ตอนที่ 332 มนุษย์แมลงปีศาจตัวใหม่ / ตอนที่ 333 การเปลี่ยนแปลงของเสี่ยวจิน

จอมใจจ้าวพิษ

ตอนที่ 332 มนุษย์แมลงปีศาจตัวใหม่

 

 

ถังเฉียนกะพริบตา ควบคุมให้ลมหายใจตัวเองสงบลง จากนั้นจึงพูดว่า

 

 

“เหาเก๋อ ไม่เป็นไรแล้ว”

 

 

ถังเฉียนพูดจบน้ำตาก็หยดแหมะ แต่นางไม่เข้าใจ เพราะเถิงอวิ๋นเคยบอกว่าการคิดจะสร้างมนุษย์แมลงปีศาจนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก เหตุใดเหาเก๋อจึงฟื้นขึ้นได้ นางพาเขาตรงมาที่ห้องของตน ให้คนอื่นออกไปก่อน นางคลำหน้าผากเหาเก๋อ เสี่ยวจินบินออกมาจากหว่างคิ้วเขา จากนั้นก็มีจุดสีทองบนหน้าผากเหาเก๋อ

 

 

“ที่แท้เป็นเจ้า เจ้าทำอะไรลงไป เสี่ยวจิน เจ้าทำอะไรกันแน่”

 

 

ถังเฉียนได้รับเหวินเยียนมา แต่เมื่อมองดูนาง คิดว่านางเชื่อฟังเถิงอวิ๋นจึงกลายเป็นมนุษย์แมลงปีศาจ แต่เหาเก๋อล่ะ เขาไม่ใช่คนรับใช้ของตน

 

 

ถังเฉียนเห็นท่าทางเสี่ยวจินอ่อนแรงมาก มันบินเข้าไปในกล่องเวินเซียงหน่วนของมัน เกาะอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน

 

 

ถังเฉียนรู้สึกทรวงอกตนเองสั่นกระตุก จากนั้นก็หน้ามืดแล้วหมดความรู้สึกไป นางเดินไปข้างหน้าในความมืดมิดของตนเองเป็นเวลานาน

 

 

ราวกับมองเห็นอีกโลกหนึ่ง ในโลกนั้นเสี่ยวจินตัวใหญ่เป็นพิเศษ ถังเฉียนเห็นกับตาตัวเองว่ามันใช้หนวดของมันแตะร่างคนคนหนึ่ง แล้วดูดเลือดจากคนเป็นๆ จนเกลี้ยงตัว ถังเฉียนรู้สึกว่าแมลงตัวนี้ร้ายกาจมาก นางจึงควบคุมมันไว้

 

 

แต่เวลานี้เสี่ยวจินไม่ได้โดนการควบคุมจากนางโดยสิ้นเชิง นางยอมขังตัวเองไว้เพื่อไม่ให้มันออกไปทำร้ายคน แต่ร่างกายนางค่อยๆ อ่อนแอลงไร้เรี่ยวแรงจนไม่อาจต้านทานเสี่ยวจินได้ มันจึงหนีออกไป ไม่มีใครสยบมันได้อีกแล้ว

 

 

ถังเฉียนตื่นจากฝันร้ายที่น่ากลัว พอตื่นขึ้นก็เห็นฉู่จิ่งเหยานั่งอยู่ข้างๆ นาง สีหน้าดูอ่อนล้า ถือชามยาในมือ

 

 

“ฟื้นแล้ว ดื่มยาชามนี้เถอะ”

 

 

ถังเฉียนลุกนั่ง มองดูยาสีดำแล้วไม่อยากกิน ฉู่จิ่งเหยาหยิบลูกอมน้ำผึ้งเม็ดหนึ่งออกมาจากกล่องเล็ก

 

 

“รีบดื่มยา แล้วกินลูกอมน้ำผึ้งนี่ซะ หวานมาก”

 

 

ถังเฉียนยังคงมีท่าทางไม่ยอมกินยา ฉู่จิ่งเหยาหมดความอดทนแล้ว เขาอุ้มนาง เตรียมจะกรอกยาให้กิน

 

 

“ก็ได้ ข้ากินเอง”

 

 

ถังเฉียนดื่มยาลงไป แล้วรีบกินลูกอมน้ำผึ้งในมือฉู่จิ่งเหยา จากนั้นจึงพูดว่า

 

 

“ขมจังเลย”

 

 

ฉู่จิ่งเหยามองดูท่าทางที่น่าสงสารของนาง จึงให้ลูกอมน้ำผึ้งนางอีกเม็ด แล้วพูดว่า

 

 

“เหาเก๋อไม่เป็นไรแล้ว แม้จะไม่หายใจและหัวใจไม่เต้น แต่เขายังเดินได้ แม้จะไม่รู้จักตัวเสิ้ง แต่ตัวเสิ้งก็ดีใจมาก เจ้าเรียนรู้ศาสตร์ลับสามอย่างของเผ่าพีส่าได้เร็วมาก เจ้าเก่งจริงๆ”

 

 

นางฟังที่เขาพูดแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย นางไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือไม่ นางเองก็ไม่รู้ว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพียงแต่นางรู้ถึงผลที่เกิดขึ้นก่อนคนอื่นก้าวหนึ่งเท่านั้น

 

 

“ตัวเสิ้ง ไม่ได้โทษข้าหรือ”

 

 

ถังเฉียนคิดเสมอว่าการทำให้คนกลายเป็นผีดิบเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม นางจึงใส่ใจความรู้สึกของตัวเสิ้งเป็นพิเศษ

 

 

“เขาซาบซึ้งบุญคุณเจ้ามาก โดยเฉพาะเมื่อเขารู้จากปากหวังหลง ที่เจ้ายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเปลี่ยนเหาเก๋อเป็นมนุษย์แมลงปีศาจ ที่สำคัญที่สุดก็คือเจ้าไม่รู้ว่าเรื่องนี้มีโอกาสทำสำเร็จมากน้อยแค่ไหน จึงไม่กล้าบอกใคร”

 

 

ถังเฉียนรู้ว่าฉู่จิ่งเหยาจงใจพูดเช่นนี้เพื่อปกป้องนาง ยิ่งเขาพูดเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้ตัวเสิ้งกับพวกซาบซึ้งในบุญคุณของตน

 

 

 

 

ตอนที่ 333 การเปลี่ยนแปลงของเสี่ยวจิน

 

 

ถังเฉียนฟังคำพูดเช่นนี้ ทำให้ใจนางสงบลง

 

 

“ท่านอ๋อง นี่น่าจะเป็นมนุษย์แมลงปีศาจชนิดใหม่ ส่วนวันหน้าจะมีอายุขัยยาวนานเท่าใด ข้าไม่อาจรู้เลย เวลานี้ก็เหมือนเดินคลำหินข้ามแม่น้ำ”

 

 

ฉู่จิ่งเหยาพยักหน้า เขารู้ว่าถังเฉียนพูดความจริง แล้วหันไปมองเสี่ยวจินที่อยู่ข้างๆ พลางพูดว่า

 

 

“แมลงตัวนี้ของเจ้า เวลานี้ชักเหิมเกริมใหญ่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะข้ามาทันเวลา ไม่รู้ว่ามันจะดูดเลือดเจ้าจนหมดหรือไม่”

 

 

ถังเฉียนได้ฟังเช่นนี้ก็ยืนขึ้นทันที รีบวิ่งไปดูกล่องใบนั้น คิดไม่ถึงว่าเสี่ยวจินจะเปลี่ยนไปแล้ว

 

 

“ก่อนหน้านี้เสี่ยวจินไม่ได้รูปร่างเช่นนี้ มันป่วยหรือว่าโตขึ้น”

 

 

เนื่องจากจู่ๆ ถังเฉียนเห็นลายตรงสีแดงเส้นหนึ่งบนตัวเสี่ยวจิน ดูน่ากลัวมาก โดยเฉพาะตัวมันเป็นสีทองเจิดจ้า มีเพียงเส้นลายนั่นที่เหมือนรอยเลือดจากการบาดเจ็บ

 

 

“ก่อนหน้านี้มันกินกิ่งไม้ทองใบไม้หยกไม่ใช่หรือ คราวนี้ข้านำมาด้วยไม่น้อย แต่มันกินเก่งขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่กินใบไม้หยก ยังกินสมุนไพร กินเลือดคนด้วย”

 

 

“เลือดคน มันกินเลือดใครหรือ”

 

 

ทันใดนั้นถังเฉียนก็นึกกลัว นางกังวลมาก เรื่องในฝันเกิดขึ้นจริงๆ หรือ แต่ฉู่จิ่งเหยากดให้นางนั่งลง แล้วพูดว่า

 

 

“โรคระบาดคราวนี้ มันมีบทบาทไม่น้อย ข้าพบว่าสามารถใช้ประโยชน์จากแมลงตัวนี้ได้ หลายวันก่อนมันกินสมุนไพร แล้วไปดูดกินเลือดที่ปลายนิ้วของคนป่วย”

 

 

ถังเฉียนรู้ความสามารถนี้ของเสี่ยวจินดี

 

 

ขอเพียงเสี่ยวจินดูดเลือดจากปลายนิ้วใคร ไม่ว่าคนผู้นั้นจะไปไกลแค่ไหนมันก็ตามเจอได้ ถังเฉียนเคยใช้ความพิเศษนี้สร้างความชอบที่แปลกพิสดาร แต่ช่วงที่ถังเฉียนสลบไปหลายวัน มันเริ่มต้องการเลือดจากปลายนิ้วคนมากยิ่งขึ้น เดิมฉู่จิ่งเหยาเอาเลือดตนเองป้อนให้เสี่ยวจินกิน คิดไม่ถึงว่าไม่สามารถสนองให้มันได้พอ

 

 

แต่ก็ยังมีวิธีนั่นคือให้มันดูดเลือดจากปลายนิ้วคนป่วยด้วยโรคระบาดจำนวนไม่น้อย เมื่อทำเช่นนี้ระยะหนึ่ง อาการถังเฉียนจึงค่อยๆ ดีขึ้น

 

 

“หวังว่าเจ้าจะไม่โทษที่ข้าตัดสินใจโดยพลการ จะอย่างไรข้าเองก็ไม่เคยเลี้ยงมัน เพียงแต่ทุกครั้งที่เห็นมันจะรู้สึกว่ามันค่อนข้างไร้เรี่ยวแรง จึงปล่อยมันให้ออกไปหาอาหาร”

 

 

ถังเฉียนได้ยินเช่นนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องราวในฝันมีเบาะแสให้สืบได้ นางหวั่นเกรงว่าพอถึงวันนั้นจริงๆ นางจะไม่สามารถควบคุมเสี่ยวจินได้ ถึงตอนนั้นมันจะเป็นเช่นในฝันน แล้วตัวนางเองก็จะกลายเป็นคนบาป

 

 

ถังเฉียนปิดกล่องขังเสี่ยวจินไว้ จากนั้นจึงมัดกล่องไว้แล้ววางไว้ชั้นล่างสุดของ**บ

 

 

“เจ้าทำอะไรหรือ”

 

 

นางขังเสี่ยวจินไว้ ฉู่จิ่งเหยาไม่เข้าใจที่นางทำเช่นนี้ ปกติเลี้ยงดูมันด้วยความยากเย็น ตอนนี้กลับขังมันไว้

 

 

“ขังมันไว้ก่อน ต้องตั้งกฎเกณฑ์ขึ้น ไม่เช่นนั้นวันหน้า ข้ากลัวว่า…”

 

 

ฉ่จิ่งเหยาเห็นท่าทางอ้ำๆ อึ้งๆ ของถังเฉียน รู้สึกแปลก จึงถามว่า

 

 

“เจ้ากลัวสิ่งใด”

 

 

ถังเฉียนหันมาแล้วพูดว่า

 

 

“กลัวว่ามันจะกินมากเกินไป ข้าเลี้ยงมันไม่ไหว ต้องควบคุมบ้าง”

 

 

สุดท้ายถังเฉียนก็ไม่บอกความจริงให้ฉู่จิ่งเหยารู้ เพียงแต่ขังมันเอาไว้ นางรู้สึกแน่นหน้าอก อาจเป็นเพราะเสี่ยวจินไม่อยากถูกขังไว้ในนั้น แต่ขณะนี้นางต้องใจแข็งขังไว้ จากนั้นจึงนั่งลงข้างๆ ท่าทางไม่สบายใจ

 

 

“ไม่ว่าเจ้าจะคิดอย่างไร แต่ไม่ควรปล่อยให้เหาเก๋ออยู่กับพวกเขา ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะคิดว่าเขายังมีชีวิต วันหน้าอาจจะเดือดร้อนมากขึ้น”

 

 

ถังเฉียนลุกขึ้น แม้ว่านางจะยังไม่หายดี แต่ยังฝืนไปหาเหาเก๋อ

 

 

ตัวเสิ้งดีใจมาก นั่งติดกับพี่ชายพูดคุยไม่หยุด แต่จากมุมของถังเฉียนจะเห็นหยาดน้ำตาในดวงตาเขา

 

 

“เจ้านาย!”

 

 

พอเหาเก๋อเห็นถังเฉียนก็คุกเข่าลงทันที แบบแผนอย่างนี้ทำให้ถังเฉียนรู้สึกเหมือนคนแปลกหน้า

 

 

“ต่อไปไม่ต้องคุกเข่าแล้ว ค้อมคารวะก็พอ

ตอนที่ 332 มนุษย์แมลงปีศาจตัวใหม่

 

 

ถังเฉียนกะพริบตา ควบคุมให้ลมหายใจตัวเองสงบลง จากนั้นจึงพูดว่า

 

 

“เหาเก๋อ ไม่เป็นไรแล้ว”

 

 

ถังเฉียนพูดจบน้ำตาก็หยดแหมะ แต่นางไม่เข้าใจ เพราะเถิงอวิ๋นเคยบอกว่าการคิดจะสร้างมนุษย์แมลงปีศาจนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก เหตุใดเหาเก๋อจึงฟื้นขึ้นได้ นางพาเขาตรงมาที่ห้องของตน ให้คนอื่นออกไปก่อน นางคลำหน้าผากเหาเก๋อ เสี่ยวจินบินออกมาจากหว่างคิ้วเขา จากนั้นก็มีจุดสีทองบนหน้าผากเหาเก๋อ

 

 

“ที่แท้เป็นเจ้า เจ้าทำอะไรลงไป เสี่ยวจิน เจ้าทำอะไรกันแน่”

 

 

ถังเฉียนได้รับเหวินเยียนมา แต่เมื่อมองดูนาง คิดว่านางเชื่อฟังเถิงอวิ๋นจึงกลายเป็นมนุษย์แมลงปีศาจ แต่เหาเก๋อล่ะ เขาไม่ใช่คนรับใช้ของตน

 

 

ถังเฉียนเห็นท่าทางเสี่ยวจินอ่อนแรงมาก มันบินเข้าไปในกล่องเวินเซียงหน่วนของมัน เกาะอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน

 

 

ถังเฉียนรู้สึกทรวงอกตนเองสั่นกระตุก จากนั้นก็หน้ามืดแล้วหมดความรู้สึกไป นางเดินไปข้างหน้าในความมืดมิดของตนเองเป็นเวลานาน

 

 

ราวกับมองเห็นอีกโลกหนึ่ง ในโลกนั้นเสี่ยวจินตัวใหญ่เป็นพิเศษ ถังเฉียนเห็นกับตาตัวเองว่ามันใช้หนวดของมันแตะร่างคนคนหนึ่ง แล้วดูดเลือดจากคนเป็นๆ จนเกลี้ยงตัว ถังเฉียนรู้สึกว่าแมลงตัวนี้ร้ายกาจมาก นางจึงควบคุมมันไว้

 

 

แต่เวลานี้เสี่ยวจินไม่ได้โดนการควบคุมจากนางโดยสิ้นเชิง นางยอมขังตัวเองไว้เพื่อไม่ให้มันออกไปทำร้ายคน แต่ร่างกายนางค่อยๆ อ่อนแอลงไร้เรี่ยวแรงจนไม่อาจต้านทานเสี่ยวจินได้ มันจึงหนีออกไป ไม่มีใครสยบมันได้อีกแล้ว

 

 

ถังเฉียนตื่นจากฝันร้ายที่น่ากลัว พอตื่นขึ้นก็เห็นฉู่จิ่งเหยานั่งอยู่ข้างๆ นาง สีหน้าดูอ่อนล้า ถือชามยาในมือ

 

 

“ฟื้นแล้ว ดื่มยาชามนี้เถอะ”

 

 

ถังเฉียนลุกนั่ง มองดูยาสีดำแล้วไม่อยากกิน ฉู่จิ่งเหยาหยิบลูกอมน้ำผึ้งเม็ดหนึ่งออกมาจากกล่องเล็ก

 

 

“รีบดื่มยา แล้วกินลูกอมน้ำผึ้งนี่ซะ หวานมาก”

 

 

ถังเฉียนยังคงมีท่าทางไม่ยอมกินยา ฉู่จิ่งเหยาหมดความอดทนแล้ว เขาอุ้มนาง เตรียมจะกรอกยาให้กิน

 

 

“ก็ได้ ข้ากินเอง”

 

 

ถังเฉียนดื่มยาลงไป แล้วรีบกินลูกอมน้ำผึ้งในมือฉู่จิ่งเหยา จากนั้นจึงพูดว่า

 

 

“ขมจังเลย”

 

 

ฉู่จิ่งเหยามองดูท่าทางที่น่าสงสารของนาง จึงให้ลูกอมน้ำผึ้งนางอีกเม็ด แล้วพูดว่า

 

 

“เหาเก๋อไม่เป็นไรแล้ว แม้จะไม่หายใจและหัวใจไม่เต้น แต่เขายังเดินได้ แม้จะไม่รู้จักตัวเสิ้ง แต่ตัวเสิ้งก็ดีใจมาก เจ้าเรียนรู้ศาสตร์ลับสามอย่างของเผ่าพีส่าได้เร็วมาก เจ้าเก่งจริงๆ”

 

 

นางฟังที่เขาพูดแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย นางไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือไม่ นางเองก็ไม่รู้ว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพียงแต่นางรู้ถึงผลที่เกิดขึ้นก่อนคนอื่นก้าวหนึ่งเท่านั้น

 

 

“ตัวเสิ้ง ไม่ได้โทษข้าหรือ”

 

 

ถังเฉียนคิดเสมอว่าการทำให้คนกลายเป็นผีดิบเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม นางจึงใส่ใจความรู้สึกของตัวเสิ้งเป็นพิเศษ

 

 

“เขาซาบซึ้งบุญคุณเจ้ามาก โดยเฉพาะเมื่อเขารู้จากปากหวังหลง ที่เจ้ายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเปลี่ยนเหาเก๋อเป็นมนุษย์แมลงปีศาจ ที่สำคัญที่สุดก็คือเจ้าไม่รู้ว่าเรื่องนี้มีโอกาสทำสำเร็จมากน้อยแค่ไหน จึงไม่กล้าบอกใคร”

 

 

ถังเฉียนรู้ว่าฉู่จิ่งเหยาจงใจพูดเช่นนี้เพื่อปกป้องนาง ยิ่งเขาพูดเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้ตัวเสิ้งกับพวกซาบซึ้งในบุญคุณของตน

 

 

 

 

ตอนที่ 333 การเปลี่ยนแปลงของเสี่ยวจิน

 

 

ถังเฉียนฟังคำพูดเช่นนี้ ทำให้ใจนางสงบลง

 

 

“ท่านอ๋อง นี่น่าจะเป็นมนุษย์แมลงปีศาจชนิดใหม่ ส่วนวันหน้าจะมีอายุขัยยาวนานเท่าใด ข้าไม่อาจรู้เลย เวลานี้ก็เหมือนเดินคลำหินข้ามแม่น้ำ”

 

 

ฉู่จิ่งเหยาพยักหน้า เขารู้ว่าถังเฉียนพูดความจริง แล้วหันไปมองเสี่ยวจินที่อยู่ข้างๆ พลางพูดว่า

 

 

“แมลงตัวนี้ของเจ้า เวลานี้ชักเหิมเกริมใหญ่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะข้ามาทันเวลา ไม่รู้ว่ามันจะดูดเลือดเจ้าจนหมดหรือไม่”

 

 

ถังเฉียนได้ฟังเช่นนี้ก็ยืนขึ้นทันที รีบวิ่งไปดูกล่องใบนั้น คิดไม่ถึงว่าเสี่ยวจินจะเปลี่ยนไปแล้ว

 

 

“ก่อนหน้านี้เสี่ยวจินไม่ได้รูปร่างเช่นนี้ มันป่วยหรือว่าโตขึ้น”

 

 

เนื่องจากจู่ๆ ถังเฉียนเห็นลายตรงสีแดงเส้นหนึ่งบนตัวเสี่ยวจิน ดูน่ากลัวมาก โดยเฉพาะตัวมันเป็นสีทองเจิดจ้า มีเพียงเส้นลายนั่นที่เหมือนรอยเลือดจากการบาดเจ็บ

 

 

“ก่อนหน้านี้มันกินกิ่งไม้ทองใบไม้หยกไม่ใช่หรือ คราวนี้ข้านำมาด้วยไม่น้อย แต่มันกินเก่งขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่กินใบไม้หยก ยังกินสมุนไพร กินเลือดคนด้วย”

 

 

“เลือดคน มันกินเลือดใครหรือ”

 

 

ทันใดนั้นถังเฉียนก็นึกกลัว นางกังวลมาก เรื่องในฝันเกิดขึ้นจริงๆ หรือ แต่ฉู่จิ่งเหยากดให้นางนั่งลง แล้วพูดว่า

 

 

“โรคระบาดคราวนี้ มันมีบทบาทไม่น้อย ข้าพบว่าสามารถใช้ประโยชน์จากแมลงตัวนี้ได้ หลายวันก่อนมันกินสมุนไพร แล้วไปดูดกินเลือดที่ปลายนิ้วของคนป่วย”

 

 

ถังเฉียนรู้ความสามารถนี้ของเสี่ยวจินดี

 

 

ขอเพียงเสี่ยวจินดูดเลือดจากปลายนิ้วใคร ไม่ว่าคนผู้นั้นจะไปไกลแค่ไหนมันก็ตามเจอได้ ถังเฉียนเคยใช้ความพิเศษนี้สร้างความชอบที่แปลกพิสดาร แต่ช่วงที่ถังเฉียนสลบไปหลายวัน มันเริ่มต้องการเลือดจากปลายนิ้วคนมากยิ่งขึ้น เดิมฉู่จิ่งเหยาเอาเลือดตนเองป้อนให้เสี่ยวจินกิน คิดไม่ถึงว่าไม่สามารถสนองให้มันได้พอ

 

 

แต่ก็ยังมีวิธีนั่นคือให้มันดูดเลือดจากปลายนิ้วคนป่วยด้วยโรคระบาดจำนวนไม่น้อย เมื่อทำเช่นนี้ระยะหนึ่ง อาการถังเฉียนจึงค่อยๆ ดีขึ้น

 

 

“หวังว่าเจ้าจะไม่โทษที่ข้าตัดสินใจโดยพลการ จะอย่างไรข้าเองก็ไม่เคยเลี้ยงมัน เพียงแต่ทุกครั้งที่เห็นมันจะรู้สึกว่ามันค่อนข้างไร้เรี่ยวแรง จึงปล่อยมันให้ออกไปหาอาหาร”

 

 

ถังเฉียนได้ยินเช่นนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องราวในฝันมีเบาะแสให้สืบได้ นางหวั่นเกรงว่าพอถึงวันนั้นจริงๆ นางจะไม่สามารถควบคุมเสี่ยวจินได้ ถึงตอนนั้นมันจะเป็นเช่นในฝันน แล้วตัวนางเองก็จะกลายเป็นคนบาป

 

 

ถังเฉียนปิดกล่องขังเสี่ยวจินไว้ จากนั้นจึงมัดกล่องไว้แล้ววางไว้ชั้นล่างสุดของ**บ

 

 

“เจ้าทำอะไรหรือ”

 

 

นางขังเสี่ยวจินไว้ ฉู่จิ่งเหยาไม่เข้าใจที่นางทำเช่นนี้ ปกติเลี้ยงดูมันด้วยความยากเย็น ตอนนี้กลับขังมันไว้

 

 

“ขังมันไว้ก่อน ต้องตั้งกฎเกณฑ์ขึ้น ไม่เช่นนั้นวันหน้า ข้ากลัวว่า…”

 

 

ฉ่จิ่งเหยาเห็นท่าทางอ้ำๆ อึ้งๆ ของถังเฉียน รู้สึกแปลก จึงถามว่า

 

 

“เจ้ากลัวสิ่งใด”

 

 

ถังเฉียนหันมาแล้วพูดว่า

 

 

“กลัวว่ามันจะกินมากเกินไป ข้าเลี้ยงมันไม่ไหว ต้องควบคุมบ้าง”

 

 

สุดท้ายถังเฉียนก็ไม่บอกความจริงให้ฉู่จิ่งเหยารู้ เพียงแต่ขังมันเอาไว้ นางรู้สึกแน่นหน้าอก อาจเป็นเพราะเสี่ยวจินไม่อยากถูกขังไว้ในนั้น แต่ขณะนี้นางต้องใจแข็งขังไว้ จากนั้นจึงนั่งลงข้างๆ ท่าทางไม่สบายใจ

 

 

“ไม่ว่าเจ้าจะคิดอย่างไร แต่ไม่ควรปล่อยให้เหาเก๋ออยู่กับพวกเขา ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะคิดว่าเขายังมีชีวิต วันหน้าอาจจะเดือดร้อนมากขึ้น”

 

 

ถังเฉียนลุกขึ้น แม้ว่านางจะยังไม่หายดี แต่ยังฝืนไปหาเหาเก๋อ

 

 

ตัวเสิ้งดีใจมาก นั่งติดกับพี่ชายพูดคุยไม่หยุด แต่จากมุมของถังเฉียนจะเห็นหยาดน้ำตาในดวงตาเขา

 

 

“เจ้านาย!”

 

 

พอเหาเก๋อเห็นถังเฉียนก็คุกเข่าลงทันที แบบแผนอย่างนี้ทำให้ถังเฉียนรู้สึกเหมือนคนแปลกหน้า

 

 

ต่อไปไม่ต้องคุกเข่าแล้ว ค้อมคารวะก็พอ