขึ้น “ท่าน ท่านว่าอะไรนะครับ?”
”ฉันบอกว่า—-“มู๋หรงยู่เฉิงที่กำลังจะอ้าปาก
พั้วะ! จู่ๆประตูก็ถูกเคาะเสียงดังแทรกขึ้นมาตามมาด้วยเสียงเปิดประตูเข้ามาอย่างใจร้อนและเสียงที่ตื่นเต้นของฉางกวนยวีซิน “ท่านพ่อ เห็นรายชื่ออันดับของเสาหินรึยัง?!”
มู๋หรงยู่เฉิงปิดปากฉับและเลือกยืนดูเงียบๆ
ฉางกวนหลงเปลี่ยนท่าทีจากแผ่รัศมีน่ากลัวเป็นนิ่งเฉยทันทีที่ลูกสาวโผล่เข้ามาด้วยสีหน้าดีใจและมีความสุขเขาจึงอดไม่ได้ที่จะทักขึ้นก่อน “ระยะที่ 5 มั้ย แสดงว่าเขายังไม่ตายจริงๆ”
”ทำไมคะ?”ฉางกวนยวีซินเงยหน้า เลิกคิ้วด้วยความสงสัย ตบมือลงโต๊ะตรงหน้าฉางกวนหลง “ตอนนี้ชูฮันเป็นอันดับที่หนึ่งในรายชื่อประเมิณระยะ 5 ของเสาหิน แซงหน้าผู้ชายชื่อต้านฮวงที่เคยอยู่อันดับที่หนึ่งมาตั้งนานได้ เขาแซงหน้าคนนั้นซะมิดและชิงขึ้นนำมาแทน ตั้งแต่ระยะแรกจนถึงระยะ 5 เขาเป็นอันดับหนึ่งมาตลอด แถมที่สำคัญที่สุดก็คือชูฮันเป็นคนเดียวที่ได้คะแนน S+ ในทุกครั้ง มีเพียงแค่ชูฮันเท่านั้นที่รู้ตำแหน่งของเสาหินพิเศษที่สามารถทดสอบเพื่อได้คะแนน S+!”
”แล้วยังไง?”ยิ่งฉางกวนยวีซินพูดมากเท่าไหร่ ความไม่พอใจของฉางกวนหลงก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น เขาอดไม่ได้ที่จะตะคอกใส่ลูกสาวตัวเอง “เขารู้ตำแหน่งของเสาหินพิเศษแล้วยังไง? มันมีหมายความอะไร? แล้วเกี่ยวข้องยังไงกับค่ายหนานตู้ของเรา? ด้านนอกค่ายหนานตู้เรามีเสาหินเพียงแค่เสาเดียวเท่านั้น ซึ่งก็ชัดเจนว่ามันไม่ใช่เสาหินพิเศษ แล้วเรื่องนี้มันสำคัญต่อพวกเราตรงไหน มันทำให้ลูกยิ่งข้องเกี่ยวกับชูฮันน้อยลงต่างหาก”
ฉางกวนยวีซินอยู่ในสภาวะที่แตกต่างไปจากทุกครั้งครั้งนี้เธอเพียงยืนมองพ่อตัวเองที่ต่อต้านชูฮันเงียบๆ และเอื้อมมือไปด้านหลังตัวเอง คว้าเอกสารเล่มหนาออกมาวางตรงหน้าฉางกวนหลง
”แผนการนำเสนอล่าสุดหนูเคารพพ่อมากที่สุดในหนานตู้ อยากให้พ่อเอาไว้พิจารณาดู” น้ำเสียงของฉางกวนยวีซินนั้นไม่ได้นับถืออย่างที่พูดออกจากปากเลย แต่มันกับกระด้างและแสดงออกถึงการตัดสินใจของเธออย่างเปิดเผย
”นี่ลูกเริ่มกุมอำนาจแล้ว?”ฉางกวนหลงไม่รู้ว่าตอนนี้เขาควรจะโมโหหรือมีความสุขดี ในใจหนึ่งเขาก็เป็นกังวลกับการกระทำที่หุนหันผลันแล่นของฉางกวนยวีซิน อีกใจหนึ่งเขาก็ภูมิใจในความสามารถของลูกสาวตัวเอง
ไม่เหมือนกับค่ายจินหยางที่สองพ่อลูกเกลียดกันและต่างแย่งชิงอำนาจของแต่ละฝ่ายฉางกวนหลงนั้นแสนจะภาคภูมิใจกับการเติบโตของฉางกวนยวีซิน ในใจเขารู้สึกได้เลยว่ายวีซินเหมาะกับการสืบทอดตำแหน่งเขาที่สุด
หากอารมณ์พออกพอใจของฉางกวนหลงนั้นก็คงอยู่ได้ไม่นานเพราะว่าทันทีที่นึกขึ้นได้ถึงแผนการมากมายที่ฉางกวนยวีซินนำมาเสนอ—-
‘แผนนำเสนอการสร้างพันธมิตรระหว่างค่ายหนานตู้และค่ายเขี้ยวหมาป่า’ ”พันธมิตร…”ฉางกวนหลงแทบจะล้มพับไปซะเดี๋ยวนี้
ให้ตาย!
ฉางกวนยวีซินพึ่งจะได้กุมอำนาจและพึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้คนในหนานตู้ได้ไม่ทันไรเองแต่ลูกสาวเขาก็คิดจะสร้างพันธมิตรกับชูฮันแล้ว
หรือเขาเข้าใจเจตนาของยวีซินที่จะคิดจะครองค่ายหนานตู้ตั้งแต่แรกผิดไป?
”ถ้าพ่อได้อ่านแล้วจะประหลาดใจ”ฉางกวนยวีซินไม่ได้รีบร้อน หากน้ำเสียงนั้นเปลี่ยนไป มันคมกริบและน่าเกรงขามแตกต่างจากฉางกวนหลงที่ใจสั่นไปหมด ยวีซินนั่งลงที่เก้าอี้และยกชาขึ้นดื่มเงียบๆ
”ลูก!”ฉางกวนหลงสับสนมากจนหาคำพูดไม่เจอ ได้แต่มองไปที่ฉางกวนยวีซินซึ่งท่าทางแน่วแน่ชัดเจน ฉางกวนหลงในตอนนี้จึงได้แต่ถอนหายใจอย่างหมดหนทางและเปิดแผนการตรงหน้าขึ้นอ่าน มู๋หรงยู่เฉิงที่อยู่ถัดไปรีบปาดเหงื่อเย็นที่ผุดขึ้นเต็มหน้าผากออกหัวใจเต้นรัวจนแทบจะทะลุออกจากอก เขามีลางสังหรณ์ว่าพ่อกับลูกจะต้องขัดแย้งกัน และผลสุดท้ายฉางกวนยวีซินก็จะได้สิ่งที่ต้องการ
ทันใดนั้นมู๋หรงยู่เฉิงก็เริ่มวิตกเขาควรจะออกไปตอนนี้เพื่อเลี่ยงสถานการณ์อึดอัดดีมั้ย?
โชคร้ายที่ยังไม่ทันมู๋หรงยู่เฉิงจะได้ขอตัวออกไปก่อนฉางกวนหลงก็อ่านโปรแกรมเสร็จซะแล้ว ครั้งนี้ฉางกวนหลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงประหลาดใจอย่างเหนือความคาดหมาย “นี่มัน? แผนนี้มันละเอียดมาก แต่ข่าวของชูฮันพึ่งจะออกมาไม่ถึงสิบนาทีได้ หมายความว่าแผนการของลูกมันเตรียมการเสร็จเรียบร้อยไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว รอแค่ให้มีข่าวของชูฮันปะทุออกมาก่อนแล้วถึงได้เอามาเสนอพ่อใช่มั้ย?”
ต้องบอกเลยว่าแม้ในตอนนี้ฉางกวนหลงจะไม่ได้เป็นคนมีอำนาจในมือแต่จากประสบการณ์ที่สั่งสมมา เมื่อดูรายละเอียดของแผนการ เขาสามารถคาดเดาเจตนาที่แท้จริงของฉางกวนยวีซินได้ออก
ทั้งหมดมันเป็นการเตรียมการไว้ล่วงหน้าหมดแล้วรวมถึงการวางแผนยึดอำนาจซึ่งนี่เป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่ผู้นำค่ายควรจะมี!
ตอนนี้ฉางกวนยวีซินก็ได้เผยคุณสมบัตินี้ออกมาให้เห็นแล้ว
เพียงแต่ว่าขณะนี้อารมณ์ของฉางกวนหลงค่อนข้างซับซ้อน เขาไม่คิดเลยว่าลูกสาวเขาจะยอมทำเพื่อชูฮันถึงขนาดนี้ แน่นอนว่าเขามีความสุขมีความสามารถของยวีซินพัฒนาขึ้น แต่เขาก็โกรธที่ไม่สามารถเปลี่ยนความตั้งใจของยวีซินได้ ลูกสาวของเขาเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนเป็นคนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อชูฮัน ไอ้เด็กหนุ่มผอมแห้งนั้น?
เป็นอีกครั้งที่มู๋หรงยู่เฉิงพยายามทำตัวไร้ตัวตันหากก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองฉางกวนยวีซินด้วยความเกรง ครั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกพัฒนาเกินความคาดหมายของเขาไปมาก แต่ที่เขาประหลาดยิ่งกว่าคือคำพูดของฉางกวนหลง
นี้ฉางกวนยวีซินรอบคอบและเป็นคนใช้เชิงรุกเก่งขนาดนี้เลย?
ถึงกับร่างแผนที่ละเอียดยิบเกี่ยวกับการเป็นพันธมิตรไว้ล่วงหน้าและรอจังหวะให้ข่าวของชูฮันเผยออกมา แล้วก็นำมาเสนอต่อฉางกวนหลงทันทีเพื่อไม่ให้ฉางกวนหลงมีสิทธิแย้ง?
แต่ฉางกวนยวีซินรู้ได้ยังไงกับว่าชูฮันจะทำทุกอย่างสำเร็จตามที่เธอคาดไว้?
อันดับที่หนึ่งในรายชื่อประเมิณการต่อสู้โดยรวมระยะ5 ไม่ว่าชูฮันจะเข้าไปทำการประเมิณระยะ 5 ตอนไหนหรือผ่านมั้ย หรือจะได้อันดับอะไร ทุกอย่างมันเป็นการคาดการ์ทั้งนั้น ไม่สามารถรับประกันอะไรได้!
ฉางกวนยวีซินไม่สนใจสีหน้าสับสนยุ่งเหยิงของพ่อตัวเองและสายตาหวาดกลัวของมู๋หรงยู่เฉิงที่มองมา หากเธอกลับค่อยๆวางแก้วชาในมือลงอย่างนุ่มนวลด้วยท่วงท่าสง่างามสมกับเป็นผู้นำแห่งค่ายหนานตู้
”อะไรนะ?”ฉางกวนยวีซินยิ้มบางๆก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “ในฐานะผู้สืบทอดของค่ายหนานตู้ หนูก็ควรจะมีความสามารถในการรับรู้ข่าวสารและเตรียมการทุกอย่างไว้ล่วงหน้าไม่ใช่งั้นเหรอ หนูจะกล้าปล่อยให้ค่ายของเราต้องรับมืออะไรกระทันหันโดยไม่มีแผนสำรองได้ยังไง?”
เฮือก!
ฉางกวนหลงและมู๋หรงยู่เฉิงรู้สึกกลัวขึ้นมาในทันทีพร้อมๆกันทั้งคู่ต่างมองฉางกวนยวีซินราวกับเห็นผี
แม่เจ้า!
ตรงหน้าพวกเขาคือใครกันนี้ใช้ฉางกวนยวีซินคนเดียวกับหญิงสาวผู้เอาแต่ใจและอ่อนแอเมื่อเดือนที่แล้วจริงเหรอ?!