ชาวพื้นเมืองส่วนใหญ่ของทวีปนี้ต่างก็ยังคงตื่นตัวเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคนที่มาจากพื้นที่แห่งความว่างเปล่า เนื่องจากผู้ที่มาจากสถานที่แบบนี้ส่วนใหญ่จะไม่ใช่คนดี

แต่กลุ่มที่วิกเตอร์เข้าร่วมในวันนี้ บรรยากาศภายในกลุ่มทำให้เขารู้สึกถึงบรรยากาศของการเรียนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเวทมนตร์แห่งซู่อัน

วิกเตอร์ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่ผลงานการวิจัยของเขานั้นถูกขโมยไปในครั้งล่าสุด มันได้กลายเป็นเงาค่อยย้ำเตือนใจของเขามาโดยตลอด แต่ในใจส่วนหนึ่งของเขาก็ยังคงต้องการจะเผยแพร่งานวิจันนี้ให้กับคนอื่นเช่นกัน

ในขณะเดียวกับที่เขากำลังช่างน้ำหนักความคิดอยู่นั้น เขาก็ได้รับข้อความจากระบบเทคโนโลยีสีดำว่า : “ผู้สร้างลุคทำการส่งอังเป๋าให้กับคุณโดยตรง!”

วิกเตอร์ที่ได้รับอังเป๋ามา ก็ทำสีหน้าแปลกๆออกมา แต่เขาก็ยังคงเลือกที่จะกดยอมรับของขวัญนี้

บนโต๊ะในห้องทดลองของเขาได้ปรากฏก้อนหินที่แตกต่างกันหลายก้อนขึ้นมาจากอากาศ หินแต่ละก้อนมีความแตกต่างกัน เช่น ก้อนหินวิเศษที่เปล่งพลังงานความร้อนเช่นหินหนืด หินที่ปล่อยกลิ่นออกมาคล้ายกลิ่นเลือด หินที่ปล่อยความเย็นออกมา จนทำให้สภาพอากาศบริเวณที่มันอยู่นั้นเต็มไปด้วยกลุ่มหมอกและอื่นๆ นั้นมันช่างเป็นอะไรที่คุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างมาก!

“ มันเป็นพลังเวทย์มนตร์!” วิกเตอร์ได้ตกตะลึงไปกับสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าทันที เพราะตรงหน้าของเขาได้ปรากฏอัญมณีที่คล้ายกับมญมณีดวงดาวจำนวนมาก

ก่อนหน้าที่เขาก็เคยมีอัญมณีดวงดาวเช่นกัน แต่เขาก็ถูกเพื่อนร่วมงานที่เชื่อใจที่สุดขโมยมันไป

ราชินีแดง: “(อิโมติคอน: โปรดอย่าหลงเชื่อ! มันเป็นเรื่องหลอกลวง!)”

Mr.L: “อย่าทำตัวเป็นปัญหา!”

ใช้เวลาไม่นานก็ได้มีข้อความอีกข้อความหนึ่งโผล่ขึ้นมาในกลุ่ม: “วิกเตอร์ได้ส่งอังเป๋าไปให้ผู้สร้างลุค”

ราชินีแดง: “(อิโมติคอน: ทำไมคุณถึงไม่เชื่อฉันนะ!)”

……

การเข้าร่วมของสมาชิกใหม่นี้ทำให้เปอร์เซ็นต์ของการมีส่วนร่วมของกลุ่มเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และนั้นทำให้อีกไม่นานเขาก็สามารถจะส่งอังเป๋าแบบสุ่มได้อีกครั้ง

และหลังจากที่ลูชินได้ออกมาจากกลุ่ม เขาก็ได้ทำการเรียกแดงน้อยทันที

“แดงน้อย! แม่ของหนูได้ฝากคำทักทายมาหาหนูด้วยนะ!” ทันทีที่ลูชินพูดประโยคนี้จบ ในสำนักงานของเขาก็ได้ปรากฏภาพเสมือนจริงของเด็กผู้หญิงตัวเล็กขึ้นข้างๆเขา และเธอได้พูดออกมาอย่างมีความสุขว่า “หนูดีใจจัง!”

เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้เป็นภาพลักษณ์ของมนุษย์ที่แดงน้อยเป็นคนออกแบบด้วยตัวเอง ซึ่งมันไม่เหมือนกับราชินีแดงเลยด้วยซ้ำ

ราชินีแดงนั้นจะเป็นผู้หญิงที่ออกสไตล์ยุโรปและอเมริกาอย่างสมบูรณ์ ส่วนแดงน้อยนั้นจะเป็นเหมือนลูกครึ่งมากกว่า โดยที่มันเป็นการผสมยีนเด่นระหว่างจีน ยุโรป และ อเมริกา ซึ่งคาดว่าในระหว่างการออกแบบนั้นเธอได้รับอิทธิพลลูชินโดยตรง

ลูชินได้พูดขึ้นว่า: “พ่อเองก็พยายามจะเพิ่มหนูลงในกลุ่มเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้หนูจะมีคุณสมบัติไม่ตรงตามที่กลุ่มตั้งเอาไว้ มันเลยยังไม่สามารถเชิญหนูได้ในตอนนี้”

เขาเองก็ได้ลองมาก่อนหน้านี้ แต่ตัวระบบที่ดูแลกลุ่มเทคโนโลยีสีดำกับปฏิเสธโดยตรง และยังได้ส่งมาตรฐานของการรับสมาชิกกลุ่มให้เข้าดูอีกด้วย และนั้นจึงทำให้เขารู้ว่าการที่แดงน้อยจะสามารถเข้ารวมกลุ่มได้นั้น เธอยังคงต้องพยายามพัฒนาตัวเองอีกมาก

“หนูจะตั้งใจพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น!” แดงน้อยได้พูดต่อว่า “ในตอนนี้เองหนูก็ได้สร้างฐานข้อมูลอารมณ์ของตัวเองขึ้นมาแล้ว และอีกไม่นานหนูจะทำการอัพเกรดอีกครั้ง ซึ่งในการอัพเกรดครั้งนี้หนูจะสร้างกลุ่มข้อมูลด้านอารมณ์เป็นของตัวเองขึ้นมาอย่างแท้จริง “

“โอ้! พ่อเชื่อว่ามันจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน พ่อเชื่อในตัวหนูนะ!” ลูชินพยายามพูดสนับสนุนการกระทำครั้งนี้ของแดงน้อย เพราะไม่เพียงแต่มันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวของแดงน้อยเองเท่านั้น แต่มันยังทำให้เธอนั้นก้าวขึ้นมาเป็นเอไอที่สมบูรณ์แบบได้อย่างแท้จริง

ไม่เพียงแค่นั้น แต่มันยังถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในการเปลี่ยนแปลงความคิดของมนุษย์และเทคโนโลยีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในอนาคต

“ เอาละ! แล้วเป็นยังไงบ้างกับการดูแลธุรกิจอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ของหนู?” ลูชินได้ถามคำถามนี้ขึ้นมา และเขาเองก็ต้องการฟังเช่นกันว่าเธอจะมีวิธีการจัดการพวกนี้ยังไง

นี่ถือว่าเป็นวิธีการใหม่เป็นอย่างมาก เพราะตอนนี้ยังไม่มีบริษัทไหนที่กล้าจะยกหน้าที่การบริหารส่วนใหญ่ให้กับระบบเอไอดำเนินงานด้วยตัวเอง ดังนั้นเพื่อป้องกันสิ่งที่อาจจะผิดพลาดขึ้นมาได้ เขาจึงต้องทำการตรวจสอบเรื่องนี้เป็นระยะ

หลังจากนั้นก็ได้มีข้อมูลจำนวนหนึ่งส่งขึ้นมา เขาจึงได้ทำการตรวจสอบมันอย่างคร่าวๆ และมันก็ถือว่าใช้ได้เลยที่เดียว

“คุณพ่อ! คุณมีข้อความส่วนตัวหนึ่งข้อความ!” แดงน้อยได้พูดขึ้นมา ก่อนที่จะปรากฏโปรแกรมแชทขึ้นมาตรงหน้าของเขา

ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็เปิดประตูห้องทำงานของเขาออกไปทันที ก่อนที่เขาจะเดินไปถึงห้องทำงานของซู่จิง เธอก็ได้พูดขึ้นว่า “คุณยุ่งอยู่รึเปล่า?”

“ โอ้! ไม่เลย! เดียวผมขอตัวเปลี่ยนชุดแปปนึงนะ แล้วจะรีบตามออกไป!” ลูชินได้เดินเข้าไปในห้องพักที่อยู่ถัดไปทันที และเขารู้ตัวว่าถ้าไม่มีการติดต่อมาของแฟนสาวของเขาในครั้งนี้ เขาคงจะลืมไปแล้วว่าเขานั้นมีนัดทางอาหารเย็นกับพ่อตาของ

เครื่องบินพิเศษของเขาได้บินตรงจากเมืองเจียงเฉิงไปยังเมืองหลวงทันที ในระหว่างทางซู่จิงเองก็ได้อธิบายเรื่องที่ลูชินควรจะรู้เกี่ยวกับครอบครัวของตัวเองไปด้วย

ก่อนเวลาอาหารเย็น

พวกเขาก็ได้เดินทางมาถึงบ้านของครอบครัวซู่แล้ว

ยังคงเป็นแม่ของซู่จิงที่ออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น และเธอยังได้พูดติดตลกออกมาเล็กน้อยเมื่อเจอลูชินว่า “ในที่สุดคนที่ยุ่งที่สุดก็มีเวลาว่างเสียที แล้วเธอมีเวลาว่างเท่าไหร่ละในครั้งนี้?”

“ ฮาฮาฮา! งานช่วงนี้เองก็เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วละครับ มันคงจะไม่ยุ้งๆเหมือนกับครั้งก่อนๆแล้ว” เมื่อลูชินเองก็ตอบกลับไปแบบยิ้มๆ ก่อนที่เขาจะได้เดินเข้าประตูและเปลี่ยนรองเท้าของเขา เครื่องชงชาที่บ้านก็เริ่มทำงานเองโดยอัตโนมัติ

นับตั้งแต่การเปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมเป็นต้นมา มันได้ทำการระบบสมาร์ทโฮมของพวกเขาได้รับการอัพเกรดอีกครั้ง

“ฉันเข้าใจ! ฉันเข้าใจว่าเธอนั้นต้องรับผิดชอบภาระที่หนัก” แม่ของซู่จิงได้พูดว่า “มานั่งก่อนสิ! อาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วตอนนี้เราก็แค่รอพ่อของเธอกลับมาเท่านั้น”

“พ่อยังอยู่ในบริษัทเหรอค่ะ? ทำไมพ่อยังคงทำงานล่วงเวลาอยู่อีก!” ซู่จิงได้พูดออกมาอย่างตำหนิเล็กน้อย “หนูคิดว่าพ่อคงทำงานล่วงเวลาทุกวันใช้ไหม? ทำไมพ่อถึงไม่ดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองบ้าง!”

“ เฮ้อ! แม่เองก็มักจะพูดคุยเรื่องนี้กับเขาบ่ายๆ แต่เห็นได้ชัดว่าเขานั้นรักการอยู่ที่บริษัทมากกว่าจะอยู่ที่บ้าน และวันนี้ถนนที่เข้าใช้เป็นประจำเองก็กำลังทำการก่อสร้างใหม่ มันอาจจะทำให้การจราจรช่วงนั้นติดขัดเล็กน้อย” ซู่หลิงได้พูดออกมา

“จริงเหรอค่ะ! ถ้าจำไม่ผิด! ครั้งสุดท้ายที่หนูกลับมา ถนนเส้นนั้นยังไม่ได้รับการปรับปรุงอะไรเลย และทำไมตอนนี้มันถึงรีบมาทำละค่ะ? หรือว่าถนนเส้นนั้นจะเป็นถนนที่รัฐบาลกลางกำหนดให้เป็นถนนอัจฉริยะ!” ซู่จิงได้ถามออกมาด้วยความสงสัย

“น่าจะเป็นแบบนั้นนะ! ถ้าแม่จำไม่ผิด เมื่อช่วงเดือนที่แล้วทางรัฐบาลกลางได้ออกมาประกาศการสร้างถนนอัจฉริยะขึ้น เพื่อที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงฐานเศรษฐกิจของเมืองอีกด้วย “

“แสดงว่าการสร้างถนนในครั้งนี้มันเกี่ยวกับบริษัทของลูกเหรอ?!” ซู่หลิงได้ถามออกมา

“ใช้ค่ะ!” ซู่จิงได้ตอบรับออกมา ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นว่า “เฮ้อ! เห็นได้ชัดว่าการสร้างถนนอัจฉริยะในครั้งนี้ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะก่อให้เกิดปัญหารถติด เออ! ใช้แล้ว! แม่ต้องการรถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบแม่เหล็กไฟฟไหม? “

“แม่ว่าลูกส่งมันให้พ่อจะดีกว่า แม่สังเกตเห็นว่าพ่อเขานั้นสนใจไอ้รถคันนี้มากเลยในช่วงนี้”

ลูชินและคนอื่นๆต่างก็รออยู่ที่บ้านจนถึงสามทุ่ม ก่อนที่พวกเขาจะติดสินใจที่จะทานอาหารค่ำนี้ก่อน โดยที่ไม่รอให้ซู่ซีกลับมาถึง

“ไอ้การสร้างถนนบ้านั้น มันทำให้ฉันต้องเสียเวลาถึงสองชั่วโมง! มันไม่คิดเลยเหรอว่าบางคนมีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำ!” ได้มีเสียงบ่นของซู่ซี พ่อตาของเขาดังขึ้นมาตั้งแต่หน้าประตูบ้าน

“พ่อ! หนูว่าพ่อควรจะทำใจเย็นๆเอาไว้ ไม่อย่างนั้นความดันของพ่ออาจจะเพิ่มขึ้นก็ได้!” ซู่จิงพยายามพูดปลอบพ่อของเธอ “และในอนาคตการจราจรจะสะดวกมากขึ้น”

“เฮ้อ! พ่อก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น” ซู่ซีได้ตอบกลับมาอย่างเข้าใจ

ลูชินได้ว่างแผนที่จะอยู่ที่บ้านของซู่จิง สองถึงสามวัน และในช่วงเวลานั้นเขาจะค่อยได้รับคำถามจากทั้งแม่และพ่อของซู่จิงที่ค่อยถามเขาว่า เมื่อไหรพวกเขาจะแต่งงานกัน

……

ในตอนเช้าที่บ้านของครอบครัวซู่ ลูชินเพิ่งตื่นขึ้นมาและกำลังจะไปอาบน้ำ แต่อยู่ๆแดงน้อยก็ได้ปรากฏตัวต่อหน้าเขาผ่านการฉายภาพและพูดว่า “พ่อ! มีเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมานี้และมันเกี่ยวกับถนนอัจฉริยะ”

“เป็นเรื่องอะไร?” ลูชินได้ถามขณะที่เขาแปรงฟันอยู่